10 วิตามินซีทาหน้า ยี่ห้อไหนดี 2024 ซึมเร็ว หน้าสว่างใส มีออร่า

วิตามินซีช่วยอะไร ประโยชน์

1. ช่วยบำรุงผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น

ในวิตามินซีนั้นอุดมไปด้วยกรด AHA และ BHA ซึ่งมีส่วนช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสและช่วยลดความหมองคล้ำบนใบหน้าให้ดูจางลง พร้อมกันนี้วิตามินซียังช่วยปรับสีผิวให้ขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติขึ้นด้วย

2. ช่วยเพิ่มกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน

เนื่องจากใน วิตามินซี มีกรดแอสครอ์บิค ซึ่งเป็นกรดที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวหนังได้เป็นอย่างดี เมื่อผิวหนังได้รับวิตามินซีเป็นประจำทุกวันจะช่วยเติมคอลลาเจนให้กับผิวหน้า ส่งผลให้ผิวหน้าดูเต่งตึงขึ้น และยังลดปัญหาเรื่องริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้เป็นอย่างดี

3. ช่วยฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียน

นอกจากวิตามินซีจะช่วยเพิ่มความกระจ่างใสและกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังของเราแล้ว ที่สำคัญการทาเซรั่มที่มีวิตามินซีอย่างสม่ำเสมอ ยังช่วยฟื้นบำรุงผิวหน้าและกระชับรูขุมขนได้อย่างล้ำลึกอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่มีปัญหาผิวหน้ามัน เป็นสิวง่าย จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และช่วยลดการผลิตน้ำมันของต่อมไขมัน ทำให้ผิวหน้ามีรูขุมขนที่กระชับขึ้น และทำให้ผิวหน้ามีความเรียบเนียนมากขึ้น

4. เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องผิวหน้ามันและมีปัญหาสิวร่วมด้วย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีวิตามินซีก็เป็นอีกสิ่งที่มีความจำเป็นมาก เนื่องจากวิตามินซีจะช่วยควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ดี ทั้งยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าของเราดูฉ่ำเด้งเป็นธรรมชาติขึ้นด้วย

5. ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย

เนื่องจากวิตามินจะไปช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าก่อนวัยอันควรได้ โดยเฉพาะใครที่มีปัญหาผิวหน้าแห้งง่าย ยิ่งต้องเลือกใช้วิตามินซีทาหน้า เพราะยิ่งหน้ามีความแห้งมากเท่าไหร่ การสร้างคอลลาเจนก็ทำงานได้แย่ลงไปเช่นกัน

ปัญหาผิวหน้ามีอะไรบ้าง

1. หน้าหมองคล้ำ

ปัญหาหน้าหมองคล้ำมักเกิดขึ้นได้จากการโดนแดดหรือรังสี UV เป็นประจำ โดยปราศจากการทาครีมกันแดด หรืออาจเกิดจากการทำงานหน้าจอคอมหรือโทรศัพท์เป็นเวลานานๆ ทำให้ผิวหน้าเกิดจุดสีน้ำตาลและผิวหน้ามีความหมองคล้ำ นอกจากนี้การนอนดึก นอนไม่เป็นเวลา ดื่มน้ำน้อย ความเครียด และการอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นเป็นเวลานานๆ ก็มีผลทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำขึ้นได้ด้วยเช่นกัน

2. รอยดำ รอยแดงจากสิว

ปัญหาใหญ่ๆ ที่วัยรุ่นเป็นกันเลยนั่นก็คือ รอยดำและรอยแดงจากสิว โดยปัญหาเหล่านี้มักเกิดขึ้นจากการเป็นสิวอักเสบและสิวอุดตัน ซึ่งถ้าหากไม่ได้ทำการรักษาอย่างถูกวิธี และมีพฤติกรรมชอบแคะ แกะ และบีบสิวร่วมด้วยแล้ว แน่นอนว่าปัญหาที่ตามมาคงหนีไม่พ้นเรื่องรอยดำและรอยแดงจากสิวแน่นอน

3. สีผิวไม่สม่ำเสมอ

การที่เรามีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ อาจเป็นเหตุมาจากการที่ผิวหน้าโดนแสงแดดเป็นเวลานานๆ ส่งผลให้ผิวมีการสร้างเมลานินเพิ่มขึ้นในปริมาณมาก ซึ่งหากผิวบริเวณนั้นมีการสร้างเมลานินมากกว่าปกติอาจทำให้มีสีผิวที่เข้มกว่าส่วนอื่นๆ ได้ การเลือกใช้วิตามินซีทาหน้า ถือเป็นไอเทมที่ตอบโจทย์ดีที่สุด

4. สิวอักเสบ สิวอุดตัน

ปัญหาเรื่องสิวอักเสบและสิวอุดตัน เกิดขึ้นจากเชื้อแบคทีเรีย C.acnes เข้าไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้ชั้นผิวหนังเกิดการอุดตันและทำให้เกิดสิวขึ้นมา ซึ่งส่วนมากแล้วการเกิดสิวอักเสบและสิวอุดตันมักมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตเป็นส่วนใหญ่ เช่น เครื่องสำอาง ฝุ่นละออง ผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดสิว การใช้มือสัมผัสหน้า หรือแม้แต่การทานอาหารจำพวกไขมัน แป้ง และน้ำตาลเป็นประจำทุกวัน ก็ล้วนเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสิวได้ทั้งสิ้น

5. รูขุมขนกว้าง

รูขุมขนกว้างมักเกิดขึ้นจากการผลิตน้ำมันบนผิวหน้าที่มากเกินไป หรืออาจเกิดจากการที่ผิวขาดความชุ่มชื้น ทำให้ผิวไม่อิ่มฟูและรูขุมขนไม่กระชับได้ ยิ่งถ้ามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น ผิวหน้าของคนเราก็จะขาดคอลลาเจนและอิลาสติน เมื่อผิวหน้าโดนแสงแดดเป็นประจำทุกวันก็มีส่วนทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นได้เช่นกัน

6. แห้งและหยาบกร้าน

หากผิวหน้ามีความหยาบกร้านและลอกเป็นขุย อาจเกิดขึ้นได้จากการที่ผิวหน้าเกิดการสูญเสียน้ำ ส่งผลให้ผิวหน้าหยาบกร้านและแห้งเป็นขุยได้ นอกจากนี้การอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวเย็น การเผชิญแสงแดดเป็นประจำทุกวัน การสูบบุหรี่ การล้างหน้าบ่อยจนเกินไป ตลอดจนการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ไม่สมดุลกับผิวหน้า ก็ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าหยาบกร้านได้

สาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ

• แสงแดดและมลภาวะ ถือว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหน้าเกิดความหมองคล้ำได้ง่าย เมื่อใบหน้าโดนแสงแดดที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน จนทำให้เซลล์ผิวหน้าถูกทำลาย ทั้งยังจะส่งผลทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่ายด้วย
• ภาวะความเครียด การเกิดภาวะความเครียดนอกจากจะทำให้ฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ผิดปกติแล้ว ยังส่งผลต่อกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานินของเซลล์ผิวทำให้มากขึ้น ส่งผลให้ผิวหน้ามีความหมองคล้ำได้
• การขาดน้ำ เนื่องจากเมื่อร่างกายขาดน้ำหรือดื่มน้ำน้อยจนเกินไป ทำให้เซลล์บริเวณผิวหน้าขาดน้ำตามไปด้วย ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและดูไม่เปล่งปลั่ง หากปล่อยไว้นานจะทำให้เกิดริ้วรอยตามมา
• การนอนดึกหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะส่งผลทำให้ระบบการทำงานภายในร่างกายทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังจะส่งผลต่อกระบวนการฟื้นฟูผิวหน้าอีกด้วย
• ไม่ทาครีมบำรุงผิวหน้า การบำรุงผิวหน้าให้มีความเปล่งปลั่ง ลดความหมองคล้ำนั้น จำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อวิตามินซีทาหน้า เพื่อมาบำรุงและช่วยปกป้องแสงแดด ทั้งช่วยลดความหย่อนคล้อยได้ด้วย

วิตามินซีทาหน้า คืออะไร

แดดเมืองไทยมันแทบจะเทียบเท่าดวงอาทิตย์กันแล้ว เพราะว่าร้อนแทบไหม้เลยทีเดียว หน้าเราผิวเราโดนแผดเผาง่ายมาก ฝ้า กระ พร้อมจะมาเยือนทันที เพราะฉะนั้นแล้วเราจะต้องหาตัวช่วยดีๆ มาเป็นเกราะป้องกันให้กับผิวหน้าของเรา ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องจากแสงแดดมากมาย

ไม่ว่าจะเป็น ครีมกันแดดผู้หญิง , ครีมกันแดดผู้ชาย , ครีมทาผิววาสลีน และในส่วนของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า อาทิเช่น กันแดดสำหรับคนเป็นสิว ,

สเปรย์กันแดด , เซรั่มเกาหลี , ครีมทำบุงผิวหน้า , มาร์คหน้าเกาหลี และ วิตามินซีทาหน้า สิ่งเหล่านี้เรียกได้ว่าขาดไม่ได้เลย สำหรับการปกป้องและดูแลผิวจากแสงแดด

วิตามินซีทาหน้า มีกรดแอสคอร์บิกซึ่งเป็นสารสกัดที่มีความจำเป็นต่อร่างกายมาก สารชนิดนี้มีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างโปรตีนคอลลาเจนให้กับผิว และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็งผิวหนังจากรังสียูวีได้อีกด้วย และเนื่องจากวิตามินซีเป็นกรดที่มีอนุภาคต่ำจึงไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกับผิวหนัง และมีเนื้อบางเบาจึงซึมเร็ว ใช้แล้วไม่เหนียวเหนอะหนะและยังสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวอีกด้วย

ในความจริงแล้ววิตามินซีนั้นถือเป็นสารสกัดที่ได้จากผักและผลไม้หลากหลายชนิด ซึ่งนอกจากการทานวิตามินซีจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับร่างกายได้แล้ว ที่สำคัญวิตามินซียังช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวพรรณของเราได้ดีอีกด้วย แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบทานผักผลไม้หรือทานอาหารเสริม การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างวิตามินซีบำรุงผิวหน้า ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสดูมีออร่าขึ้นได้เช่นกัน

ทำไมต้องทาวิตามินซีทาหน้า มีข้อดี อย่างไร

1. ช่วยลดเลือนรอยแผลจากสิว และลดเลือนรอยจุดด่างดำ

สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องรอยสิวหรือรอยจุดด่างดำจากการโดนแสงแดดเป็นประจำ แน่นอนว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีจะช่วยบำรุงผิวพรรณของคุณให้ดูกระจ่างใส และเผยผิวที่เรียบเนียนดูเปล่งปลั่งเป็นธรรมชาติขึ้นด้วย

2. ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด

จริงอยู่ที่ในวิตามินซีนั้นมีส่วนผสมของกรดแอสคอร์บิก แต่กรดที่ว่านี้ก็เป็นกรดชนิดอ่อนๆ ที่ไม่ได้ทำให้ผิวหน้าของเราไวต่อแสงแดด ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าเมื่อใช้เซรั่มวิตามินซีเป็นประจำทุกวันแล้ว นอกจากผิวหน้าจะดูขาวกระจ่างใสขึ้นแล้ว ทั้งยังช่วยฟื้นบำรุงผิวหน้าที่หมองคล้ำให้กลับมาแข็งแรงขึ้นด้วย

3. ช่วยชะลอความแก่

อีกหนึ่งคุณประโยชน์ของวิตามินซีทาหน้า ที่ไม่ได้มีแค่ฟื้นฟูผิวให้แลดูกระจ่างใสแล้วเท่านั้น ที่สำคัญเซรั่มวิตามินซียังช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าที่แห้งกร้านมีความชุ่มชื้นมากขึ้น เมื่อทาเซรั่มบำรุงเป็นประจำทุกวันก็จะช่วยลดเลือนริ้วรอย ตีนกา และรอยเหี่ยวได้เป็นอย่างดี

4. ช่วยให้ผิวขาวออร่า หน้าสว่างใสขึ้น

เนื่องจากในวิตามินซีอุดมไปด้วยสารสกัดกลูตาโธโอน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยขับผิวให้ขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งในวิตามินซียังมีส่วนช่วยบำรุงผิวหน้าหมองคล้ำให้กลับมาดูกระจ่างใสขึ้นด้วย ยิ่งถ้าได้ทาวิตามินซีบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้ผิวหน้าใสสว่างและมีออร่าขึ้นแน่นอน

5. ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้าฉ่ำเด้ง

การทาวิตามินซีเป็นประจำ นอกจากจะช่วยปกป้องแสงแดดได้แล้ว วิตามินซียังมีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับใบหน้า ทำให้ผิวหน้ามีความฉ่ำเด้ง ไม่หย่อนคล้อยก่อนวัย อีกทั้งหากทาเป็นประจำยังช่วยลดความมัน ลดปัญหาผิวหน้าแห้งได้ดีอีกด้วย

6. ช่วยกระตุ้นและสร้างคอลลาเจนให้กับผิว

การเลือกใช้เซรั่มวิตามินซีเป็นประจำ สำหรับใครที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป จำเป็นที่จะต้องเลือกใช้อย่างมาก เพราะจะช่วยกระตุ้นและเพิ่มการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้มากกว่าเดิม ทำให้ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวหน้าจะดูเต่งตึงและอ่อนวัยจนใครๆ ก็ทายอายุคุณไม่ถูกกันเลยทีเดียว  

วิธีเลือกซื้อวิตามินซีทาหน้า

1. ความเข้มข้นของวิตามินซี

ก่อนที่เราจะเลือกซื้อเซรั่มวิตามินซีบำรุงหน้ากันนั้น สิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญเลยก็คือ ความเข้มข้นของวิตามินซีที่มีอยู่ โดยผู้ซื้อควรพิจารณาจากผิวหน้าของตนเองเป็นหลัก หากเป็นคนที่มีผิวหน้าแห้งหรือแพ้ง่าย ควรเลือกวิตามินซีที่มีความเข้มข้นมากเกิน 10% ในขณะที่คนผิวมันหรือผิวผสม ควรเลือกวิตามินซีที่มีปริมาณความเข้มข้นอยู่ที่ 15-20% เพราะหากใช้วิตามินซีที่มีความเข้มข้นมากกว่านี้อาจทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคืองและเกิดอาการแพ้ได้ง่าย

2. ดูส่วนผสมอื่นๆ ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์

แม้ว่าเซรั่มวิตามินซีจะมีส่วนผสมของวิตามินซีเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าทุกผลิตภัณฑ์จะไม่มีส่วนผสมของสารอื่นๆ เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณเป็นคนที่แพ้ง่ายและมีผิวบอบบางเป็นพิเศษ การเลือกวิตามินซีทาหน้าที่ปราศจากสารอันตรายอย่าง พาราเบน น้ำหอม และแอลกอฮอล์ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน เพราะหากใช้สารเหล่านี้เป็นประจำทุกวัน อาจส่งผลให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคืองและทำให้ผิวไวต่อแสงแดดได้ในที่สุด

3. เลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน

อีกหนึ่งสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน เพราะหากเซรั่มอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่มีฝาปิดสนิท บรรจุภัณฑ์มีสีทึบและแสงแดดไม่สามารถลอดผ่านเข้ามาได้ก็จะช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์ให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น และคงคุณค่าของเนื้อครีมให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญอย่าลืมดูแบรนด์ที่เชื่อถือได้ และคนส่วนใหญ่นิยมเลือกใช้กันด้วย  

4. เลือกให้เหมาะกับปัญหาผิวหน้า

สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวหน้าหมองคล้ำ การเลือกเซรั่มวิตามินซีที่มีส่วนผสมของกรดไกโคลิก , กรด AHA และอาร์บูติน ก็เป็นสิ่งที่ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าของเราให้กลับมาแข็งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนใครที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย การเลือกเซรั่มวิตามินซีที่มีส่วนผสมของเรตินอลและเปปไทด์ก็จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหน้าได้ดีเช่นกัน

วิธีบำรุงผิวหน้าให้กระจ่างใส

1. หลีกเลี่ยงแสงแดด

เชื่อไหมว่าการที่ผิวหน้าของคนเราโดนแสงแดดเป็นประจำทุกวัน โดยขาดการทาครีมกันแดดที่ช่วยป้องกันรังสี UV ก็เป็นอีกสิ่งที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้ง่าย ดังนั้นการเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และปราศจากพาราเบน น้ำหอม และแอลกอฮอล์ ก็จะช่วยปกป้องผิวหน้าของเราให้ห่างไกลจากรังสี UV ได้ดีขึ้นด้วย

2. บำรุงหน้าด้วยทรีทเม้นท์

แม้ว่าการเลือกใช้วิตามินซีทาหน้า จะช่วยให้ผิวหน้าของเราดูขาวกระจ่างใสขึ้น แต่หากได้บำรุงผิวหน้าด้วยทรีทเม้นท์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องพ่นละอองน้ำ การมาร์คหน้า ครีมขัดหน้า หรือการขัดผิวเป็นประจำทุกสัปดาห์ ก็จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูเปล่งปลั่งและหน้าสว่างใสขึ้นได้แน่นอน

3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การดูแลผิวที่ได้ผลอย่างแท้จริงนั้น นอกจากเราจะต้องบำรุงผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอแล้ว การนอนหลับให้เป็นเวลาและเพียงพอต่อหนึ่งวัน ก็มีส่วนช่วยฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอให้กับผิวหน้าได้ดีขึ้นด้วย และยิ่งถ้าเราตื่นเช้าขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ก่อนจะเริ่มต้นวันใหม่ ก็เป็นอีกสิ่งที่ช่วยให้ผิวหน้าให้ดูกระจ่างใส่ขึ้นได้ไม่ยากเลย

คำถามที่พบบ่อย

1. วิตามินซีทาหน้า ทาในตอนกลางคืนได้ไหม

การบำรุงผิวหน้าด้วยวิตามินซี สามารถทาได้ทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ยิ่งในช่วงเวลากลางคืนจะทำให้เนื้อครีมซึมเข้าผิวได้เร็ว บำรุงผิวหน้าให้มีความชุ่มชื้น แถมคุณสมบัติของเนื้อครีมไม่ลดลงจากการโดนแสงแดด และได้ผลลัพธ์ที่ดี ส่วนในตอนกลางวันนั้นก็เพื่อปกป้องผิวหน้าจากแสงแดด

2. ใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน

ควรใช้วิตามินซีบำรุงผิวหน้าเป็นประจำเช้าเย็น และใช้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอประมาณ 2-4 สัปดาห์ จะเห็นการเปลี่ยนแปลง และได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ผิวหน้ามีความขาวกระจ่างใส เต่งตึงและมีความอิ่มน้ำมากขึ้น อีกทั้งใครที่มีปัญหาริ้วรอยเกิดก่อนวัย จะสังเกตเห็นได้ว่าริ้วรอยเริ่มจากลงอย่างเห็นได้ชัด

3. การเก็บรักษาวิตามินซีบำรุงผิวหน้า ควรเก็บอย่างไร

สำหรับการเก็บรักษาวิตามินซีบำรุงผิวหน้านั้น แนะนำว่าควรเก็บไว้ในที่ที่ไม่โดนแสงแดด เพื่อรักษาคุณสมบัติของเนื้อครีมให้สามารถใช้บำรุงผิวหน้าได้อย่างยาวนานมากขึ้น

7 ประโยชน์ เมื่อทาวิตามินซี ทุกเช้า

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับเกร็ดความรู้ดีๆ เกี่ยวกับวิตามินซีทาหน้าที่เรานำมาแบ่งปันให้กับทุกคนกันในวันนี้ สำหรับใครที่อยากจะมีผิวหน้าขาวกระจ่างใสและดูสุขภาพดี การเลือกใช้วิตามินซีบำรุงผิวหน้าเป็นประจำทุกวันเช้าเย็น และหมั่นดูแลผิวหน้าด้วยการบำรุงทรีตเมนท์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ก็จะช่วยให้คุณมีผิวหน้าที่ดูเนียนใส ไร้รอยสิวกวนใจ และช่วยลดเลือนริ้วรอยให้ดูจางลงได้อย่างแน่นอน

ดูแลบทความโดย เหมียว

นามปากกา เถาองุ่น การศึกษาจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  เป็นนักรีวิวผลิตภัณฑ์ด้านการบำรุงผิวโดยเฉพาะ ทั้งผิวกาย ผิวหน้า ความงาม และเป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายมาแล้วหลายยี่ห้อ

• Facebook
• X
• Line