ใช้ดี 10 เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดี 2024 ช่วยลดความชื้น ราคาถูก

เครื่องดูดความชื้น

สารบัญ

เครื่องดูดความชื้นที่ใช้ในบ้านอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม ห้องปิดที่ไม่มีอากาศถ่ายเท ไม่ค่อยได้รับแสง จะช่วยทำให้อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก ลดการเกิดเชื้อราในสินค้าได้ รวมถึงป้องกันการเกิดสนิมกับเครื่องจักร และป้องกันเชื้อโรคได้อย่างดี

เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มาแรง ยิ่งในหน้าฝนแบบนี้ หรือยิ่งช่วงมีความชื้นภายในบ้านของเรา ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดเชื้อราตามเพดาน บนเฟอร์นิเจอร์ ผนังบ้าน และของใช้ต่าง ๆ แถมทำให้เสื้อผ้าของเราไม่แห้งด้วย

สำหรับหมวดหมู่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่น่าสนใจอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์เช็ดกระจก ,หุ่นยนต์ดูดฝุ่น , android box , ปลั๊กไฟอัจฉริยะ , ถังขยะอัจฉริยะ , เครื่องฟอกอากาศ , เครื่องดูดไรฝุ่น , เครื่องซักผ้าฝาหน้า , เครื่องซีลสูญญากาศ , เตารีดไอน้ำแบบยืน , เครื่องทำน้ำอุ่น , พัดลมเล็ก , เครื่องทำลายเอกสาร , ไฟฉุกเฉิน , พัดลมติดผนัง , ตู้เย็น 5 คิว , เครื่องปั่นไฟ , ไมโครเวฟ , แอร์เคลื่อนที่ , เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย , รางปลั๊กไฟ , พัดลมดูดอากาศ , ตู้แช่ไวน์ , จักรยานไฟฟ้าพับได้ , จักรเย็บผ้าไฟฟ้า , พัดลมไอเย็น , ไดร์เป่าผม , พัดลมทาวเวอร์ , เครื่องซักผ้าอบผ้าในตัว , เครื่องรีดผ้าไอน้ำ , แอร์เพดาน , แก้วปั่นพกพา , เครื่องนวดไฟฟ้า , เครื่องปั่นสมูทตี้ , ซาวด์บาร์ ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า

เครื่องดูดความชื้นคืออะไร

เครื่องดูดความชื้นคืออะไร

คือ เครื่องลดความชื้นจะมีลักษณะการทำงานที่คล้ายกับเครื่องปรับอากาศ ซึ่งจะช่วยในการลดความชื้น และ ดูดความชื้นจากแผงคอยล์เย็น ทำหน้าที่ให้ความชื้นในอากาศและกลายเป็นหยดน้ำ ปล่อยอากาศร้อนหรืออากาศแห้งเข้ามาแทนที่ ซึ่งความชื้นนั้นจะมาอยู่ในรูปแบบของหยดน้ำและถูกระบายน้ำทิ้

เครื่องดูดความชื้นมีกี่ประเภท

1.แบบไฮบริด

สามารถฟอกอากาศและเพิ่มอุณหภูมิในห้องได้ สามารถใช้ได้กับทุกห้องของคุณ แต่มักจะมีราคาแพง โดยทั่วไปสามารถดูดความชื้นในห้องขนาดกลางได้ดี ไม่ได้มีไว้เพื่อดูดความชื้นทั่วทั้งบ้าน

2.แบบเซมิคอนดักเตอร์

สามารถใช้งานง่าย มีขนาดค่อนข้างเล็ก ปราศจากเสียงรบกวนเวลาเปิดใช้งาน ช่วยให้คุณสะดวกเหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น ห้องนอน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในห้องนอนเด็กเล็กได้ เครื่องใช้งานได้ดีแม้ในพื้นที่แคบ แต่ก็มีข้อด้อยคือ หากคุณวางเครื่องผิดพื้นที่ หรือ วางในห้องที่ใหญ่ ก็จะไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร

3.แบบคอมเพรสเซอร์

จะทำงานในลักษณะเดียวกับตู้เย็นในบ้านคุณ ด้วยกลไกการทำงานคือใช้อากาศร้อนและดูดความชื้นเข้าเครื่องทำให้อากาศเย็นลง มีข้อเสียคือจะมีขนาดใหญ่กว่าแบบประเภทอื่น ๆ มีเสียงการทำงานของคอมเพรสเซอร์และพัดลมดัง คล้ายกับเครื่องปรับอากาศ ความชื้นกลั่นตัว เกิดหยดน้ำ จากนั้นหยดน้ำจะไหลเข้าสู่ถังซึ่งต้องเททิ้ง

หลักการทำงานของเครื่องดูดความชื้น

การทำงานของเครื่องดูดความชื้น

คือ มีลักษณะการทำงานคล้ายกับเครื่องปรับอากาศ ช่วยในการดูดความชื้นจากอากาศผ่านแผงคอยล์เย็น ซึ่งทำหน้าที่ให้ความชื้นในอากาศกลายเป็นหยดน้ำ และปล่อยอากาศร้อน หรือ อากาศแห้งเข้าแทนที่ ซึ่งความชื้นที่อยู่ในรูปแบบของหยดน้ำจะถูกปล่อยทิ้งไปตามท่อน้ำทิ้ง

เมื่อไหร่ถึงต้องใช้เครื่องดูดความชื้น

1.เมื่อห้องมีอากาศชื้นแฉะ

ห้องที่มีอากาศชื้นเกินไปและมีกลิ่นเหม็นอับ แสดงว่ามีระดับความชื้นในอากาศค่อนข้างสูง กรณีนี้ให้เปิดเครื่องเพื่อปรับระดับความชื้นสัมพัทธ์ในห้องให้กลับเป็นปกติ แต่ถ้ามือแตะแล้วผนังยังเปียกชื้น หรือ สังเกตุเห็นมีราขึ้น ให้เปิดเครื่องเป็นประจำ

ข้อสังเกตุเมื่อคุณต้องเปิดเครื่องดูดความชื้น

**คือ เมื่อหน้าต่างมีคราบไอน้ำจับมองเห็นคราบเชื้อรา หรือ เห็นรอยชื้นตามผนัง หรือ บนเพดาน

2.ใช้ในหน้าร้อน

ในหน้าร้อน หรือ ช่วงอากาศร้อนชื้น ส่วนใหญ่จะมีอากาศที่ชื้นแฉะจนทำให้ตัวเหนียวเหนอะหนะ แบบนี้ให้เปิดเครื่องได้เลย จะช่วยปรับระดับความชื้นสัมพัทธ์ในบ้านให้เหมาะสม

**โดยสามารถใช้ควบคู่ไปกับเครื่องปรับอากาศได้ เพราะจะทำให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทำให้อุณหภูมิในห้องเย็นสบาย แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟได้ด้วย

3.ใช้สำหรับการแก้ปัญหาสุขภาพ

สำหรับคนที่เป็นโรคหอบหืด ภูมิแพ้ หรือ เป็นหวัดคัดจมูก จะช่วยได้มาก เพราะจะทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น ไซนัสโล่ง บรรเทาอาการเป็นหวัดคัดจมูกได้ดี

**โดยรักษาระดับความชื้นภายในห้องให้อยู่ในช่วง 40%-60% จะช่วยบรรเทาโรคระบบทางเดินหายใจ เพราะมันจะลดจำนวนของเชื้อในอากาศ

4.ใช้สำหรับอากาศหนาว

เครื่องดูดความชื้นส่วนใหญ่ เช่น แบบใช้คอมเพรสเซอร์ จะทำงานได้ไม่เต็มที่เวลาอุณหภูมิต่ำกว่า 18 องศาเซลเซียส ยิ่งอากาศหนาวเท่าไหร่ น้ำแข็งก็ยิ่งเกาะคอยล์ของเครื่องง่ายขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง

**ตัวอย่างเครื่องแบบใช้สารดูดความชื้น Desiccant Dehumidifier ก็เหมาะจะใช้เวลาอากาศหนาว แนะนำให้ใช้เครื่องที่ทำงานได้ดีเวลาอุณหภูมิต่ำ

5.ตำแหน่งการจัดวางในห้อง

5.1 ตำแหน่งอากาศต้องถ่ายเทสะดวก

ยิ่งอากาศถ่ายเทสะดวก เครื่องยิ่งทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ระยะเว้นที่ให้อากาศถ่ายเทรอบเครื่องทุกด้านประมาณ 15-30 ซม.

