เครื่องซักผ้าฝาหน้า คืออะไร
คือ เครื่องที่ใช้ในการซักผ้า ด้วยการใส่ผ้าเข้าทางด้านหน้า หรือมีประตูเปิดปิดด้านหน้าตัวเครื่อง เป็นดีไซน์ใหม่ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น และมีคุณสมบัติที่ดีหลายอย่างสำหรับเครื่องฝาหน้า หรือ Front Load Washing Machine อีกทั้งเทคโนโลยีการผลิตมาใหม่ ที่เพิ่มจากการเป็นเครื่องที่ใช้ในการซักผ้าอย่างเดียว เป็นเครื่องซักอบผ้าในตัว
เราจะเห็นได้ว่าในสังคมคนอเมริกันนั้น มีความนิยมสำหรับรูปแบบเครื่องซักผ้านี้มากถึง 76 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้นที่จะมีความนิยมเพิ่มมากขึ้น และเป็นคำถามว่าสำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน สามารถเทียบเท่าได้หรือไม่ เพราะในส่วนที่นิยมใช้เครื่องซักผ้าฝาบนกันอยู่ ก็อาจจะเป็นเพราะการติดกับรูปแบบการใช้งานที่คุ้นเคย รวมถึงการซ่อมบำรุงที่น้อย ทำให้เป็นสาเหตุที่ยังคงมีผู้ใช้อีกบางส่วน ที่ยังนิยมใช้เครื่องซักผ้าแบบฝาบน หรือ Top Load Washing Machine กัน
ข้อดีของเครื่องซักผ้าฝาหน้า
1.ประหยัดน้ำ
การประหยัดน้ำของเครื่องฝาหน้านี้ สามารถประหยัดน้ำได้มากถึง 1-1.5 เท่าเลยทีเดียว ซึ่งหากเปรียบเทียบกับแบบเครื่องฝาบนนั้น ในส่วนของตัวถังด้านในเครื่องซักผ้า หรือ Drum ในแบบฝาหน้าจะมีตัวถังภายในที่มีความตื้นกว่า แบบฝาบน และนี่ก็เป็นปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้การดูดน้ำเข้าของเครื่องฝาหน้านั้น ใช้น้ำน้อยกว่าแบบฝาบน
2.ถนอมเนื้อผ้า
ลักษณะรูปแบบของตัวถังซักของ เครื่องฝาหน้าที่มีความตื้นนั้น นอกจะมีฟังค์ชั่นการถนอมเนื้อผ้าด้วยแล้ว ระบบการซักของเครื่องฝาหน้าในรูปแบบนี้นั้น มีการซักที่อ่อนโยน ถนอมเนื้อผ้าให้โดยธรรมชาติของรูปแบบเครื่องฝาหน้านี้อยู่แล้ว ไม่เพียงแต่เนื้อผ้า, ใยผ้า รวมถึงสีของเสื้อผ้าที่ยังความสดใหม่ ไม่หมองและไม่ซีดเร็ว
3.ผ้าไม่ยับและไม่พันกัน
ด้วยอย่างที่เกริ่นไปในเรื่องของการประหยัดน้ำมากกว่าเครื่องฝาบนนั้น และตัวถังของเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่มีความตื้นนั้น ทำให้นอกจากผ้าแต่ละชิ้นจะไม่พันกันแล้วนั้น ยังช่วยให้เสื้อผ้าไม่ยับ หรือมีความยับที่น้อยมากหากเทียบกับเครื่องซักผ้ารูปแบบอื่นๆ
4.ระบบซักด่วน
ในกรณีที่เราจำเป็นต้องใส่เสื้อตัวเดิม หรือมีงานเร่งที่จะต้องใช้เสื้อผ้า 1-2 ตัวเร่งด่วนภายในเวลาชั่วโมงที่จะถึง เครื่องรูปแบบนี้มีระบบสั่งงานการซัก ได้ภายใน 5-10 นาทีเพียงเท่านั้นเอง และโดยเฉพาะหากเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้าในแบบอบผ้าได้ในตัว ก็สามารถรีดผ้าได้ในทันทีอีกด้วย
