10 หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี 2024 อัจฉริยะ ดูดแรง ราคาไม่แพง

ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของคนสมัยนี้ที่ถือว่ามีประโยชน์มากๆ นอกเหนือไปจาก กลอนประตูดิจิตอล ที่มีประโยชน์และเป็นนวัตกรรมใหม่เช่นเดียวกัน และสามารถใช้ร่วมกับ หุ่นยนต์เช็ดกระจก ได้เป็นอย่างดี

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นคืออะไร

คือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เข้ามาแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นแทนที่ไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่น สามารถทำงานแบบอัตโนมัติมีความเป็นอัจฉริยะได้โดยที่ไม่ต้องคอยเดินตามคุมเลย สามารถปฏิบัติงานได้แม้กระทั้งตอนผู้ใช้ไม่อยู่บ้าน สั่งงานผ่านโทรศัพท์มือถือได้

โดยเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะไม่ใช้การปัดกวาดขยะหรือฝุ่นผงเท่านั้น แต่ยังดูดเอาเศษฝุ่น เศษอาหารอย่าง ขนมปี๊บ , ซีเรียล  , ผงปรุงรส , น้ำตาลทราย ที่คุณแม่ทำอาหารแล้วทำหกบนพื้น นมอัลมอนด์ ที่ลูกกินหกเลอะเทอะ อาหารสุนัข ที่เจ้าตัวแสบกินเลอะเทอะ

รวมถึงบ้านไหนที่เลี้ยงแมวไว้ในบ้านอาจจะมี กระบะทรายแมว ที่สกปรก หรือแม้แต่เศษขยะ แมสเกาหลี ที่ใช้แล้ว เข้าไปเก็บไว้ภายในตัวเครื่องเหมือนเครื่องดูดฝุ่น รอให้นำไปเททิ้งทีเดียวเมื่อทำงานเสร็จ

เทคโนโลยีอัจฉริยะสุดล้ำของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น

เทคโนโลยี LDS (Laser Distance Sensor) ที่คอยตรวจจับสิ่งกีดขวางรอบตัว มีเซ็นเซอร์ถึง 12 ตัวช่วยกันทำหน้าที่วิเคราะห์สภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน ลักษณะของห้องและพื้นที่ต่างระดับ สแกนได้ถึง 1800 รอบต่อวินาที ทำให้การตรวจสอบเส้นทางเดินได้อย่างแม่นยำมาก

และเพื่อการเดินทำความสะอาดที่เป็นแบบแผนมากขึ้น มีการนำอัลกอริธึมชั้นนำของโลกอย่าง SLAM ที่บรรจุให้กับยานพาหนะไร้คนขับของ Google โดยการวัดระยะด้วยเลเซอร์ ช่วยให้ได้ข้อมูลระยะทางที่แม่นยำ 

รวมถึงเทคโนโลยี Gyroscope เซ็นเซอร์วัดระยะทางและข้อมูลรอบทิศทางอื่น ๆ โดยจะถูกนำไปสร้างเป็นแผนที่ห้องเสมือนจริงเพื่อกำหนดตำแหน่งให้

ระบบการทำงานของ Brushless Motor ของ NIDEC ที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไม่ต้องสาธยายถึงคุณภาพมากกว่าประสิทธิภาพแค่ไหน ซึ่งมอเตอร์ตัวนี้มีอัตราการไหลของอากาศ 0.67 m3/min และแรงดันอากาศสูงสุด 1800 Pa ช่วยให้ดูดฝุ่นบนพื้นพรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แบตเตอรี่มีขนาด 5200 mAh ทำให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องถึง 2.5 ชั่วโมงเพียงพอกับการทำความสะอาดห้องสักหนึ่งห้องกันเลย

ลักษณะการทำงานหุ่นยนต์ดูดฝุ่น

จะมีความเป้นอัจฉริยะมากๆโดยเครื่องจะแสกนพื้นที่รอบห้อง โดยแบ่งเป็นโซน ๆ  ซึ่งจะมีการชนผนังหรือสิ่งกีดขวางบ้าง ไม่ต้องแปลกใจ หลังจากจดจำเส้นทางเดินแล้ว หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะออกเดินอีกครั้งพร้อมทำความสะอาด

โดยจะเก็บกวาดฝุ่นอัตโนมัติจนกว่าจะเสร็จสิ้นหรือแบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% เมื่อแบตเตอรี่ต่ำเครื่องจะบันทึกตำแหน่งสุดท้ายที่ทำความสะอาดไว้ แล้วพาตัวเองไปที่ท่านชาร์จ ก่อนจะกลับมาทำงานต่อหลังมีแบตเตอรี่เกิน 80% จุดที่บันทึก

นอกจากนี้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะยังบันทึกเส้นทางทำความสะอาดได้ และยังมีอีกตัวช่วยสำหรับผู้ใช้อย่าง Mi Home Mobile App ที่ให้เราสามารถตรวจสอบเส้นทางการทำความสะอาด และความคืบหน้าได้แบบเรียลไทม์ได้

นอกจากนี้ยังกำหนดเวลาทำความสะอาดได้ว่าจะให้เริ่มทำงานและสิ้นสุดการทำงานเมื่อไรอีกทั้งยังมีโหมด การทำความสะอาดหลายระดับให้เลือกตามความต้องการอีกด้วย เครื่องจะยังสนับสนุนให้การทำงานของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปเพื่อให้ถึงคำว่าสมบูรณ์แบบที่ผู้ใช้ต้องการมากที่สุด

ตัวอย่างคุณสมบัติหลักของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่แนะนำ

• เลเซอร์เผยให้เห็นฝุ่นละอองที่เล็กจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
• แสดงข้อมูลตัวเลขทีพิ่สูจน์ให้เห็นถึงการทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก
• มีระบบการกรอง HEPA Filter ที่ล้ำหน้า
• มีแผ่นกรองอากาศ HEPA (High Efficiency Particulate Air Filter แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง ถักทอจากเส้นใยไฟเบอร์กลาส Fiberglass จนมีช่องว่งาที่เล็กมากทำให้สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กมาก ๆได้อย่างดี
• เทคโนโลยีป้องกันผมพันกันได้
• ปรับระดับแรงดูดอย่างอัจฉริยะชาญฉลาด
• การนับถอยหลังระยะเวลาใช้งาน
• การแจ้งเตือนการดูแลรักษา
• ควบคุมการเปิดปิดด้วยปุ่มเดียว
• หัวดูด Double Fluffy พร้อมดูดจับสิ่งสกปรกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
• ระบบการกรองดักจับอนุภาคขนาดเล็กสูงสุด 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.99%
• ระบบการกรอง 5 ชั้นที่ปิดผนึกแน่นสนิทดักจับฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ได้ละเอียด
• หัวดูดทำความสะอาด Slim Fluffy ในรูปลักษณ์ที่เพรียวแบนราบไปกับพื้น

ลักษณะทางกายภาพของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น

ลักษณะรูปทรงที่เห็น สามารถวัดค่าออกมาได้เป็นตัวเลข เห็นอย่างชัดเจน ตัวเลขต่าง ๆ อาจมีการคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่ถือว่าใกล้เคียงมากที่สุด

1.รูปทรง Shape

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นมีหลากหลายรูปทรง หลัก ๆ คือทรงกลม Round Shaped กับ ทรงเหลี่ยม Squared Shaped บางตัวมีรูปทรงด้านหลังเป็นทรงกลม และด้านหน้าเป็นทรงเหลี่ยม ด้านหลังเป็นทรงกลม  ทรงครึ่งกลมครึ่งเหลี่ยม Half Round-Half Square Shaped ก็มีเช่นกัน

ทั้งนี้การที่ด้านหน้าของตัวเครื่องเป็นทรงเหลี่ยมก็เพื่อความสะดวกต่อการวิ่งดูดฝุ่น และเข้ามุมต่าง ๆ ขณะที่ด้านหลังเป็นทรงกลมก็เพราะจะได้หมุนพลิกตัวไปมา เคลื่อนที่ได้อย่างคล่องตัวนั่นเอง

2.มิติของเครื่อง ยาว x กว้าง x สูง Dimension

ความยาว กว้าง สูงแบ่งเป็นหน่วยมิลลิเมตร ส่วนใหญ่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่เป็นทรงกลม ขนาดความยาว ความกว้างจะเท่ากัน โดยหากต้องการแปลงค่าจากหน่วยมิลลิเมตร เป็นเซ็นติเมตรที่หลายคนคุ้นเคย ก็สามารถแปลงได้ง่าย ๆ โดยการนำค่าตัวเลขจากหน่วยมิลลิเมตรมาหารด้วยสิบจะได้ค่าเซ็นติเมตรทันที

3.น้ำหนักเครื่องสุทธิ Net Weight

น้ำหนักสุทธิของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น (ไม่ใช่น้ำหนักทั้งกล่องผลิตภัณฑ์) ซึ่งทั้งหมดจะเป็นน้ำหนักตัวเครื่องที่รวมแบตเตอรี่แล้ว หน่วยเป็นกิโลกรัม

