อาหารเม็ดสุนัขเป็นหนึ่งในอาหารหลักของหลายๆอย่างที่ใช้เลี้ยงสุนัข ผู้เลี้ยงต้องเลือกให้อาหารให้เหมาะกับสายพันธุ์ อายุของสุนัข และที่สำคัญนิสัยการกินของสุนัขด้วยว่าชอบกินอาหารแบบไหนบางตัวก็ชอบกินอาหารเม็ด หรือบางตัวก็ชอบอาหารเปียก วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝากกัน
เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์สำหรับสุนัขที่เราคัดมาเป็นอย่างดีไว้ใช้เลี้ยงน้องหมาที่เรารัก ได้แก่ อาหารเปียกสุนัข , ที่นอนสุนัข , ยาสีฟันสุนัข , ขนมหมา , เครื่องให้อาหารสุนัข , สายจูงสุนัข , แผ่นรองฉี่สุนัข , กรรไกรตัดเล็บสุนัข , แชมพูสุนัข , อาหารลูกสุนัข , คอกหมา , ปลอกคอสุนัข , ยาหยอดหูสุนัข
นอกเหนือจากนี้เรายังคัดสินค้าสำหรับคนเลี้ยงแมวไว้ด้วยรับรองใช้ดีเผื่อได้ใช้ ยกตัวอย่างเช่น อาหารลูกแมว , ทรายแมว , ที่นอนแมว , กระบะทรายแมว , กรรไกรตัดเล็บแมว , ปลอกคอแมว , ลูกกลิ้งเก็บขนแมว , อาหารเสริมแมว , ยาสีฟันแมว , ยาหยอดหูแมว , เครื่องเป่าขนแมว , กระเป๋าใส่แมว , น้ำพุแมว , แชมพูอาบน้ำแมว , ที่ใส่อาหารแมว , ห้องน้ำแมว
อุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ได้แก่ กรงกระต่าย , ตู้ปลา , อาหารปลาคาร์ฟ เป็นต้น ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
อาหารเม็ดสุนัข คืออะไร
คือ อาหารสุนัขที่ถูกผลิตออกมาในรูปแบบที่เป็นเม็ดๆ เหมือนกับยาหรือขนม ซึ่งในอาหารนั้นจะมีส่วนผสมหลักทำมาจากเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หมู ไก่ ปลา เนื้อ หรือแกะ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสุนัขมากมายไม่ว่าจะเป็น ผักชนิดต่างๆ ตับ เลซิทิน และโคลีน ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมพัฒนาการให้กับสุนัข เป็นต้น
จะมีการระบุอายุและช่วงวัยในการรับประทานไว้ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นช่วงอายุ 1 เดือนขึ้นไป หรือ 7 ปีขึ้นไป เพราะสุนัขแต่ละช่วงอายุนั้นจะมีความต้องการสารอาหารที่ต่างกันไป ซึ่งอาหารจะช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อการเจริญเติบโต พัฒนาการทางสมองซึ่งมีส่วนช่วยในการเรียนรู้ และบำรุงกระดูกให้แข็งแรง
ประเภทของอาหารเม็ดสุนัข
1. แบบอัดรีด
เป็นการนำส่วนผสมต่างๆ เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ไขมัน วิตามิน ส่วนผสมอื่นๆ ที่มีประโยชน์ และสารกันเสียมาบดผสมรวมกันจนเป็นก้อน จากนั้นก็นำอาหารที่ได้นี้ไปอัดเป็นทรงกระบอกเล็กๆ แล้วตัดให้เป็นเม็ดโดยใช้เครื่องอัดอาหาร บางครั้งอาจมีการออกแบบเป็นรูปหัวใจ รูปกระดูก รูปสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยมแล้วแต่แบรนด์ที่จะเลือกทำ ซึ่งการใส่สารกันเสียนั้นจะช่วยให้อาหารไม่เน่าเสีย และสามารถเก็บไว้ได้นานขึ้น