5.2 ระวังเรื่องสายระบายน้ำ

การระบายน้ำจากเครื่องผ่านสายยาง ต้องให้ท่อต่อลงอ่างล้างจาน หรืออ่างอาบน้ำ อย่าให้เอียงไปทางอื่น หมั่นเช็คสายไม่เขยื้อน แนะน้ำยังไหลลงอ่างได้ดี และระวังอย่าให้สายระบายน้ำอยู่ใกล้ปลั๊กไฟ ป้องกันไฟดูดหรือลัดวงจร

5.3 อย่าวางบริเวณที่มีฝุ่นเยอะ

ให้ตั้งเครื่องห่างจากจุดที่ฝุ่นฟุ้ง หรือสิ่งสกปรกเยอะ

6.ตั้งเครื่องในห้องที่ชื้นที่สุด

ห้องที่มีความชื้นแฉะเป็นประจำ เช่น ห้องน้ำ ห้องซักล้าง ห้องใต้ดิน

7.ตั้งเครื่องในระบบ HVAC

สำหรับเครื่องขนาดใหญ่ จะเน้นเชื่อมต่อกับระบบ HVAC จะมาพร้อมท่อต่อและชุดอุปกรณ์ติดตั้งอื่น ๆ ที่จำเป็น เราแนะนำให้ปรึกษาและใช้บริการที่ร้านที่คุณซื้อเครื่องมาโดยตรง

8.ตั้ง 1 เครื่องต่อ 1 ห้อง

เครื่องจพทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ควรตั้งไว้ 1 เครื่องต่อ 1 ห้อง และปิดหน้าต่างและประตูไว้ หรือจะติดตั้งกึ่งกลางระหว่างสองห้องก็ได้ แต่การทำงานจะลดประสิทธิภาพลง

9.ควรตั้งกลางห้อง

การเลือกซื้อเครื่องดูดความชื้น

การซื้อเครื่องดูดความชื้น

1.เลือกให้ตรงกับความต้องการ

โดยเลือกขนาดเครื่องโดยพิจารณาจากพื้นที่ห้องเป็นตารางฟุต ว่าจะต้องใช้เครื่องขนาดใด ก็จะขึ้นอยู่กับความกว้างของห้องที่จะติดตั้ง โดยให้เลือกห้องหลักที่จะติดตั้ง จากนั้นวัดพื้นที่ห้องเป็นตารางฟุต และเอาไปอ้างอิงเลือกในขนาดที่เหมาะสม

2.ความจุต้องเหมาะสม

ลำดับต่อมาคือการคำนึงถึงระดับความชื้นภายในห้องนั้น โดยวัดเป็นปริมาณ pints (1 pint ประมาณ 0.5 ลิตร) ของน้ำที่ได้จากบรรยากาศในห้องภายใน 24 ชั่วโมง ผลที่ได้จะเป็นตัวกำหนดว่าห้องนั้นมีความชื้นเท่าไหร่

  • ตัวอย่างห้องขนาด 500 ตารางฟุต หรือ ประมาณ 45 ตรม. มีสภาพอากาศที่อับชื้น อากาศชื้นแฉะ ก็จะต้องใช้เครื่องขนาดประมาณ 40-45 pints หรือประมาณ 19-21 ลิตร
  • เครื่องดูดความชื้นสามารถจุน้ำได้ถึง 44 pints ประมาณ 20 ลิตร ด้วยกันใน 24 ชั่วโมง ในห้องกว้างได้มากถึง 2500 ตารางฟุต หรือ ประมาณ 230 ตรม..

3.เลือกจากคุณสมบัติที่ต้องการ

ในปัจจุบันนี้ จะมีหลากหลายฟังก์ชัน และ Setting ให้เลือกสรร เครื่องยิ่งแพงยิ่งมีหลายตัวเลือกในการใช้งาน แต่ฟีเจอร์หรือฟังก์ชันหลัก ๆ ที่พบบ่อยเช่น

Adjustable Humidistat

เป็นฟีเจอร์สำหรับควบคุมระดับความชื้นในห้อง สามารถตั้ง Humidistat ได้ตามระดับความชื้นสัมพันธ์ที่ต้องการ เมื่อถึงระดับที่ต้องการแล้วเครื่องจะตัดเองโดยอัตโนมัติ

Built-in Hygrometer

เป็นอุปกรณ์ใช้วัดระดับความชื้นในห้อง

Automatic Shut off

ส่วนใหญ่จะตัดอัตโนมัติด้วยตัวเอง เวลาปรับระดับความชื้นในห้องได้ตามต้องการแล้ว หรือ เมื่อถาดใส่น้ำของเครื่องเต็ม

Automatic Defrost

กรณีเครื่องทำงานหนักเกินไป น้ำแข็งจะเกาะที่คอยล์ของเครื่อง จะเป็นอันตรายต่อชิ้นส่วนต่าง ๆ ข้างใน กรณีมีตัวเลือก automatic defrost หรือละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ จะช่วยให้พัดลมในเครื่องทำงานละลายน้ำแข็งเอง

6.มีระบบน้ำทิ้งที่เป็นแบบคู่

กรณีที่ไม่ต้องการน้ำทิ้งด้วยตนเอง อยากแนะนำให้เลือกเครื่องที่มีการทำงานแบบระบบน้ำทิ้งคู่ จะมีทั้งสามารถต่อท่อปลายน้ำทิ้งเอง หรือ แบบเททิ้งปกติ กรณีซื้อเครื่องไม่สามารถต่อท่อหรือถอดออกเททิ้งเองได้ แนะนำเอาให้ตรวจสอบก่อนว่ามีที่จับเพื่อเทน้ำทิ้งได้สะดวกไหม

4.เลือกให้เหมาะกับห้อง

ตำแหน่งวางที่เหมาะสม

นอกจากเครื่องแล้ว ห้องที่จะนำเครื่องมาวางก็สำคัญ เพราะแต่ละรุ่น แต่ละขนาดจะมีความเหมาะสมต่อการใช้งาน กรณีเครื่องเล็กแต่ห้องใหญ่ก็จะทำงานหนักแบบที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ เราแนะนำขนาดห้อง 5-15 ตารางเมตร จะเหมาะกับความจุถุง 0.5-1.5 ลิตรหรือขนาดห้องที่ 20-40 ตารางเมตร ก็จะเหมาะกับความจุถังน้ำ 1.5-3 ลิตร

5.เลือกแบบชาร์จไฟฟ้าได้เพิ่มความสะดวกสบาย

ปัจจุบันมีเครื่องแบบไร้สาย เพียงแค่นำไปวางในพื้นที่ที่ต้องการให้ดูดความชื้นก็สามารถทำงานได้เลย โดยหลักการเครื่องจะมีสารที่ชื่อซิลิกกอนไดออกไซด์ หรือ ซิลิกา ดังนั้นเลือกแบบชาร์จไฟก็จะใช้งานได้สะดวกกว่า

คำถามที่พบบ่อย

เครื่องนี้ช่วยอะไร

ช่วยลดระดับความชื้น ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากเชื้อราในบ้านของคุณ กำจัดกลิ่นเหม็นอับหรือกลิ่นเหม็นเน่า รวมถึงช่วยลดการระคายเคืองต่อผิวและระบบทางเดินหายใจ ช่วยให้คุณหายใจได้ง่ายขึ้นและรู้สึกสบายใจ

และสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นน้อยกว่าในบ้านของคุณ เสื้อผ้าจะแห้งเร็ว ขนมปังและซีเรียสจะยังคงสดใหม่ โดยไม่ทำให้เก่าและคุณจะไม่พบรอยสนิมหรือการกัดกร่อนในสิ่งต่าง ๆ และที่สำคัญเครื่องจะช่วยลดต้านทุนด้นพลังงาน เพราะช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จำเป็นไหม

มีความจำเป็นอย่างมาก จะช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราและแบคทีเรียที่ผนัง และทำให้เชื้อราที่เกาะอยู่ที่ผนังห้องหรือวอลเปเปอร์ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ต่าง ๆ หลุดลอกออกได้ง่าย สามารถควบคุมความชื้นได้ตั้งแต่ 40-70% ลดความชื้นภายในห้องได้ 40 ลิตรต่อวัน

รีวิวเครื่องลดความชื้น LG PuriCare Dehumidifier

ขอบคุณช่องยูทูป ลองให้

สรุป

เครื่องดูดความชื้นมีความสำคัญมาก และมีประโยชน์มากกว่าที่หลายคนคิด หากไม่มีอาจทำให้ส่งผลเสียหลายด้าน หากคุณกำลังมองหาเครื่องสักตัวลองอ่านเนื้อหานี้แล้วตัดสินใจเลือกเครื่องที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

ลาซาด้าส่งฟรี

ยี่ห้อ HAFELE

เฮเฟเล่
-สำหรับห้องขนาด 20 ตารางเมตร
-วัสดุทำมาจากพลาสติก ABS น้ำหนักเบา
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 240 วัตต์
-ขนาด กว้าง 228 มม. x ลึก 150 มม. x สูง 373 มม.

ยี่ห้อ Xiaomi

เสี่ยวมี่
-ขนาด กว้าง 334 มม. x ลึก 220 มม. x สูง 470 มม.
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 240 วัตต์
-สามารถเชื่อมต่อผ่าน App Mi Home
-มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลายแบบ
-เสียงเบา ไม่รบกวน

ยี่ห้อ HANABISHI

ฮานาบิชิ
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 36 วัตต์
-สำหรับห้องขนาด 10 – 20 ตารางเมตร
-ปรับสมดุลอากาศภายในบ้าน ลดแบคทีเรีย
-ขนาด 145 มม. x 178 มม. x 222 มม.
-ความจุน้ำสูงสุด 1 ลิตร

ยี่ห้อ HOMEMATE

โฮมเมท
-แรงดันไฟฟ้า 220 – 240 โวลต์ กำลังไฟ 600 วัตต์
-ขนาด กว้าง 33 ซม. x ลึก 23 ซม. x สูง 50.4 ซม.
-มีล้อและหูจับ สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก
-สำหรับห้องขนาด 30 ตารางเมตร
-ความจุน้ำสูงสุด 4 ลิตร

ยี่ห้อ NEW WIDETECH

นิว ไวด์เทค
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 420 วัตต์
-ฟิลเตอร์สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้
-ล้อสามารถหมุนได้ 360 องศา
-ตั้งเวลาทำงานได้ 12 ชัวโมง
-ความจุน้ำสูงสุด 7 ลิตร

ยี่ห้อ Electrolmax

-รีโหมดคอนโทรลอัจฉริยะ เสียงรบกวนต่ำ ไม่มีน้ำล้นออก
-แรงดันไฟฟ้า 220 – 240 โวลต์ กำลังไฟ 90 วัตต์
-สำหรับห้องขนาด 30 – 90 ตารางเมตร
-มีหน้าจอ LCD แสดงฟังก์ชั่นการทำงาน

ยี่ห้อ HYSURE

-ขนาด กว้าง 146 มม. x 146 มม. x สูง 227 มม.
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 23 วัตต์
-ลดความชื้น ลดแบคทีเรีย เสียงรบกวนต่ำ
-สามารถปรับอุณหภูมิในตัวเองได้อัตโนมัติ

ยี่ห้อ Deerma รุ่น CS50M

เดียร์ม่า รุ่น CS50M
-วัสดุทำมาจากพลาสติก ABS คุณภาพสูง
-ขนาด 7.5 ซม. x 7.5 มม. x 20.6 ซม.
-มีช่องดูดความชื้นรอบเครื่อง 360 องศา
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 20 วัตต์
-ใช้งานได้หลากหลาย เช่น ตู้เสื้อผ้า กล่องเก็บรองเท้า

ยี่ห้อ Biaowang

-ขนาด 245 มม. x 130 มม. x 375 มม.
-สำหรับห้องขนาด 21 – 40 ตารางเมตร
-หน้าจอ LCD แสดงฟังก์ชั่นการทำงาน
-มีระบบฟอกอากาศ Photocatalyst
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 90 วัตต์
-ถังน้ำสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้

ยี่ห้อ Bwell รุ่น BDH-30

บีเวล รุ่น BDH-30
-แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ กำลังไฟ 650 วัตต์
-หน้าจอ Digital มีตัวเลขบอกระดับความชื้น
-ขนาด 280 มม. x 370 มม. x 580 มม.
-สำหรับห้องขนาด 30 – 50 ตารางเมตร
-น้ำหนักของสินค้า 18 กิโลกรัม

Best Choice ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุ้กกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า