5.ปรับอุณหภูมิน้ำ
หลายคนที่นิยมใช้การซักผ้าในโหมดตั้งอุณหภูมิน้ำ ให้เป็นการซักผ้าด้วยน้ำอุ่น ซึ่งเป็นการฆ่าเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียได้อีกทาง รวมถึงช่วยในการขจัดคราบฝังแน่นให้หลุดออกง่ายยิ่งขึ้น และช่วยลดกลิ่นเหม็นอับให้กับเสื้อผ้าได้
6.ฆ่าเชื้อโรคแบบไอน้ำ
ในช่วงสถานการณ์ที่ยังอยู่ในความระมัดระวัง เรื่องของโรคระบาดกันอยู่ ทำให้เราได้รู้และเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพ และการป้องกันสิ่งสกปกร และเชื้อโรคกันมากขึ้น ทั้งนี้ไม่ได้มีเพียงอาหารเท่านั้นที่เราต้องระวัง แต่เสื้อผ้าที่เราใส่ออกไปข้างนอก และใส่กลับมาซักร่วมด้วย เพราะหากเป็นเครื่องซักผ้า ที่มีประสิทธิภาพไม่ดีพอ หรือไม่มีฟังค์ชั่นการซักผ้าช่วยในเรื่องการฆ่าเชื้อโรคด้วยแล้วอย่าง ฟังค์ชั่นการซักผ้าด้วยไอน้ำ ช่วยให้เรามั่นใจในความสะอาดมากขึ้น
7.ปั่นแห้งได้เร็ว
รูปแบบของตัวถังซักด้านในที่เป็นแนวนอน ดังนั้นในการปั่นทุกครั้งจะมีการปั่นได้ทั่วถึงกับผ้าทุกชิ้น แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับชิ้นผ้า ที่เราต้องไม่ใส่ลงไปในถังซักมากจนเกินไปอีกด้วย เครื่องแบบฝาหน้านี้นอกจากจะช่วยในเรื่องการถนอมเนื้อผ้าแล้ว ยังช่วยให้ผ้าชิ้นนั้นๆ แห้งได้เร็ว หรือมีการปั่นที่หมาดหรือเกือบจะแห้งได้เลยทีเดียว
ซึ่งคุณสมบัติข้อดีนี้ของเครื่องซักผ้าแบบ Front Load Washing Machine หรือ แบบฝาหน้านี้สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน นอกจากการซักผ้าแล้ว เหมือนกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านไม่ว่าจะเป็น เครื่องรีดผ้าไอน้ำ , พัดลมไอเย็น , เครื่องซักผ้าอบผ้าในตัว , เครื่องซักผ้า , ตู้เย็น 5 คิว , ไฟฉุกเฉิน , ไมโครเวฟ , รางปลั๊กไฟ , เครื่องฟอกอากาศ , แอร์เคลื่อนที่ โดยเน้นให้เรามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
8.ระบบป้องกันความปลอดภัย
เราจะเห็นได้ว่าหากเป็นเครื่องซักผ้าฝาหน้านั้น จะมีการเปิดฝาประตูหน้าที่ยากกว่า เครื่องแบบฝาบน ซึ่งในการเปิดฝาด้านหน้าที่ยากกว่านั้น กลับเป็นผลดีหรือเป็นคุณสมบัติที่ดี ในการป้องกันเด็กไม่ได้เปิดเล่นได้ รวมถึงระบบการปิดล็อคฝาด้านหน้า หากผู้ใช้งานปิดไม่แน่น เครื่องซักผ้าก็จะไม่ทำงาน
9.ความทนทานและการเก็บเสียง
ลักษณะตัวถังซักด้านใน ที่เป็นการวางแนวนอน ทำให้ไม่ว่าจะเป็นระบบการซัก หรือการปั่นก็ตาม ที่มีความมั่นคงมากกว่าแบบฝาบน ที่เป็นรูปแบบถังซักแนวตั้ง เราสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ในช่วงที่อยู่ในโหมดคำสั่งปั่นผ้า เครื่องฝาหน้าจะมีการเก็บเสียง และการสั่นสะเทือนของตัวถังที่น้อยกว่าแบบฝาบน ทำให้ตัวเครื่องด้านใน จึงมีการใช้งานที่ยาวนานและทนทานกว่า