4.ประเภทของแบตเตอรี่ Battery Type

ชนิดของแบตเตอรี่ที่ไว้ใช้เก็บประจุไฟ เพื่อจ่ายเลี้ยงให้กับเครื่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่นของเราหลัก ๆ แบ่งเป็น 3 ประเภทด้วยกันคือ

4.1 นิเกิลมัลไฮไดรด์ Ni-MH (Nickel-Metal Hydride Battery)

แบตเตอรี่แบบเก่า ราคาถูก ปริมาณความแรงของไฟที่จ่ายออกมาจะขึ้นอยู่กับปริมาณไฟที่เหลือในแบตเตอรี่ เช่น ถ้าเพิ่งชาร์จไฟเสร็จใหม่ ๆ จะแรงแต่พอแบตเตอรี่ใกล้หมด ไฟก็จะอ่อนลงตามลำดับ

4.2 ลิเธียมไอออน Li-Ion (Lithium-Ion Battery)

แบตเตอรี่แบบใหม่ ราคาสูงกว่า Ni-MH มีการจ่ายไฟที่คงที่นิ่งกว่า (แรงอย่างสม่ำเสมอ) ตั้งแต่แบตเตอรี่ที่เพิ่งชาร์จเสร็จใหม่ ๆ ใช้ไปเรื่อย ๆ จนถึงแบตเตอรี่ใกล้หมด ต้องดูแลรักษาอย่างดี และเก็บในสภาพแวดล้อมที่ดี เช่นต้องเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิ ความชื้น ในระดับที่เหมาะสม

4.3 บิเธียมไอออนฟอสเฟต LiFePO4 (Lithium Iron Phosphate Battery)

แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนที่เน้นในเรื่องของการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยกว่า ทนความร้อน และรองรับอุณหภูมิได้สูงกว่า ลดความเสี่ยงต่อการระเบิดขณะใช้งาน มีการจ่ายไฟฟ้าที่แรงกว่า อาจใช้งานได้ยาวนานกว่าแบตเตอรี่ทั้งสองที่ได้กล่าวมา

5.ความจุแบตเตอรี่ Battery Capacity

ขนาดความจุแบตเตอรี่หน่วยเป็นมิลลิแอมป์ mAh ยิ่งมากยิ่งดูดได้นานขึ้น

6.ขนาดกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง Dustbin Capacity

ความจุของกล่องใส่ขยะฝุ่นละออง หน่วยวัดจะใช้เป็นลิตร ถ้ามีปริมาณมากเท่าไหร่ก็จะเก็บฝุ่นได้มากเท่านั้น หากคุณทำความสะอาดกล่องใส่ขยะทุกวันขนาดของกล่องใส่ขยะก็จะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญอะไร

7.ขนาดความจุของถังน้ำ Water Tank Capacity

ถังน้ำ Water Tank เป็นออปชันเสริมของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ประเภทถูพื้นแบบเปียก Wet Mopping ที่ปัจจุบันนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก สามารถบรรจุน้ำเข้ารไปในถัง แล้วจะค่อย ๆ หยดน้ำลงมาทีละนิดผ่านผ้าม็อบถูพื้นไมโครไฟเบอร์ ให้มีความชุ่มชื้นหรือเปียกอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ต้องหมั่นเอาผ้าไปชับน้ำบ่อย ๆ ในขณะที่เครื่องทำงานเพื่อให้ผ้าเปียก

8.ระดับความดังของเสียง Noise Level

ระดับความดังของเสียงขณะที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นกำลังทำงาน หน่วยวัดเป็นเดซิเบล ซึ่งระดับความดังมาตรฐานในแต่ละระดับของแอปพลิเคชัน ได้ระบุไว้คือ

• ระดับเสียง 20 dB คือ เสียงใบไม้เคลื่อนไหวในสายลม
• ระดับเสียง 30 dB คือ เสียงพูดแบบกระซิบกระซาบ
• ระดับเสียง 40 dB คือ เขตชุมชนที่อยู่อาศัยกันอย่างสงบ
• ระดับเสียง 50 dB คือ เสียงคอมเพรสเซอร์นอกอาคาร
• ระดับเสียง 60 dB คือ ระดับเสียงการสนทนากันแบบปกติ
• ระดับเสียง 70 dB คือ เสียงเครื่องดูดฝุ่นทั่วไป
• ระดับเสียง 80 dB คือ เสียงเล่นเปียโน
• ระดับเสียง 90 dB คือ เสียงสุนัขเห่า

9.ความกว้างแปรงกวาดหลัก Main Brush Width

ขนาดความกว้างของแปรงกวาดหลัก ยิ่งกว้างมาก โอกาสจะสัมผัสฝุ่นบนพื้นและดูดมันขึ้นมาจากพื้นก็มีมากขึ้นตามลำดับ

10.ความสามารถผ่านพื้นที่ต่างระดับ Floor Climbing Level

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถวิ่งผ่านพื้นที่ต่างระดับ หรือธรณีประตูได้เยอะ มันสามารถวิ่งข้ามห้อง ผ่านพื้นที่ต่างระดับระหว่างห้องพื้นกระเบื้อง พื้นพรม พรมเช็ดเท้าต่าง ๆ ได้ดี ส่วนใหญ่ที่ทำได้ก็เฉลี่ยประมาณ 1.5 เซ็นติเมตร

ระบบการนำทางอัจฉริยะของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น

1.ระบบอินฟราเรดเซ็นเซอร์ Infrared Sensor

การนำทางแบบดั้งเดิมใช้แบบอินฟราเรดที่ติดตั้งอยู่รอบตัวเครื่องในการยิงสัญญาณออกไปตกกระทบกับวัตถุที่อยู่รอบ ๆ หาพื้นที่ว่างไป หากชนก็จะเด้งกลับ

2.เลเซอร์วัดระยะทาง Laser Distance Sensor

ด้านบนของตัวเครื่อง อาจเป็นด้านหน้าหรือด้านหลังตัวเครื่อง จะมีโดมกลม ๆ ใหญ่ ๆ อยู่ข้างใน เป็นวงกลมหมุน ๆ มีหัวยิงเลเซอร์ ออกมาเพื่อตกกระทบกับวัตถุรอบข้าง

3.กล้องสร้างแผนที่จำลอง Mapping Camera

บนตัวเครื่องจะมีกล้องขนาดเล็กเห็นชัดเจน จะฝังอยู่ใต้กระจกหรือพลาสติกใส เพื่อป้องกันฝุ่น โดยกล้องจะเหมือนกับกล้องบนโทรศัพท์มือถือ เป็นกล้องที่มีความคมชัดในระดับหนึ่งเพื่อนำไปประมวลผลในการวิ่งนำทาง

ระบบการนำทางทั้ง 3 แบบ อาจทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์อื่น ๆ  เช่น หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีการนำทางด้วยเลเซอร์ อาจมีอินฟราเรดเซ็นเตอร์มาเสริมในบางจุด สำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่นำทางอินฟราเรดเซ็นเซอร์ อาจมีเซ็นเซอร์อื่น ๆ เสริมความสามารถด้วย

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นใช้ทำอะไรได้บ้าง

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นใช้ทำความสะอาดในเรื่องจัดการฝุ่นผง ที่เป็นตัวการสำคัญของความสกปรกภายในบ้าน

รวมถึงช่วยลดอาการแพ้ฝุ่นได้ เพราะฝุ่นที่ฟุ้งกระจายและปลิวขึ้นไปในอากาศ ซึ่งหุ่นยนต์จะเป็นตัวช่วยในการดูดฝุ่นเข้าเครื่องและกักเก็บไว้ทันที

วิธีการเลือกซื้อ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น

1.ตรวจพื้นบ้านและสภาพแวดล้อม

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นไม่ได้เหมาะกับทุกสภาพแวดล้อม เพราะปกติการทำงานของหุ่นยนต์จะวิ่งวนไปทั่วทั้งห้อง ซึ่งก่อนเลือกซื้อควรพิจารณาพื้นของบ้านก่อนที่จะต้องมีความราบเรียบพอสมควร ไม่มีขอบกั้นหรือสิ่งกีดขวางระหว่างห้องมากเกินไป หากมีการเล่นระดับสูงต่ำมาก อาจทำให้เซ็นเซอร์หุ่นยนต์ตรวจพบและไม่เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อป้องกันตัวเองเสียหาย หรือการทำงานที่ติดขัดหยุดไปโดยทันที

2.เลือกจากขนาดพื้นที่

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นมีความสามารถในการดูแลและครอบคลุมพื้นที่ต่างกันได้ โดยเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับจำนวนความจุของแบตเตอรี่ ยิ่งความจุเยอะเท่าไหร่ยิ่งสามารถดูแลพื้นที่ได้กว้างขึ้น เช่นต่ำกว่า 100 ตร.ม.หรือมากกว่า 100 ตร.ม. ซึ่งข้อนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากหลายคนไปให้ความสำคัญกับฟีเจอร์หรือเทคโนดลยีพิเศษจนลืมเรื่องพื้นฐานการทำงาน จนซื้อผิดต้องมาทำความสะอาดพื้นที่ส่วนเกินอีกอยู่ดี

3.ดูฟีเจอร์การใช้งานที่เหมาะสม

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่รวมเอาเทคโนโลยี และฟีเจอร์ที่เหมาะสมและอำนวยความสะดวกในการกำจัดฝุ่นละอองที่ตกตามพื้นได้อย่างหลากหลาย โดยจะขอแบ่งเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่ควรต้องมีในทุกเครื่องกับฟีเจอร์เสริมที่เลือกดูได้ตามความเหมาะสม

• ฟีเจอร์แบบพื้นฐาน
  • วิ่งทำความสะอาดเองได้โดยไม่มีสาย
  • ตั้งเวลาการทำงานได้
  • วิ่งกลับแท่นชาร์จได้เอง
  • สามารถสั่งงานผ่านรีโมทคอนโทรล
  • มีสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อขยะเต็ม

• ฟีเจอร์เสริม
  • การทำความสะอาดได้หลากหลายพื้นที่
  • สามารถสั่งงานผ่านทาง Wifi
  • เซ็นเซอร์ป้องกันการตกจากบันไดหรือที่สูง
  • สามารถส่งข้อมูลการทำความสะอาดแบบ Real Time หรือข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ได้เช่น แบตเตอรี่คงเหลือไปยัง Smart Phone
  • สามารถถูพื้นได้
  • สร้างกำแพง Virtual ขึ้นมาเพื่อไม่ให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเข้าไป

4.ระบบนำทางต้องเป๊ะ

เรียกได้ว่าการทำงานจะต้องเป๊ะสำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทุกรุ่นเลย ก็คือระบบนำทางนั่นเอง เพราะถ้าไม่มีตรงส่วนนี้การทำงานก็จะไม่มีเป้าหมาย ซึ่งหลักการทำงานมีอยู่ 3 แบบคือ

• Mapping Camera

ใช้กล้องขนาดเล็กในการถ่ายภาพแต่ละส่วนของห้อง เพื่อใช้ในการกำหนดทิศทาง

• Laser Distance Sensor

ตัวเครื่องจะมีแท่นยื่นออกมาเป็นตัวยิงเลเซอร์เพื่อวัดระยะ และกำหนดทิศทาง ซึ่งระบบนี้จะทำให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเดินทางได้อย่างแม่นยำที่สุด

• Infrared Sensor

เมื่อกระทบกับสิ่งกีดขวางจะใช้เซ็นเซอร์แบบอินฟราเรดยิงสัญญาณไปยังพื้นที่ว่างและกำหนดทิศทางใหม่

5.ราคา

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีสเปกสูงก็จะมาพร้อมด้วยเทคโนโลยีและฟีเจอร์สูงที่สูงขึ้น สิ่งนี้เองทำให้ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นตามคุณสมบัติที่เพิ่มมา โดยการเลือกซื้อมาใช้งานจึงอาจไม่ได้ดูที่ประสิทธิภาพที่จัดเต็มที่สุด

แต่ควรโฟกัสไปยังรุ่นที่เหมาะสมกับงบประมาณของผู้ซื้อ โดยกำหนดงบไว้ในใจ จากนั้นหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีราคาใกล้เคียงกัน บวกลบได้ไม่เกิน 1000-2000 บาทของงบที่กำหนดไว้เพื่อลองหารุ่นใหม่ที่ฟังก์ชันที่เพียงพอกับการใช้งานนั่นเอง

รีวิว Mi Robot Vacuum Mop 2C หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ดูด กวาด ถู จบในตัวเดียว

สรุป

สำหรับบ้านไหนที่มีฝุ่นละอองมากมาย แต่ขี้เกียจทำความสะอาดซะเหลือเกิน ให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเป็นพระเอกเข้ามาช่วยในงานนี้แทน ด้วยคุณสมบัติที่เก่งกาจสามารถดูดฝุ่นละออง เศษขยะ เศษอาหารที่ตกตามพื้นได้สะอาดหมดจด ประหยัดเวลา ประหยัดเงิน ไม่ต้องจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดเลย สะดวกและใช้งานง่ายขนาดนี้ต้องมีไว้สักเครื่องแล้วหล่ะคุณแม่บ้านทั้งหลาย

ดูแลบทความโดย กองบรรณาธิการ BESTCHOICE

ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน

• Facebook
• X
• Line