ขี้ผึ้งทาแผลถือเป็นยาทาแผลที่มีการใช้มานานหลายปี โดยในเนื่อหาจะอธิบายให้ทราบว่าคืออะไร ทำมาจากอะไร ประโยชน์และสรรพคุณเป็นอย่างไร วิธีเลือกซื้อและการใช้ขี้ผึ้ง รวมถึงข้อมูล เกี่ยวกับการรักษาบาดแผลประเภทต่างๆ จะช่วยให้ทุกคนได้ทราบว่าขี้ผึ้งรักษาแผลนั้นมีความจำเป็นและสำคัญมากเพียงใด และนำมาใช้รักษาแผลอย่างไรจึงจะถูกวิธี
สำหรับหมวดหมู่เพื่อสุขภาพที่เราคัดมา ได้แก่ เชือกกระโดด ,เก้าอี้โยก , เครื่องนวดเท้า , เทียนหอม , เครื่องดื่มชูกำลัง , เครื่องฟอกอากาศ , สปอร์ต บรา , ดัมเบล , ไบโอติน , วิตามินซี , ขิงผง , หมอนขนเป็ด , หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ , วิตามินบำรุงสายตา , น้ำมันมะพร้าว , นมผึ้ง , แผ่นลดไข้ , โสมเกาหลี , คอลลาเจน , grape seed , แมสเกาหลี , ยาสีฟันฟันขาว , face shield , หมอนรองคอ , เข็มขัดพยุงหลัง , เก้าอี้ ergonomic
เวย์โปรตีน , สบู่เหลวล้างมือ , วิตามินบำรุงผิว , คอลลาเจนแบบเม็ด , เก้าอี้สำนักงาน , กระเป๋าคาดเอววิ่ง , ครีมทาส้นเท้าแตก , เครื่องกรองน้ำ , ชุดซาวน่า , เครื่องบริหารหน้าท้อง , เครื่องวัดน้ำตาล , เจลล้างมือ , เตียงผู้ป่วย , เสื่อโยคะ , เอนชัวร์ , เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
ขี้ผึ้งทาแผล คืออะไร ทำมาจากอะไร
คือ ยาใส่แผลชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นขี้ผึ้ง โดยมีคุณสมบัติที่จะช่วยบรรเทาและเร่งการสมานแผลตามธรรมชาติของบาดแผลนั้นๆ นิยมใช้ทาแผลที่มีชั้นตื้นเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นแผลสด แผลถลอก และแผลที่เกิดจากรอยขีดข่วน ไปจนถึงแผลไหม้ในระยะแรกและมีขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังสามารถใช้บรรเทาอาการอักเสบของผิวหนังที่เกิดจากการแพ้บางสิ่งบางอย่างได้
การที่ขี้ผึ้งรักษาแผลมีส่วนประกอบที่ช่วยยับยั้งเชื้อดังกล่าว ก็จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อซ้ำและแผลก็จะหายได้เร็วขึ้นได้ จะเห็นได้ว่าขี้ผึ้งนั้นก็เป็นยาทาแผลอีกหนึ่งชนิดที่มีประโยชน์อยู่พอสมควร
นอกจากจะสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้แล้ว ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยยับยั้งเชื้อรา โปรโตซัว รวมถึงไวรัสอีกด้วย ซึ่งตัวเนื้อขี้ผึ้งนั้นจะสามารถใช้ทาแผลสดได้ง่าย และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับแผลอีกด้วย ในกรณีที่ใช้ยาทาแผลประเภทอื่น ก็อาจจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน
ประโยชน์ของขี้ผึ้งทาแผล สรรพคุณ
1. ช่วยบรรเทาและสมานแผล
ใช้ทาเพื่อรักษาแผล เช่น แผลสด แผลถลอก แผลเย็บ แผลผ่าตัด แผลไฟไหม้ และแผลติดเชื้อ เป็นต้น ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด และสมานแผลให้หายได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผลที่เป็นด้วยว่าต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานแค่ไหน
2. ปกป้องและยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย
จะมีส่วนประกอบที่มีฤทธิ์ช่วยปกป้องและยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย หรือเรียกอีกอย่างว่าฆ่าเชื้อ ซึ่งจะช่วยให้เชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่สามารถเข้ามาทำลายบาดแผลได้ ในกรณีที่บาดแผลมีการติดเชื้อก็จะส่งผลให้หายช้า เพราะฉะนั้นการที่จะช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้นจึงต้องมีส่วนประกอบที่สามารถฆ่าเชื้อได้
3. ลดอาการคันจากการถูกยุงกัด
