กรรไกรตัดผมเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดสำหรับการตัดผมไม่ว่าจะใช้งานกับผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็ถือว่ามีความจำเป็นมากๆในเนื้อหาจะอธิบายให้ทราบว่ามีกี่แบบ แต่ละแบบมีลักษณะและวิธีการใช้งานอย่างไร รวมถึงวิธีการเลือกซื้อให้ได้มาตรฐานตรงตามความต้องการ รวมไปถึงวิธีการตัดผมด้วยตนเองง่ายๆ ที่บ้าน และข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้อีกมากมาย
อาหารเสริมสำหรับการบำรุงผม เช่น วิตามินบำรุงผม , วิตามินแก้ผมร่วง ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
กรรไกรตัดผมคืออะไร
คือ กรรไกรที่ใช้ตัดผมที่ช่างตัดผมเลือกใช้มีคุณภาพสูงในการตกแต่งทรงผม จะตัดหรือซอยผมทำได้หมด ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์หลักและมีความสำคัญมากที่สุด และจัดเป็นเครื่องมืออเนกประสงค์ในการออกแบบตัดผมและตกแต่งทรงผม
กรรไกรตัดผม VS กรรไกรธรรมดา
กรรไกรธรรมดานั้นเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับตัดเช่นกัน แต่ใช้สำหรับตัดวัสดุต่างๆ อย่างเช่น ผ้า , กระดาษ , หลอด , ริบบิ้น หรือวัสดุของใช้อื่นๆ ตามความเหมาะสม ที่ต้องใช้แรงกดเล็กน้อย เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่ากรรไกรทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
กรรไกรตัดผมมีกี่แบบ
โดยทั่วไปแล้วจะมี 3 แบบหลักๆ ดังนี้
1. แบบธรรมดา (Cutting Scissors)
ดูมีความคลาสสิกซึ่งเป็นกรรไกรสำหรับตัดผมที่ช่างนิยมใช้กันมากที่สุด เหมาะกับการใช้ตัดผมที่ไม่ได้หนามาก สามารถใช้ตัดผมได้ทั่วไป เช่น การเล็มผม และตัดผมส่วนเกินออก เป็นต้น
2. แบบฟันปลา (Texturizing Scissors)
เป็นกรรไกรประเภทที่มีลักษณะเป็นซี่ๆ คล้ายกับฟันปลาช่างตัดผมส่วนใหญ่นิยมนำมาใช้งานในการซอยผมมากกว่าตัดตรง และผมที่ซอยจากตอนแรกที่มีความหนาก็จะดูบางลง
3. แบบหมุนได้ (Swivel Scissors)
มีความสามารถในการลดแรงกดหรือการเกร็งของกล้ามเนื้อมือในขณะใช้งานได้ดี บริเวณช่วงด้ามจับจะมีช่องสอดนิ้วโป้งที่ผู้ใช้หมุนได้แบบไร้ข้อจำกัด ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวก และเคลื่อนไหวได้ตามความต้องการของผู้ใช้
ขนาดของกรรไกรตัดผม
- ขนาด 4 นิ้ว จะตัดได้ช้า แต่มีความเสี่ยงต่อการเกิดข้อผิดพลาดต่ำ จึงเหมาะกับงานประเภทซาลอนที่ต้องการความละเอียดมากเป็นพิเศษ เช่น การเล็มผม การตัดแต่งผม เป็นต้น
- ขนาด 5 นิ้ว ถือเป็นขนาดมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปในงานซาลอน หรือการตัดแต่งทรงผมผู้หญิง เพราะถือเป็นขนาดที่ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดในระดับหนึ่ง
- ขนาด 6 นิ้ว เป็นขนาดที่เหมาะสำหรับการตัดแต่งทรงผมในงานบาร์เบอร์ เพราะขนาดดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับที่กำลังดี ไม่สั้นจนเกินไป ถือว่าเป็นขนาดที่สามารถตัดผมผู้ชายได้อย่างถนัดมือ
- ขนาด 7 นิ้ว จะช่วยให้ตัดผมได้เร็ว แต่ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดก็จะแก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะเป็นกรรไกรที่ใช้สำหรับตัดครั้งเดียวแล้วผมขาดทันที ซึ่งเหมาะกับงานที่ค่อนข้างเร่งรีบและใช้แรงในการตัด เช่น การตัดผมยาวที่มีลักษณะตรงในระดับหนึ่งให้สั้นลง เป็นต้น
- ขนาด 8 นิ้ว โดยเฉลี่ยแล้วถือเป็นขนาดที่ยาวที่สุดที่นิยมใช้สำหรับการตัดผม แต่จะเหมาะกับงานที่ต้องการความเร่งรีบ และไม่เน้นความละเอียดมากนัก เช่น การซอยผม การตัดผมที่ยาวมากๆ เป็นต้น
วิธีเลือกซื้อกรรไกรตัดผม
1. เลือกขนาดให้เหมาะสมกับการใช้งาน
มีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีคุณสมบัติและวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรเลือกประเภทที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง และเมื่อนำมาใช้แล้วมีความถนัด หากต้องการกรรไกรที่สามารถตัดผมได้อย่างรวดเร็ว ควรเลือกที่มีขนาดยาว และสำหรับการตัดผมที่เน้นความละเอียด และไม่เร่งรีบ ควรเลือกที่มีขนาดสั้น
