บอกต่อ 10 ครีมทาส้นเท้าแตก ยี่ห้อไหนดี 2024 ใช้ดี เข้มข้น หายเร็ว

ครีมทาส้นเท้าแตก

สารบัญ

ครีมทาส้นเท้าแตกเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยจัดการกับปัญหาส้นเท้าแตกซึ่งหากปล่อยไว้โดยที่ไม่แก้ไขดูแล อาจจะทำให้รอยแตกใหญ่และลึกขึ้นจนเป็นแผล ซึ่งหากปล่อยไว้อาจจะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้เช่น เป็นแผลเป็น รอยแตกกลายเป็นแผลติดเชื้อ รอยดำ เป็นต้น หากปล่อยให้ส้นเท้าแตกไปเรื่อยๆ จะทำให้การรักษานั้นยากขึ้น ใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้อยู่ วันนี้พาทำความรู้จักตัวช่วยจัดการกับปัญหานี้กัน

สำหรับหมวดหมู่เพื่อสุขภาพที่เราคัดมา ได้แก่ เครื่องฟอกอากาศ , สปอร์ต บรา , ดัมเบล , ไบโอติน , วิตามินซี , ขิงผง , หมอนขนเป็ด , หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ , วิตามินบำรุงสายตา , น้ำมันมะพร้าว , นมผึ้ง , แผ่นลดไข้ , โสมเกาหลี , คอลลาเจน , grape seed , แมสเกาหลี , ยาสีฟันฟันขาว , face shield , หมอนรองคอ , เข็มขัดพยุงหลัง ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า

สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าอื่นๆ เช่น โฟมล้างหน้าลดสิว , ครีมบำรุงผิวหน้า , สบู่ล้างหน้า , วิตามินซีทาหน้า , ครีมลดรอยสิว , เจลแต้มสิว , มาร์คหน้าเกาหลี , โฟมล้างหน้าผิวแพ้ง่าย , มาร์คใต้ตา  , น้ำตบ , น้ำแร่ฉีดหน้า , เซรั่มเกาหลี

หรือจะเป็นหมวดหมู่ผิวกายที่น่าสนใจ ได้แก่ โัลชั่นผิวขาว , สบู่ลดสิวที่หลัง , ใยบวบ , วิตามินบำรุงผิว , ครีมกันแดดผู้หญิง , ครีมทาผิววาสลีน , ครีมกันแดดผู้ชาย , แฮนด์ครีม

ครีมทาส้นเท้าแตก คืออะไร

ครีมทาส้นเท้าแตก คืออะไร

เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดปัญหาส้นเท้าแตก ช่วยบำรุงผิวบริเวณส้นเท้า ให้มีความชุ่มชื่น ไม่แตกลอกง่าย ลดความหยาบ แห้งกร้าน และทำให้ส้นเท้าเรียบเนียนขึ้น ซึ่งหากส้นเท้าที่แตกอยู่แล้วนั้นจะช่วยในการเร่งผลัดเซลล์ผิวบริเวณส้นเท้าที่ลอกออกให้สร้างเซลล์ผิวใหม่ที่เมื่อทาครีมบำรุงแล้วจะให้ความนุ่มชุ่มชื่น ดูสวยสุขภาพดี

ส่วนผสมที่อยู่ในครีมส่วนมากจะเน้นไปในเรื่องการให้ความชุ่มชื้น เช่น Pheohydrane, Saccharide Isomerate และสารสกัดต่างๆ จากธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยให้ความชุ่มชื้น เก็บรักษาความชุ่มชื้นได้นาน บำรุงอย่างล้ำลึก ซึมซับเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เพราะเราต้องใช้เท้าเดิน เมื่อเท้าเหนียวอาจจะเดินไม่สะดวก

กลิ่นของครีมยังให้ความหอมละมุน ให้ความรู้สึกสดชื่น ไม่เหม็นหรือสร้างกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในขณะที่ทา ซึ่งส่วนมากจะมีสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น สมุนไพร ดอกไม้  หรืออาจจะมีกลิ่นคลายน้ำหอม เป็นต้น ทำให้รู้สึกหอมทุกครั้งที่ทา คล้ายกับครีมทาบำรุงผิวกายที่ใช้อยู่เป็นประจำ แต่มีการบำรุงที่ล้ำลึกกว่า

การทาครีมจะช่วยบำรุงส้นเท้าที่แห้งแตก ลอกเป็นขุย ให้ฟื้นฟูสภาพผิวบริเวณนั้น ค่อยๆดีขึ้น เพียงทา 3-5 วันแรก ก็จะเห็นผลว่าส้นเท้าค่อยๆ เรียบเนียนขึ้น ไม่เป็นรอยแข็ง รอยแตกค่อยๆ ตื้นขึ้น และส้นเท้าจะกลับมาเรียบเนียน นุ่มยิ่งขึ้น และทำให้ส้นเท้ากลับมาขาวขึ้นอย่างเป็นธรรม ช่วยให้คุณมีความมั่นใจยิ่งขึ้น

ครีมทาส้นเท้าแตกที่ดีเป็นอย่างไร

ครีมทาส้นเท้าแตก ที่ดีเป็นอย่างไร

1. มีสวนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น

ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้น ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว สามารถฟื้นบำรุงสภาพผิวที่แตก แห้งกร้าน ลอกเป็นขุย ให้กลับมาเนียนนุ่มอีกครั้ง ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่แข็ง แห้งแตก ให้หลุดลอก และผลัดเซลล์ผิวใหม่ให้แข็งแรง สุขภาพดีจากการทาครีมบำรุงส้นเท้า

2. ซึมซาบเร็ว

ครีมที่ดีควรซึมซาบเข้าสู่ส้นเท้าเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ติดบริเวณส้นเท้า เพราะหากเนื้อครีมเหนียว ไม่ซึมซาบเข้าส้นเท้า ในขณะที่เดินนั้น เนื้อครีมอาจจะติดที่รองเท้าหรือติดพื้นเป็นรอย อาจจะทำให้พื้นเป็นคราบมัน และอาจลื่นจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรอ่านคุณสมบัติและประสิทธิภาพของครีมบำรุงส้นเท้าแตกก่อนเลือกซื้อ

3. ไม่ระคายเคือง

เนื่องจากส้นเท้าที่แตกนั้นอาจจะเป็นบริเวณที่ผิวบอบบาง เพราะเกิดจากการแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย มีผื่น ครีมบำรุงส้นเท้าแตกจึงต้องมีส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิว เมื่อทาแล้วจะได้ไม่รู้สึกระคายเคือง ไม่แสบร้อน เพื่อรักษาสภาพผิวบริเวณส้นเท้า ให้กลับมาเรียบเนียน นุ่มชุ่มชื้น และดูขาวสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติจนลืมไปเลยว่าเคยส้นเท้าแตกมาก่อน

4. กลิ่นหอม

ปัจจุบันมีการปรับปรุงสูตรส่วนผสมต่างๆ ทำให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น และที่สำคัญคือมีการพัฒนาให้มีกลิ่นหอมต่างๆ ให้ได้เลือกซื้อตามความชอบของแต่ละคน โดยส่วนผสมนั้นจะไม่ระคายเคืองต่อผิวบริเวณส้นเท้า เนื่องจากเป็นสารสกัดที่ผลิตมาจากธรรมชาติจึงทำให้ห้อละมุนและอ่อนโยนต่อผิว

วิธีแก้ส้นเท้าแตกร่วมกับการใช้ครีมทาส้นเท้าแตก

วิธีแก้ส้นเท้าแตก

1. ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ

การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวันเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะน้ำเป็นสิ่งที่ให้ความชุ่มชื้นต่อร่างกาย ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง ช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ดี และที่สำคัญช่วยให้ส้นเท้าไม่แห้งแตกง่ายด้วย ดังนั้นในหนึ่งวันจึงควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้ว เพื่อที่ร่างกายจะได้สดชื่น และทำให้ระบบในร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น

2. ไม่ควรอาบน้ำอุ่น หรือร้อนจัดจนเกินไป

การอาบน้ำอุ่นเป็นประจำ หรือการอาบน้ำที่ร้อนจนเกินไปนั้นจะทำให้ผิวกาย ผิวหน้า รวมไปถึงบริเวณส้นเท้า แห้งกร้าน ลอกง่าย และทำให้แห้งแตกได้ง่ายขึ้น จึงควรปรับวิธีการอาบน้ำ ให้อาบน้ำที่ไม่ร้อนหรืออุ่นแค่พอประมาณ หรือหากอาบน้ำปกติได้จะถือเป็นการดี เพราะจะทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน และดูสุขภาพดี

3. เปลี่ยนมาใช้รองเท้าที่รองรับแรงกระแทก และนุ่มขึ้น

การเลือกรองเท้าเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะในแต่ละวันคุณอาจมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำที่ต้องเดินหรือยืนเป็นเวลานาน ดังนั้นการเลือกซื้อรองเท้าที่นุ่มใส่สบาย ไม่ว่าจะเป็น รองเท้าสลิปออนผู้หญิง , รองเท้าแตะสุขภาพ , รองเท้าสกอลล์ , รองเท้าเพื่อสุขภาพ เป็นต้น ซัพพอร์ตเท้าได้ดี รองรับแรงกระแทกต่างๆ จากการเดินหรือวิ่ง จะช่วยถนอมเท้าและส้นเท้า ให้ไม่เกิดการปวดเมื่อย อาการบาดเจ็บต่างๆ จากการเดินนานๆ

4. ทาครีมบำรุงส้นเท้าแตก

ทาครีมบำรุงส้นเท้าแตก

การทาครีมเป็นประจำสม่ำเสมอนั้นจะช่วยให้ส้นเท้าดูขาวเรียบเนียน ดูเนียนนุ่มน่ามอง ทำให้คุณดูสวยสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งคุณสมบัติของครีมทาส้นเท้าแตกจะช่วยให้ส้นเท้าชุ่มชื้น ช่วยขัดส้นเท้าให้เรียบเนียน ไม่แพ้การใช้ ที่ขัดส้นเท้า กันเลย ช่วยผลัดเนื้อที่แตกลอกเป็นรอยแข็งๆ ออก เพื่อผลัดเซลล์ผิวบริเวณส้นเท้าใหม่ให้ส้นเท้าดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ

5. สครับเท้าเป็นประจำ

จะเป็นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพและลอกเป็นขุย ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดคราบ หรือรอยดำที่ส้นเท้า ดังนั้นจึงควรสครับเท้าเป็นประจำ จะทำให้เซลล์ผิวเก่าหลุดออก และสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรง เรียบเนียนนุ่ม และขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวทำให้ไม่แห้งและแตกง่าย

6. สวมถุงเท้านอน

การสวมถุงเท้านอนจะเป็นการสร้างความอบอุ่นให้กับเท้า ซึ่งบางคนเปิดแอร์ เปิดพัดลมเวลานอน ทำให้อากาศเย็น และมีลมพัดตลอดเวลา จึงส่งผลให้ส้นเท้าแห้งแตกง่ายขึ้นกว่าเดิม การสวมถุงเท้าจะเป็นอีกวิธีหนึ่งซึ่งช่วยปกป้องให้ส้นเท้าไม่แห้งกร้าน ลอกเป็นขุย และแตกเป็นรอย เป็นแผลทำให้ต้องรักษา ซึ่งถุงเท้าจะช่วยกันลมและอากาศที่เย็นได้ดี