บางชนิดยังสามารถใช้ทาเพื่อลดอาการคันจากการถูกยุงกัดได้ด้วย ซึ่งมีจำนวนคนไม่น้อยที่นิยมใช้ขี้ผึ้งมาทาบริเวณที่ถูกยุงกัด เพราะนอกจากจะช่วยลดหรือบรรเทาอาการคันได้แล้ว ยังช่วยรักษาแผลจากการถูกยุงกัดไปในตัวด้วย
4. รักษาอาการของโรคผิวหนัง
ไม่ว่าจะเป็นกลาก เกลื้อน หิด หรือแม้กระทั่งผิวหนังที่มีเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากว่ามีคุณสมบัติในการช่วยยับยั้งเชื้อดังกล่าวได้ เพราะฉะนั้นการนำขี้ผึ้งรักษาแผลมาใช้ก็จะช่วยบรรเทาอาการที่เป็นอยู่ได้
5. ใช้ทาแผลได้อย่างหลากหลาย
นอกจากแผลสดหรือบาดแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุแล้ว แผลประเภทอื่นๆ เช่น แผลผ่าตัด แผลฟกช้ำ แผลพุพอง แผลจากการโดนน้ำร้อนลวก แผลจากการกดทับ หรือแผลที่เกิดจากสาเหตุต่างๆ รวมไปถึงผู้ที่ผ่านการผ่าตัดเสริมจมูกและศัลยกรรมอื่นๆ ก็สามารถใช้ขี้ผึ้งรักษาแผลเพื่อช่วยบรรเทาอาการที่เป็นได้
วิธีการเลือกซื้อขี้ผึ้งทาแผล
1. เลือกให้เหมาะกับลักษณะบาดแผล
บาดแผลมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นแผลสด แผลถลอก แผลติดเชื้อ แผลเย็บ และแผลศัลยกรรม ซึ่งแผลแต่ละประเภทก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกัน หากเป็นบาดแผลขนาดเล็กและไม่รุนแรงมากก็อาจเป็นแผลตื้น แต่ถ้าหากบาดแผลมีขนาดใหญ่และรุนแรงก็อาจเป็นแผลลึกและเลือดออก ดังนั้นควรเลือกซื้อขี้ผึ้งรักษาแผลที่เหมาะกับบาดแผลจะดีที่สุด
2. เลือกซื้อที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อ
ขี้ผึ้งทาแผลควรจะมีคุณสมบัติที่สามารถฆ่าเชื้อได้ เพราะแผลที่เป็นใหม่ๆ จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งส่งผลให้แผลดังกล่าวหายได้ยากกว่าเดิม ดังนั้นการจะเลือกซื้อขี้ผึ้งมาใช้รักษาแผล ก็ควรเลือกยาที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อ เพราะจะช่วยป้องกันและยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่จะเข้ามาทำลายแผลที่เป็นได้
3. เลือกที่ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคือง
ขี้ผึ้งรักษาแผลที่ดีควรจะมีฤทธิ์ที่สามารถฆ่าเชื้อได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรก่อให้เกิดความระคายเคืองซึ่งคุณสมบัตินี้ต้องพิจารณาจากส่วนประกอบของขี้ผึ้งเป็นหลักว่ามีส่วนประกอบหรือส่วนผสมใดที่มีฤทธิ์รุนแรงและทำให้ระคายเคืองหรือไม่
4. ขนาดและปริมาณ
ขนาดและปริมาณจะเป็นบ่งบอกว่าสามารถใช้งานได้นานมากน้อยแค่ไหน หากไม่สะดวกที่จะต้องซื้อหลายครั้ง ควรเลือกขนาดกลางหรือใหญ่ตามความเหมาะสม หรือในกรณีที่ต้องการจะพกพาติดตัวก็ควรเลือกที่มีขนาดเล็ก
การใช้ขี้ผึ้งทาแผลกับแผล
- แผลศัลยกรรม ผ่าตัด
- แผลเสริมจมูก
- แผลติดเชื้อ
- แผลสด แผลถลอก
- แผลเย็บ แผลฉีกขาด
- แผลในปาก
- แผลพุพอง
วิธีรักษาแผลให้หายเร็ว
1. ทำความสะอาดแผลอย่างเหมาะสม
การทำความสะอาดแผลเป็นขั้นตอนการรักษาแผลที่สำคัญมาก หลายคนอาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดแผล จนทำให้มีปัญหาต่างๆ ตามมา ดังนั้นหากเกิดแผลสดใหม่ๆ ควรทำการล้างหรือทำความสะอาดแผลก่อนที่จะใช้ขี้ผึ้งทาแผลหรือยาทาแผลอื่นๆ มารักษา แนะนำให้ใช้น้ำเกลือที่ปราศจากเชื้อในการทำความสะอาดแผล
2. ใช้ยาทาแผลให้เหมาะกับบาดแผล
การใช้ยาทาแผลเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญมากเช่นเดียวกัน เพราะเป็นขั้นตอนการทำแผลหรือรักษาแผลเพื่อให้หายได้เร็วขึ้น ซึ่งควรจะใช้ยาทาแผลที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียในบาดแผล และสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่หรือสมานแผลตามธรรมชาติ เพื่อลดการติดเชื้อซ้ำและทำให้แผลดังกล่าวหายได้เร็วขึ้น
