แนะนำ 10 ครีมกัดสีผม ยี่ห้อไหนดี 2024 ใช้ดี ทำง่าย ถนอมผม ผมไม่เสีย

ครีมกัดสีผม

สารบัญ

ครีมกัดสีผมเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ฟอกสีผมรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยม ถูกผลิตขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการฟอกและเปลี่ยนสีผมจากสีหนึ่งเป็นอีกสีหนึ่งเนื่องจากการย้อมผมแบบธรรมดาไม่สามารถเปลี่ยนสีผมเดิมแบบ 100% ได้

ในเนื้อหาจะพาไปทำความรู้จักกับครีมนี้เพื่อให้ทราบว่าผลิตภัณฑ์นี้คืออะไร เหมาะกับใคร มีวิธีการใช้อย่างไร หลังใช้เสร็จแล้วควรดูแลผมอย่างไร รวมไปถึงวิธีเลือกซื้อ และข้อควรระวังในการใช้ ซึ่งความรู้เหล่านี้จะช่วยให้ผู้ที่ต้องการกัดสีผมได้ทราบถึงข้อมูลอันเป็นข้อเท็จจริง และจะช่วยให้สามารถตัดสินใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น

ก่อนอื่นเราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ในหมวดหมู่สุขภาพของเส้นผมมีดังนี้ ครีมหมักผม , แชมพูลดผมมัน , แชมพูลดผมร่วง , ครีมนวดผม , ยาสระผมแก้ผมร่วง , ยาสระผมแก้ผมมัน , น้ำยาดัดผม , ยาสระผมแก้รังแค , แชมพูปลูกผม , แชมพูย้อมผม

ครีมกำจัดขน , ทรีทเม้นท์ผม , แชมพูออแกนิค , แชมพูสำหรับผมดัด , ครีมยืดผม , น้ำยายืดผม , ครีมจับลอน , ครีมเปลี่ยนสีผมชั่วคราว , โฟมเปลี่ยนสีผม , มูสไส่ผม , เซรั่มปลูกคิ้ว , ครีมหมักผมเคราติน

สำหรับอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้กับเส้นผม มีดังนี้ หมวกอบไอน้ำ , เครื่องม้วนผม , ที่หนีบผม , ไดร์เป่าผม , ปัตตาเลี่ยน , ที่ม้วนผม , กรรไกรตัดผม , โรลม้วนผม , กรรไกรซอยผม , หวีไฟฟ้า

อาหารเสริมสำหรับการบำรุงผม เช่น วิตามินบำรุงผม , วิตามินแก้ผมร่วง ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า

ครีมกัดสีผม คืออะไร

ครีมกัดสีผม คืออะไร

คือ ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบครีมสำหรับการกัดสีผม จุดประสงค์หลักของผลิตภัณฑ์นี้คือการฟอกสีผมเดิมให้มีสีที่อ่อนหรือจางลง เพื่อให้เปลี่ยนสีผมใหม่จากการย้อมผมได้ ซึ่งการย้อมผมแบบธรรมดานั้นยังไม่สามารถเปลี่ยนสีผมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 100%

หลักการทำงานของครีมจะผสมสารประเภทอัลคาไลน์และตัวไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้าด้วยกัน เมื่อถูกนำไปใช้กับผมก็จะทำให้เกิดปฏิกิริยาบางอย่างขึ้น โดยสารดังกล่าวจะเริ่มเข้าไปเปิดเกล็ดผมเพื่อให้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งถือเป็นส่วนประกอบหลักเข้าไปฟอกเม็ดสีเมลานินในเส้นผม ส่งผลให้สีผมอ่อนหรือจางลง และเมื่อสีผมเดิมจางลงแล้ว การย้อมสีผมก็จะได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การฟอกสีผมกับกัดสีผม แตกต่างกันอย่างไร

การกัดสีผม

ทั้งคู่นั้นเป็นกระบวนการที่ทำให้สีผมที่แท้จริงดูอ่อนลงเพื่อที่จะได้มีสีที่ติดทนและเด่นชัดตามที่เราต้องการเช่นเดียวกัน และทั้งสองอย่างก็ส่งผลเสียต่อเส้นผมอย่างรุนแรง โดยเฉพาะผู้ที่มีสภาพผิวหนังศีรษะไม่แข็งแรง อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้

ฟอกสีผมนั้นถือเป็นตัวช่วยให้สีผมของเรานั้นดูอ่อนลงทำให้สีที่เราต้องการย้อมสีลงไปติดทนและมีสีที่ชัดตามความต้องการของเรา และก่อให้เกิดอันตรายต่อเส้นผมและหนังศีรษะของเราไม่น้อย ดังนั้นแล้วเราจึงไม่ควรที่จะทำบ่อยครั้ง และควรให้ความสำคัญกับการบำรุงเส้นผมหลังการฟอกสีด้วย

กัดสีผมเป็นตัวที่ทำให้สีผมอ่อนลงทำหน้าที่เดียวกันจะมีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ที่จะเป็นตัวกำหนดสีและความเข้มอ่อน โดยจะมีไฮโดรเจนเปอร์ 3 เปอร์เซ็นต์ไปจนถึง 12 เปอร์เซ็นต์ สามารถกำหนด ระดับความสว่างของสีผมได้ จึงต้องเลือกระดับให้เหมาะสม เพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและไม่ทำลายสุขภาพของเส้นผม

คุณสมบัติของครีมกัดสีผมที่ดี

คุณสมบัติของครีมกัดสีผมที่ดี

1. ไม่ข้นหนืดจนเกินไป

ควรมีสภาพที่ไม่ข้นหนืดจนเกินไป และควรเป็นสูตรที่เกลี่ยได้ง่าย เนื่องจากการกัดสีผมหรือการเปลี่ยนสีผมนั้นจำเป็นต้องทำอย่างเร่งรีบ หากเลือกครีมที่มีสภาพไม่ข้นหนืดมากและเกลี่ยง่าย จะทำให้ขั้นตอนการเปลี่ยนสีผมทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

2. ติดทน

สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ใช้แล้วติดทน และไม่ทำให้เส้นผมดูเหลืองหลังจากการกัดสี ซึ่งถือเป็นปัญหาที่ผู้ใช้งานหลายท่านมักจะเผชิญอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไม่มีคุณภาพดีมากพอ

3. บำรุงเส้นผม

มีสารสำคัญที่ช่วยในการบำรุงเส้นผมไปในตัว เพราะการกัดสีผมหรือเปลี่ยนสีผมบ่อยๆ นั้น ถือเป็นการทำร้ายเส้นผมและหนังศีรษะทางตรง หากครีมเปลี่ยนสีผมมีสารที่ช่วยบำรุงผม ก็จะช่วยฟื้นฟู และบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพที่แข็งแรงได้เร็วขึ้น

4. ทำแล้วผมไม่เสีย

ควรเป็นสูตรที่มีคุณภาพสูง และไม่ทำร้ายสุขภาพผมและหนังศีรษะ

5. ทำง่าย

ทำง่ายที่บ้านสะดวกและใช้เวลารวดเร็วไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากไม่จำเป็นต้องกัดสีหลายครั้งเพื่อทำลายเส้นผมก็ได้สีผมที่ต้องการและถูกใจได้ง่าย ๆ ทำเองได้เลย

6. กลิ่นไม่ฉุน

มีกลิ่นที่ไม่ฉุน อยู่ในระดับที่ผู้ใช้สามารถรับได้ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับผมโดยเฉพาะไม่ควรมีกลิ่นฉุนจนเกินไป หรือถ้าไม่มีเลยก็ยิ่งดี เพราะกลิ่นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกได้

7. มีความอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ

ให้ความอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ ไม่ทำให้แสบขณะใช้ เพราะการกัดสีผมถือเป็นการใช้สารเคมีอยู่แล้ว หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงได้

ขั้นตอนและวิธีกัดสีผม

ขั้นตอนและวิธีกัดสีผม
  • ตรวจสอบเส้นผมของตัวเองก่อนว่า มีสภาพอย่างไร มีความแข็งแรงพร้อมที่จะทำการกัดสีผมหรือไม่
  • เมื่อทราบว่าสภาพเส้นผมยังไม่แข็งแรงพอที่จะทำการกัดสี ให้ดูแลเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงจนกว่าสภาพเส้นผมจะแข็งแรงขึ้น
  • ควรทดสอบก่อนเริ่มกัดสีผมว่าแพ้สารอะไรหรือไม่ ให้ใช้ทาบริเวณท้องแขน ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วพบว่าไม่มีอาการแพ้หรือความผิดปกติใด ๆ ก็สามารถเริ่มขั้นตอนการกัดสีผมได้เลย
  • เตรียมเส้นผมให้แห้งและสะอาด จากนั้นแบ่งเส้นผมเป็นช่อเล็กๆ เพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการกัดสีผม
  • เริ่มลงครีมกัดสีผมจากบริเวณด้านหลังศีรษะก่อน ทำการลงครีมรอบที่สอง โดยให้เริ่มลงสีที่บริเวณโคนผมและเก็บรายละเอียด
  • ฉีดน้ำใส่ผมเพื่อลดความเข้มข้นของครีมและยืดเวลาการฟอกให้สีสว่างขึ้น
  • สระผมด้วยแชมพูเพื่อล้างครีมออกให้สะอาด ในขั้นตอนนี้แนะนำให้ลง ครีมหมักผมเคราติน นวดไปด้วย เพื่อทำการชำระล้างครีมที่เกาะอยู่ตามเกล็ดผมออกให้หมด
  • หลังสระผมควรเช็คสภาพผมดูด้วยว่าเป็นอย่างไรบ้าง ในกรณีที่ทำครั้งแรกแล้วมีความรู้สึกว่าผมเสียหรือเกิดการเปราะขาดก็ควรพักการทำผมไว้ก่อน
  • เพื่อใช้เวลาฟื้นบำรุงให้ผิวมีความแข็งแรงขึ้น แต่ถ้าหากไม่มีอะไรผิดปกติก็สามารถทำสีผมต่อไปได้

วิธีเลือกซื้อครีมกัดสีผม

วิธีเลือกซื้อครีมกัดสีผม

1. เลือกซื้อที่มีปริมาณไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

ควรเลือกซื้อครีมที่มีปริมาณไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ให้เหมาะกับสภาพของเส้นผม และมีคุณภาพดี เนื่องจากว่าหากมีปริมาณเปอร์ออกไซด์ที่เข้มข้นเกินไป จะทำให้ส่งผลเสียต่อเส้นผม และหนังศีรษะไหม้ได้

2. เลือกซื้อประเภทที่ไม่หนืดข้นจนเกินไป

ความหนืดข้นของตัวครีมที่เยอะจนเกินไปจะส่งผลให้การเปลี่ยนสีผมทำได้ยาก ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ครีมที่มีสภาพไม่หนืดข้น เกลี่ยง่าย จะทำให้การฟอกสีผมทำได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

3. เลือกซื้อครีมสำหรับกัดสีผมที่มีกลิ่นไม่ฉุน

กลิ่นถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมาก เพราะว่าขั้นตอนในการเปลี่ยนสีผมต้องใช้เวลาพอสมควร หากเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้มีกลิ่นฉุน จะทำให้เกิดอาการเหม็นจนทนไม่ได้ หรือบางรายอาจจะเกิดอาการแพ้ได้ ดังนั้นควรเลือกครีมสำหรับกัดสีผมที่ไม่มีกลิ่นฉุนจะดีที่สุด

4. เลือกซื้อที่มีแชมพูสำหรับฟอกผมมาโดยเฉพาะ

ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมที่มีแชมพูสำหรับฟอกผมมาโดยเฉพาะ หากเลือกได้ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทั้งสองอย่างมาเป็นชุดจะดีที่สุด และบำรุงด้วย แชมพูออแกนิค จะทำให้การดูแลหลังการกัดสีผมหรือเปลี่ยนสีผมมีประสิทธิภาพ และเส้นผมสามารถฟื้นฟูได้ดียิ่งขึ้น

5. เลือกซื้อประเภทที่สามารถลดเม็ดสีเหลืองบนเส้นผมได้

เพราะการกัดสีผมหรือการเปลี่ยนสีผม อาจไม่ประสบความสำเร็จในบางครั้ง ซึ่งผลข้างเคียงที่มักพบเจออยู่บ่อยๆ ก็คือเส้นผมที่ผ่านการฟอกสีจะดูเหลือง แต่ถ้าเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพมากพอก็จะช่วยลดปัญหานี้ได้

6. เลือกซื้อประเภทที่มีการระบุปริมาณและวิธีการใช้อย่างละเอียด

เพื่อให้ผู้ใช้สามารถนำไปใช้กัดสีผมหรือเปลี่ยนสีผมได้อย่างถูกวิธี ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการนำไปใช้อย่างผิดวิธีได้ เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจซื้อต้องตรวจสอบรอบๆ บรรจุภัณฑ์ และอาจวิธีการใช้อย่างละเอียด รวมถึงมีความระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่กัดสีผมด้วย เนื่องจากว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีอยู่

ข้อควรรู้ก่อนกัดสีผมด้วยตนเอง

การกัดสีผม

1. บำรุงผมให้แข็งแรงก่อน

หากอยากจะทำการเปลี่ยนสีผมแนะนำว่าให้ควรบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะก่อนอย่างน้อย 1 เดือน เพราะว่าสารเคมีที่ผสมอยู่ในครีมมีปฎิกิริยาที่ค่อนข้างรุนแรงต่อเส้นผมและหนังศีรษะอย่างมาก เลือกใช้เป็น ครีมหมักผม ที่เป็นสูตรธรรมชาติ หมักเป็นประจำทุก

2. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ดี

ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มียี่ห้อมีราคาแพงหน่อย อย่าเห็นแก่ของถูกเพราะยิ่งมีราคาถูกเท่าไหร่ ก็ยิ่งใส่สารเคมีเยอะเท่านั้น ทำให้กัดสีผมได้รวดเร็ว แต่ผลลัพธ์ที่ตามมาไม่คุ้มเลย และเกิดปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมตามมาอีกมากมายได้ในอนาคต

3. อย่าฟอกผมนานเกินไป

ก่อนทำการกัดสีผมด้วยตนเอง ควรอ่านรายละเอียดและวิธีการใช้งานก่อน ที่สำคัญไม่ควรที่จะกัดสีทิ้งไว้นานๆ เพราะคิดว่าจะทำให้ได้สีที่ต้องการรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลากัดหลายรอบ ไม่เป็นความจริงเลย โดยเฉพาะใครที่มีเส้นผมบางและเล็ก หากกัดทิ้งไว้นานๆ จะทำให้เกิดผลเสียต่อเส้นผมและหนังศีรษะอักเสบได้

4. อย่าฟอกสีผมบ่อย

เทรนด์การเปลี่ยนสีผมกำลังมาแรงก็จริง แต่ทางที่ดีเราไม่ควรที่กัดสีผมบ่อยๆ หากอยากเปลี่ยนจริงๆ ก็ควรเน้นช่วงสักประมาณ 3 เดือน เพื่อให้เส้นผมได้ฟื้นฟูและได้พักบ้าง เพราะหากยังฝืนที่จะเปลี่ยนตลอดเวลา จะเกิดปัญหาทั้งเส้นผมขาดร่วงง่าย เส้นผมแห้ง และที่สำคัญหนังศีรษะติดเชื้อได้ง่าย

วิธีดูแลเส้นผมหลังการใช้ครีมกัดสีผม

การบำรุงเส้นผมหลังทำ
  • หลังจากทำการกัดสีผมแล้ว ไม่ควรสระผมเลยทันที รอสักประมาณ 48 ชั่วโมง แล้วค่อยสระ ที่สำคัญต้องใช้แชมพูและครีมนวดสูตรธรรมชาติจะดีที่สุด  
  • บำรุงด้วยการหมักผมด้วยทรีทเมนท์มาส์ก สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และใช้เซรั่มบำรุงผม เพื่อช่วยซ่อมแซมเส้นผมให้กลับมาแข็งแรง และนุ่มสลวยเป็นธรรมชาติ
  •  เส้นผมที่ผ่านการฟอกสีมักจะมีความอ่อนแอมากกว่าปกติ ดังนั้นหากต้องการตกแต่งทรงผมด้วยความร้อน ไม่ว่าจะหนีบหรือไดร์ แนะนำว่าให้ฉีดสเปรย์กันความร้อนก่อนทุกครั้ง
  • หลังกัดสีผมควรพักฟื้นเพื่อให้เส้นผมมีความแข็งแรง โดยเว้นระยะเวลาในการทำสีหรือกัดสีในครั้งต่อไปเพื่อให้ผมได้ฟื้นฟูอย่างน้อย 1 เดือน

ลองกัดสีผมเองด้วย mise en scene tone up bleach

สรุป

ครีมกัดสีผมคือผลิตภัณฑ์ฟอกสีผมอีกรูปแบบหนึ่งที่ใช้สำหรับการกัดสีผมเดิมให้อ่อนหรือจางลง เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการย้อมสีผม ซึ่งการกัดสีผมนั้นถือเป็นกระบวนการทางเคมี ที่จะมีปฎิกิริยาต่อเส้นผม โดยจะมีสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ทำให้สีผมอ่อนหรือจางลง โดยสารเคมีนั้นจะทำปฏิกิริยากับผมหรือไปทำลายโปรตีนในเส้นผม มีความเสี่ยงทำให้สุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะเกิดปัญหาได้ เพราะฉะนั้นควรใช้อย่างระมัดระวัง และควรพิจารณาเลือกยี่ห้อที่เหมาะสมและปลอดภัยกับสภาพเส้นผมด้วย

ลาซาด้า9บาท

ยี่ห้อ NIGAO

นิกาโอะ
-สินค้าในกล่อง ครีมฟอก 100 ml. + ไฮโดรเยน 150 ml.
-ปราศจากกลิ่นฉุน มีส่วนผสมที่เป็นน้ำมันธรรมชาติ
-ช่วยเพิ่มความเงา ไม่แข็งกระด้างหลังทำ

ยี่ห้อ Lolane

โลแลน
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 60 กรัม
-เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ไม่ฟุ้งกระจาย กลิ่นไม่ฉุน
-ช่วยบำรุงเส้นผมขณะใช้งาน สีผมสว่าง นุ่มนวล

ยี่ห้อ Yougee

ยูจี
-สินค้าในกล่อง ครีมฟอก 100 ml. + ไฮโดรเยน 100 ml.
-เม็ดสีแน่น ไม่แสบ ไม่ฉุน เย็นสบายหนังศีรษะ
-ครีมย้อมผม ออแกนิก อ่อนโยนต่อเส้นผม

ยี่ห้อ SANJING

-สินค้าในกล่อง ครีมฟอก 100 ml. + ไฮโดรเยน 100 ml.
-ช่วยยกระดับสีผมให้สว่างขาวไว กลิ่นไม่ฉุน
-ไม่ทำให้ระคายเคืองและไม่ทำลายเส้นผม

ยี่ห้อ Starlist

สตาร์ลิสต์
-ช่วยยกระดับสีผมได้ถึงระดับ 8 – 10
-ช่วยให้ความรู้สึกสบายหนังศรีษะ ปลอดแอมโมเนีย
-ช่วยทำสีได้สวยพร้อมปกป้องถนอมโครงสร้างของเส้นผม

ยี่ห้อ Biowoman

ไบโอวูเมนส์
-ช่วยให้เม็ดสีติดทนนาน ดูเงางามเป็นประกาย
-ช่วยทำให้เส้นผมมีความชุ่มชื่น นุ่มลื่น ปราศจากกลิ่นฉุน
-สินค้าในกล่อง ครีมฟอก 100 ml. + ไฮโดรเยน 100 ml.

ยี่ห้อ ROMOSS BRIGHTEN

-ช่วยยกระดับสีผมได้ถึงระดับ 8 – 10
-เนื้อครีมทำให้ผสมสีได้เนียนขึ้น และทำงานได้สะดวก
-ช่วยให้สภาพผมหลังฟอกไม่แห้งเสีย นุ่มลื่น กลิ่นไม่รุนแรง

ยี่ห้อ Cruset

ครูเซ็ท
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 75 มิลลิลิตร
-ช่วยเปลี่ยนสีผมให้อ่อนลง สามารถทำเองได้ง่ายๆ
-ช่วยบำรุงผมให้ชุ่มชื่น เงางาม ไม่ทำให้ผมแห้งแตกปลาย

ยี่ห้อ Farger

ฟาเกอร์
-สินค้าในกล่อง ครีมฟอก 60 ml. + ไฮโดรเยน 60 ml.
-เนื้อครีมเนียน ผสมง่าย กลิ่นบางเบา ไม่ทำให้ผมแห้ง
-สามารถยกระดับความสว่างได้ 3 ถึง 5 ระดับ

ยี่ห้อ SUNPUSO

ซันปุโซะ
-เนื้อครีมแน่นละเอียด ผสมง่าย กลิ่นบางเบาไม่มีกลิ่นฉุน
-สินค้าในกล่อง ครีมฟอก 100 ml. + ไฮโดรเยน 100 ml.
-สามารถปรับระดับของพื้นผมให้มีความสว่างได้ 7 – 8

Best Choice ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุ้กกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า