ไดร์เป่าผมเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์เสริมความงามที่ถือได้ว่าสาวๆ หนุ่มๆ นั้นย่อมมีติดบ้านไว้กันทุกคน เรียกได้ว่าเป็นไอเท็มประจำที่ช่วยในการเสริมความหล่อความสวยได้เป็นอย่างดี ช่วยเป่าผมให้แห้งได้สนิท ทั้งนี้มีออกมามากมายหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ขนาดวัตต์ก็แตกต่างกัน ในบทความนี้เรามาดูกันว่ามีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง
ไอเท็มอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกันถ้าท่านผู้อ่านสนใจสามารถกดที่ลิ้งค์ได้เลยจ้า ครีมนวดผม , ครีมหมักผมเคราติน , วิตามินบำรุงผม , วิตามินแก้ผมร่วง , ยาสระผมแก้ผมร่วง , ที่หนีบผม
หรือสำหรับหมวดหมู่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่น่าสนใจอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์เช็ดกระจก ,หุ่นยนต์ดูดฝุ่น , android box , ปลั๊กไฟอัจฉริยะ , ถังขยะอัจฉริยะ , เครื่องฟอกอากาศ , เครื่องดูดไรฝุ่น , เครื่องดูดความชื้น , เครื่องซักผ้าฝาหน้า , เครื่องซีลสูญญากาศ , เตารีดไอน้ำแบบยืน , เครื่องทำน้ำอุ่น , พัดลมเล็ก , เครื่องทำลายเอกสาร , ไฟฉุกเฉิน , พัดลมติดผนัง , ตู้เย็น 5 คิว , เครื่องปั่นไฟ , ไมโครเวฟ , แอร์เคลื่อนที่ , เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย , รางปลั๊กไฟ , พัดลมดูดอากาศ , ตู้แช่ไวน์ , จักรยานไฟฟ้าพับได้ , จักรเย็บผ้าไฟฟ้า , พัดลมไอเย็น , พัดลมทาวเวอร์ , เครื่องซักผ้าอบผ้าในตัว , เครื่องรีดผ้าไอน้ำ , แอร์เพดาน , แก้วปั่นพกพา , เครื่องนวดไฟฟ้า , เครื่องปั่นสมูทตี้ , ซาวด์บาร์ ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
ไดร์เป่าผม คืออะไร
คือ อุปกรณ์ทำผมเพื่อใช้สำหรับเป่าผมให้แห้งรวมถึงไว้ใช้ในการจัดแต่งทรงผมเพื่อช่วยให้เส้นผมที่เปียกแห้งได้อย่างรวดเร็วทันใจ มีให้เลือกทั้งขนาดเล็กสามารถพับเก็บ พกพาติดกระเป๋าจนถึงขนาดกลางที่ปรับระดับความแรงลมได้มากขึ้น
และขนาดใหญ่ที่นิยมใช้ในร้านเสริมสวย มีทั้งแบบลมร้อนและลมเย็น ปรับได้ตามต้องการ ยิ่งกำลังการหมุนมอเตอร์แรง ยิ่งช่วยให้ลมที่เป่าออกมาแรงขึ้น ผมจะแห้งไวขึ้น แถมช่วยจัดทรงได้สำหรับผมไม่หยิกฟูจนเกินไป สร้างวอลลุ่มผมได้อย่างสวยงาม
ประโยชน์ของไดร์เป่าผม
ประโยชน์หลักๆ คือ ทำให้ผมแห้งและจัดแต่งทรงผมได้ตามต้องการแต่ก็อาจจะมีข้อเสียถ้าหากใช้ผิดวิธี คือถ้าหากมีการใดร์บ่อยๆ หรือใดร์ด้วยความร้อนที่สูงอาจจะทำให้ผมของเรานั้นแห้งเสียแตกปลาย เพราะการไดร์ผมเป็นการเอาแรงลมเอาความร้อนมาโดนเส้นผมโดยตรง ถ้าหากใครไดร์ผมทุกวันโดยไม่มีการบำรุงผมเลยนั้นถือว่ามีเปอร์เซนสูงที่ผมจะเสีย
วิธีใช้ไดร์เป่าผมที่ถูกต้อง
1.ใช้กับผมชื้น ๆ ไม่ควรใช้ขณะผมเปียก
การไดร์ผมด้วยตัวเอง วิธีที่ถูกต้อง ผมต้องชื้น ๆ เพื่อให้ได้ความเรียบลื่น และใช้แปรงกลม ๆ ช่วยเป่าไดร์ขณะที่ผมแห้ง ก็จะทำให้ผมเสียน้อยลง
2.ให้เริ่มที่โคนผมก่อน
การไดร์ผมที่โคนผมจะช่วยให้ผมดูหนาขึ้น และช่วยให้รูปทรงของผมเข้ากับสไตล์ผมได้ทุกแบบที่ต้องการ เมื่อไดร์โคนผมแล้วจะสามารถจัดทรงผมส่วนที่เหลือง่ายขึ้น แต่ถ้าไดร์ส่วนอื่นแล้วกลับมาไดร์โคนผม ทรงผมอาจจัดทรงยากขึ้น
3.สลับเป่าลมร้อนกับลมเย็น
อีกเทคนิคที่น่าทดลองใช้คือ การใช้ลมร้อนสลับกับลมเย็นในการเป่าผม ด้วยความร้อนจะช่วยให้ผมเป็นเกลียวหรือเรียบได้เร็วขึ้น ส่วนลมเย็นจะช่วยให้เกลียวผมอยู่ตัวและเรียบนานขึ้น
4.ไดร์ไม่ทั่ว ผมจะเสียทรง
การเป่าผมควรเป่าให้แห้งสนิททั้งศีรษะ โดยการเป่าทรงให้เริ่มจากผมด้านในทีละช่อเป่าจนแห้งสนิท แล้วค่อยไดร์ช่อผมที่อยู่ชั้นนอก ซึ่งการไดร์ทีละชั้นจะช่วยให้เส้นผมเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ สามารถอยู่ทรงได้นานกว่าปล่อยให้ผมบางส่วนเปียกชื้น
5.เลือกไดร์ให้เหมาะสม
ให้ใช้ที่กำลังอยู่ระหว่าง 1200 – 2200 กำลังดี แต่ถ้าจะเลือกจริงๆเราแนะนำที่เกิน 1800 วัตต์จะดีกว่าวัตต์ต่ำเพราะทำให้ผมแห้งเร็ว เพื่อไม่ให้ผมเจอกับความร้อนนาน ๆ และควรเลือกไดร์หลายระดับ ๆ และมีปุ่ม Cool ทำให้ปรับเป็นลมเย็นได้ในทันที
แถมรุ่นใหม่ ๆ ยังเพิ่มเครื่องพ่นไปออนประจุลบในการรักษาสุขภาพผม ด้วยประจุลบที่ปล่อยไปเคลือบเส้นผมขณะเป่าและช่วยเก็บความชุ่มชื้นเข้าสู่แกนผมทำให้ผมเสียน้อยลง
วิธีการเลือกซื้อไดร์เป่าผม
- แบบ Ionic – เป็นเทคโนโลยี Ionic ที่ช่วยปรับสภาพเส้นผมด้วยการปล่อยประจุไอออนลบ ช่วยลดไฟฟ้าสถิต ทำให้เส้นผมเรียบตรง ไม่ชี้ฟู เงางามขึ้น
- แบบ Ceramic – ด้วยเทคโนโลยีเปลี่ยนความร้อนเป็นคลื่นอินฟาเรด ให้ผมแห้งไวขึ้น ไม่ทำร้ายเส้นผม ช่วยล็อคความชุ่มชื้นเอาไว้บนเส้นผม หนังศีรษะ ทำให้ผมไม่ชี้ฟู ช่วยลดวอลลุ่มสำหรับผมดัดลอน
เลือกที่ปรับอุณหภูมิได้และมีเสียงเบา
เส้นผมที่โดนความร้อนบ่อย ๆ จะแห้งกรอบและชี้ฟูได้ แต่ถ้าไม่ใช้ความร้อนให้ผมแห้งก็อาจทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะได้ ดังนั้นจึงควรเลือกไดร์ที่ปรับอุณหภูมิได้ และมีความร้อนให้เลือกหลายระดับ เช่น วันไหนสบาย ๆ ก็อาจเป่าผมโดยใช้ความร้อนน้อย ๆ ค่อย ๆ เป่าให้ผมแห้ง จะได้ไม่ต้องสัมผัสกับลมร้อนหนักเกินไป
- เลือกไดร์ที่มีฟังก์ชันลมเย็น
- ฟังก์ชั่นการใช้งาน – ควรเลือกที่มีฟังก์ชันลมเย็นติดมาด้วย เวลาเป่าผมจากลมร้อนเสร็จให้สลับมาเป่าต่อด้วยลมเย็น เพื่อให้เส้นผมได้คลายความร้อนออกบ้าง
- เลือกกำลังไฟของไดร์ – โปรดดูข้อมูลจากคำถามที่พบบ่อย
- พิจารณาจากเสียงเวลาใช้งาน
เลือกจากน้ำหนักของไดร์
ควรเลือกที่มีน้ำหนักพอเหมาะ จะได้ใช้งานได้สะดวก ถือนานแค่ไหนก็ยังไหวอยู่
เลือกจากอุปกรณ์เสริม
บางรุ่นแถมหัวเปลี่ยนมาเป็นเซ็ตหลายอัน เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย ส่วนใหญ่หัวที่แถมมามีสองรูปแบบ
- แบบปากแคบ — หัวเป่าแบบปากแคบ สำหรับเป่าให้แห้งเฉพาะจุด หรือ ไดร์จัดทรงให้ผมเรียบตรง
- แบบกระจายลม – หัวเป่ากระจายลม ช่วยทำให้ผมมีวอลลุ่มและคงสภาพลอนผม เหมาะสำหรับคนผมหนา ผมดัดลอน
คำถามที่พบบ่อยของไดร์เป่าผม
ไดร์เป่าผมใช้กี่วัตต์ถึงจะดี ควรใช้กี่วัตต์
- ให้ใช้กำลังไฟอยู่ที่ประมาณ 1200 วัตต์ก็จะเพียงพอที่จะทำให้ผมแห้งแล้ว แต่อยู่ที่ความสะดวกของแต่ละคน บางคนชอบให้ผมแห้งเร็วก็ต้องใช้ไดร์กำลังไฟสูงขึ้น แต่ระดับกำลังไฟที่พอเหมาะมีดังนี้
- กำลังวัตต์
- กำลังไฟ 1200 วัตต์ – สำหรับผมเส้นเล็ก และผมบาง
- กำลังไฟ 1300-1800 วัตต์ สำหรับสภาพเส้นผมคนทั่วไป
- กำลังไฟสูงกว่า 1800 วัตต์ สำหรับคนผมเส้นใหญ่ ผมหนา ผมหยิก
ของร้านเสริมสวยใช้แบบไหน
ใช้ที่มีกำลังไฟที่ 1500-2000 วัตต์ ความเร็วรอบ 38000 รอบต่อนาที สามารถปรับอุณหภูมิได้ ปรับลมร้อนลมเย็นได้ น้ำหนักพอเหมาะ
เอาขึ้นเครื่องได้ไหม
สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ เพียงแค่โหลดไปพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระใต้ห้องเครื่อง และดูตามข้อกำหนดแต่ละสายการบินด้วย
ผมกินไฟไหม
ปกติจะกินไฟอยู่ที่ 400 -1000 วัตต์ หากมาคำนวณกับค่าไฟเฉลี่ย คิดเป็นค่าไฟชั่วโมงละ 2-4 บาทนั้นเอง แต่ถ้าจะให้ประหยัดกว่านี้ ให้เช็ดผมก่อนเป่าและขยี้ผมระหว่างเป่าเพื่อช่วยให้ผมแห้งไวขึ้น
วิธีการเลือกซื้อไดร์เป่าผม
สรุป
ไดร์เป่าผมเป็นอุปกรณ์ความสวยความงาม เหมาะสำหรับสาวๆ หรือหนุ่มๆที่ต้องการทำผมให้แห้ง และจัดแต่งทรงผมให้สวยงาม ไดร์เป่าใช้ไฟกี่วัตต์ดี ควรที่จะดูที่กำลังไฟสูงไม่มากจนเกินไป ไม่น้อยจนเกินไป ประมาณ 1200 – 2200 วัตต์ หากต้องการที่จะถนอมเส้นผมควรที่จะเลือกซื้อยี่ห้อที่มีคุณภาพ ที่มีฟังก์ชั่นลมเย็นจะช่วยได้เป็นอย่างมาก
ยุ้ย พิมพ์ฉัตร การศึกษาปริญญาตรี บริหารทรัพยากรมนุษย์ มีประสบการณ์และเป็นนักค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เป็นนักทดสอบผลิตภัณฑ์ออกใหม่เพื่อดูแลเส้นผมแบรนด์ดังหลายแบรนด์