3. ดูแลบาดแผลอย่างรอบคอบ
หลังจากรักษาแผลเสร็จแล้ว ในระหว่างที่รอให้แผลหายดีก็ควรจะใส่ใจดูแลแผลอย่างรอบคอบ ควรระมัดระวังไม่ให้แผลสัมผัสกับความชื้นและสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น ควัน หรือมลภาวะต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อแผลได้ โดยเฉพาะแผลที่มีขนาดใหญ่และรุนแรงจะต้องดูแลมากเป็นพิเศษ
4. พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้บาดแผลที่เป็นอยู่สามารถหายได้เร็วขึ้น เพราะในระหว่างที่นอนหลับอยู่นั้น ร่างกายก็จะทำการฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนต่างๆ รวมถึงบาดแผล ไม่ว่าจะเป็นแผลสด แผลถลอก แผลติดเชื้อ แผลเย็บ แผลศัลยกรรม ไปจนถึงการผ่าตัดเสริมจมูก หากร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก็จะทำให้แผลดังกล่าวหายได้เร็วขึ้น
5. ดื่มน้ำเยอะๆ และหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท
นอกจากการพักผ่อนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยทำให้บาดแผลที่เป็นอยู่หายได้เร็วขึ้นก็คือการดื่มน้ำเยอะๆ เพราะร่างกายมีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 70% น้ำจึงมีส่วนสำคัญในการฟื้นฟูและรักษาแผลให้หายได้ หากร่างกายขาดน้ำก็จะส่งผลให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นควรดื่มน้ำเยอะๆ และหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท เช่น ของหมักดอง อาหารดิบ และแอลกอฮอล์ เป็นต้น
คำถามที่พบบ่อย
1. เป็นแผลสดห้ามกินอะไร
ผู้ที่มีบาดแผลสดควรจะหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งประกอบด้วยอาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ รวมถึงอาหารดิบ นอกจากนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ เพราะจะส่งผลให้สามารถติดเชื้อและอักเสบได้ง่ายขึ้น จนทำให้แผลหายได้ช้า
2. แผลสดกี่วันหาย
การที่แผลสดจะหายได้นั้นอาจใช้เวลามากน้อยที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับร่างกายและความรุนแรงของแผล รวมถึงการดูแลรักษาของแต่ละคน หากดูแลรักษาแผลสดเป็นอย่างดีก็อาจหายได้โดยที่ใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้าหากดูแลรักษาแผลสดได้ไม่ดีพอก็อาจต้องใช้เวลาสักระยะ สำหรับแผลที่มีขนาดเล็กและไม่รุนแรงนั้นมักจะมีการตกสะเก็ดและหายภายใน 2-3 วัน ส่วนบาดแผลขนาดใหญ่และรุนแรงก็ต้องใช้เวลานานขึ้น
4 วิธีรักษาแผลให้หายเร็ว หายไว
สรุป
ขี้ผึ้งทาแผลเป็นยาทาแผลอีกหนึ่งชนิดที่จะช่วยบรรเทาและรักษาแผลประเภทต่างๆ ซึ่งมีฤทธิ์ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคอื่นๆ ที่จะเข้ามาทำลายบาดแผลที่เป็นอยู่ให้หายได้ช้า
โดยทั่วไปแล้วมักจะมีส่วนประกอบที่เป็นสมุนไพร ที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่จะเข้ามาทำลายแผล รวมถึงมีความสามารถในการช่วยบรรเทาและสมานแผลให้หายได้เร็วขึ้น หากจะนำขี้ผึ้งมาใช้ในการรักษาแผลประเภทต่างๆ ก็ควรพิจารณาจากความเหมาะสมเป็นหลัก
เจ้าของร้านขายยาโดยเภสัชกรชั้นนำหลายสาขา ขายดีจ่ายยาแล้วคนไข้หายจนเป็นที่ยอมรับ การศึกษาปริญญาตรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทจากประเทศออสเตรเลีย มีความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับ สุขภาพ อาหารเสริม ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี