วิตามินบำรุงผมเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่จำเป็นต่อเราทั้งผู้ที่มีปัญหาเส้นผมหลุดร่วง หรือผู้ที่ไม่มีปัญหาเส้นผมดังกล่าวเพื่อเป็นการป้องกันและเสริมความแข็งแรงให้กับรากผมไว้ก่อน ส่วนผู้ที่เจอกับปัญหาทั้งผมร่วง, ผมบาง รวมถึงปัญหาผมยาวช้า สามารถที่จะกินวิตามินนี้ได้ และที่คัดเลือกมาในบทความนี้ได้รับการยอมรับอย่างสูงถึงประสิทธิภาพ และความปลอดภัย
ก่อนอื่นเราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ในหมวดหมู่สุขภาพของเส้นผมมีดังนี้ ครีมหมักผม , แชมพูลดผมมัน , แชมพูลดผมร่วง , ครีมนวดผม , ยาสระผมแก้ผมร่วง , ยาสระผมแก้ผมมัน , น้ำยาดัดผม , ยาสระผมแก้รังแค , แชมพูปลูกผม , ครีมกำจัดขน , ทรีทเม้นท์ผม , แชมพูออแกนิค , ครีมกัดสีผม , แชมพูสำหรับผมดัด , ครีมยืดผม , น้ำยายืดผม , ครีมจับลอน , ครีมเปลี่ยนสีผมชั่วคราว , โฟมเปลี่ยนสีผม , มูสไส่ผม , เซรั่มปลูกคิ้ว , ครีมหมักผมเคราติน
สำหรับอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้กับเส้นผม มีดังนี้ หมวกอบไอน้ำ , เครื่องม้วนผม , ที่หนีบผม , ไดร์เป่าผม , ปัตตาเลี่ยน , ที่ม้วนผม , กรรไกรตัดผม , โรลม้วนผม , กรรไกรซอยผม , หวีไฟฟ้า
อาหารเสริมสำหรับการบำรุงผม เช่น วิตามินแก้ผมร่วง ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
วิตามินบำรุงผม คืออะไร
คือ ผลิตภัณฑ์วิตามินอาหารเสริมให้เส้นผมเพื่อบำรุงรักษาและฟื้นฟูเส้นผมที่มีปัญหาขาดหลุดร่วง, รากผมไม่แข็งแรง, ผมบาง รวมถึงช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผมเร็วขึ้น มีส่วนประกอบของสารอาหารสำหรับเส้นผมหลากหลายชนิด นิยมกินในรูปแบบเม็ด นอกจากนั้นยังช่วยให้ผมหงอกช้า, รากเซลล์ผมงอกได้เร็วขึ้นกว่าเดิม และช่วยให้ผมมีเงางาม
วิตามินบำรุงผมช่วยอะไรบ้าง
ช่วยแก้ปัญหาผมบางลีบแบน
วิตามินเสริมสำหรับเส้นผมมีส่วนช่วยให้มีเส้นผมหนามากขึ้น รวมถึงระยะเวลาในการกินที่จะเริ่มเห็นผล ควรใช้เวลาเห็นผลหลังกิน 3 เดือน-6 เดือน โดยเฉพาะผู้ที่มีสาเหตุผมร่วง และผมบางที่เกิดจากภาวะหลังการคลอดลูก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารอาหารที่เรียกว่า ไบโอติน หรือวิตามินบี7 ที่เป็นส่วนสำคัญในการช่วยสร้างเคราตินที่เป็นเส้นใยของเส้นผม ช่วยให้ผมหนาและช่วยเสริมให้เส้นผมมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นประโยชน์รองๆ ลงมาของวิตามินบี7 หรือสารอาหารไบโอตินชนิดนี้ ที่สามารถเลือกหาได้สำหรับวิตามินอาหารบำรุงผม ในรูปแบบเม็ด
นอกเหนือจากนั้นแล้วถึงแม้ไบโอติน หรือวิตามินบี7 นั้นเราจะหาได้ในอาหารที่เรากินกันทั่วไป ที่ไม่ว่าจะเป็น ธัญพืช, ผักใบเขียว, ไข่แดง ที่เป็นกลุ่มอาหารเหมือนกับธาตุเหล็กนั้น แต่สำหรับไบโอตินเมื่อกลุ่มอาหารเหล่านี้โดนความร้อนผ่าน ด้วยกรรมวิธีในการทำอาหาร ก็เป็นสาเหตุให้คุณค่าของไบโอตินลดน้อยลง นั่นหมายถึงการที่เราต้องกินในปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งก็มีผลต่อปริมาณแคลอรี่สำหรับบางคน ที่เน้นควบคุมน้ำหนักอีกด้วย
ดังนั้นทางเลือกอีกอย่างที่ถือว่า เป็นการดูแลทั้งเส้นผมให้มีความหนา และมีความแข็งแรง หลุดร่วงน้อยในประโยชน์รองๆ ลงมา เราควรเลือกในการกินเป็นวิตามินอาหารบำรุงผม ในรูปแบบเม็ดที่กินได้ง่าย และยังสามารถควบคุมปริมาณวิตามินบี7 หรือสารอาหารไบโอตินให้เพียงพอต่อวันคือ 30 ไมโครกรัม ซึ่งเป็นสารอาหารที่เน้นในการบำรุงและดูแลเส้นผมโดยเฉพาะ
ช่วยแก้ปัญหารากผมไม่แข็งแรง, ขาดหลุดร่วงง่าย
จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นสาเหตุผมขาดหลุดร่วงมาจาก ฮอร์โมน, พฤติกรรมการสระผม, ความเครียด หรืออีกหลากหลายปัจจัยนั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจาก เซลล์รากผมที่ไม่แข็งแรง ทำให้ผมเกิดภาวการณ์ขาดหรืเกิดผมร่วงได้ง่าย ซึ่งโดยปกติแล้วคนเราจะมีปริมาณเส้นผมที่ขาดร่วงปกติอยู่ที่ 50-100 เส้นเท่านั้นต่อวัน
โดยเฉพาะผู้ที่มีสาเหตุผมร่วง ที่เกิดจากการควบคุมน้ำหนักมากจนเกินไป และเกิดภาวะการขาดสารอาหารตัวหลัก ที่เป็นตัวเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นสารอาหารที่ช่วยเพิ่มความหนาให้เส้นผมอย่าง แร่ธาตุเหล็ก, แร่ธาตุสังกะสี หรือเป็นสารอาหารที่ช่วยในเรื่องปัญหาเพิ่มให้ผมแข็งแรง และช่วยแก้ผมร่วงได้อย่าง วิตามินเอ, วิตามินซี , วิตามินอี รวมถึง วิตามินบี3 และวิตามินบี12
ซึ่งในส่วนของวิตามินซีนั้น นอกจากจะช่วยให้ผมหลุดร่วงน้อยลง และรวมถึงเสริมโครงสร้างรากผมให้แข็งแรงแล้ว ยังมีส่วนช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้กับเส้นผม เพื่อให้เส้นผมเกิดความชุ่มชื้นและมีชีวิตชีวา และยังช่วยให้ผมเรียงตัวสวยไม่พันกัน ซึ่งไม่ว่าวิตามินเอ หรือวิตามินซีนั้น ก็ถือว่าเป็นสารอาหารสำหรับเส้นผม ที่ช่วยให้ผมแข็งแรง และช่วยแก้ผมร่วงหลักๆ เลยทีเดียว
สำหรับวิตามินบี3 และวิตามินบี12 ในการช่วยลดจำนวนของผมขาดหลุดร่วงนั้น ในส่วนการทำงานของสารอาหารก็คือ เน้นการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงหนังศีรษะ รวมถึงลดอาการอักเสบของหนังศีรษะ สำหรับสาเหตุผมร่วงที่เกิดจาก พฤติกรรมในการสระผมที่ไม่ถูกต้อง เมื่อหนังศีรษะมีเลือดไหลเวียนดี ก็จะไปช่วยบำรุงให้รากผมแข็งแรง และเป็นการแก้ผมร่วงไปด้วยอีกทาง
แก้ปัญหาผมหงอกก่อนวัยและผมขึ้นช้า
หลายสาเหตุที่ทำให้ผมร่วง และยาวไม่ทันกับปริมาณผมที่เสียไป ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุปริมาณฮอร์โมน DHT หรือฮอร์โมนที่กำหนดลักษณะเฉพาะของผู้ชาย มีในปริมาณที่มาก ทำให้เซลล์รากผมขึ้นช้ากว่าปกติ ซึ่งหากเราปล่อยไว้นานไป ปัญหาที่ของเซลล์รากผมที่ขึ้นช้า จะลามกลายเป็นเซลล์รากผมตำแหน่งนั้นๆ ไม่ขึ้นเลย และรวมถึงการเกิดผมร่วงจนเห็นเป็นหย่อมๆ หรือบางตำแหน่งกลายเป็นหัวล้าน
