ผ้าปูที่นอนเสมือนเสื้อผ้าที่เราจะออกแบบว่าชอบสไตล์ไหน นอกจากประโยชน์การใช้งานของตัวเนื้อผ้าแล้วนั้น สิ่งหนึ่งที่เราใช้เวลาในการนั่งเลือกกันก็คือ ลวดลาย, สีสัน, รูปภาพ และการคุมธีมการแต่งห้องให้ไปได้ดีทั้งสีห้อง, การแต่งห้อง และสีของผ้าปูเตียงร่วมด้วย
อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเครื่องนอนอื่นๆ ถ้าสนใจสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดได้เลยจ้า ชุดเครื่องนอน , ที่นอนสปริง , ที่นอนยางพารา , ที่นอน 3.5 ฟุต , ที่นอนเป่าลม , หมอนขนเป็ด , หมอนขนห่าน , หมอนรองคอ , topper , เตียง 2 ชั้น , ที่นอนสปริงตัวท็อป , เครื่องดูดไรฝุ่น , ถุงนอน , ผ้านวม , หมอนยางพารา
และยังมีเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ ยกตัวเอย่างเช่น ประตูบานเลื่อน , ชั้นวางทีวี , เก้าอี้พับนอน , เก้าอี้โยก , เตียงพับ , Bean bag , เก้าอี้สำนักงาน , โซฟาเดี่ยวปรับนอน , โต๊ะข้างเตียง , โต๊ะกลางโซฟา , โต๊ะรับแขก , โต๊ะญี่ปุ่น , โต๊ะหมู่บูชา , ผ้าคลุมโซฟา , ตู้ยา ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
ผ้าปูที่นอน คืออะไร
คือ ผ้าคุลมเตียงซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งของเครื่องนอนแบบฟูลเซ็ตที่มีทั้ง ผ้าปูเตียง, ปลอกหมอน, ปลอกหมอนข้าง, ผ้าคลุมเตียง, ผ้ารองที่นอน และผ้านวม เครื่องนอนทั้งหมดนี้ เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในการนอนหลับของเรา
มีหลากหลายเนื้อผ้ายี่ห้อดีๆนอนแล้วสบายให้ความรู้สึกลื่น, นุ่ม, สามารถระบายอากาศได้ดี, ช่วยในการดูแลรักษาความสะอาดได้ง่าย และยังช่วยถนอมที่นอน เพื่อให้ดูใหม่อยู่เสมอ อีกทั้งยังสามารถเลือกลาย ความสวยงาม และเนื้อผ้าได้ตามความต้องการ
ขนิดของผ้าปูที่นอน
แบ่งตามเนื้อผ้า
1.ผ้าใยธรรมชาติ 100%
เป็นผ้าฝ้าย 100% หรือผ้าคอตตอนนั่นเอง ซี่งโดยลักษณะส่วนใหญ่แล้ว เราหลายคนมักที่จะเลือกเนื้อผ้าขนิดนี้เพื่อมาเป็นผ้าปูเตียง เพราะมีการดูแลรักษาในเรื่องของการซักที่ง่าย อีกทั้งตัวเนื้อผ้ายังมีความนุ่ม เนื้อผ้าเบา ผู้ใช้ที่มีผิวสัมผัสที่แพ้ง่าย หรือระคายเคืองได้ง่าย ก็สามารถที่จะใช้เนื้อผ้าชนิดนี้ได้
2.ผ้าซาติน หรือโพลีเอสเตอร์
เป็นเนื้อผ้าที่มีการทอมาจากใยสังเคราะห์อย่าง เส้นใยโพลีเอสเตอร์ ซึ่งจะให้ลักษณะเด่นของเนื้อผ้าคือ เป็นชุดเครื่องนอนที่ให้ความพลิ้วไหว เนื้อผ้ามีความลื่น, มัน และสิ่งที่ผู้ใช้หลายคนชอบก็คือ ให้ความเย็นในเวลาที่นอน
ซึ่งเหมาะกับประเทศที่มีอากาศร้อนอย่างยิ่ง แต่ในทางกลับกัน บางคนก็อาจจะไม่ชอบเนื้อผ้าแบบนี้ ที่มักจะมีปัญหาในการพลิกตัวบนเตียง และเนื้อที่ให้ความลื่นมากเกินไป
3.ผ้าฝ้าย 100% ผสมกับผ้าซาติน
