โสมเกาหลีมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง ชะลอจอประสาทตาเสื่อม อุดมไปด้วยวิตามินบี 12 วิตามินเอ รวมถึงสารจินเซนโนไซต์เป็นจำนวนมากล้วนแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย เพิ่มพลัง และอื่น ๆ อีกมากมาย
ในการดูแลร่างกายของคนเราให้แข็งแรงอยู่เสมอไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่เราใส่ใจในการเลือกอาหารเสริมอย่างพิถีพิถันในการบำรุงร่างกาย ตัวอย่างการเลือกทาน เช่น วิตามินบำรุงสายตา , คอลลาเจน , คอลลาเจนแบบเม็ด , นมผึ้ง , เอนชัวร์ ที่หลาย ๆ คนนิยมเพื่อการบำรุงสุขภาพองค์รวมให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน
สำหรับหมวดหมู่เพื่อสุขภาพที่เราคัดมา ได้แก่ เชือกกระโดด ,เก้าอี้โยก , เครื่องนวดเท้า , เทียนหอม , เครื่องดื่มชูกำลัง , เครื่องฟอกอากาศ , สปอร์ต บรา , ดัมเบล , ไบโอติน , วิตามินซี , ขิงผง , หมอนขนเป็ด , หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ , น้ำมันมะพร้าว , แผ่นลดไข้ , โสมเกาหลี , grape seed , แมสเกาหลี , ยาสีฟันฟันขาว , face shield , หมอนรองคอ , เข็มขัดพยุงหลัง ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
โสมเกาหลี คืออะไร
คือสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดที่ประเทศเกาหลีนำมาใช้แพร่หลายในประเทศจีนโดยแพทย์แผนจีนกล่าวไว้ว่า มีรสหวานอมขมเล็กน้อย ออกฤทธิ์ตามเส้นลมปราณของปอดและม้าม เป็นกลุ่มสมุนไพรบำรุงกำลัง ช่วยแก้ไขเรื่องระบบย่อยอาหาร บำรุงปอด แก้เบื่ออาหาร ช่วยแก้อาการหอบ บำรุงหัวใจ บำรุงไต บรรเทาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ต้นกำเนิดของโสมเกาหลี
มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนตอนเหนือในประเทศเกาหลี เป็นต้นที่มีขนาด 60-80 เซนติเมตร ลำต้นมีลักษณะกลมและตั้งตรง มีรากเก็บอาการลักษณะพองโต แยกเป็นง่าม เรานิยมเก็บรากมาใช้เป็นยาเมื่อโสมอายุ 4-6 ปีในช่วงฤดูหนาว
ส่วนราก – ตัวรากมีขนาดอ้วนและใหญ่ มีลักษณะอวบแตกเป็นแขนง 2 อัน ลักษณะคล้ายกับขาคน ทำให้ถูกเรียกว่า โสมคน โดยรากแก่ยาวประมาณ 8-20 เซนติเมตร คำว่า Ginseng เป็นภาษาจีนที่แปลว่า man-root หมายถึงรากไม้ที่มีลักษณะคล้ายคน มีหัวแขนและขา เปลือกรากเป็นสีเหลือง มีเนื้อนิ่ม เนื้อในรากเป็นสีขาว การเก็บรากโสมจะต้องเก็บในเดือนกุมภาพันธ์ก่อนการออกดอก ซึ่งเป็นช่วงที่โสมมีสารสำคัญอยู่มาก แล้วจะต้องทำให้แห้งโดยเร็วเพื่อป้องกันมิให้เอนไซม์ในรากโสมออกมาทำลาย Saponin.
ส่วนดอก – เป็นช่อสีขาวที่ยอดต้นมีก้านดอกยาวชูออกมาจากยอด ก้านช่อดอกยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ช่อหนึ่งมีดอกย่อยประมาณ 4-40 ดอก ดอกย่อยมีขนาดเล็ก มีสีเหลืองอ่อนอมสีเขียว กลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปไข่ ส่วนกลีบเลี้ยงดอกเป็นสีเขียว มี 5 กลีบหุ้มอยู่ ก้านดอกย่อยยาว 5 มิลลิเมตร ใจกลางดอกมีเกสรเพศผู้ 5 อัน ส่วนเกสรเพศเมีย 1 อันแบบสั้น โดยออกดอกในเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน
ส่วนใบ – เป็นใบประกอบคล้ายรูปฝ่ามือ ลักษณะของใบเหมือนต้นนิ้วมือพระนารายณ์ มีขนาดบางกว่า โดยจะมีใบย่อยประมาณ 3-5 ใบ ออกเรียงตัวเป็นวงรอบลำต้น ออกเรียงตัวเป็นวงรอบลำต้น โสมมีอายุประมาณ 2-5 ปี มีใบย่อยประมาณ 5 ใบ ลักษณะใบย่อยเป็นรูปกลมรีปลายใบแหลม ใบหยักเป็นฟันเลื่อย มีขนาดกว้าง 2-6.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 4-15 เซนติเมตร เส้นหน้าใบมีขนปกคลุมเล็กน้อย ส่วนหลังใบไม่มีขน ใบจะเพิ่มขึ้นปีละ 1 ใบ
ชนิดของโสมเกาหลี
1.โสมขาว White Ginseng
การนำรากโสมที่ล้างสะอาดแล้ว มาตากแดดหรืออบให้แห้งทันที
2.โสมแดง Red Ginseng
การนำรากโสมที่ตัดเฉพาะส่วนมาล้างให้สะอาด ทำเป็นโสมที่ผ่านกรรมวิธีการอบ และฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง โดยการนำมาอบด้วยไอน้ำ 120-130 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2-4 ชั่วโมงจนเป็นสีน้ำตาลแดง จากนั้นนำไปอบแห้งจะได้เป็นสีน้ำตาลแดงใส โดยในนั้นจะมีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์เพิ่มอีก 4 ชนิด
โสมเกาหลีมีกี่ประเภท
1.รากโสม
จะเป็นรากที่บรรจุใส่กล่องเหล็กมีประมาณ 15 ตัว นิยมนำมาต้มโดยใส่ประมาณ 1-2 รากต่อน้ำ 3 แก้ว แล้วเคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 2 ชั่วโมง ระวังอยาให้ตัวโสมใหม่พอโสมอ่อนตัวลง ก็สามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้
2.รากโสมผสมน้ำผึ้ง
รากโสมผสมน้ำผึ้งบรรจุในพลาสติก นำใส่กล่องเหล็ก วิธีใช้คือนำรากโสมมาหั่นบาง ๆ ประมาณ 2 มิลลิเมตร แล้วเคี่ยวทานได้ พยายามเคี้ยวทานอย่างสม่ำเสมอ สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องดื่มได้
3.โสมที่เป็นไซรับ หรือคล้ายน้ำผึ้ง
โสมจะถูกนำมาบรรจุใส่ขวดแก้ว วิธีใช้คือใช้ช้อนตักโสมสกัดเพียง 1 ช้อนใส่ลงในน้ำร้อน 1 ถ้วยผสมน้ำผึ้งบริสุทธิ์ คนให้เข้ากันแล้วดื่มทาน ดื่มวันละประมาณ 2-3 ครั้ง ก็ช่วยบำรุงร่างกายได้อย่างดี
4.โสมผงเกาหลี
มีลักษณะเป็นสีขาว ที่ถูกบรรจุในขวดพลาสติกทึบ ใส่ในกล่องไม้อีกครั้ง วิธีใช้คือตักโสมผง 1 ช้อนลงในน้ำร้อนแล้วใส่น้ำตาลเพื่อปรับรสชาติให้นำทาน จะได้เครื่องดื่มที่ท่านชอบ สามารถทานได้วันละ 2-3 ครั้ง โสมผงยังใช้เป็นยาบำรุงผิวพรรณได้ด้วย เพียงหั่นแตงกวานำมาชับในส่วนผสมให้มาด ๆ พอกไว้ที่หน้าประมาณ 15-20 นาที ก็จะได้ผิวหน้าที่สดชื่นได้แล้ว
5.เม็ดโสม
โสมเม็ดถูกบรรจุในขวด ใส่กล่องกระดาษแข็งอีกครั้ง โสมสำหรับท่านที่ไม่ค่อยมีเวลา สามารถนำมาทานได้ทันที
สรรพคุณของโสมเกาหลี ประโยชน์
1.มีประโยชน์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง
ช่วยบำรุงประสาทและสมอง การเรียนรู้ เสริมความจำ แก้ความจำเสื่อม ลดภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ ผ่อนคลายความเครียด เนื่องจากจะมีคุณสมบัติช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจ โดยเร่งขบวนการเผาผลาญอาหารต่าง ๆ เพื่อปลดปล่อยพลังงานเพื่อต่อต้านความเครียด มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง กระชุ่มกระชวย กระปรี้กระเปร่า สมองปลอดโปร่ง
2.ช่วยในการบำรุงร่างกาย
เป็นเหมือนยาบำรุงกำลังทำให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยแก้อาการเหนื่อยหอบ อ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรง กล้ามเนื้อมีความสามารถดีขึ้น เหมาะกับเป็นยาบำรุงกำลังในหมู่นักกีฬา
3.ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด
โดยทำหน้าที่เป็นสารต้านสารก่อมะเร็ง เป็นสารต้านพิษจากสภาวะแวดล้อม ในโสมจะช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง โสมยังช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งให้ทำหน้าที่ตามปกติ และช่วยชะลอพัฒนาการของโรคเอดส์ ป้องกันการกลายพันธุ์ของเซลล์ปกติไปเป็นเซลล์มะเร็งหรือเนื้องอก บริเวณกระเพาะอาหารและรังไข่
4.เป็นยาช่วยชะลอความแก่
ทำให้อายุยืนยาว ในการเผาผลาญไขมันเพื่อให้ร่างกายเกิดพลังงาน โดยอนุมูลอิสระที่สลายตัวจากออกซิเจนจะเป็นตัวทำลายเนื้อเยื่อของอวัยวะต่าง ๆ ให้เสื่อมสลายลง เป็นสาเหตุของความแก่ โดยโสมจะช่วยทำให้เนื้อเยื่อเสื่อมช้าลง และในโสมยังช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้มีความทนทานต่อความกดดัน ช่วยลดขบวนการของความแก่ชราลงได้
5.ช่วยลดโรคเบาหวาน
ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในคนไข้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง โสมจะช่วยทำให้ต่อมในตับอ่อนหลั่งอินซูลินออกมาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดอาการมึนชาตามนิ้วมือและการเกิดแผลเน่าเปื่อย
6.ช่วยลดความดันโลหิตสูง
จะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น เพราะมี Ginsenoside Rg1 ในขณะที่โสมอเมริกันจะทำให้ความดันโลหิตลดลง
7.ช่วยลดไขมันในการเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงาน
มีฤทธิ์ลดไขมันในเลือด การทานรากโสมในขนาดวันละ 2.5 กรัมเป็นเวลา 3 เดือน จะมีปริมาณของคอเลสเตอรอลในเลือดลดลง
วิธีเลือกซื้อ โสมเกาหลี
1.เลือกจากขนิดของโสมเกาหลี
- โสมขาว – เป็นโสมขาวที่มีคุณค่าทางโภชนาการ กรรมวิธีน้อยกว่าโสมชนิดอื่น ทำให้มีราคาถูก โสมขาวเป็นการนำโสมสดอายุ 4-6 ปีมาล้างทำความสะอาด แล้วนำไปอบแห้งและตากแดดจนได้รากสีขาว มีฤทธิ์เย็น มีความโดดเด่นด้วยลักษณะที่คล้ายกับตัวคน จึงเรียกกันว่า โสมคน มีสรรพคุณช่วยปรับสมดุล ฟื้นฟูระบบการทำงาน ให้อวัยวะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
- โสมแดง – เป็นโสมที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยสารสำคัญที่ออกฤทธิ์เพิ่มขึ้นอีก 4 ชนิด มีคุณค่าทางโภชนาการที่เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้ดี มีราคาแพงกว่าโสมแบบอื่น ๆ โสมแดงก็หมายถึงโสมขาวที่นำไปอบฆ่าเชื้อ ด้วยกรรมวิธีการอบไอน้ำ 120-130 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2-4 ชั่วโมงจนรากเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง ซึ่งการเลือกทานโสมแดงที่มีอายุราก 6 ปีจะทำให้ได้ประโยชน์ที่มากขึ้น
- โสมตังกุยจับ – อุดมไปด้วยสารสำคัญเช่น ไลกับติไล กรดฟรูลิก โพลินแซ็กคาไรด์ ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ให้เป็นปกติ ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเซโรโทนิน ลดอาการร้อนวูบวาบในวัยทองได้
2.เลือกตามประเภทหรือรูปแบบ
- รูปแบบแคปซูลสกัด – เป็นการนำมาแปรรูปใส่แคปซูลโดยตรง มีให้เลือกหลายราคา ตามแต่คุณภาพของผลิตภัณฑ์ โสมแบบแคปซูลสามารถดูดซึมร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญก่อนเลือกซื้อแบบแคปซูลควรตรวจสอบเลขทะเบียน อย.ตลอดจนบรรจุภัณฑ์และปริมาณของสารสำคัญบนฉลากด้วยเสมอ
- รูปแบบแผ่น – แบบแผ่นจะนำไปใช้แปรรูปด้วยวิธีการต้ม หรือทำตำรับยา ประกอบอาหาร สามารถทานได้ในหลายรูปแบบ ควรเลือกซื้อที่ได้มาตรฐานและมั่นใจว่าเป็นโสมจริง เพราะการกินโสมของปลอมอาจส่งผลต่อร่างกายได้นั่นเอง
วิธีกินโสมเกาหลี
สมุนไพรบำรุงร่างกายแต่ละชนิด จะมีข้อแนะนำในการรับประทานกำกับไว้ในตัวยาและสารอาหารบางอย่าง ร่างกายสามารถดูดซึมได้จำกัด ที่มีทั้งแบบแคปซูล อาหารเสริม ชา กาแฟ เครื่องดื่มขวดพร้อมดื่ม บางคนอาจซื้อเป็นรากโสมเพื่อมาตุ๋น จากรูปแบบที่กล่าวมาสามารถเลือกทานโสมในรูปแบบใดก้ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการทานร่วมกับเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และหลีกเลี่ยงการทานธาตุเหล็กในช่วงที่ทาน
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการกิน
เราสามารถทานได้ทุกเวลา ไม่ทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองเหมือนยาบางชนิด ถ้าต้องการให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่ และส่งผลดีต่อร่างกาย ควรทานในช่วงที่ท้องว่าง เช่นก่อนรับประทานอาหารเช้า ช่วงระหว่างมื้ออาหาร ช่วงก่อนเข้านอน
ส่วนปริมาณที่ควรทานอย่างเหมาะสม
สำหรับผู้ใหญ่ปริมาณที่เหมาะสมคือ 2 กรัมต่อวัน ควรเริ่มทานในปริมาณน้อย ๆ ก่อน แล้วค่อยเพิ่มจนได้ปริมาณที่เพียงพอ
ข้อควรระวังในการกินโสมเกาหลี
- ควรระมัดระวังในการใช้กับผู้ป่วยที่เป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่มีไข้ตัวร้อน ห้ามรับประทานโสม นอกจากนี้โสมยังถูกห้ามใช้ในเด็กทารก เด็กเล็ก หญิงที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร และมีข้อมูลสตรีที่รับประทานโสมในขณะตั้งครรภ์เมื่อคลอดลูกอาจมีขนมากรวมถึงผู้ที่ตับอักเสบ พบเอนไซม์ของตับสูง หรือตับอักเสบจนตัวเหลือง ก็ไม่ควรทานโสม
- ห้ามกินโสมพร้อมกับวิตามินซี เพราะภายหลังการทานโสม ฤทธิ์ของโสมจะอยู่ได้นาน 1-2 เดือน ควรทาน 1 เดือน แล้วรออีก 2 เดือน ก่อนรับประทานใหม่อีกครั้ง
- ยาที่ไม่ควรรับประทานกับโสมเกาหลี ได้แก่ยาลดน้ำตาลในเลือด เพราะโสมมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด การทานโสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อนในการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดทำให้มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางอย่าง โดยอย่ากินร่วมกัน โดยอาหารหมายถึง ผลไม้ที่มีความเป็นกรดสูง หรือน้ำผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่นน้ำมะนาว น้ำส้มคัน จะต้องกินหลังกินโสมไปแล้วอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- การใช้โสมเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ ซึมเศร้า ท้องเดิน เจ็บคัดเต้านม ผื่นคัน มีอาการบวม สวนผู้ที่ทานโสมเป็นเวลานานและทานในปริมาณที่มาก อาจเกิดกลุ่มอาการความดันโลหิตสูง มีอาการนอนไม่หลับ ท้องร่วง มีผื่น
- โสมเป็นของร้อน มีฤทธิ์อุ่น บางคนกินโสมแล้วเกิดอาการหงุดหงิด
สุขภาพดีวิถีจีน โสมเกาหลี
สรุป
ดังนั้นแล้ว การมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการกินโสมเกาหลีอย่างถูกวิธี จะช่วยดูแลสุขภาพองค์รวมให้แข็งแรงอย่างดี เพราะประโยชน์เค้าดีต่อระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยในการบำรุงร่างกาย ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด ยาช่วยชะลอความแก่ ลดโรคเบาหวาน ลดความดันโลหิตสูง ลดไขมันในการเผาผลาญไขมันให้เป็นพลังงาน
อ้างอิง
Korean Ginseng – Uses, Side Effects, and More : WebMD Medical Team
เจ้าของร้านขายยาโดยเภสัชกรชั้นนำหลายสาขา ขายดีจ่ายยาแล้วคนไข้หายจนเป็นที่ยอมรับ การศึกษาปริญญาตรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทจากประเทศออสเตรเลีย มีความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับ สุขภาพ อาหารเสริม ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี