ผ้านวมหนึ่งในเครื่องนอน ที่มีส่วนสำคัญอย่างมากสำหรับการนอนหลับของเรา ไม่เพียงแค่ผ้าปูที่นอน, ปลอกหมอนหนุน และปลอกหมอนข้างเพียงเท่านั้น เราควรจะใส่ใจในการพิจารณาเป็นพิเศษ ถ้าเราได้เลือกซื้ออย่างดี ที่มีความหนานุ่ม ละมุน ห่มแล้วอบอุ่นสบายตัว จะทำให้เรานอนหลับสบาย ไม่ต่างจากการไปนอนโรงแรม 5 ดาวด้วยซ้ำไป
สำหรับหมวดหมู่เครื่องนอนที่น่าสนใจที่เราคัดมาให้ ได้แก่ ที่มาพร้อมกับ ชุดเครื่องนอน , ผ้าปูที่นอน , ที่นอนสปริง , ที่นอนยางพารา , ที่นอน 3.5 ฟุต , ที่นอนเป่าลม , หมอนขนเป็ด , หมอนขนห่าน , หมอนรองคอ , topper , เตียง 2 ชั้น , ที่นอนสปริงตัวท็อป , เครื่องดูดไรฝุ่น , ถุงนอน , หมอนยางพารา
และยังมีเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ ยกตัวเอย่างเช่น ประตูบานเลื่อน , ชั้นวางทีวี , เก้าอี้พับนอน , เก้าอี้โยก , เตียงพับ , Bean bag , เก้าอี้สำนักงาน , โซฟาเดี่ยวปรับนอน , โต๊ะข้างเตียง , โต๊ะกลางโซฟา , โต๊ะรับแขก , โต๊ะญี่ปุ่น , โต๊ะหมู่บูชา , ผ้าคลุมโซฟา , ตู้ยา ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
ผ้านวม คืออะไร
คือ ผ้าที่ใช้ในการห่มตัว มีขนาดเท่ากับขนาดของเตียงมาตรฐาน ตั้งแต่ 3.5 ฟุต, 5 ฟุต และ 6 ฟุต มีความแตกต่างและหลากหลายในประเภท, วัสดุด้านในไส้ผ้านวม, วัสดุพื้นผิวด้านนอก ถือว่าเป็นเครื่องนอน ที่มีความสำคัญช่วยให้เรานอนหลับสบายตลอดทั้งคืน
ผ้านวม กับ ผ้าห่ม ต่างกันอย่างไร
ลักษณะของผ้านวม
มีความนุ่มฟูด้วยวัสดุที่บุเป็นไส้ผ้านวมด้านใน ไม่ว่าจะเป็นเส้นใยธรรมชาติ อย่างเส้นใยฝ้าย 100%, เส้นใยสังเคราะห์ หรือขนเป็ด เป็นต้น
ส่วนวัสดุด้านนอกของเครื่องนอนชิ้นนี้นั้น จะมีตั้งแต่เนื้อผ้าธรรมดาอย่างเช่น ผ้าฝ้าย, ผ้าไนลอน, ผ้า TC หรือแม้ผ้าคอตตอนซาติน ที่มีลักษณะมันเงา และมีความหรูหราในตัวเนื้อผ้า รวมถึงคุณสมบัตินี้ จึงมีการนำมาตัดเย็บเป็นวัสดุภายนอกที่มีคุณภาพที่โรงแรม 5 ดาวไว้ใจเลือกใช้สำหรับห้องพัก
ซึ่งในเรื่องข้อดีก็คือ ใช้ในการกันหนาวได้ดีกว่า ผ้าห่ม แต่ในทางกลับกัน ในการนำมาซักนั้น อาจจะต้องใช้เครื่องซักผ้าที่มีการรองรับได้พอ และถ้าเป็นเครื่องอบผ้า ก็ควรที่จะมีการรองรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 12 กิโลกรัม
ลักษณะของผ้าห่ม
เป็นผ้าที่ไม่มีการบุไส้ด้านใน ใช้ในการห่มตัวกับสภาพอากาศที่ไม่ได้มีความหนาวมาก ใช้เพียงแค่กันความเย็นเท่านั้น อย่างเช่น การนอนเปิดแอร์ในห้อง ที่มีอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส ผ้าห่มอาจจะมีขนาดที่แตกต่างกันไป ซึ่งบางเนื้อผ้าอาจจะไม่ได้ตัดเย็บขนาด 5 ฟุต หรือ 6 ฟุต
ส่วนประกอบของผ้านวม
ส่วนวัสดุด้านนอก
หากเราต้องการเนื้อผ้า ที่ให้ความหนา และมีความสบายนั้น ควรที่จะเลือกเส้นด้ายในการทอจำนวนที่มากกว่า 335-500 เส้นด้าย ต่อ 10 ตารางเซนติเมตร
ซึ่งหากเป็นผู้ใช้ที่ต้องการความนุ่มสบายของตัวเนื้อผ้าด้านนอกผ้านวมนั้น เราสามารถที่จะเลือกเป็นเนื้อผ้าฝ้ายธรรมชาติ ที่ถึงแม้อาจจะให้ความยับบ้าง แต่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการระบายอากาศได้ดี ให้ความสะดวกในเรื่องของการนำไปซักทำความสะอาด และสามารถอบหรือตากให้แห้งได้เร็วกว่าเนื้อผ้าชนิดอื่นๆ
แต่ถ้าเราต้องการเนื้อผ้าที่ดูหรูหรา ในระดับที่โรงแรมหลายดาวนำไปใช้บริการภายในห้องพักกันนั้น เราอาจจะเลือกเนื้อผ้าคอตตอนซาติน ที่นอกจากจะให้ความเย็นสบายเมื่อสัมผัสแล้วนั้น ตัวเนื้อผ้ายังมีความนุ่มลื่น เมื่อนำมาห่มนอนแล้วจะรู้สึกสบาย และให้ความอบอุ่นร่วมด้วย
ส่วนวัสดุด้านใน
หากมีน้ำหนักเบา วัสดุภายในส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเส้นใยสังเคราะห์ หรือเส้นใยฝ้ายที่มีความนุ่มเบา และรวมถึงสามารถนำไปซักได้ง่าย แห้งได้เร็ว เหมาะที่จะนำไปใช้ในห้องนอนที่เปิดเครื่องปรับอากาศที่มีอุณหภูมิ ตั้งแต่ 20 – 24 องศาเซลเซียส ได้แบบความเย็นกำลังพอดี
แต่หากเป็นสถานที่ตามต่างจังหวัด โดยเฉพาะหน้าหนาวทางตอนเหนือของไทย หรือแม้แต่ประเทศที่มีหิมะตกนั้น จำเป็นที่จะต้องเลือกวัสดุด้านใน ที่เป็นขนเป็ด หรือขนห่าน ที่มีความสามารถ หรือคุณสมบัติเด่น ในการเก็บกักความร้อน เพื่อให้ความอบอุ่นในเวลาที่เรานำมาห่มตัว
ผ้านวมมีกี่ประเภท
ซึ่งเราสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ
1.ประเภทไม่มีปลอก
ไม่ว่าจะเป็นขนาด 3.5 ฟุต, 5 ฟุต หรือ 6 ฟุตก็ตาม เราจะเห็นบ่อยในการสั่งซื้อผ่านออนไลน์ หรือตามร้านค้า ซึ่งเนื้อผ้าที่เป็นวัสดุพื้นผิวด้านนอกของผ้านวม ก็จะมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น คอตตอนซาติน, ผ้าฝ้าย หรือไนลอนก็ตาม ซึ่งก็จะให้การสัมผัสที่แตกต่างกันไป
สำหรับการนำมาทำความสะอาด หรือการนำมาซักและอบนั้น ก็จำเป็นที่จะต้องหมั่นนำมาซัก อย่างน้อยๆ เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก หรือการเกิดอาการภูมิแพ้ต่างๆ ก็จะมีความลำบากมากกว่า ในแบบที่มีปลอก
2.ประเภทมีปลอก
นอกจากที่จะช่วยในการนำมาซักทำความสะอาดได้ง่ายแล้วนั้น ยังถือว่าเป็นอีกส่วน ที่ทำให้ผู้ใช้ ได้มีโอกาสในการเลือกทั้งสี และลวดลายสำหรับปลอกใส่ ที่หลายคนสามารถเลือกซื้อเก็บ ไว้สำหรับเปลี่ยนได้ทุกอาทิตย์อีกด้วย
ในทางกลับกัน หากเราไม่มีปลอกใส่ การนำไปซักก็มีความยุ่งยาก อีกทั้งยังไม่สามารถซักได้บ่อย เพราะการแห้งก็ช้ากว่าการซักเพียงแค่ปลอกผ้านวมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยเฉพาะไส้ผ้านวมที่เป็นขนเป็ด หรือขนห่าน นั้นควรที่จะหลีกเลี่ยงการนำไปซัก, การโดนน้ำยาซักผ้า หรือแม้แต่การนำไปตากแดด จึงควรที่จะใช้ปลอกสวมเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกเพื่อช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
วิธีเลือกซื้อผ้านวม
1.เลือกตามวัสดุไส้ผ้านวม
เส้นใยสังเคราะห์ หรือเส้นใยฝ้าย
มีคุณสมบัติให้ความเย็น และเบาสบาย มีความนิยมในการนำมาบุเป็นไส้ผ้านวม สามารถซักง่าย และแห้งได้เร็ว เหมาะกับการนำมาใช้ในพื้นที่ๆ ไม่ได้มีอากาศหนาวมาก รวมถึงสำหรับห้องที่ใช้งานเพียงแค่ กันหนาวกับแอร์อินเวอร์เตอร์ที่เปิดเท่านั้น
ขนเป็ด หรือขนห่าน
วัสดุขนเป็ด หรือขนห่านนั้น มีคุณสมบัติที่ให้ความอบอุ่น มีความสามารถเก็บความร้อน เพื่อเป็นประโยชน์ในการใช้งานได้ดี เหมาะกับการนำมาห่มให้ความอบอุ่น ที่มากกว่าอย่างอื่น แต่สามารถให้ได้ทั้งความอุ่น และความเย็นสบาย
2.เลือกตามวัสดุผ้าด้านนอก
ผ้าคอตตอนซาติน
เนื้อผ้าที่มีการทอระหว่างผ้าฝ้ายหนา 1 นิ้ว และผ้าซาตินหนา 1 นิ้ว ที่มีการทอสลับกันไป ในลักษณะด้ายพุ่งด้ายยืน จึงทำให้ตัวเนื้อผ้ามีความมันเงา คล้ายกับผ้าไหม หรือผ้าแพร โดยเส้นด้ายที่นำมาทอ มีจำนวนตั้งแต่ 250 เส้นต่อตารางนิ้ว ซึ่งในลักษณะเนื้อผ้าชนิดนี้นั้น เรามักจะได้เห็นในโรงแรม 5 ดาวขึ้นไปนำมาใช้ในห้องพัก ซึ่งถือว่าเป็นเนื้อผ้าที่มีคุณภาพดี
ผ้าไนลอน
ผ้าไนลอนมีลักษณะเป็นเส้นใยสังเคราะห์ ลักษณะของเนื้อผ้ามีความลื่น อีกทั้งข้อดีของผ้าไนลอน คือไม่ยับง่าย และตัวเส้นใยของไนลอนนั้น มีน้ำหนักเบา และยืดหยุ่น ดังนั้นจะเห็นได้ว่า มีความนิยมในการนำมาตัดเย็บเป็นพื้นผิวผ้าด้านนอกของตัวผ้านวม
ผ้าฝ้าย
ได้จากการทอฝ้ายที่มาจากธรรมชาติ 100% มีคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับทั้งการนำไปตัดเย็บเป็นเสื้อผ้า หรือนำมาเย็บเป็นวัสดุพื้นผิวภายนอกสามารถระบายความร้อน และดูดซึมน้ำ และความชื้นได้เป็นอย่างดี มีความสะดวกในการนำไปซักทำความสะอาด แห้งได้เร็ว
ผ้า TC
เป็นผ้าที่มาจากการผลิตระหว่างเส้นใยสังเคราะห์ และเส้นใยธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการยืดหดตัวได้ดี แต่ในทางกลับกันนั้น ผ้าชนิดนี้กลับระบายอากาศหรือระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่ากับ ผ้าที่ทอมาจากเส้นใยธรรมชาติ อย่างเช่น ผ้าฝ้าย เป็นต้น
3.เลือกตามขนาด
ส่วนใหญ่ขนาดที่ผลิตออกมาจะเท่ากับ ขนาดของที่นอน มีตั้งแต่ 3.5 ฟุต, 5 ฟุต และ 6 ฟุต
วิธีซักผ้านวม
1.ตรวจดูคราบสกปรก
ก่อนที่จะนำผ้านวมลงเครื่องซักผ้านั้น ควรดูก่อนว่า มีรอยเปื้อน หรือคราบสกปรกอะไรหรือไม่ หากมีให้ใช้น้ำยาซักผ้าป้ายตรงรอยเปื้อน แล้วใช้น้ำลูบตรงคราบสกปรกนั้น และขยี้ด้วยมือเพื่อให้คราบสกปรกนั้น จางลง และจะช่วยให้ซักได้ง่ายขึ้นเมื่อนำลงเครื่อง
2.ม้วนก่อนซัก
ม้วนตัวผ้าก่อนที่จะนำลงเครื่อง เพื่อให้น้ำยาซักผ้า ทำความสะอาดได้ทั่ว
3.ตั้งค่าเครื่องซักผ้า
ควรตั้งค่าโหมดถนอมผ้า ที่ตัวเครื่องซักผ้า และควรเลือกน้ำยาซักผ้าที่เป็นสูตรอ่อนโยน เพื่อถนอมเนื้อผ้า และตัวไส้แทนที่ผงซักฟอก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาคราบขาวหลังการซัก
4.การนำไปตาก
เมื่อปั่นแห้งเรียบร้อยแล้ว ควรสะบัดให้ไส้ผ้านวมกระจาย ไม่จับเป็นก้อน จากนั้นนำไปตาก
5.เมื่อผ้าแห้ง
เมื่อผ้าแห้งแล้ว ควรที่จะนำมาตีให้เกิดการฟู พร้อมที่จะนำมาใช้งาน
6.ข้อห้ามหากไส้ผ้านวมเป็นวัสดุขนเป็ด
ไม่ควรที่จะนำมาซักลงเครื่อง เพราะจะทำให้ขนเป็ดด้านในจับตัวกันเป็นก้อน และไม่สามารถใช้งานได้อีก
7.หมั่นนำมาทำความสะอาด
ควรมีการนำชุดเครื่องนอนชนิดนี้ มาซักอย่างน้อยๆ เดือนละ 1 ครั้ง หรือ 2 อาทิตย์ต่อ 1 ครั้ง
ผ้านวมควรอบกี่นาที
ส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการอบ 25 นาที ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับขนาดของตู้อบผ้า โดยควรพิจารณาเลือกตู้อบผ้า ที่รองรับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 12 กิโลกรัมขึ้นไป
ปลอกผ้านวมแบบแยกไส้ กับ แบบเย็บติด ต่างกันยังไง?
สรุป
ผ้านวม มีส่วนประกอบที่เป็น เนื้อผ้าภายนอก และตัววัสดุที่เป็นไส้ด้านใน การเลือกซื้อควรคำถึงถึงการใช้งานเป็นหลัก การเก็บรักษาและการทำความสะอาดที่ถูกวิธีจะช่วยยืดอายุไปได้อีกยาวนาน
ยุ้ย ปิยวรรณ เป็นนักวิเคราะห์ วิจารณ์ ชำนาญการเรื่องเครื่องนอน ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการนอน มีประสบการณ์การตลาดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ชุดเครื่องนอนยาวนานมากกว่า 10 ปี