10.ตัวเลือกทั้งแบบซักอย่างเดียว และซักอบในตัว
สิ่งที่พิเศษที่สุดในวันนี้ก็คือ การที่เครื่องซักผ้าแบบ Front Load Washing Machine นั้นมีตัวเลือกที่ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องซักผ้าอย่างเดียว แต่มีการพัฒนาการคิดค้น และรูปแบบฟังค์ชั่นเสริม ให้มีการอบผ้าได้ในตัว คือหลังจากที่ปั่นแห้งเรียบร้อยเรา เราตัดปัญหาที่ต้องรอผ้าแห้งอีกต่อไป โดยกดใช้งานโหมดอบผ้า เพียงเท่านั้นเราก็สามารถใส่เสื้อผ้าที่หอม และสะอาดก่อนใคร
ขนาดของเครื่องซักผ้าฝาหน้า
การเลือกเครื่องซักผ้า สิ่งที่เราควรละเอียดก็คือ การวัดพื้นที่ๆ ต้องการวางตัวเครื่องให้มีความพอดี หรือใกล้เคียงกับขนาดเครื่องซักผ้าของจริง หรือรุ่นที่เราต้องการซื้อ โดยเฉพาะกับที่อยู่อาศัยที่เป็นคอนโดด้วยแล้ว พื้นที่แต่ละส่วนจะมีการออกแบบมา ให้มีความพอดีกับการใช้งานโซนนั้นๆ
เครื่องฝาหน้านั้นโดยปกติแล้ว จะมีขนาดของตัวเครื่องที่ใหญ่กว่า เครื่องแบบฝาบนที่มีทรงที่เล็กและแคบกว่า เครื่องซักผ้าแบบ Front Load Washing Machine นั้นจะมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ ความกว้าง 600 มิลลิเมตรx ความลึก 600 มิลลิเมตร ส่วนความสูงจะอยู่ที่ 850 มิลลิเมตร รวมถึงความจุของขนาดเครื่องฝาหน้า ต่อจำนวนชิ้นผ้าที่ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม
ความจุ 5-7 กิโล | จำนวนผ้า 25-30 ชิ้น |
ความจุ 7-9 กิโล | จำนวนผ้า 36-45 ชิ้น |
ความจุ 9-11 กิโล | จำนวนผ้า 46-65 ชิ้น |
ความจุ 11 กิโลหรือมากกว่า | จำวนผ้า 56 ชิ้น |
ความจุ 15 กิโล | ซักผ้านวม 5 ฟุตได้ |
ซึ่งเราจะเห็นว่านอกจากเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้านั้น เป็นรูปแบบที่มีการดีไซน์ออกมาใหม่แล้วนั้น ยังมีตัวเลือกในความจุของการใส่เสื้อผ้าที่หลากหลาย ตามการใช้งานของแต่ละครอบครัว โดยความจุที่นิยมใช้กันคือ แบบความจุ 10 กิโล และ แบบความจุ 15 กิโล ซึ่งนอกจากจะรองรับงานซักผ้าได้หลายชิ้นแล้วนั้น ยังสามารถครอบคลุมการซักผ้านวมได้อีก แต่หากเป็นกรณีผ้านวมขนาด 6 ฟุตนั้น ควรที่จะเลือกความจุขนาดที่มากกว่า 15 กิโลขึ้นไป หาเป็นผ้านวมผืนที่มีความหนา
ตำแหน่งที่เหมาะสมในการวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า
1.ข้างตู้เย็น
การจัดวางตำแหน่งในลักษณะนี้ คือถือว่าทั้งเครื่องซักผ้า และตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบ home appliance ที่มีขนาดที่ใหญ่ รวมถึงหากเรามองในเรื่องของฮวงจุ้ยด้วยแล้ว ไม่ถือว่าเป็นการขัดกันในเรื่องความเชื่อน้ำและไฟ เพราะส่วนของตู้เย็นและเครื่องซักผ้านั้น ก็เป็นเครื่องใช้ที่เกี่ยวกับน้ำทั้งคู่
แต่ที่สำคัญคือการสร้างบิวท์อินมาเฉพาะ ทั้งในส่วนของที่ครอบตัวตู้เย็น และตัวเครื่องซักผ้า ให้มีที่วางเป็นสัดส่วน รวมถึงระหว่างตู้เย็นและเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้านั้น ควรที่จะมีตัวกั้น หรือการออกแบบให้มีส่วนกั้นระหว่างเครื่องใช้ทั้ง 2 ชนิดนี้ ซึ่งถือว่าป้องกันการสะเทือนเมื่อมีการใช้งานเครื่องซักผ้าได้อีกทางหนึ่ง
2.ข้างที่ล้างจาน
ถือว่าเป็นอีกตำแหน่งในการวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า หรือ Front Load Washing Machine ที่มีความนิยมกันมากๆ แบบเดียวกับตำแหน่งที่วางในห้องน้ำโซนแห้ง และควรมีการสร้างเคาน์เตอร์บิวท์อินขึ้นมาครอบตัวเครื่องซักผ้า ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องความสวยงาม ยังเป็นการช่วยป้องกันน้ำจากการล้างจาน ไม่ให้กระเซ็นมาโดนเครื่องซักผ้า อีกทั้งยังถือว่าเป็นแนวความคิดที่ดี ในเรื่องการประหยัดพื้นที่สำหรับผู้ที่อยู่คอนโดอีกด้วย
3.ห้องน้ำโซนแห้ง
ถึงแม้จะเป็นการนำเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ไว้ในห้องน้ำก็ตาม แต่ต้องเน้นว่าเป็นโซนที่แห้ง หรือส่วนของอ่างล้างมือ ที่หลีกเลี่ยงการกระเซ็นของน้ำ ส่วนใหญ่ที่เน้นเรื่องการออกแบบ เพื่อความสวยงาม และเน้นการออกแบบบิวท์อิน ที่ทำเป็นเคาน์เตอร์ครอบเครื่องฝาหน้าไว้
4.ใต้บันไดทางขึ้นลงหรือห้องเก็บของ
ซึ่งข้อดีของการเลือกตำแหน่งนี้ก็คือ ส่วนที่เป็นพื้นที่ใต้บันไดของบางบ้านนั้น จะมีพื้นที่ๆ เหมือนเป็นเศษไม่มากหรือไม่น้อย ในการใช้งานจริงอาจไม่สามารถที่จะวาง หรือติดตั้งอะไรได้
แต่เราสามารถสร้างเป็นส่วนบิวท์อิน อาจจะทำเป็นเหมือนในห้องครัว หรือห้องน้ำ ที่เป็นเคาน์เตอร์ครอบ หรืออีกทางคือทำเป็นพื้นที่เต็ม และเหลือช่องว่างไว้สำหรับวางเครื่องฝาหน้าเข้าไป
5.ห้องหรือชั้นเก็บเสื้อผ้า
สำหรับผู้ที่มีเนื้อที่ในห้องเก็บเสื้อผ้า, ห้องแต่งตัว หรือโซน walk in closet ที่มีพื้นที่เหลือเฟือ เราสามารถนำเอาเครื่องฝาหน้าเข้าไปวางด้านใน ตัวเคาน์เตอร์ที่สร้างครอบไว้ รวมถึงรูปแบบการวางตำแหน่งจุดนี้ หรือในห้องเก็บเสื้อผ้า เริ่มเป็นที่นิยมในส่วนของบ้านเดี่ยว หรือบ้านที่มีแบ่งพื้นที่ในการจัดเก็บเสื้อผ้า ที่เป็นสัดส่วนมากพอ
6.ใต้โต๊ะกินอาหารแบบ built in
รูปแบบการออกแบบในลักษณะนี้ จะคล้ายกับพื้นที่สำหรับคอนโด ที่เน้นในเรื่องการประหยัดพื้นที่ และใช้สอยพื้นที่ให้คุ้มค่า จะเป็นโต๊ะกินอาหารแบบเคาน์เตอร์ และข้างใต้โต๊ะจะทำเป็นที่วางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า
7.ด้านข้างระหว่างทางเดินตัวบ้าน
สำหรับรูปแบบบ้านเดี่ยว หรือบ้านอยู่ที่มีลักษณะภายในตัวบ้านที่ลึก ดังนั้นเราสามารถที่จะออกแบบตำแหน่งที่จะเครื่องซักผ้า หากมีเครื่องฝาหน้า 2 เครื่องหรือมากกว่านั้น สามารถตั้งวางซ้อน หรือเป็นแบบวางแนวราบบนพื้นได้ทั้ง 2 รูปแบบ หรือหากเป็นที่อยู่อาศัยแบบคอนโดที่เป็นห้องชุด ก็สามารถจัดวางในรูปแบบนี้ได้ เพราะในส่วนของทางเดินเข้ามาในห้อง สำหรับบางโครงการนั้นจะออกแบบให้มีทางเข้าที่แคบ และส่วนกลางห้องจะมีพื้นที่กว้าง
8.ช่องเก็บของเฉพาะ
การออกแบบบิวท์อินในลักษณะนี้นั้น จะเป็นในรูปแบบของพื้นที่โซนส่วนหน้า ที่ใช้เป็นที่รับแขก หรือห้องนั่งเล่นก็ได้ เพียงแต่ออกแบบให้เหมือนเป็นตู้เก็บของ ที่สามารถวางข้างกับโต๊ะลิ้นชักเก็บของได้ มีที่เปิดปิดพื้นที่วางเครื่องฝาหน้านี้ ส่วนใหญ่จะเน้นการวางซ้อนเครื่องกันหากมีจำนวนที่มากกว่า 1 เครื่องขึ้นไป ถือว่าเป็นการจัดวางที่นอกจากประหยัดพื้นที่แล้ว คนภายนอกก็ไม่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้ เพราะจะมองดูคล้ายกับตู้เก็บของ
วิธีการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าฝาหน้า
1.ขนาดความจุ
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องที่มีความจุในการใส่เสื้อผ้าซักได้ ในขนาดที่คนนิยมใช้กันคือ 10 โล และ 15 โล หรือน้อยกว่านั้นอย่างเช่น ขนาด 7 โล, 8 โล, 9 โล หรือ 11 โล ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับทั้งสมาชิกทั้งหมดในครอบครัว, ความบ่อยในการซักผ้า และความบ่อยในการเปลี่ยนใส่เสื้อผ้า เพราะการเลือกพิจารณาซื้อได้เหมาะสม กับความต้องการใช้งาน จะช่วยรองรับการซักผ้าให้เราได้อย่างสมบูรณ์ และถือว่าเป็นเครื่องใช้ในบ้านที่ให้ความสะดวกสบายกับเราอย่างแท้จริง
2.สี, รูปแบบและความสวยงาม
รูปแบบของเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ในรุ่นแรกๆ นั้นเราอาจจะเห็นเพียงแค่ ตัวเครื่องที่มีสีขาว และส่วนฝาหน้าที่เป็นฝาใส มองเห็นถังซักด้านใน แต่ในปัจจุบันนี้การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ต้องควบคู่กับความสวยงามของตัวเครื่องซักผ้าไปด้วย เพราะเมื่อเรานำมาวางไว้ในบ้าน หรือคอนโด ก็ถือว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์เครื่องประดับให้กับที่อยู่อาศัยของเราร่วมด้วย
3.ฟังค์ชั่นการใช้งานเสริม
สิ่งที่ผู้ซื้อเน้นพิจารณากันมากขึ้นคือ เรื่องของการเก็บเสียงของเครื่องฝาหน้า เพราะหากเป็นการเปรียบเทียบเครื่องฝาหน้า และเครื่องซักผ้าแบบฝาบนนั้น เครื่องฝาหน้าจะมีการทำงานที่เก็บเสียงได้ดีกว่า, ฟังค์ชั่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีแบบใหม่ ที่สามารถใส่เสื้อผ้าเพิ่มได้ขณะซัก หรือการป้องกันสารก่อให้เกิดภูมิแพ้ และยังมีตัวเลือกอีกหลากหลาย ที่เหมาะกับปัญหาที่คนในยุคนี้เผชิญกันอยู่ โดยเฉพาะเรื่องมลพิษ และอากาศที่มีฝุ่นละอองมากขึ้น
4.ส่วนควบคุมการสั่งงาน
เราสามารถเห็นส่วนที่ใช้ในการสั่งงาน ทั้งรูปแบบหมุน และปุ่มกด ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้จะมีการใช้มาตั้งแต่ช่วงแรกๆ และผู้ใช้ก็ต่างบอกว่ามีการใช้ที่ทนทาน และเสียยาก แต่ในวันนี้การสั่งงานมีเพิ่มมากขึ้น คือเป็นแบบแผงหน้าจอ LCD ที่มีไฟให้เห็น สะดวกในการใช้งานช่วงกลางดึก หรือไฟห้องที่เป็นแบบดาวน์ไลท์ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งาน มองเห็นโหมดคำสั่งได้ง่ายขึ้น
5.ความสะดวกสบายที่มากกว่า
ทางเลือกที่สามารถเปรียบเทียบ ในเรื่องความสะดวกการใช้งาน ซึ่งถ้าเราบอกว่าเครื่องซักผ้าในแบบฝาหน้า เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ที่ให้ความสะดวกสบายแล้ว แต่หากเป็นเครื่องฝาหน้าที่ซักและอบได้ในเครื่องเดียวกัน สามารถให้ความสะดวกสบายกับเราได้มากกว่า รวมถึงหากเป็นแค่เสื้อยืด การอบผ้าจะช่วยให้เสื้อผ้าคลายตัวจากความยับ และไม่จำเป็นต้องรีดเส้อ ทำให้ขั้นตอนซัก, อบ และรีด และสามารถใช้งานเสื้อที่ซักได้ทันที
เครื่องซักผ้าฝาหน้า VS ฝาบน ต่างกันอย่างไร?
สรุป
ทั้งเครื่องซักผ้าฝาบน และเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้านั้น ต่างมีคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่นของตัวเอง และจุดเด่นของเครื่องฝาหน้า นอกจากที่เราจะรู้กันว่า เป็นเครื่องที่เน้นในเรื่องการถนอมเนื้อผ้า, มีความทนทาน และเน้นในเรื่องของการเก็บเสียงเวลาซักแล้วนั้น นอกเหนือจากนั้นด้วยรูปทรงฝาหน้า ที่ไม่เทอะทะ ทำให้เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเป็นห้องคอนโดที่ตกแต่งเสร็จ จะนิยมเลือกเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้านี้เป็นรูปแบบเครื่องซักผ้าให้กับผู้ที่สนใจซื้อห้องชุดกัน
รวมถึงเจ้าของบ้านร่วมด้วย กับรูปแบบฝาหน้าที่เราสามารถจัดวาง หรือจัดที่ทางตำแหน่งในการวางให้เรียบร้อย, เข้ากับการตกแต่งบ้าน และกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ส่วนหนี่งส่วนเดียวกับตัวบ้านได้ อย่างเช่น การวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ที่ห้องน้ำโซนแห้ง หรือการวางไว้โซนครัวใกล้กับซิงค์ล้างจาน แต่มีการสร้างเคาน์เตอร์ครอบ เพื่อให้ดูสวยงาม และเป็นการป้องกันตัวเครื่องให้ปลอดภัยจากการกระเซ็นของน้ำ