2. แบบอบ
จะมีความกรอบ โดยการนำส่วนผสมต่างๆ มาบดรวมกัน ซึ่งบางแบรนด์ก็จะแยกส่วนผสมเช่น บดแยกระหว่างเนื้อสัตว์กับผัก เม็ดที่มีสีเขียวจะเป็นส่วนที่มีสวนผสมของผักนั่นเอง สุนัขบางตัวจะชอบอาหารเม็ดแบบอบมาก เนื่องจากให้ความกรอบ เวลากินสุนัขจะเคี้ยวกรอบๆ อย่างเอร็ดอร่อย แต่แบบนี้จะไม่ค่อยได้รับความนิยมเนื่องจากมีราคาแพงกว่าแบบอัดรีด แต่รสชาติก็จะดีกว่าเช่นกัน
3. แบบเคลือบ
เป็นการนำทั้งแบบอัดรีดและแบบอบ มาเคลือบด้านนอกของอาหารเม็ดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่จะเพิ่มผงแต่งกลิ่นของอาหารเม็ดให้น่ารับประทานมากขึ้น สามารถเพิ่มสารอาหารต่างๆ เข้าไปเพื่อให้สุนัขได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนมากขึ้น โดยสามารถเคลือบได้ทั้งแบบอัดรีดและแบบอบ เนื่องจากเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการใส่ส่วนผสมที่อาหารเม็ด
ประโยชน์ของอาหารเม็ดสุนัข
1. สะดวกสบาย
ช่วยลดขั้นตอนในการเตรียมอาหารให้กับสุนัขได้เป็นอย่างดี ในเวลาที่รีบร้อนออกจากบ้านไปทำงาน เพียงแค่เทใส่ไว้ใน เครื่องให้อาหารสุนัข เท่านั้น น้องหมาก็จะมีมื้อเช้าไว้กินอย่างอร่อยแล้ว เป็นการประหยัดเวลาในการเตรียมอาหาร ทั้งยังทำให้คุณมีเวลาเหลือที่จะพาเพื่อนซี้อย่าน้องหมาไปเดินเล่นได้ในตอนเช้า ทำให้ได้ไปขับถ่ายและผ่อนคลายในทุกๆ เช้า
2. มีสารอาหารครบถ้วน
เต็มไปด้วยสารอาหารที่ช่วยบำรุงร่างกายของสุนัข ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ การเจริญเติบโตทั้งทางด้านร่างกายและการเรียนรู้ ช่วยบำรุงขนให้สวยเงางาม ลดปัญหาขนร่วง ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ระบบขับถ่าย บำรุงสายตา ไม่เค็มไม่เป็นอันตรายต่อไตและอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งหากเตรียมอาหารเองในหนึ่งมื้อ อาจจะไม่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเช่นนี้
3. สุขภาพช่องปากดี
สร้างความแข็งแรงให้กับกราม ซึ่งจะช่วยในการขัดฟันของสุนัข ช่วยลดครบหินปูนที่เกิดจากเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟัน และยังสามารถช่วยลดการเกิดปัญหาการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก นอกจากจะเป็นการให้อาหารแล้วยังช่วยดูแลสุขภาพภายในช่องปากให้สุนัขได้อีกด้วย
4. สามารถเก็บไว้ได้นาน
จะมีส่วนผสมของสารกันเสีย จึงสามารถเก็บไว้ได้นาน มีถุงซิปล็อคเพื่อช่วยให้เก็บง่าย ป้องกันมด แมลงสาป และเชื้อโรคต่างๆ เข้าไปในอาหาร ซึ่งอาหารสุนัขแบบเม็ดนั้นมีหลายขนาดให้ได้เลือกซื้อ ผู้เลี้ยงควรจะเลือกซื้อให้เหมาะกับขนาดของสุนัข ทำให้ไม่ต้องออกไปหาซื้อบ่อยๆ ทำให้มีเวลาเหลือไปเล่นกับสุนัขได้แบบสบายๆ
วิธีการเลือกซื้ออาหารเม็ดสุนัข
1. เลือกตามช่วงการเจริญเติบโตของสุนัข
ก่อนอื่นเลยคือต้องมองหาสูตรที่เหมาะสมกับวัยของสุนัข เพราะสุนัขแต่ละช่วงวัยจะมีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน และอาหารเม็ดจะมีความแข็งความกรอบแตกต่างกัน เนื่องจากปรับตามความแข็งแรงของวัยสุนัข เช่น ลูกสุนัขก็จะมีส่วนผสมที่ช่วยในการเสริมพัฒนาการและการเจริญเติบโต เม็ดของอาหารเม็ดจะไม่แข็งเนื่องจากฟันยังไม่แข็งแรงมาก
2. เลือกจากส่วนผสมในอาหารเม็ด
สุนัขควรจะต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนจากอาหารเม็ด ซึ่งส่วนประกอบหลักจะเป็นเนื้อสัตว์ ให้เลือกดูว่าอาหารนั้นใส่เนื้อสัตว์กี่เปอร์เซ็นต์ ใช้เนื้อสัตว์หรือผงกลิ่นเนื้อ เพราะถ้าเป็นผงอาจจะไม่ได้รับโปรตีน และยังต้องมีผักต่างๆ ที่เป็นส่วนผสมด้วย และที่ขาดไม่ได้คือ สารอาหารเสริม เช่น วิตามิน แร่ธาตุ ไขมัน โปรตีน เป็นต้น เพื่อเป็นการเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นต่อพัฒนาการของสุนัข และยังมีสูตรที่ช่วยคุมอาหารและสูตรลดน้ำหนักสำหรับสุนัขโตด้วย
3. เลือกจากความปลอดภัยสำหรับสุนัข
ต้องอ่านฉลากที่ติดอยู่กับบรรจุภัณฑ์ โดยต้องระบุวันหมดอายุอาหารเม็ดไว้อย่างชัดเจน มีเลขทะเบียนอาหารสัตว์ ที่ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมปศุสัตว์ หรือองค์กรระดับโลกโลกที่เชื่อถือได้ ตรวจสอบดูว่าถุงบรรจุภัณฑ์ไม่มีรอยขาดหรือรั่ว หากเป็นแบบกระป๋องต้องไม่มีรอยบุบ ไม่บวม ไม่มีกลิ่นเหม็นออกมา และไม่ขึ้นสนิม
4. เลือกจากความความคุ้มค่า
ให้ดูปริมาณของส่วนผสมต่างๆ และเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ที่ผ่านการรับรอง ว่าสารอาหารนั้นมีปริมาณที่มากพอต่อความต้องการของสุนัข และคุ้มค่ากับราคาหรือไม่ และต้องดูปริมาณโดยรวมอาหารเม็ดของสุนัขด้วยว่าแบรนด์ใดที่มีปริมาณที่มากกว่าหรือปริมาณที่เท่ากัน จากนั้นให้เปรียบเทียบราคา หรือบางแบรนด์จะมีของแถมเป็นขนมของสุนัขให้ด้วย
5. เลือกจากความต้องการของสุนัข
ก่อนการตัดสินใจซื้อคุณต้องทราบก่อนว่าในแต่ละมื้อ สุนัขกินอาหารเม็ดมากน้อยเพียงใด อาหารเม็ดมีขายตั้งแต่ 1 – 20 กิโลกรัม หากกินไม่เยอะมากก็ควรซื้อขนาดที่กินได้ใน 1 เดือน หรือนานถึง 2 เดือน เพราะหากซื้อไปเยอะมาก เมื่อมีการเปิดให้อาหารแล้ว อาจมีอากาศหรือเชื้อโรคเข้าไปในถุงอาหาร ทำให้อาจได้รับสารอาหารที่ไม่มีประโยชน์และเป็นอันตราต่อสุขภาพได้
วิธีให้อาหารเม็ดสุนัข
1. อาหารตามช่วงอายุ
สุนัขแต่ละช่วงวัยจะมีความต้องการสารอาหารและปริมาณของอาหารที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องให้อาหารที่เหมาะกับความต้องการในแต่ละช่วงวัย เช่น ลูกสุนัขที่มีอายุตั้งแต่ 10 สัปดาห์จะกินอาหารเม็ดที่แช่น้ำอุ่นหรือนมให้นิ่มๆ จากนั้นให้กินวันละ 3- 4 มื้อ ลูกสุนัขที่มีอายุ 3- 4 เดือนก็ยังคงกินวันละ 3- 4 มื้อเช่นกัน หลังจากนี้จึงค่อยๆ ปรับเป็นการให้อาหารวันละ 2 มื้อ
2. ปริมาณที่สุนัขควรได้รับ
ให้ดูจากอายุ น้ำหนัก และสายพันธุ์ว่าควรจะได้รับสารอาหารวันละเท่าไร จากนั้นจึงแบ่งปริมาณอาหารที่น้องหมาสุดที่รักของคุณสมควรได้รับแต่ละวัน โดยออกเป็น 2 มื้อ เพื่อที่สุนัขจะได้รับอาหารมนปริมาณที่พอเหมาะ และพอดีกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวันอีกด้วย
3. ให้ขนมในปริมาณที่พอเหมาะ
ขนมหมา ผู้เลี้ยงสามารถเลือกซื้อมาให้สุนัขกินได้แต่ควรไม่ให้เกินกว่า 10 เปอร์เซ็นต์จากปริมาณสารอาหารที่สุนัขจะต้องได้รับ เพราะมิฉะนั้นต้องอาจจะได้รับอาหารที่เกินความจำเป็น ทำให้มีน้ำหนักเกินและก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ เช่น โรคไต โรคเกี่ยวกับกระดูก เป็นต้น
ปริมาณการให้
ต้องคำนวณจากปัจจัยหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ช่วงอายุ สายพันธุ์ กิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน และประเภทของอาหาร ยกตัวอย่างเช่น สุนัขพันธุ์เล็ก จะมีความต้องการอาหารเม็ดอยู่ที่ 80 – 165 กรัมต่อวัน หากเป็นสุนัขที่เป็นไซส์กลาง จะอยู่ที่ 190 – 300 กรัมต่อวัน และหากเป็นสุนัขไซส์ใหญ่จะอยู่ที่ 330 – 450 กรัมต่อวัน ซึ่งปัจจุบันมีโปรแกรมที่ช่วยในการคำนวณปริมาณอาหารให้กับสุนัข เพียงแค่คุณกรอกข้อมูลสุนัขลงไปก็จะสามารถทราบปริมาณของอาหารที่ต้องการต่อวัน
อาหารที่ไม่ควรให้สุนัขกิน
1. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ในเวลาที่เจ้าของปาร์ตี้หรือนั่งสังสรรค์อยู่นั้นสุนัขก็มักจะคลอเคลียและอยู่รอบๆ บริเวณนั้น ซึ่งบางครั้งอาจจะขอกิน เพราะคิดว่าเป็นน้ำที่เย็น เห็นเจ้าของกินเราก็อยากจะลองบ้าง ซึ่งหากคุณคิดว่าจะแกล้งน้องหรือแค่ขำๆ บอกเลยว่ามันไม่ขำเลยเพราะแอลกอฮอล์สามารถทำให้สุนัขช็อกและอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย
2. ช็อกโกแลต
ในช็อกโกแลตมีสารชื่อว่า Theobromine จะมีฤทธิ์เป็นสารกระตุ้นหากคุณให้สุนัขกินเข้าไปจะส่งผลให้มีอาการกล้ามเนื้อเกร็ง หัวใจเต้นแรงผิดปกติ ขับถ่ายบ่อย อาเจียน และอาจมีอาการหัวใจวายเกิดขึ้นได้ ซึ่งจะมีอาการคล้ายๆ กับการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนเข้าไปอย่างเช่น การดื่มชา และกาแฟ เป็นต้น
3. กาแฟชาและน้ำอัดลม
การให้สุนัขดื่มเครื่องดื่มประเภทชากาแฟและน้ำอัดลมเข้าไปนั้น จะเป็นอันตรายต่อร่างกายและชีวิตสุนัขเป็นอย่างมาก เพราะชาและกาแฟประกอบไปด้วยสารคาเฟอีนที่ทำให้หัวใจนั้นเต้นไม่เป็นจังหวะ กล้ามเนื้อเกร็ง หากสุนัขกินเข้าไปมากจนเกินไปอาจจะทำให้ช็อกและเสียชีวิต รวมไปถึงการดื่มน้ำอัดลมจะทำให้ท้องเสีย และอาจเป็นลำไส้อักเสบได้
4. หัวหอมและกระเทียม
หัวหอมและกระเทียมมีสารที่เรียกว่า ไทโอซัลเฟต ซึ่งเป็นสารที่สามารถทำให้สุนัขมีอาการหายใจถี่หรือหัวใจเต้นเร็วได้ ซึ่งหากให้กินในปริมาณมาก หรือกินสะสมเป็นเวลานานๆ จะทำให้สุนัขเป็นโรคโลหิตจาง และการที่ให้สุนัขนั้นกินหัวหอมและกระเทียมนั้นจะทำให้น้องระคายเคืองบริเวณลำไส้ ทำให้ไม่สบายท้องและป่วยได้
5. ยารักษาโรคของคน
เนื่องจากโครงสร้างร่างกายของสุนัขนั้นไม่เหมือนกับคน จะมีความบอบบางกว่าคนมาก ซึ่งหากต้องการรักษาสุนัขเมื่อเจ็บป่วยแล้วให้กินยาของคน นอกจากสุนัขจะไม่หายจากการป่วยแล้ว ยังอาจเป็นอันตรายได้ เพราะยาบางชนิดของคนอาจเป็นพิษต่อสุนัข เพราะฉะนั้นเมื่อสุนัขไม่สบายต้องไปพบสัตว์แพทย์ เพื่อให้สุนัขได้รับยาของสุนัขโดยเฉพาะ
วิธีการเก็บอาหารเม็ดสุนัขที่เปิดแล้ว
ใช้ถุงซิปล็อคเมื่อให้อาหารเสร็จแล้วก็สามารถปิดได้เลย หรือหากบางแบรนด์ที่ไม่มีซิปล็อค ให้มัดหรือปิดปากถุงให้สนิท เพื่อป้องกันอากาศ แมลงสาป หรือมดแมลงต่างๆ และเชื้อโรคบริเวณนั้นเข้าไปในอาหาร หากซื้อถุงใหญ่มาควรแบ่งส่วนที่จะกินในหนึ่งสัปดาห์ในกล่องที่แห้งแยกไว้ ส่วนที่เหลือควรเก็บในอุณหภูมิห้องปกติหรืออุณหภูมิระหว่าง 15-40 องศาเซลเซียส และไม่ควรวางอาหารสุนัขไว้กลางแดด
อาหารสุนัขแบบเม็ด ถูก และ แพง เอายี่ห้อไหนดีนะ
สรุป
อาหารเม็ดสุนัขมีสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน ถ้าฝึกกินตั้งแต่เด็กแล้ว สุนัขจะมีวคามสมบูรณ์ แข็งแรง ดีกว่าให้กินอาหารคนอย่างแน่นอน เป็นการช่วยให้น้องได้รับสารอาหารที่ดี มีประโยชน์และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่ต้องเลือกซื้อที่มีประโยชน์และมีคุณภาพเพื่อสุขภาพที่ดีของน้องหมาที่คุณรัก
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