7. ใส่รองเท้าเดินในบ้าน

การใส่รองเท้าสำหรับเดินในบ้านนั้น จะช่วยลดแรงกระแทกในการเดินระหว่างพื้นบ้านกับส้นเท้า ซึ่งพื้นบ้านจะมีความแข็งและเย็น จึงทำให้ส้นเท้าที่ไปสัมผัสนั้นแห้งแตก และลอกได้ง่าย ควรเลือกรองเท้าเดินในบ้านที่พื้นนุ่ม รองรับการเดินได้ดี ใส่สบาย สามารถใส่เดินในบ้าน ใส่ยืนทำอาหารได้อย่างสบาย ไม่เมื่อยเท้า

วิธีเลือกซื้อครีมทาส้นเท้าแตก

วิธีเลือกซื้อครีมทาส้นเท้าแตก

1. ส่วนผสมของครีมบำรุงส้นเท้าแตก

ให้อ่านส่วนผสมต่างๆ ที่ใช้ในการผลิต ควรเลือกซื้อครีมที่ระบุส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นแก้ส้นเท้า ช่วยกักเก็บวามชุ่มชื้นได้นาน ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื่น ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่แห้งกร้านให้หมดไป และช่วยในการฟื้นบำรุงสภาพผิวที่แห้งกร้าน และแตกลอกจนมีรอยลึก ให้กลับมาเนียนนุ่มได้อีกครั้ง

2. ไม่เหนียวและเหนอะหนะจนเกินไป

เนื้อครีมควรซึมซาบเข้าสู่ผิวเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ จนสร้างความรำคาญให้กับคุณ เพราะเท้าเป็นสิ่งที่ต้องเดินหรือยืนเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ หากครีมที่ทาเหนียวเหนอะหนะจนไม่สามารถเดินได้ จะทำให้ต้องเสียเวลารอจนแห้ง หรือหากทาขึ้นที่นอนก็อาจจะเปื้อนได้ จึงควรเลือกครีมที่ซึมซาบเร็วไม่เกาะจนเหนียวเกินไป

3. เลือกเนื้อครีมที่เหมาะสม

เนื้อครีม

ครีมมีเนื้อครีมที่หลากหลาย ดังนั้นต้องดูก่อนว่าชอบและเหมาะกับเนื้อครีมแบบใด เช่นหากอากาศเย็นหรือหนาว ก็เลือกเนื้อครีมที่เข้มข้น เหนียวเล็กน้อย เพราะอากาศที่แห้งจะทำให้ครีมแห้งเร็ว หรือหากสภาพอากาศที่ร้อนควรเลือกครีมที่บางเบา ซึมซาบได้เร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไหลเยิ้มเนื่องจากอากาศที่ร้อน เป็นต้น

4. เลือกซื้อตามสภาพเท้า

ต้องคำนึงถึงสภาพเท้าและปัญหาที่พบเจออยู่ด้วย เช่น หากส้นเท้าแตกมากจนเป็นรอยลึก แห้งกร้านจนเลือดออก ให้ซื้อครีมที่เข้มข้น สามารถฟื้นฟูได้อย่างเร่งด่วน และผลิตจากธรรมชาติไม่เป็นอันตรายต่อผิวที่แห้งแตกจนบอบบาง เป็นต้น เนื่องจากครีมบำรุงส้นเท้าแตกมีหลายแบรนด์และมีคุณสมบัติที่ต่างกัน

5. ซึมเร็วไม่ไหลเยิ้ม

ควรเลือกเนื้อครีมที่ซึมซาบเร็ว เพราะเมื่อทาแล้ว คุณสามารถเดินหรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้โดยที่ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ หรือครีมไหลเยิ้มที่ส้นเท้าจนทำให้เปื้อนพื้น เปื้อนรองเท้า หรือที่นอน หากเนื้อครีมซึมซาบเร็วแล้วจะทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลารอให้รีมแห้ง

6. เลือกที่มีกลิ่นหอม

ควรเลือกครีมที่มีกลิ่นหอม เพราะจะทำให้ชื่นชอบการทาครีมมากขึ้น เมื่อทาแล้วจะได้สัมผัสถึงการทาครีมบำรุงผิวกาย ที่หอมสดชื่น มีกลิ่นให้เลือกตามความชอบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นดอกไม้ กลิ่นสมุนไพร และกลิ่นหอมต่างๆ เมื่อทาแล้วจะได้ความรู้สึกหอมสดชื่น มีความละมุน และไม่ส่งกลิ่นเหม็นให้รบกวนใจด้วย

รักษา ส้นเท้าแตก ให้เนียนนุ่ม

ขอบคุณช่องยูทูป สรรหามาทำ

สรุป

ครีมทาส้นเท้าแตก จะช่วยให้สุขภาพส้นเท้าของคุณดูดีขึ้น ทำให้ส้นเท้าเรียบเนียน ไม่แตกเป็นรอยและเป็นแผล ช่วยให้ส้นเท้าขาวเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และมีกลิ่นหอมติดทนอีกด้วย

ปีของลาซาด้า

ยี่ห้อ Ellgy

แอลจี้
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 25 กรัม
-เหมาะสำหรับทาส้นเท้าที่แห้ง แตก เป็นขุย
-ช่วยคงความชุ่มชื้นของส้นเท้าได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน

ยี่ห้อ Polka

พอลก้า
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 60 กรัม
-เหมาะสำหรับส้นเท้าที่แห้งกร้าน แตกเป็นร่องลึก
-ป้องกันการสูญเสียน้ำและดูดซับน้ำไว้ใต้ผิวเป็นเวลานาน

ยี่ห้อ หมอมวลชน

หมอมวลชน
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 100 กรัม
-เนื้อครีมไม่เหนียวเหนาะหนะ ไม่ระคายเคืองผิว
-ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่แตก แห้งกร้าน ไม่มีสารกัดกร่อนผิว

ยี่ห้อ Finale

ฟินาเล่
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 30 กรัม
-เนื้อครีมบางเบากลิ่นหอม ช่วยกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์
-ช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยน น่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น

ยี่ห้อ Yoko

โยโกะ
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 50 กรัม
-ช่วยลดความหยาบกร้านของส้นเท้า
-ช่วยคืนความชุ่มชื่นอ่อนนุ่มเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ

ยี่ห้อ Giffarine

กิฟฟารีน
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 85 กรัม
-ช่วยลดเลือนรอยดำ ลดจุดสัมผัสกร้าน
-ช่วยบำรุงผิวส้นเท้า ตาตุ่ม หัวเข่า ข้อศอก

ยี่ห้อ Fuluko

ฟูลูโกะ
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 100 กรัม
-เนื้อครีมเข้มข้น กลิ่นหอม ดูดซึมเร็ว
-ช่วยซ่อมแซมผิวแห้งหยาบกร้าน แก้ไขปัญหาเท้าทุกชนิด

ยี่ห้อ Mistine

มิสทิน
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 50 กรัม
-เนื้อครีมที่เข้มข้น อุดมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ
-ช่วยบำรุงผิวและเท้าที่แห้งแตกเป็นขุยให้กลับเนียนเรียบ

ยี่ห้อ Heel Spa

-ปริมาณสุทธิของสินค้า 20 กรัม
-เนื้อครีมนุ่มเบา ซึมซับเร็ว กลิ่นหอมอ่อนๆ
-ช่วยสมานรอยแตกของส้นเท้า ให้เท้าเนียนนุ่มชุ่มชื่น

ยี่ห้อ Himalaya

-ปริมาณสุทธิของสินค้า 50 กรัม
-ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบ
-ช่วยให้เท้าอบอุ่นและป้องกันไม่ให้ผิวหนังแตก

Best Choice ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุ้กกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า