ซี่งเราสามารถเสริมวิตามินที่ช่วยบำรุงผม ทั้งวิตามินดีที่มีผลเฉพาะการรักษา อาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ ที่เกิดจากสาเหตุการเพิ่มของฮอร์โมน DHT และวิตามินบี5 หรือกรดแพนโทเทนิก Pantothenic Acid ซึ่งสามารถช่วยในเรื่องการเร่งผมยาว หรือเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ รวมถึงยังช่วยสำหรับบางคน ที่มีผมหงอกก่อนวัย โดยการเร่งสร้างเมลานินเพื่อให้ปรับสภาพผมเสียแห้งและหงอก ฟื้นฟูปรับสภาพเส้นผมมาเป็นสุขภาพผมที่ดีขึ้น
แก้ปัญหาผมชี้ฟูและขาดความยืดหยุ่น
เส้นผมที่แห้งกรอบและขาดความยืดหยุ่นนั้น เป็นสัญญาณบอกให้เราได้รู้ว่า เส้นผมขาดการดูแลบำรุง และขาดอาหารเส้นผม โดยเฉพาะวิตามินที่ควรจะเสริมเข้าไป เพื่อเน้นการฟื้นฟูเส้นผมโดยเฉพาะ เพราะหากปล่อยไว้นานก็จะเกิดปัญหาที่ตามมาคือ ผมอ่อนแอและขาดร่วงในที่สุด ดังนั้นจุดเริ่มต้นของปัญหาแรกๆ คือผมที่เริ่มแห้ง และไม่สปริงตัว ควรเน้นการเพิ่มแร่ธาตุซิลิกา โดยการเน้นไปที่กลุ่มอาหารเสริมในรูปแบบเม็ดกินง่าย
วิธีเลือกซื้อวิตามินบำรุงผม
ส่วนประกอบของอาหารเสริม
สารอาหารเสริมที่มีหน้าที่เฉพาะในการช่วยบำรุงและฟื้นฟูเส้นผม โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผมหลุดร่วงได้ง่าย และในวิตามินหรือสารอาหารบางตัว ยังเข้าไปช่วยให้เซลล์รากผมใหม่ งอกขึ้นได้เร็วกว่าเดิม ช่วยให้ผมหนาและป้องกันผมร่วงได้ในอนาคต โดยการเข้าไปเสริมสร้างรากผมให้แข็งแรงเพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้อยู่ที่เราเลือกสารอาหารสำหรับผมตัวไหน อย่างเช่น ไบโอติน, วิตามินบี3, วิตามินบี5, วิตามินบี12, วิตามินซี, วิตามินดี, วิตามินอี และแร่ธาตุเหล็ก เป็นต้น
รูปแบบของวิตามิน
โดยหลักๆ แล้วเราจะเห็นรูปแบบของยาที่ใช้กินเป็นรูปเม็ด และรูปแบบแคปซูล แต่สำหรับอาหารเสริมที่เป็นวิตามินบำรุงผมนั้น มีลักษณะรูปแบบที่เป็นเยลลี่ที่น่าสนใจ และน่าดึงดูดสำหรับสาวๆ ที่รักความสวยความงาม ซึ่งส่วนใหญ่หากมีรูปแบบเป็นเยลลี่แล้ว จะมีการเติมกลิ่นหอมของผลไม้ร่วมด้วย
โดยจะเน้นรูปแบบการกินเหมือนขนม ให้รู้สึกมีความสนุกในการกินไม่เหมือนที่เรากินยารักษาโรค ส่วนการกินในรูปแบบแคปซูลก็จะมีความง่ายกว่า รูปแบบเม็ด รวมถึงรูปแบบแคปซูล ยังเป็นการเก็บถนอมผงยา ที่ป้องกันไม่ให้กระจายทำลายเซลล์ส่วนอื่นๆ ด้วยการบรรจุในแคปซูล
รูปแบบบรรจุภัณฑ์
ที่เรามักจะเห็นและคุ้นเคยกันคือ รูปแบบขวดที่มีการทำเป็นสีชา เพื่อป้องกันตัวยาและสารอาหารเสื่อมสภาพจากความร้อน และขวดอีกรูปแบบคือ การทำสีทึบขุ่นเป็นสีขาวแต่มีจุดประสงค์แบบเดียวกันคือ ต้องการกันแสงและความร้อน ไม่ให้โดนวิตามินด้านใน รวมถึงรูปแบบซองที่สามารถพกพาติดกระเป๋าออกไปนอกบ้านได้ง่ายและสะดวกมากกว่า
วัสดุบรรจุภัณฑ์
เน้นในรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวด จะมีวัสดุ 2 แบบคือ แบบขวดแก้วสีชา และแบบขวดพลาสติกที่ทำเป็นสีทึบขุ่นสีขาวเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นหากเราต้องการบรรจุภัณฑ์ที่มีน้ำหนักเบา เพื่อที่จะสามารถพกพาไปไหนก็ได้ ควรเลือกวัสดุที่เป็นแบบพลาสติก หรือแยกวัสดุที่เป็นขวดแก้วไว้สำหรับไว้ที่บ้าน เป็นต้น
ปริมาณเม็ดยา
ขนาดขวดมีให้เลือกตั้งแต่ปริมาณ 30 เม็ด, 45 เม็ด, 90 เม็ด หรือ 120 เม็ด หรือขนาดขวดเล็ก, ขนาดขวดกลาง และขนาดขวดใหญ่ หากเป็นผู้ที่ต้องการกินอย่างต่อเนื่อง เพื่อรอดูผลในการกิน ซี่งจะเห็นผลหลังกินใช้เวลาตั้งแต่ 3 เดือน-6 เดือน
วิธีกินวิตามินบำรุงผม
แนะนำให้อ่านฉลากติดข้างบรรจุภัณฑ์ หรือเอกสารประกอบ แต่หากเป็นการเลือกซื้อในรูปแบบวิตามินและสารอาหารเฉพาะ ที่มีประโยชน์ในการดูแลเส้นผมและเร่งผมยาว สามารถกินตามที่ระบุไว้ด้านล่างดังนี้ คือ
- วิตามินเอ กินพร้อมกับมื้ออาหาร วันละ 600 ไมโครกรัม
- วิตามินบี3 กินพร้อมอาหาร วันละ 100-150 มิลลิกรัม
- ไบโอตินหรือวิตามินบี7 กินหลังอาหาร วันละ 30 ไมโครกรัม
- วิตามินบี12 กินพร้อมมื้ออาหาร วันละ 2.4 ไมโครกรัม
- วิตามินซี กินพร้อมอาหารมื้อเช้าและเย็น มื้อละ 500 มิลลิกรัม
- วิตามินดี กินพร้อมอาหารมื้อหลัก วันละ 15 ไมโครกรัม
- วิตามินอี กินพร้อมอาหารหรือหลังอาหาร วันละ 14 มิลลิกรัม
- แร่ธาตุสังกะสี กินตอนท้องว่างก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง หรือหลังอาหาร 2-3 ชั่วโมง วันละ 12 มิลลิกรัม
- แร่ธาตุเหล็ก กินตอนท้องว่า วันละ 15 มิลลิกรัม
วิตามินบำรุงผม เลือกแบบไหนให้เหมาะสม กับตัวเอง ?
สรุป
วิตามินบำรุงเส้นผมถือว่ามีความสำคัญไม่น้อยไปกว่า ครีมบำรุงหน้า หรือผิวพรรณ โดยเฉพาะที่เราจะเห็นได้ว่าสารอาหารบำรุงที่เรียกว่า ไบโอติน มีการดูแลและฟื้นฟูไม่เพียงแค่เส้นผมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเล็บและผิวอีกด้วย ซี่งถือว่าเป็นหนึ่งในสารอาหารผมเด่นๆ ที่อยู่ในวิตามินนี้ โดยที่หากใครต้องการเพียงแค่บำรุงเส้นผม หรือต้องการซ่อมแซมสภาพเส้นผม รวมถึงการเพิ่มความแข็งแรงให้กับรากผม จำเป็นที่จะต้องมีสารอาหารตัวนี้ ร่วมกับกลุ่มวิตามินตัวอื่นๆ อีกด้วย
เจ้าของร้านขายยาโดยเภสัชกรชั้นนำหลายสาขา ขายดีจ่ายยาแล้วคนไข้หายจนเป็นที่ยอมรับ การศึกษาปริญญาตรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทจากประเทศออสเตรเลีย มีความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับ สุขภาพ อาหารเสริม ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี
