ตู้ยาบางบ้านมีบางบ้านไม่ได้ใช้ แต่ถ้าบ้านไหนมีแล้วช่วยให้เราเก็บยาสามัญ หรือยาโรคประจำตัวที่ต้องกินทุกวันได้อย่างมีระเบียบ เก็บง่าย หาง่ายซึ่งในเนื้อหานี้เรามาเจาะลึกกันว่ายาสามัญประจำบ้านที่ควรติดบ้านไว้มีอะไรบ้าง การเลือกซื้อที่ถูกวิธี การติดตั้ง การจัดยาเพื่อให้เข้าใจและเตรียมยาสามัญประจำบ้านได้อย่างถูกชนิดกัน
ยังมีเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ ยกตัวเอย่างเช่น เก้าอี้พับนอน , ชั้นวางทีวี , ชั้นวางหนังสือ , ชั้นวางของ , เก้าอี้โยก , เก้าอี้ ergonomic , เตียงพับ , เก้าอี้สำนักงาน , โซฟาเดี่ยวปรับนอน , โต๊ะข้างเตียง , โต๊ะกลางโซฟา , โต๊ะรับแขก , โต๊ะญี่ปุ่น , โต๊ะหมู่บูชา , ผ้าคลุมโซฟา , ตู้ยา , ประตูบานเลื่อน , Bean Bag ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
ตู้ยา คือ
คือ ตู้ที่มีไว้สำหรับจัดเก็บยาสามัญประจำบ้านได้อย่างปลอดภัย ควรเป็นตู้ทึบแสง ประตูบานหน้าควรเป็นกระจกเพื่อมองเห็นยาด้านในได้อย่างชัดเจนทำจากวัสดุไม้ เหล็ก หรือ PVC
ที่มีคุณสมบัติในเรื่องของน้ำหนักที่เบาสามารถเป็นได้ทั้งแบบติดผนัง แบบแขวน และออกแบบมาเป็นสไตล์โมเดิร์น วินเทจ หรือแบบปกติทั่วไปได้เช่นกัน ซึ่งตู้ยาควรมีติดไว้กันทุกครัวเรือนเพื่อใช้ในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน จะสามารถหยิบยาสามัญประจำบ้านมารักษาได้ก่อนเบื้องต้น
คุณสมบัติของตู้ยาที่ดี
1.ควรเป็นตู้ทึบแบบกันแสง
เนื่องจากตัวยาทุกชนิดไม่ควรโดนแสงแดดโดยด้านหน้าของตู้อาจเป็นกระจกบานเลื่อนเพื่อให้มองเห็นว่าข้างในมียาอะไรบ้าง
2.มีชั้นแยกยา
การมีชั้นวางจะช่วยให้จัดวางยา หรือแยกประเภทของยา ได้อย่างชัดเจน ซึ่งสามารถแบ่งประเภทของยาใช้สำหรับภายใน กลุ่มยาใช้ภายนอก และอุปกรณ์เวชภัณฑ์ที่จำเป็น เช่น แผ่นลดไข้
3.ขนาดที่เหมาะสม
ควรเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่ หรือ เล็กเกินไป ที่เหมาะสมควรบรรจุได้เพียงพอกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว
การเลือกซื้อตู้ยา
1.ควรเลือกจากวัสดุในการผลิต
ควรใช้วัสดุพลาสติก ABS คุณภาพดี ที่มีความคงทน ทนทาน ด้วยเนื้อพลาสติก ABS มีคุณสมบัติเด่นที่แข็งแรง และยืดหยุ่น ทนอุณหภูมิได้ดี มีจุดหลอมเหลวที่สูงถึง 200 องศาเซลเซียส ทนความร้อนได้สูงกว่าพลาสติกชนิดอื่น มีความนุ่ม ไม่โปร่งใส
2.ขนาดตู้
ก่อนซื้อควรเช็คขนาดพื้นที่ที่คุณจะไปติดตั้งไว้ก่อน วัดจากความกว้าง ความยาว ความสูง เท่าไหร่ จากนั้นนำไปเปรียบเทียบกับจุดที่จะติดตั้งว่าขนาดตู้ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป เพื่อการติดตั้งตู้ยาที่ลงตัวกับพื้นที่ที่จะนำไปวาง
3.ประเภทของตู้
มี 2 ประเภท คือ แบบตั้งพื้น กับ แบบแขวนผนัง ที่สามารถเก็บรักษายาสามัญประจำบ้านได้อย่างดี
แขวนผนัง
ส่วนใหญ่ขนาดแบบแขวนผนังจะมีขนาดที่พอเหมาะเพื่อการติดตั้งแขวนได้อย่างมั่นคง โดยหูที่สำหรับเกี่ยวกับผนังจะมีความแข็งแรงทนทานเพราะเมื่อเราใส่ตัวยาลงไปอาจจะมาด้วยน้ำหนักของยา หรือ น้ำหนักของแอลกอฮอล์ น้ำเกลือ จะเพิ่มน้ำหนักของตู้มากขึ้น การยึดเหนี่ยวก็ต้องแข็งแรง ขณะเดียวกันควรติดตั้งตู้แขวนผนังในระดับที่ผู้ใหญ่สามารถหยิบยาได้ง่ายสะดวก เพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ หยิบยาไปเล่น
แบบตั้งพื้น
มีขนาดใหญ่พอสมควร เหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรม คลินิก บริษัทห้างร้านที่มีพนักงานทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะขนาดของตู้ที่สามารถจัดเก็บยาได้หลายชนิด เช่น ยาแก้ท้องผูก ยาแก้ปวดท้อง ยาแก้แพ้ ยาละลายเสมหะ
รวมถึงเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น อุปกรณ์ทำแผลสด แมสเกาหลี แอลกอฮอล์ ปรอทวัดไข้ดิจิตอล , แผ่นลดไข้ เนื่องจากมีพื้นที่ขนาดใหญ่ สามารถเก็บจัดเก็บยาได้จำนวนมาก
วิธีจัดตู้ยาที่ถูกต้อง
1.ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม
ก่อนจัดตู้ยามาเริ่มกันที่ตำแหน่งการติดตั้งกันก่อน ซึ่งยาจะมีทั้งกล่อง ภาชนะต่าง ๆ ที่สำหรับเก็บรวบรวมยา โดยตำแหน่งที่เหมาะสมต้องอยู่ในตำแหน่งที่มีความสูงประมาณ 150 เซนติเมตร หลีกเลี่ยงมุมที่เด็กจะหยิบถึงเพื่อป้องกันการหยิบยามากินเล่นจนทำให้เกิดอันตรายได้
นอกจากนี้ควรติดตั้งในมุมที่มีอุณหภูมิพอเหมาะ ไม่ให้โดนแสงแดด อากาศร้อน หรือชื้นจนเกินไป อย่างบริเวณหน้าห้องน้ำ ห้องครัว เพราะความชื้น และแสงแดด จะเป็นตัวทำลายยาในตู้ให้เสื่อมคุณภาพลง
2.จัดเตรียมยาสามัญประจำบ้านให้พร้อม
การมีตู้ยาสามัญประจำบ้านติดบ้านไว้เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการเจ็บไข้ได้ป่วยคงไม่มีใครคาดคิดมาก่อนและไม่รู้ได้เลยว่าจะเกิดขึ้นวันไหนเมื่อไหร่ ดังนั้นควรเตรียมยาสามัญประจำบ้านให้พร้อม เช่น ยาแก้ปวด ยาลดไข้ ยาแก้ปวดท้อง ท้องเสีย อุปกรณ์ทำแผล เป็นต้น
3.จัดฉลากยาให้เห็นอย่างชัดเจน
ฉลากยาบนบรรจุภัณฑ์มีความสำคัญมาก ๆ ซึ่งจะต้องมีทั้งชื่อ สรรพคุณ ขนาด วิธีใช้ วันหมดอายุระบุให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดจนทำให้เกิดอันตราย หากพบว่าตัวยาไหนฉลากเริ่มจางลงก็ให้นำกระดาษมาแปะเขียนวันหมดอายุ
เขียนชื่อยา สรรพคุณสั้น ๆ ลงไปเพื่อการหยิบยาทานได้ถูกต้อง และที่สำคัญหากบรรจุภัณฑ์ยาอยู่ในสภาพดีแล้วก็ไม่ควรแกะออกจากซองแล้วเก็บในตลับยาเป็นเวลานาน เพราะตลับยาเหล่านี้อาจไม่ได้มาตรฐาน ส่วนยาน้ำก็ควรอยู่ในขวดสีชาที่ทึบแสงเพื่อคงคุณภาพยาได้ยาวนาน
4.คัดแยกยาออกเป็นกลุ่ม ๆ
ยามีอยู่หลายประเภทด้วยกัน ทำให้คุณต้องจัดยาออกเป็นกลุ่ม ๆ ให้ชัดเจน คือ การแยกกลุ่มของยาออกเป็นกลุ่มง่าย ๆ แยกหมวดหมู่ตามการใช้งาน จัดหากล่องมาใส่แยกกลุ่มแยกกล่องให้ชัดเจน เช่น กล่องยา First Aid
และทั้งยาภายในและยาภายนอก รวมถึงอุปกรณ์เสริม เวชภัณฑ์ เช่น อุปกรณ์ทำแผล แอลกอฮอล์ น้ำเกลือ สำลี เครื่องวัดอุณหภูมิ ยาหม่อง ยาดม
5.ทำความสะอาดให้พร้อมใช้งาน
ควรหมั่นทำความสะอาดตู้ด้วยการเช็ดทำความสะอาด ตรวจสอบยาสามัญประจำบ้าน เติมยาที่ใช้ไปแล้ว คัดแยกยาตัวที่หมดอายุออกจากตู้ แม้ว่ายาหมดอายุแล้วแต่ยังคงสภาพดีอยู่ก็ตาม ก็ไม่ควรเก็บไว้ให้สับสน
ตู้ยาควรติดตั้งไว้ตรงไหนของบ้าน
ควรหาที่ติดตั้งโดยไว้ที่สูงๆที่ที่เด็กเอื้อมไม่ถึง และไม่ควรติดตั้งในที่ที่ถูกแสงแดดโดยตรง ไม่สัมผัสกับความชื้นได้ง่ายเพราะอาจทำให้ยาเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
รีวิว ติดตู้ยาสามัญประจำบ้าน
สรุป
ตู้ยาเมื่อคุณติดตั้งแล้วควรจัดเตรียมยาสามัญประจำบ้านไว้ให้ครบชุดโดยอย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุ เพื่อการหยิบยาไปกินจะได้ไม่ต้องกินยาหมดอายุ เพราะอาจส่งผลเสียตามมาได้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือการเตรียมตัว ดูแลรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ เพราะหากร่างกายคุณแข็งแรง ก็จะหนีห่างไกลจากยา ไม่ต้องกินยาบ่อย การกินยาบ่อยช่วยรักษาในเบื้องต้นแต่หากกินเป็นประจำก็อาจส่งผลทำร้ายร่างกายได้เช่นกัน
อ้างอิง
- รายการยาสามัญประจำบ้าน : หาหมอ
- ยาสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดบ้านไว้ : พบแพทย์
เจ้าของร้านขายยาโดยเภสัชกรชั้นนำหลายสาขา ขายดีจ่ายยาแล้วคนไข้หายจนเป็นที่ยอมรับ การศึกษาปริญญาตรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทจากประเทศออสเตรเลีย มีความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับ สุขภาพ อาหารเสริม ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี