เจลว่านหางจระเข้ผลิตมาจากเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้ในแบบธรรมชาติที่ถือว่าเป็นพืชสมุนไพรมหัศจรรย์ เพราะสามารถรักษาผิวหนังที่เกิดบาดแผลได้อย่างมากมาย โดยเฉพาะผิวหนังที่โดนความร้อนทำลาย หรือแม้กระทั่งผิวที่เป็นสิว และรอยดำแดงต่างๆ รวมถึงการช่วยฟื้นฟูผิวให้เต่งตึงและกระชับมากขึ้นกว่าเดิม
เพิ่มเติม
เนื้อวุ้นของว่านหางจระเข้ ยังช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื่น, ลดรอยสิว, ลดรอยดำแดง และช่วยฟื้นฟูผิวให้ดีขึ้น ที่มีการดูแลบำรุงและรักษาผิวเหมือนผลิตภัณฑ์สกินแคร์ต่างๆ เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์เสริมความงามหมวดหมู่สกินแคร์อื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติม ได้แก่ กระดาษซับมัน , วิตามินซีทาหน้า , คลีนซิ่งออย , ครีมกันแดดหน้า , ครีมกันแดดผู้ชาย , ครีมกันแดดผู้หญิง , เซรั่มหน้าใส , น้ำแร่ฉีดหน้า , โคลนพอกหน้า
เจลว่านหางจระเข้ คืออะไร
คือ เจลที่ผลิตมาจากเนื้อวุ้นด้านในของว่านหางจระเข้ธรรมชาติ มีเนื้อที่บางเบาและใสเนื้อสัมผัสเมื่อทาลงบนผิวแล้ว ให้ความเย็นสบาย และซึมเข้าสู่ผิวหนังได้เร็ว มีคุณสมบัติในเรื่องของการสมานแผลที่โดนความร้อน อย่างเช่น แผลน้ำร้อนลวก, แผลไฟไหม้, แผลที่เกิดจากการโดนความร้อนจากเตารีด, แผลมีดบาด, แผลผ่าตัด, รักษาสิว, ลดรอยดำแดงหลังจากสิวหาย และช่วยในการบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื่น และฉ่ำน้ำ อีกทั้งยังช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
สรรพคุณของเจลว่านหางจระเข้
รักษาสิว
ด้วยตัวของเนื้อวุ้นด้านในของว่านหางจระเข้ มีสารธรรมชาติที่เรียกว่า อะลอคติน-เอ อยู่และจะออกฤทธิ์ในการต่อต้่านเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว รวมถึงการสมานแผลที่เกิดจากการถูกความร้อน ไม่ว่าจะเป็นผิวโดนแดดเผาไหม้, ผิวโดนน้ำร้อนลวก, ผิวโดนไฟไหม้, ผิวที่เกิดรอยไหม้หรืออักเสบจากการฉายรังสี, แผลที่เกิดจากการผ่าตัด
ลดรอยดำ รอยแดง
ด้วยสารตัวเดียวกันคือ อะลอคติน-เอ ที่มีสรรพคุณทั้งในเรื่องการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เพื่อช่วยรักษาสิวให้หายแล้วนั้น ยังช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหลังจากที่สิวหาย รวมถึงการลดรอยสิวและลดรอยดำแดงไปพร้อมๆ กัน
ลดรอยสิว
หลังจากที่สิวหาย เนื้อเจลก็ยังคงช่วยดูแลและสมานตำแหน่งหรือจุดที่เป็นสิว ให้แห้งและลดเลือนรอยให้จางลงได้
ผิวหน้าชุ่มชื่น
ด้วยความที่เนื้อเจลมีคุณสมบัติที่เป็นเจลใส และมีความฉ่ำโดยที่เราสามารถสัมผัสได้ครั้งแรกที่ทา ซึ่งทำให้ผิวมีความเย็นสบายหลังจากการทา รวมถึงการเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวโดยตรง ดังนั้นจึงช่วยได้กับผิวหนัง หรือผิวหน้าที่โดนความร้อนมาทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นการออกไปเจอแดดหรือผู้ที่ทำอาหารตลอดทั้งวัน กับความร้อนจากการทำอาหาร ควรที่จะมีการทาเป็นประจำ เพื่อช่วยเติมน้ำเข้าสู่ชั้นผิวหนัง เพื่อเป็นการฟื้นฟูผิวและบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื่นร่วมด้วย
วิธีเลือกซื้อเจลว่านหางจระเข้
เนื้อสัมผัสเจล
เนื้อเจลที่ดีนั้น ควรที่จะมีลักษณะเนื้อเจลใส และบางเบา ไม่มีความข้นหรือหนืดมากจนเกินไป อีกทั้งเมื่อนำมาทาบนผิวแล้วนั้น ควรที่จะซึบเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่ทิ้งความเหนียวข้นไว้ด้านบนผิว แต่จะเป็นเหมือนฟิล์มเคลือบบางๆ ชั้นบนผิวหนังแทน ซึ่งเป็นเสมือนตัวป้องกันการทำลายผิวจากแสงแดด และมลพิษทางอากาศต่างๆ
สารสังเคราะห์และส่วนผสมอื่นๆ
ไม่ควรมีการแต่งเติมกลิ่นให้หอมมากจนเกินไป ส่วนสำคัญที่สุดคือ ส่วนประกอบอื่นๆ ที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอล์, ซิลิโคนที่ช่วยให้ผิวดูเนียนลื่น หรือพาราเบนที่ไม่ควรใส่เกิน 0.25%
หากมีปริมาณที่มากเกินที่กำหนดนี้นั้น อาจจะทำให้มีผลกระทบต่อผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย, ผิวง่ายต่อการเป็นสิว หลังจากที่ใช้
เปอร์เซ็นต์ของว่านหาง
จะเน้นสัดส่วนหรือเปอร์เซ็นต์ของเนื้อว่านหางจระเข้อยู่ที่ 92% 95% เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสำหรับสัดส่วนที่ไม่เต็ม 100% นั้นจะมีการผสมส่วนประกอบอื่นๆ ร่วมด้วยไม่ว่าจะเป็นน้ำ, สารเติมแต่งต่างๆ หรือส่วนประกอบอื่น อย่างเช่น เมือกหอยทาก เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผู้พิจารณาซื้อจะต้องใส่ใจ และอ่านในรายละเอียดข้างผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดี
รูปแบบบรรจุภัณฑ์
อย่างเช่น หลอดบีบแบบใส หรือขวดหัวปั๊ม ที่ส่วนใหญ่แล้วบรรจุภัณฑ์จะเน้นความใส เพื่อให้ผู้พิจารณาเลือกซื้อนั้น สามารถสังเกตเห็นเนื้อเจลด้านในได้ง่าย และยังเป็นการทำให้คล้ายกับเนื้อวุ้นของว่านหางจระเข้ ที่มีความใสและบางเบา
วิธีใช้เจลว่านหางจระเข้
1.ใช้ทาทิ้งไว้
เพื่อเป็นการฟื้นฟูผิวจากการโดนแดด, เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว หรือการบำรุงผิวก็ตาม สามารถทาทิ้งไว้ และรวมถึงการแต่งหน้าร่วมด้วย ที่เราสามารถทาเจลแล้วรอให้แห้ง ตามด้วยการลงเครื่องสำอางต่างๆ ตามได้ทันที ซึ่งมีผลในการดูแลรักษาและบำรุงผิวในเวลา 24 ชั่วโมง
คุณสมบัติของสารโพลียูโนไนด์ และอะลอคติน-เอ จะช่วยทั้งในเรื่องของการสมานแผลที่เกิดจากการไหม้เกรียมของผิว และการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยในเรื่องการฟื้นฟูผิวให้มีความเต่งตึง ด้วยสูตรเข้มข้นและอ่อนโยน เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากธรรมชาติ ที่ปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่าย หรือผิวที่เป็นสิวง่ายก็ตาม
การทาทิ้งไว้เป็นประจำและต่อเนื่องในเวลาก่อนนอนนั้น จะช่วยในเรื่องการลดรอยสิว และรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
2.ใช้แล้วล้างออก
หากเป็นในกรณีที่ทาแล้วล้างออก สามารถใช้ในรูปแบบของการลดความเหนื่อยล้าให้กับผิวหน้า ซึ่งโดยเนื้อเจลนั้นจะให้ความเย็น และบางเบาในตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นในการทาแล้วรอเพียงแค่ 15-20 นาทีเพียง เมื่อเจลแห้งเราสามารถที่จะไปล้างน้ำออกได้ ถือว่าเป็นการสปาผิวหน้าในแบบง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน ที่สามารถทำทุกวันได้ ไม่มีอันตรายใดๆ ต่อผิวหน้า แต่เป็นการช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื่นและเย็นสบาย
3.ใช้ร่วมกับวัสดุอื่นๆ
หากเรามีแผลที่เกิดจากมีดบาด และรวมถึงแผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก ที่เป็นแผลลึก เราสามารถทาเจลที่มาจากว่านหางจระเข้นี้ แล้วปิดทับด้วบผ้าก๊อซ เพื่อเป็นการกักเก็บตัวเนื้อเจลและเก็บความเย็นจากเนื้อเจล ในการสมานแผลและช่วยให้แผลได้แห้งเร็วขึ้น และควรมีการเปลี่ยนผ้าก๊อซเรื่อยๆ เพื่อให้ทั้งตัวผ้าก๊อซดูดซับแผลให้แห้งเร็ว
ปัญหาดวงตาอ่อนล้า หรือตาบวมช้ำเนื่องจากการทำงานหนัก, อดนอน หรือมีอาการภูมิแพ้ที่ทำให้ขอบตาล่างบวม การนำสำลีชุบเนื้อเจลให้ชุ่มทั้งแผ่น ควรเน้นเป็นสำลีแบบแผ่นบางปิดทับเปลือกตาและหลับตาจนเนื้อเจลแห้ง หรือเป็นเวลาเพียง 15-20 นาทีเท่านั้น ก็จะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับเปลือกตาด้านนอกได้
คำถามที่พบบ่อยของเจลว่านหางจระเข้
ควรทาตอนไหน
สามารถทาได้ทั้งก่อนนอนและเช้าออกจากบ้าน โดยควรที่จะทาก่อนที่จะลงเครื่องสำอางทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นเบสรองพื้น หรือครีมบีบี ซึ่งตัวเจลจะช่วยเคลือบให้ผิวหน้าปลอดภัย จากความร้อนของแสงแดด และช่วยให้ทารองพื้นและลงแป้งได้ติดหน้ากว่าเดิม
ส่วนถ้าเป็นผู้ชายมีวิธีใช้งานง่ายๆ เลยคือ ทาหลังล้างหน้าให้สะอาด และเช็ดให้แห้งสนิท ควรทาป้ายเป็นจุดๆ ตามตำแหน่งบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นจุดทีโซน, แก้ม, ร่องปาก และคอ
10 วิธีใช้ เจลว่านห่างจระเข้
สรุป
เจลว่านหางจระเข้มีประโยชน์มากมาย มีให้เลือกซื้อหลายแบบตามเปอร์เซนต์ความเข้มข้น ที่คนที่ผิวแพ้ง่ายและคนที่เป็นสิวง่ายใช้ได้ อีกทั้งยังช่วยในการควบคุมความมันอีกด้วย
นามปากกา เถาองุ่น การศึกษาจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นนักรีวิวผลิตภัณฑ์ด้านการบำรุงผิวโดยเฉพาะ ทั้งผิวกาย ผิวหน้า ความงาม และเป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายมาแล้วหลายยี่ห้อ