ครีมหมักผมเคราตินจะช่วยฟื้นฟูและเสริมให้พันธะโปรตีนบนเส้นผมได้รับการดูแล ปกป้องถึงเนื้อชั้นในกันเลย แถมเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผม ทำให้เส้นผมดูสุขภาพดี สลวยสวยเก๋ สะบัดผมไปทางไหนก็เด้งกลับมาอย่างงดงาม เดินไปไหนมาไหนก็มีแต่คนเหลียวหันมองอย่างไม่ละสายตากันเลย
ก่อนอื่นเราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ในหมวดหมู่สุขภาพของเส้นผมมีดังนี้ ครีมกำจัดขน , ทรีทเม้นท์ผม , แชมพูออแกนิค , ครีมกัดสีผม , แชมพูสำหรับผมดัด , ครีมยืดผม , น้ำยายืดผม , ครีมจับลอน , ครีมเปลี่ยนสีผมชั่วคราว
ครีมหมักผมเคราตินคืออะไร
จะมีลักษณะเนื้อครีมเหมือนกับครีมหมักผมทั่วไป มาในรูปแบบของเหลว เจลหรือครีม เพียงแต่มีส่วนผสมสำคัญเพิ่มเข้ามาคือ เคราติน ซึ่งเคราตินมีอาวุธชั้นเลิศในการเสริมสร้างผมให้แข็งแรง ผมที่แห้งเสียเปราะบางจะสุขภาพดีขึ้น สาว ๆ จะได้ผมสวยเงางาม สะบัดต่อหน้าผู้ชาย ก็มีหลงรักกันเป็นแถวแน่
ครีมหมักผมเคราตินมีกี่ประเภท
เคราตินใช้ใส่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผมทั่วไป แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ เคราตินจากธรรมชาติ และ
เคราตินสังเคราะห์
- เคราตินจากธรรมชาติ Natural Kertin
เป็นโปรตีนเคราตินที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ มีคุณสมบัติทางชีวภาพใกล้เคียงกับเคราตินในร่างกายของเรา มีความปลอภัยและอ่อนโยนสูง เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่มีสารสกัดน่าสนใจเช่น เคราตินขนไก่ Bio Keratin PF กลุ่มอะมิโนแอซิดพร้อมฟื้นบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก
- เคราตินสังเคราะห์ Synthetic Keratin
สารที่สังเคราะห์ขึ้นมามีโครงสร้างคุณสมบัติใกล้เคียงกับเคราตินธรรมชาติ ช่วยบำรุงเส้นผมได้อย่างดี แถมมีราคาไม่แพง จึงทำให้เป็นที่นิยมค่อนข้างมากในบรรดาผู้ใช้ทั่วไปและในร้านเสริมสวย ซึ่งเคราตินสังเคราะห์จะมีส่วนผสมของสารฟอร์มาลดีไฮด์ หรือ ฟอร์มาลีน ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ระคายเคืองได้หากสะสมในร่างกายมากไป
วิธีใช้ครีมหมักผมเคราติน
สระผมก่อน 2 รอบ ล้างแชมพูออกให้หมดจด จากนั้นเพียงแค่ชโลมครีมหมักผมเคราตินลงบนผมของคุณโดยตรง แล้วค่อย ๆ นวดผม ทิ้งไว้ 15-30 นาที แล้วล้างออกด้วยแชมพูและสระผมได้ตามปกติ
โดยตัวครีมหมักผมจะทำงานผ่านเส้นผมตั้งแต่ต้นโคนจรดปลายเส้นผม โดยจะทำงานอย่างเข้มข้นในการเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม และเพิ่มสุขภาพเส้นผมโดยรวม อีกทั้งเคราตินจะช่วยเพิ่มความเงางามและความนุ่มให้เส้นผมอย่างดี แถมฟื้นฟูเส้นผมที่พันกันมาตลอดให้ยืนแถวตรงได้ดียิ่งขึ้น
วิธีเลือกซื้อครีมหมักผมเคราติน
1.สารสกัดในครีม
ต้องมั่นใจก่อนว่ามีส่วนผสมของเคราตินที่เข้มข้น ด้วยคุณสมบัติของเคราตินเข้มข้นจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของเส้นผม ปกป้องการแตกหักแตกปลาย ให้เส้นผมดูเงางาม ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงสารเคมีเช่น พาราแบน ซิลิโคน ซัลเฟต ที่ทำให้เส้นผมเสียหายและหนังศีรษะระคาย เคือง
2.คุณสมบัติชั้นเลิศ
ต้องเลือกที่คุณสมบัติชั้นเลิศ ที่มีส่วนผสมของโปรตีนไฮโดรไลซ์ และ สารสกัดที่ทดแทนการสูญเสียเคราติน ในการปรับเส้นผมให้สวยงาม ให้เส้นผมที่เรยบเนียนอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ
3.ผลลัพธ์หลังการใช้
หลังการใช้ทุกครั้งจะเห็นผลลัพธ์ของการหมักผม โดยจะเห็นสัมผัสของความนุ่มเด้ง และเรียบเนียนของเส้นผม ดังนั้นควรใช้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งเสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังการใช้ที่คุณต้องแฮปปี้สุด ๆ
4.โครงสร้างเส้นผม
ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมก็ต้องให้ผลลัพธ์ของเส้นผมที่สวยงามโดยเฉพาะ ดังนั้นควรเลือกครีมหมักผมที่เหมาะกับโครงสร้างเส้นผมของคุณ เช่นถ้าคุณทำสีผมมาก็ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผมทำสีโดยตรง หรือ หากมีหนังศีรษะมัน ก็ให้เลือกสูตรน้ำหรือสูตรธรรมชาติแทน
คำถามที่พบบ่อยของครีมหมักผมเคราติน
ดีไหม
หากผมของคุณกำลังแตกปลาย ชี้ฟู ไม่เงางาม ไม่มีน้ำหนัก เป็นเหตุผลที่จำเป็นมาก ๆ ในการใช้อย่างสม่ำเสมอ เพราะคุณสมบัติของครีมหมักผมเคราติน มีข้อดีล้วน ๆ เช่น ปรับสภาพเส้นผมให้เงางาม ลดปัญหาผมชี้ฟู ผมแตกปลาย ให้กลับมามีสุขภาพผมที่แข็งแรงได้อย่างง่ายดาย
เคราตินมีโอกาสทำร้ายเส้นผมหรือไม่
ด้วยข้อดีของเคราตินมีมากมาย ทั้งคุณสมบัติที่ช่วยปรับสภาพเส้นผมให้สวยงาม ลดปัญหาผมชี้ฟู ผมแตกปลาย ผมไม่มีน้ำหนักให้คงสวยเงางามได้อย่างดี หากคุณไม่ได้เลือกที่มีฟอร์มาลดีไฮด์ เพราะมันเป็นตัวร้ายกาจในการทำลายเส้นผม ดังนั้นเคราตินจึงไม่มีโอกาสทำร้ายเส้นผมได้อย่างแน่นอน
ร่างกายผลิตเคราตินเองได้หรือไม่
ปกติเคราตินธรรมชาติในร่างกายจะอยู่ในรูปของเซลล์หนังกำพร้า หรือคิราติโนไซต์ หรือ เซลล์ต้นกำเนิดของผิวหนัง เส้นผม เล็บ โดยมีกระบวนการสร้างใหม่ในลักษณะผลัดเซลล์เก่าแทนที่เซลล์ใหม่
เพื่อทดแทนที่เซลล์ผิวหนังบริเวณที่มีหลุดร่อนตัวเซลล์ที่ตายแล้ว ซึ่งกระบวนการเกิดขึ้นทุกวัน แต่ถ้าเมื่อไหร่เกิดความผิดปกติจะแสดงสัญญาณเตือนออกมาตามตำแหน่งอวัยวะต่าง ๆ เช่น ผมร่วง ผมแห้ง เล็บเปราะ ฉีกขาดง่าย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายกำลังขาดความชุ่มชื้น
ตัวการร้ายเคราตินในเส้นผมมีอะไรบ้าง
สารอาหารหลักของกระบวนการงอกใหม่ของเส้นผม เล็บ เซลล์ผิวหนัง เป็นสิ่งที่ร่างกายสังเคราะห์ไว้ใช้งานได้เอง โดยแปรสภาพจากอาหารที่บริโภคใจแต่ละวันให้อยู่ในรูปของโมเลกุลขนาดเล็ก เคราตินถือว่าเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้
โดยเฉพาะเคราตินธรรมชาติในเส้นผมที่ถูกทำร้ายจากพฤติกรรมความงามของเรา เช่น ทำสีผม ดัดยืดผม มัดผม ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เคราตินธรรมชาติละลายหายไป เมื่อเคราตินถูกทำลายไปหมด ผลคือเส้นผมจะมีสัมผัสที่หยาบกระด้าง ไม่สามารถแต่งเป็นทรงได้
เมื่อร่างกายขาดเคราตินจะเป็นอย่างไร
โดยตามธรรมชาติเส้นผมคนเราร้อยละ 90 ประกอบไปด้วยเคราติน สารอาหารสำคัญในการหล่อเลี้ยงเกล็ดผมให้ปิดสนิทหนังศีรษะชุ่มชื้นไม่หลุดลอก เส้นผมมีความเรียบลื่น ดูสุขภาพดี ทำให้ไม่ว่าจะบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์อะไรก็ตาม
ทางกลับกันร่างกายขาดแร่ธาตุชนิดนี้จะเป็นสัญญาณเตือนว่า ผมจะบางลง ผมร่วง ผมชี้ฟู ผมขาดเส้น หากผิวหนังขาดเคราตินจะแสดงอาการผิวแห้ง แตก ลอกเป็นขุย เล็บจะเปราะหักง่ายฉีกเป็นชั้น
รีวิวเคราตินสด ใช้แล้วผมตรงสวยจริงมั้ย
สรุป
ครีมหมักผมเคราตินถ้าใช้เป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งกำลังดีเพราะคุณสมบัติที่สำคัญในครีมหมักผมที่จะช่วยดูแลและปรับสภาพเส้นผมให้แข็งแรงได้อยู่เสมอ หากคุณเลือกครีมหมักผมอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำของเราที่ได้กล่าวไปข้างต้น ที่สำคัญคุณต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผมเสียโดยเด็ดขาด เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ผมสวยไว้อวดหนุ่ม ๆ ไปได้ตลอดแล้วหล่ะ
อ้างอิง
ยุ้ย พิมพ์ฉัตร การศึกษาปริญญาตรี บริหารทรัพยากรมนุษย์ มีประสบการณ์และเป็นนักค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เป็นนักทดสอบผลิตภัณฑ์ออกใหม่เพื่อดูแลเส้นผมแบรนด์ดังหลายแบรนด์