ดังนั้นนอกจากเราจะเลือกเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า ที่มีคุณสมบัติทนทาน, เก็บเสียง และช่วยในการดูแลเสื้อผ้าตัวแพงๆ ของเราได้เป็นอย่างดีแล้ว เครื่องใช้ภายในบ้านชิ้นนี้ หรือ home appliance ไม่เพียงแต่มีประโยชน์การใช้งานเท่านั้น แต่ต้องเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน สร้างความสวยงาม และเข้ากันได้กับรูปแบบการตกแต่งภายในตัวบ้านได้อีกด้วย
จบการศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ สาขาเอกประชาสัมพันธ์และวารสารศาสตร์ ปัจจุบันทำงานเป็นนักเขียนคอนเท้นท์ครีเอเตอร์ฟรีแลนซ์ ประสบการณ์มากกว่า 5 ปี ถนัดด้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และผลิตภัณฑ์ด้านอื่นๆ
เครื่องซักผ้าฝาหน้า LG
-Auto Restart เครื่องกลับมาทำงานได้ต่อเนื่องแม้ไฟตก
-ความจุ 7 กิโลกรัม เครื่องทำงานเงียบ นิ่ง ทนทาน
-มีระบบป้องกันเปลี่ยนโปรแกรมซัก (Child Lock)
เครื่องซักผ้าฝาหน้า Hisense
-ความจุ 10 กิโลกรัม สามารถซักผ้าและอบผ้าในเครื่องเดียว
-ผลิตจากวัสดุคุณภาดี หน้าจอแสดงผลดิจิตอล ใช้งานง่าย
เครื่องซักผ้าฝาหน้า SAMSUNG รุ่น WW80T3040WW/ST
-ขนาดสินค้า กว้าง 59.5 ซม. x สูง 46.5 ซม. x ลึก 85 ซม.
-หน้าจอ LED ขนาดใหญ่ใช้งานง่าย ความจุ 8 กิโลกรัม
เครื่องซักผ้าฝาหน้า Haier รุ่น HW80-BP10HBI
-มอเตอร์แบบอินเวอร์เตอร์ ทำงานเงียบ ประหยัดพลังงาน
-ผลิตจากวัสดุที่ป้องกันแบคทีเรียและไวรัสได้ถึง 99.9 %
เครื่องซักผ้าฝาหน้า Electrolux รุ่น EWF9024D3WB
-มีฟังก์ชั่นไอน้ำขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี
-ความจุ 9 กิโลกรัม ดีไซน์ทันสมัย รูปทรงสวยงาม ใช้งานง่าย
เครื่องซักผ้าฝาหน้า TOSHIBA รุ่น TW-BH85S2T
-โปรแกรม ColorAlive ลดปัญหาผ้าสีตกและผ้าเสียทรง
-ขนาดสินค้า กว้าง 595 มม. x สูง 850 มม. x ลึก 490 มม.
เครื่องซักผ้าฝาหน้า CANDY รุ่น HW90-BP10HBI
-ความจุ 9 กิโลกรัม การทำงานเงียบและประหยัดไฟ
-สามารถตั้งเวลาซักล่วงหน้าได้มากถึง 30 ชั่วโมง
เครื่องซักผ้าฝาหน้า Hitachi รุ่น BD-80CVE
-ขนาดสินค้า กว้าง 595 มม. x สูง 850 มม. x ลึก 495 มม.
-มีระบบคลายผ้าหลังปั่นหมาด โปรแกรมทำงาน 16 โปรแกรม
เครื่องซักผ้าฝาหน้า SHARP รุ่น ES-FW1010W
-ขนาดสินค้า กว้าง 59.6 ซม. x สูง 85 ซม. x ลึก 63.5 ซม.
-การใช้งานหน้าจอระบบสัมผัส แป้นหมุนปรับได้ 360 องศา
เครื่องซักผ้าฝาหน้า BEKO รุ่น WCV9649XWST
-ความจุ 9 กิโลกรัม รอบปั่นสูงสุด 1,200 รอบต่อนาที
-ขนาดสินค้า กว้าง 60 ซม. x สูง 84 ซม. x ลึก 54 ซม.