ที่ดัดขนตาช่วยให้ขนตาของผู้ใช้มีความงอนสวย สร้างความโดดเด่นให้ใบหน้าไปด้วยกันได้กับการแต่งหน้าจัดเต็มของสาวๆ ที่ประกอบเข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็นรองพื้น ลิปสติก หรืออื่นๆ ในเนื้อหาจะพูดถึงประเภท วิธีการใช้ และการเลือกซื้อ
ผลิตภัณฑ์หมวดหมู่ความงาม สกินแคร์ที่น่าสนใจตัวอื่นๆ ได้แก่ ครีมกันแดดผู้หญิง , ครีมกันแดดผู้ชาย , ครีมรกแกะ , ครีมกระชับรูขุมขน , ครีมลดริ้วรอย , เซรั่มเกาหลี , น้ำตบ , วิตามินบำรุงผิว , คอลลาเจน , ysl ลิป , ลิปกันแดด , ลิปแมท , ครีมลดถุงใต้ตา , เครื่องดูดสิว , คอลลาเจนแบบเม็ด , น้ำยาล้างเล็บ , ลิปแก้ปากดำ , เครื่องอบเล็บเจล , เครื่องนวดหน้า , ไพรเมอร์ , มาสคาร่า , บลัชออน , รองพื้น , แป้งฝุ่น , น้ำแร่ฉีดหน้า , ยาทาเล็บเจล , เซรั่มปลูกคิ้ว , เจลแต้มสิว , มาร์คหน้าเกาหลี , ครีมทาผิววาสลีน ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
ที่ดัดขนตา คืออะไร
คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการดัดขนตา หรือที่เรียกว่า Eyelash Curler ช่วยให้ขนตาผู้หญิงงอนยาว และเรียงตัวกันสวยงาม มีการใช้งานที่ง่าย และรูปแบบความสวยงามเหมือนการทำลิฟติ้งขนตา มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ มีการใช้งานที่ง่าย และไม่เป็นอันตรายต่อขนตา ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ถูกและดี ควรค่าแก่การหาซื้อมาใช้และเป็นเจ้าของ
ประเภทของที่ดัดขนตา
การทำให้ขนตางอนยาว และดูเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้าของผู้หญิงนั้น จริงๆ แล้วมีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการต่อขนตา, การลิฟติ้ง หรือการใช้อุปกรณ์ดัดขนตาในแบบ Eyelash Curler ซึ่งมีหลากหลายตัวเลือก เพื่อให้เราสามารถเลือกใช้งาน ได้เหมาะสมกับลักษณะของขนตาเรา อีกทั้งยังช่วยให้ขนตางอนยาว น่าหลงใหลอีกด้วย
แบบหนีบไม่ใช้ไฟฟ้า (Eyelash Curler)
ถือว่าเป็นอุปกรณ์ดัดขนตา ที่ผู้หญิงทุกคนต่างคุ้นเคยกันดี ด้วยการใช้งานที่ง่าย รูปแบบการดัดคือ ใช้การหนีบขนตา เพื่อยกโคนขนตาขึ้น และให้ปลายขนตางอน จนถึงวันนี้ก็ยังมีการใช้วิธีดัดขนตาแบบนี้กันอยู่ ซึ่งการซื้อมาใช้ต่อครั้ง ก็มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ถูกและดี
แบบใช้ไฟฟ้า (Heated Eyelash Curler)
ช่วยให้ขนตาของเรา คล้ายกับการทำลิฟติ้ง ที่มีการยกโคนขนตาอย่างเห็นได้ชัดในระยะไกล รวมถึงปลายขนตางอนยาวอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่ต้องปัดมาสคาร่าเลยก็ได้
แบบหนีบ
มีความคล้ายกับแบบไม่ใช้ไฟฟ้า แตกต่างกันเพียงแค่ฐาน หากเป็นแบบไฟฟ้านั้น จะมีด้ามจับที่แบนและหนากว่า ซึ่งตรงนั้นเป็นที่ใส่แบตเตอรี่ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้แบตเตอรี่ขนาด AAA ซึ่งหากซื้อไม่ยาก และไม่สิ้นเปลือง แต่สามารถช่วยให้ผู้หญิงมีขนตาที่งอน และเรียงกันเป็นเส้นสวยงาม รวมถึงไม่มีอันตรายใดๆ อีกด้วย
แบบแท่ง
ช่วยให้วิธีการดัดขนตานั้น กลายเป็นเรื่องง่ายมากกว่าเดิมอีก ด้วยแปรงหวีขนตาเพียงเท่านั้น ก็ทำให้เรามีขนตาที่งอนยาว และจะยิ่งโดดเด่นมากขึ้น หากมีการปัดมาสคาร่าตามไปด้วย เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกและดี ที่อยากจะแนะนำให้ลองใช้กันดู
วิธีเลือกซื้อที่ดัดขนตา
รูปแบบ
แบบไม่ใช้ไฟฟ้า
เป็นแบบที่เราคุ้นเคยกับการใช้กันมาก่อนแล้ว ที่มีตัวหนีบขนตา ซึ่งขนตาจะงอนได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับแรงหนีบ และวัสดุของอุปกรณ์ตัวนี้ร่วมด้วย ที่สำคัญขั้นตอนในการดัดขนตานั้น มีหลายคนที่พยายามจะหนีบให้ใกล้กับโคนขนตามากที่สุด และทำให้เผลอหนีบเปลือกหนังตาไปด้วย ซี่งประสบการณ์แบบนี้ ทำให้ใครหลายคนอยากที่จะเปลี่ยนรูปแบบอุปกรณ์ ที่ใช้ในการดัดขนตาเป็นแบบแท่งที่ใช้ไฟฟ้าไปเลย
แบบใช้ไฟฟ้า
สามารถตอบโจทย์ปัญหาในการใช้งาน ของผู้หญิงหลายคนที่เจอทั้งปัญหา การดัดขนตาไม่งอนเท่าที่ควร, ขนตางอนแต่อยู่ได้ไม่นาน หรือปัญหาการหนีบขนตาพลาดไปโดนเปลือกหนังตาเข้า เป็นต้น
- แบบหนีบ
พลังงานที่ใช้ในอุปกรณ์ดัดขนตานี้ จะเป็นแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นาน มีด้ามจับที่มั่นคง หนาและมีความกว้างในการจับยึดได้แน่นหนา รวมถึงฐานตัวหนีบขนตานั้น เป็นแผ่นซิลิโคนที่เน้นถนอมขนตา ไม่ให้ความแรงในขณะที่หนีบนั้น ทำให้ขนตาหักได้ รวมถึงความเร็วในการทำให้ขนตางอนนั้น จะเร็วและไม่ต้องดัดแช่นาน เพียงแค่ 1-2 วินาทีก็ควรปล่อยที่หนีบ และสามารถหนีบในตำแหน่งอื่นๆ ของขนตาต่อไปได้อีก
- แบบแท่ง
จะเหมาะอย่างมากสำหรับผู้หญิง ที่ไม่สะดวกในการใช้งานรูปแบบหนีบ ทั้งในแบบที่ใช้ไฟฟ้า และไม่ใช้ไฟฟ้า เพราะส่วนที่ใช้ในการทำให้ขนตางอนนั้น จะเป็นส่วนที่คล้ายกับแปรงปัดมาสคาร่า แต่ไม่มีขนแปรงที่ยาวมากเท่ากับแปรงปัดมาสคาร่า
ส่วนที่เป็นขนแปรงปัดของที่ดัดขนตาไฟฟ้า แบบแท่งนี้จะเน้นมีขนาดที่สั้น เพื่อให้สะดวกในการปัดขนตาทั้งส่วนโคนขนตา และปลายขนตาให้สามารถยกโคน และปลายขนตางอนยาวได้ ซึ่งในแบบนี้นั้น หากมีการใช้ร่วมไปกับ อุปกรณ์ดัดขนตาแบบไม่ใช้ไฟฟ้าร่วมด้วย จะเหมือนการลิฟติ้งขนตา ที่เน้นความงอนมาก และโคนขนตาก็ยกขึ้นสูง สำหรับผู้ที่มีอุปกรณ์ดัดขนตาแบบไม่ใช้ไฟฟ้าก่อนหน้าแล้ว และมีแบบแท่งในการใช้งานร่วมด้วย
ความแนบสนิทของตัวหนีบของที่ดัดขนตา
เราควรดูที่ตัวหนีบว่า เมื่อกดหนีบทั้งด้านบนและด้านล่างแนบสนิทเข้าหากัน หรือมีช่องว่างเหลือเพราะนั่นอาจจะหมายถึง เมื่อนำไปใช้งานจริงนั้น ขนตาอาจจะไม่งอนเท่าที่ควร ซึ่งทำให้หนีบนานแค่ไหน ปลายขนตาก็ไม่งอน และโคนขนตาก็ไม่ยกขึ้น ซึ่งหลายคนอาจคิดว่า ต้องใช้แรงหนีบมากในการดัด แต่แท้ที่จริงแล้วเกิดจากส่วนประกอบตรงตัวหนีบ ที่ไม่แนบสนิทเข้าหากัน
วัสดุ
ควรเลือกเป็นโลหะมาเป็นอันดับแรก เพราะต้องเน้นน้ำหนักของอุปกรณ์ช่วย ในการดัดขนตาให้งอนร่วมด้วย ไม่ใช่เพียงแค่แรงในการหนีบเท่านั้น เพราะหากเราเลือกวัสดุบางเบาแบบพลาสติกการหนีบไม่ว่าจะใช้แรงมากแค่ไหน ก็ไม่ได้ทำให้ขนตามีความงอนได้มาก อีกทั้งยังทำให้คลายตัวเร็วในระหว่างวันอีกด้วย
อายุการใช้งาน
สำหรับรูปแบบไม่ใช้ไฟฟ้านั้น อีกเหตุผลหนึ่งที่เราควรเลือกวัสดุที่ทำจากโลหะก็คือ อายุในการใช้งานได้ทนทาน และยาวนานมากกว่า วัสดุในแบบพลาสติก ถึงแม้ว่าวัสดุที่ทำจากพลาสติกจะมีน้ำหนักที่เบา และพกพาสะดวกก็ตาม แต่ใช้ไม่นานก็ต้องหาซื้อของใหม่มาใช้แทน ซึ่งอาจไมใช่อุปกรณ์นั้นๆ แตกหักเสียหาย แต่เป็นที่ตัวหนีบไม่มีประสิทธิภาพในการดัดขนตานั่นเอง
ระยะเวลาวอร์มเครื่อง
สิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และมีความจำเป็นในการใช้งานจริง อย่างในเวลาเช้าที่ต้องรีบเร่งแต่งหน้า และออกจากบ้านนั้น การวอร์มเครื่องไม่ควรนานจนเกินไป ในการที่จะสามารถใช้งานดัดขนตาได้ ซึ่งในแต่ละยี่ห้อนั้น ก็จะมีระยะเวลาวอร์มเครื่องตั้งแต่ 1-5 วินาที, 10-15 วินาที หรือ 1-5 นาที เป็นต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการใช้งาน ของแต่ละผู้ใช้ร่วมด้วย
รูปแบบการเติมพลังงาน
ในส่วนของตัว Eyelash Curler ที่ใช้ไฟฟ้า หรือ Heated Eyelash Curler นั้น เราควรดูว่าเป็นการนำเอาพลังงานทางไหนมาใช้กับตัวเครื่อง ซี่งหากเป็นแบบหนีบนั้น จะเน้นการใช้แบตเตอรี่ ส่วนถ้าเป็นแบบแท่ง หรือแบบหัวแปรงปัด จะเป็นการเสียบสาย ubs ได้ เราอาจจะเน้นเลือกที่ความสะดวกสบายมาก่อน
ระดับความร้อน
ข้อดีหากเราเลือกใช้ Heated Eyelash Curler ทั้งแบบหนีบ หรือแบบแท่ง จะมีการบอกระดับความร้อนผ่านทั้งตัวด้านจับอุปกรณ์ หรือหน้าจอที่ตัวเครื่อง ดังนั้นเราจะสามารถรับรู้ได้ หลังจากมีการใช้งานมาสักระยะว่า ความร้อนระดับไหนที่เหมาะกับการดัดขนตา และความร้อนระดับไหน ที่ช่วยให้ขนตางอนยาวอยู่ได้นานตลอดวัน ในบางยี่ห้อจะมีการปรับระดับความร้อนได้ 3 ระดับ หรือสามารถมีระดับความร้อนให้เลือกตั้งแต่ 40-60 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
จอแสดงระดับความร้อนของที่ดัดขนตา
บางรุ่นจะมีบอกระดับความร้อนแค่ร้อนมาก, ความร้อนระดับปานกลาง หรือระดับความร้อนน้อย แต่ในบางยี่ห้อ จะมีหน้าจออยู่ที่ตัวเครื่อง ที่สามารถบอกตัวเลขระดับความร้อนที่เราใช้อยู่ตอนนี้ ซึ่งเป็นข้อดีในการปรับนำมาใช้งานครั้งต่อไป หากเรารู้สึกว่า การดัดขนตาคราวนี้คลายตัวได้เร็ว สามารถที่จะปรับความร้อนใช้ได้ในวันต่อไป
ความร้อนสม่ำเสมอ
แบบใช้ไฟฟ้าซึ่งตัวเครื่องจะให้ความร้อนที่สม่ำเสมอมากกว่า อีกทั้งยังสามารถปรับความร้อนมากน้อยตามการใช้งาน และมีหลายคนที่มีทั้งแบบหนีบที่ไม่ใช้ไฟฟ้า และแบบที่ใช้ไฟฟ้า ซึ่งเอาไว้ใช้งานทดแทนกัน หรือที่พิเศษสุดก็คือ เราสามารถประยุกต์การใช้งานร่วมกันได้ อย่างเช่น นำอุปกรณ์ดัดขนตาไม่ใช้ไฟฟ้าหนีบขนตา ให้มีความงอนนำร่องไปก่อน แล้วตามด้วยแบบไฟฟ้าที่เป็นแปรงปัด หรือแบบแท่งปัดตาม
ขนาดเครื่อง
ขนาดเป็นเรื่องที่ควรพิจารณา สำหรับการติดตัวนำออกไปใช้นอกสถานที่ หรือสามารถพกใส่ในกระเป๋าเครื่องสำอางได้ สำหรับในแบบใช้ไฟฟ้านั้น มีให้เลือกในขนาดเล็กพกพาได้ โดยเฉพาะบางยี่ห้อที่ทำออกมาเล็กกว่าขวดมาสคาร่าอีกด้วย
อุปกรณ์เสริมป้องกันขนตา
ในส่วนที่ใช้หนีบขนตานั้นควรที่จะให้มีตัวแผ่นยางรอง หรือซิลิโคนรอง ทั้งในแบบที่เป็นไฟฟ้า และแบบไม่ใช้ไฟฟ้าร่วมด้วย เพราะหากไม่มีอุปกรณ์เสริมในการรองรับขนตานั้น อาจทำให้ขนตาหักได้
วิธีใช้ ที่ดัดขนตา
แบบหนีบทั้งที่เป็นไฟฟ้า และไม่ใช้ไฟฟ้า
1.ง้างตัวหนีบ และให้ขนตาเข้าไปอยู่ด้านในตัวหนีบ เน้นที่โคนขนตาก่อน
2.ใช้แรงกดตัวหนีบลง พร้อมกับยกโคนขนตาขึ้นเล็กน้อย
3.เขยิบตัวหนีบมาที่ช่วงกลางของขนตา และกดตัวหนีบลง
4.เมื่อกดตัวหนีบลงในช่วงกลางขนตา แล้วจึงยกตัวหนีบขนตาขึ้นเล็กน้อย
5.ง้างตัวหนีบขนตามาที่ส่วนสุดท้าย คือปลายขนตา ให้ปลายขนตาพอดีกับตัวหนีบ
6.กดตัวหนีบลง ไม่ควรเผื่อปลายขนตาออกมานอกตัวหนีบมาเกินไป เพราะจะทำให้ปลายงอนไม่สมดุลกัน
7.กดตัวหนีบลงที่ปลายขนตา ซึ่งขั้นตอนการหนีบตั้งแต่โคนขนตา จนถึงปลายขนตา ไม่ควรหนีบค้างนานเกิน 3 วินาที
8.หากหนีบขนตานานเกินเวลาที่กล่าวไว้ อาจทำให้ขนตาหัก หรือขาดได้ สำหรับบางคนที่มีขนตาไม่แข็งแรงเท่าไหร่
9.โดยเฉพาะสำหรับแบบหนีบ ที่ใช้ไฟฟ้าร่วมด้วย ไม่ควรหนีบค้างนานเกิน 1-2 วินาที เพราะความร้อนอาจทำให้ขนตาขาดได้
10.หลังการหนีบขนตาเรียบร้อยแล้ว เราสามารถลูบวาสลีน หรือบาล์ม ลงบนขนตา โดยเฉพาะผู้ที่ใช้อุปกรณ์ดัดขนตาแบบไฟฟ้า เพื่อเป็นการเติมความชุ่มชื่นให้กับขนตา
ที่ดัดขนตาแบบแท่งหรือแบบแปรงปัด
1.ปรับระดับความร้อน โดยหากไม่เคยใช้มาก่อน เน้นเริ่มที่ความร้อนระดับอ่อนๆ
2.เมื่อเครื่องวอร์มความร้อนได้ที่ พร้อมใช้แล้ว ใช้แปรงปัดเริ่มจากโคนขนตา ไปทางด้านปลายขนตา
3.ส่วนโคนขนตาเน้นในการปัดเพื่อยกโคนขึ้น
4.จากนั้นในส่วนกลางไปถึงปลายขนตานั้น ให้ค่อยๆ ปัดแปรงเฉียงขึ้น เพื่อให้ขนตามีความงอน
5.การปัดแปรงเน้นไม่แช่ที่ขนตาจุดใดจุดหนึ่ง แต่เป็นการปัดช้าๆ เพื่อให้ขนตามีความงอน และอยู่ทรงได้ตลอดวัน รวมถึงหลังจากปัดเรียบร้อย ควรใช้วาสลีนลูบขนตา เพื่อเป็นการบำรุง
ที่ดัดขนตา 3 แบรนด์ดัง SHU UEMURA | SURRATT | MAQUILLAGE เปรียบเทียบ
สรุป
ที่ดัดขนตาจะมีให้เลือกได้หลากหลายรูปแบบ แต่ส่วนที่สำคัญก็คือ วิธีการนำมาใช้อย่างไร ที่จะช่วยให้ขนตามีความงอนสวย และไม่ทำลายขนตาให้เสียหาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบใช้ไฟฟ้า หรือไม่ใช้ไฟฟ้าก็ตาม ต่างมีข้อดีและมีเทคนิคในการนำมาใช้ ซึ่งหลายคนก็มีการนำมาปรับใช้ร่วมกัน ทั้งแบบที่ใช้ไฟฟ้า และไม่ใช้ไฟฟ้า เพื่อให้ขนตางอนสวยได้ตลอดทั้งวัน โดยที่ไม่ต้องดัดซ้ำระหว่างวัน
เป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ผู้เชี่ยวชาญทดลอง และเป็นนักรีวิวเครื่องสำอางตัวยง ถนัด และชื่นชอบการแต่งหน้า และลองเครื่องสำอางใหม่ๆอยู่เสมอ
