ไฟฉุกเฉินเป็นอุปกรณ์สำรองไฟฟ้าที่โดยทั่วไปมักพบเห็นตามร้านค้าต่างๆ ใช้เวลาไฟดับเจ้าเครื่องตัวนี้จะติดให้แสงสว่างอัตโนมัติทำให้เรามองเห็น โดยมากมักจะสำรองไฟได้เป็นชั่วโมงขึ้นอยู่กับขนาดของแหล่งเก็บไฟฟ้า การเลือกซื้อควรเลือกซื้อที่ใช้ได้ดี ยาวนานหลายชั่วโมง เพราะอุปกรณ์ประเภทนี้มักซื้อครั้งเดียวและใช้ได้ยาวนาน
สำหรับหมวดหมู่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่น่าสนใจอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์เช็ดกระจก ,หุ่นยนต์ดูดฝุ่น , android box , ปลั๊กไฟอัจฉริยะ , ถังขยะอัจฉริยะ , เครื่องฟอกอากาศ , เครื่องดูดไรฝุ่น , เครื่องดูดความชื้น , เครื่องซักผ้าฝาหน้า , เครื่องซีลสูญญากาศ , เตารีดไอน้ำแบบยืน , เครื่องทำน้ำอุ่น , พัดลมเล็ก , เครื่องทำลายเอกสาร , พัดลมติดผนัง , ตู้เย็น 5 คิว , เครื่องปั่นไฟ , ไมโครเวฟ , แอร์เคลื่อนที่ , เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย , รางปลั๊กไฟ , พัดลมดูดอากาศ , ตู้แช่ไวน์ , จักรยานไฟฟ้าพับได้ , จักรเย็บผ้าไฟฟ้า , พัดลมไอเย็น , ไดร์เป่าผม , พัดลมทาวเวอร์ , เครื่องซักผ้าอบผ้าในตัว , เครื่องรีดผ้าไอน้ำ , แอร์เพดาน , แก้วปั่นพกพา , เครื่องนวดไฟฟ้า , เครื่องปั่นสมูทตี้ , ซาวด์บาร์ ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
ไฟฉุกเฉิน คืออะไร
คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการให้ความสว่างในช่วงเวลาที่เกิดไฟดับขึ้นในภายในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย โรงแรม ที่ทำงานโดยการทำงานของเครื่องนี้จะเริ่มตั้งแต่การช่วงเวลาที่เรามีไฟฟ้าใช้ได้อย่างปกติ
ตัวเครื่องจะประกอบไปด้วย วงจรชาร์ท หลอดไฟ และแบตเตอรี่ โดยที่วงจรชาร์ทจะมีการประจุเก็บกระแสไฟฟ้าเข้าที่แบตเตอรี่ให้เต็ม และตัวสวิตซ์อัตโนมัติจะทำการตัดวงจรหลอดไฟภายในตัวเครื่อง เพื่อไม่ให้ทำงานในช่วงที่มีไฟฟ้าใช้งานได้อย่างปกติ
จนถึงในช่วงเวลาที่เกิดไฟดับ วงจรชาร์ทจะหยุดการทำงาน และเปิดการทำงานของสวิตซ์อัตโนมัติ เพื่อให้ตัวแบตเตอรี่ปล่อยกระแสไฟเข้าหลอดไฟภายในตัวไฟฉุกเฉิน และการทำงานก็จะวนกลับมาคือ เมื่อไฟฟ้ากลับมาใช้ได้เหมือนเดิมตัวสวิตซ์อัตโนมัติจะตัดการส่งไฟเข้าหลอดไฟภายในตัวเครื่อง และเปิดการทำงานของวงจรชาร์ท เพื่อทำการชาร์ทแบตเตอรี่ในตัวเครื่องสำรองไฟนี้อีกครั้ง
วิธีใช้ไฟฉุกเฉิน
หาทำเลเหมาะๆที่เราต้องการ เมื่อได้แล้วจึงวางเจ้าเครื่องนี้ในตำแหน่องที่ไฟสามารถสอดส่องได้ทั่วเวลาไฟดับ จากนั้นให้ทำการแขวน และเสียบปลั๊กไว้ตลอดเวลา ข้อควรระวังคือ หากในกรณีที่มีการดับของไฟฟ้าเป็นเวลานาน
1.เมื่อทำการเสียบตัวชาร์ทแบตเตอรี่เข้ากับขั้วต่อ และเสียบปลั๊กของตัวเครื่องเรียบร้อยแล้วนั้น จะมีสัญญาณไฟ ac ขึ้นเป็นการแสดงให้เรารู้ว่า ไฟเข้าตัวเครื่องแล้ว
2.หลอดไฟ ac สว่างแสดงว่ามีการเปิดใช้งานในส่วนของ การชาร์ทประจุเข้าตัวแบตเตอรี่ อีกทางหนึ่งเราสามารถที่จะจำลักษณะของสีไฟได้คือ หากขึ้นสีแดงที่ ac นั่นหมายถึงเครื่องกำลังชาร์ทประจุเข้าตัวแบตเตอรี่อยู่ และหากชาร์ทเต็มแล้วจะขึ้นไฟ ac เป็นสีเขียวแทน
3.หากในกรณีที่มีการชาร์ทจนแบตเตอรี่เต็มแล้วนั้น ตัวเครื่องจะมีการตัดการชาร์ทเข้าตัวแบบอัตโนมัติ ทั้งนี้เพื่อเป็นการถนอมตัวแบตเตอรี่ของเครื่องไปด้วยในตัว
4.หากเกิดปัญหาไฟดับในช่วงเวลานั้นๆ ตัวหลอดไฟ ac จะดับ และสวิตซ์ในการเปิดทำงาน ที่จะส่งต่อกระแสไฟจากแบตเตอรี่ไปยัง หลอดไฟในเครื่องไฟฉุกเฉินนั้นจะเป็นไปอย่างอัตโนมัติ รวมถึงในกรณีหากไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้ปกติแล้ว ตัวสวิตซ์ก็จะปิดการทำงานทันที หลอดไฟจะดับ และมีการเปิดการชาร์ทประจุเข้าที่ตัวแบตเตอรี่เหมือนเดิม ในขั้นตอนการทำงานนี้เครื่องจะทำหน้าที่ด้วยตัวเอง เป็นไปได้เราไม่จำเป็นที่จะไปกดปิดสวิตซ์การทำงานของหลอดไฟใดๆ
5.สิ่งที่เราควรระวังเป็นอย่างยิ่งคือ หากในกรณีที่มีการดับของไฟฟ้าเป็นเวลานาน และนานเกินขีดจำกัดของเครื่องสำรองไฟฟ้า ที่จะรองรับการเปิดใช้งานได้ ซึ่งในแต่ละเครื่องก็จะมีขอบเขต และความสามารถในการรองรับที่แตกต่างกันไป เมื่อใช้แบตเตอรี่จนหมดแล้วนั้น เครื่องจะดับและมีการชาร์ทแบตเตอรี่อัตโนมัติ
ที่สำคัญคือในช่วงเวลาที่หลอดไฟดับนั้น เราไม่ควรที่จะช่วยเครื่องในการกดปิดสวิตซ์ตัวหลอดไฟ เพราะนอกจากจะทำให้ระบบการทำงานของตัวเครื่องรวนแล้ว ยังเป็นการทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลงอีกด้วย
วิธีปิด
โดยปกติแล้วจะไม่แนะนำให้มีการปิดสวิตซ์อัตโนมัติเอง ในกรณีที่เป็นการประหยัดอย่างเช่น ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ไม่ค่อยมีเหตุการณ์ไฟดับเกิดขึ้น เลยต้องการให้เครื่องพักการใช้งาน ไม่ต้องมีการชาร์ทประจุไฟฟ้าเข้าตัวแบตเตอรี่ เพราะตรงนี้อาจะทำให้ทั้งการทำงานของตัวเครื่องสำรองไฟขัดข้อง และแบตเตอรี่เสียอีกด้วย
แต่ในกรณีที่หากเกิดกรณีไฟดับ และเครื่องมีการตัดวงจรการชาร์ทเข้าตัวแบตเตอรี่เรียบร้อยแล้ว ตัวสวิตซ์มีการเปิดอัตโนมัติ เพื่อจ่ายกระแสไฟจากแบตเตอรี่ไปยังหลอดไฟ และเราต้องการปิดตัวหลอดไฟภายใน เพื่อเป็นการประหยัด อาจเนื่องด้วยพื้นที่ตรงนั้น ไม่มีคนอยู่ หรือไม่มีการใช้งาน เราสามารถกดสวิตซ์ปิด หรือ off ได้ และสามารถกลับมากดเปิดได้หากต้องการใช้งานพื้นที่นั้นๆ และไฟฟ้ายังไม่สามารถกลับมาใช้ได้อยู่
วิธีการตรวจเช็คสภาพการใช้งานของไฟฉุกเฉิน
1.ควรมีการตรวจสอบอยู่เสมอ อย่างน้อยๆ 3-6 เดือนต่อครั้ง ในการตรวจเช็คการทำงานของตัวหลอดไฟ ว่ามีสามารถเปิดใช้งานได้หรือไม่ โดยการกดปุ่มตรวจสอบ หรือปุ่ม Test
2.หากเป็นไฟฉุกเฉินที่เป็นแบบการเติมน้ำกลั่น ควรที่จะมีการตรวจสอบระดับของน้ำกลั่น ในช่วงเวลาอย่างน้อยๆ 30 วัน อย่าให้น้ำกลั่นแห้ง ซึ่งเหมือนกับแบตเตอรี่ที่ใช้สำหรับรถยนต์นั่นเอง
3.ในกรณีที่เป็นเครื่องจ่ายไฟสำรองในแบบที่เป็นระบบน้ำกลั่นนั้น ข้อควรระวังเป็นอย่างยิ่งคือ การติดตั้งที่ไม่ควรอยู่ในมุมอับของสถานที่นั้นๆ เพราะอาจส่งผลเสียต่อผู้ที่อยู่อาศัย
เนื่องด้วยในขณะที่มีการชาร์ทประจุไฟฟ้าเข้าไปในตัวของแบตเตอรี่นั้น จะมีการปล่อยไอตะกั่วที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ดังนั้นหากมีการติดตั้งเครื่องที่อยู่ในมุมอับ อากาศไม่ระบายจะทำให้อากาศในพื้นที่นั้นเป็นพิษ และเป็นอันตรายต่อผู้ที่สูดหายใจเข้าไปได้อีกด้วย
วิธีเลือกซื้อไฟฉุกเฉิน
1.เลือกตามจำนวนชั่วโมงที่รองรับในการเปิด
ส่วนใหญ่ในการรองรับเวลาไฟดับในบ้านนั้น จะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง แต่ในคุณสมบัติของตัวเครื่องไฟสำรองนี้นั้น จะมีการรองรับเผื่อไว้ขั้นต่ำอยู่ที่ 1-3 ชั่วโมง และอีกระดับที่รองรับได้มากกว่านั้นคือ 6-10 ชั่วโมง ซึ่งก็อยู่ในระดับของราคาตัวเครื่องที่สูงมากขึ้นด้วยเช่นกัน
2.วัสดุของตัวเครื่องไฟสำรอง
- อลูมิเนียม
ลักษณะเด่นคือเนื้อของวัสดุ มัน วาว สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย แต่อาจจะมีอายุของตัวเครื่องภายนอกที่ไม่นาน
- เหล็ก
ข้อดีก็คือ ความแข็งแรง ทนทาน ตัวเครื่องภายนอกสามารถอยู่ใช้งานได้นาน
- โพลีคาร์บอเนต หรือกลุ่มพลาสติกแบบ PVC
เน้นในเรื่องของน้ำหนักที่เบา ติดตั้งง่าย รวมถึงให้คุณสมบัติในเรื่องของ ความแข็งแรง ทนทาน และมีความสวยงามในพื้นผิวภายนอก ที่เรียบ ลื่น เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
3.ค่าของแสงสว่าง
การให้ความสว่างของหลอดไฟที่ติดมากับตัวเครื่องนั้น ส่วนใหญ่จะมีค่ามาตรฐานที่ 400 ลูเมน ที่สามารถให้แสงสว่างได้ในพื้นที่บ้าน หรือในบริเวณที่ไม่ได้กว้างมาก แต่หากเป็นในกรณีของโรงงาน หรือคลังสินค้าที่มีเนื้อที่กว้าง ควรเลือกใช้ค่าความสว่างอยู่ที่ 1200 ลูเมนที่ถือว่าเป็นค่าที่ให้ความสว่างในระดับที่สูง
คำถามที่พบบ่อยสำหรับไฟฉุกเฉิน
ไม่ยอมติด
ถ้าตัวเครื่องสำรองไฟไม่ทำงาน หรือแม้กระทั่งหลอดไฟสว่างเปิดทำงานได้ไม่ถึงชั่วโมงก็ดับลง เราอาจจะลองดูสิ่งเหล่านี้ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่เรามองข้ามกันไป
1.ในช่วงเสียบชาร์ทประจุได้เข้าตัวแบตเตอรี่หรือไม่ สามารถดูได้จากสัญญาณไฟ ac ขึ้นสว่างเป็นสีแดงหรือไม่
2.ตรวจสอบที่ฟิวส์ของหลอดไฟว่า มีการใช้งานได้ปกติ หรือหมดอายุ อย่างเช่นฟิวส์ขาด เป็นต้น
3.ตัวเครื่องได้ใช้ปลั๊กตรงกับกำลังไฟที่ระบุไว้กับเครื่องรุ่นนั้นๆ หรือไม่
4.ผู้ใช้เผลอปิดสวิตซ์ตัวหลอดไฟค้างจากครั้งก่อน ในกรณีที่มีการใช้แบตเตอรี่จนหมด และมีการดับของหลอดไฟ
5.ตัวไฟฉุกเฉินได้มีการชาร์ทประจุเข้าเต็มแบตเตอรี่หรือไม่ อย่างเช่น ในกรณีบางพื้นที่มีการไฟดับซ้ำซ้อน หรือเกิดไฟดับติดๆ กันภายในชั่วโมง เครื่องที่มีการใช้แบตเตอรี่จนหมดแล้ว และยังไม่สามารถที่จะชาร์ทแบตเตอรี่ได้เต็มที่ เพียงพอกับการใช้งานครั้งต่อไป
ไฟฉุกเฉินเปิดอยู่ได้กี่ชั่วโมง
มีตั้งแต่ในระดับเริ่มต้นอย่าง 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง หรือในระดับที่มากกว่านั้นคือ 6-10 ชั่วโมง
แนะนำ ไฟฉุกเฉิน 9Wx2 ระบบ MCU LeKise Emergency light
สรุป
ไฟฉุกเฉินเป็นสิ่งที่ควรมีไว้ติดร้าน หรือมีติดบ้านไว้จะดี เพราะอุปกรณ์เหล่านี้สามารถช่วยให้เรามองเห็นได้ในเวลาที่ไฟดับ ไม่จำเป็นต้องใช้เทียนจุดให้แสงสว่างอีกต่อไป โดยจะมีหลากหลายความจุ และวัสดุให้เลือกใช้
จบการศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ สาขาเอกประชาสัมพันธ์และวารสารศาสตร์ ปัจจุบันทำงานเป็นนักเขียนคอนเท้นท์ครีเอเตอร์ฟรีแลนซ์ ประสบการณ์มากกว่า 5 ปี ถนัดด้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และผลิตภัณฑ์ด้านอื่นๆ