2. เลือกตามประเภทของกรรไกร
หลายท่านอาจจะมีความเข้าใจว่ากรรไกรสำหรับใช้ตัดผมนั้นมีอยู่แค่ประเภทเดียว แต่ความเป็นจริงมีทั้งหมดอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน ก็คือ กรรไกรแบบธรรมดา , กรรไกรแบบฟันปลา และกรรไกรประเภทหมุนได้ ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีการใช้งานและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรเลือกประเภทให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด
3. เลือกตามรูปทรงแบบขวามือหรือซ้ายมือ
รูปทรงและส่วนประกอบมีความสำคัญมาก กรรไกรที่ดีควรมีความสมมาตรในแต่ละส่วน โดยเฉพาะด้ามจับและที่พักนิ้ว ควรเลือกให้เหมาะสมกับความถนัดของมือ ซึ่งออกแบบมารองรับทั้งคนที่ถนัดมือซ้ายและถนัดมือขวา ควรเลือกให้เหมาะกับความถนัด ไม่ควรเลือกแบบตรงข้าม เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
4. เลือกจากวัสดุที่ใช้
กรรไกรที่ดีต้องใช้วัสดุเหล็กอย่างสเตนเลสหรือโลหะที่มีความทนทานและคุณภาพสูง ซึ่งช่างตัดผมมืออาชีพส่วนใหญ่มักจะใช้กัน เนื่องจากสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดโอกาสที่จะต้องนำไปซ่อมแซมหรือลับให้คม เพราะถ้าหากกรรไกรไม่มีความคมมากพอก็จะใช้งานได้ยากหรือใช้ไม่ได้เลย ซึ่งกรรไกรที่ผลิตจากสเตนเลสจะช่วยลดการเกิดสนิมและปัญหาอื่นๆ ได้
5. เลือกจากใบมีดของกรรไกร
ใบมีดของกรรไกรสำหรับตัดผมนั้นจะต้องมีความคม ไม่เป็นสนิทง่าย สามารถใช้ตัดผมได้สะดวก ลื่นไหล ไม่นุ่มและกระแทกจนเกินไป จะช่วยให้ตัดผมได้อย่างไม่ติดขัด และทำมาจากสเตนเลส ซึ่งกรรไกรที่มีความคมของใบมีดสูงจะมีราคาที่ค่อนข้างพอสมควร
การรักษาคมกรรไกรตัดผม
- ไม่ควรนำไปใช้ตัดวัสดุอย่างอื่น เนื่องจากเป็นกรรไกรประเภทที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับผมเท่านั้น หากนำไปใช้ตัดสิ่งอื่นๆ ที่นอกเหนือจากผม เช่นกระดาษ , ริบบิ้น หรือผ้าก็จะส่งผลให้คมกรรไกรลดลง
- หลังจากใช้เสร็จแล้ว ควรนำผ้าแห้งนิ่มๆ มาเช็ดทำความสะอาดให้เศษผม และฝุ่นต่างๆ ที่อาจติดเกาะอยู่ออกให้หมด ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดแรงเสียดทานจากโลหะ ทำให้ความคมยังคงอยู่ และช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานมากขึ้นด้วย
- หยอดน้ำมันหล่อลื่นลงบนใบมีดของกรรไกรทุกวัน เริ่มต้นจากการง้างขากรรไกรออก แล้วหยอดน้ำมันหล่อลื่นลงไป จากนั้นทำการขยับเปิดปิดไปมา วิธีนี้จะช่วยรักษาใบมีด และทำให้ความคมของกรรไกรคงอยู่ได้นานขึ้น
- เก็บรักษาให้มิดชิด ควรมีกล่องหรือวัสดุที่สามารถเก็บได้อย่างดี เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ และควรลับคมมีดเป็นประจำ เพื่อให้ใบมีดพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ไม่ติดขัด
- ช่างตัดผมหลาย ๆ คนจะทราบดีว่า เมื่อทำกรรไกรตกลงพื้นแล้วจะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ดังนั้นห้ามทำกรรไกรตก เพราะหากทำตกแล้วกรรไกรจะบิ่น และเสียรูปทรง จนส่งผลให้ความคมลดน้อยลงไปด้วย
ควรลับคมบ่อยแค่ไหน
ควรทำการลับคมใบมีดอย่างน้อยปีละครั้ง หรือในทุกๆ 3-6 เดือน ก็จะช่วยให้ความคมของกรรไกรยังคงอยู่
กรรไกรตัดผมที่ช่างนิยมใช้มากที่สุด
สรุป
กรรไกรตัดผมเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากแค่ไหนซึ่งจัดว่าเป็นอุปกรณ์หลักในการตัดผมที่ช่วยในเรื่องเทคนิคการทำผมและตัดแต่งทรงผมเกือบ 100% เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นการเลือกที่มีคุณภาพดีและเหมาะกับการใช้งาน จึงเป็นเรื่องที่ช่างตัดผม ช่างเสริมสวย หรือแม้กระทั่งผู้ที่ต้องการจะตัดผมด้วยตัวเอง ควรให้ความสำคัญ เพราะการจะตัดแต่งทรงผมออกมาให้ได้ตามความต้องการนั้นก็ต้องอุปกรณ์นี้เป็นหลัก
ยุ้ย พิมพ์ฉัตร การศึกษาปริญญาตรี บริหารทรัพยากรมนุษย์ มีประสบการณ์และเป็นนักค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เป็นนักทดสอบผลิตภัณฑ์ออกใหม่เพื่อดูแลเส้นผมแบรนด์ดังหลายแบรนด์