เป็นการทอเนื้อผ้าที่สลับริ้ว โดยเน้นผ้าฝ้าย 100% กับผ้าซาติน เนื้อผ้าชนิดนี้จะเน้นในเรื่องการแก้จุดบกพร่องของเนื้อผ้าซาติน ที่มีความมัน และลื่นมากจนเกินไป การเติมเส้นใยฝ้ายเข้าไป จะทำให้เนื้อผ้ามีความนุ่ม และเบาเหมือนเดิม แต่จะเพิ่มความสบายผิวเมื่อสัมผัส และลดความลื่นในตัวเนื้อผ้าลง
4.ผ้าสักลาด หรือผ้ากำมะหยี่
จุดเด่นของเนื้อผ้าชนิดนี้คือ การให้ความอุ่นได้ดี เราจึงมักเห็นผู้คนในแถบยุโรป ที่มีอากาศหนาว หรือหิมะตก นิยมใช้เนื้อผ้าชนิดนี้เป็นทั้งผ้าคลุมเตียง และผ้าปู ซึ่งหากนำมาใช้ในประเทศเขตร้อนนั้น เนื้อผ้าอาจจะมีการระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่ากับเนื้อผ้าที่เป็นใยฝ้าย แต่ในจุดเด่นก็มีคือ เนื้อผ้ามีความหนา และนุ่ม
5.ผ้าใยไผ่
เส้นใยไผ่เมื่อนำมาทอเป็นผ้า และรวมถึงการนำมาผลิตเป็นผ้าปูเตียงนั้น เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหา ผิวหนังที่มีความระคายเคืองง่าย, อีกทั้งเนื้อผ้าที่มีความบางเบา, เรียบ และลื่นนั้น ยังเทียบเท่าได้กับใยฝ้ายจากธรรมชาติอีกด้วย
แต่สิ่งที่เนื้อผ้าชนิดนี้ ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศเราคือ การที่เนื้อผ้าสามารถปรับสภาพตามอุณหภูมิของห้องนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น อากาศภายในห้องร้อน เนื้อผ้าจะให้ความเย็นสบาย
ในอีกทางหนึ่งหากนำมาใช้ในช่วงหน้าหนาว เนื้อผ้าจะให้ความอบอุ่น รวมถึงการดูดซับความอับชื้นได้ดี ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเชื้อรา หรือกลิ่นเหม็นอับ รวมถึงใยไผ่จะมีสาร Bamboo Kun ที่ป้องกันการเกิดเชื้อแบตทีเรียได้อีกด้วย
แบ่งตามรูปแบบการปูเตียง
1.แบบรัดมุม
เป็นรูปแบบที่มีความนิยมใช้ และมีตัวเลือกสำหรับสี และลวดลายที่มากกว่าในแบบปล่อยชาย เอื้ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน หรือผู้ที่ปูเตียงได้ง่าย เพียงสอดมุมของผ้าปูเตียงเข้ากับมุมของที่นอน หรือฟูกเพียงเท่านั้น ก็จะได้เตียงที่มีการปูแน่น และตึง โดยไม่ต้องเสียเวลา และไม่จำเป็นต้องใช้ความชำนาญ
2.แบบปล่อยชาย
จะเน้นในการใช้งานในโรงแรม หรือห้องพัก ที่เน้นโทนสีขาวเท่านั้น เพื่อให้ผู้มาพักได้รู้สึกถึงความสะอาด อีกทั้งการปูเตียงด้วยการใช้ผ้าปูในรูปแบบนี้ จำเป็นที่จะต้องมีการฝึก และเรียนรู้การปูเตียงจนเกิดความชำนาญ
ที่เราอาจจะเคยเห็นๆ กันถึงวิธีการทดสอบความตึงของผ้าปูเตียง ที่เกิดจากการปูในรูปแบบนี้ คือการโยนเหรียญให้หล่นกลางเตียง เพื่อให้เหรียญเด้งขึ้น นั่นแสดงว่าความตึงของเตียงใช้ได้
ขนาดของผ้าปูที่นอน
1.ขนาด 3.5 ฟุต
คือ Single Size หรือขนาด 106×198 เซนติเมตร โดยที่เรามักจะเห็นว่า ห้องนอนของเด็กที่อายุได้ 5 ขวบขึ้นไป คนตะวันตกจะเริ่มให้มีห้องนอนส่วนตัว และส่วนใหญ่จะใช้เตียงขนาดนี้ เพื่อให้เด็กได้นอนในแบบพอดีตัว และมีพื้นที่บนเตียงเผื่อเหลือเล็กน้อย เตียงขนาดเท่านี้จึงเหมาะกับผ้าปูเตียงในขนาดเดียวกัน
2.ขนาด 5 ฟุต
เรียกว่าเป็นเตียงขนาด Qeen Size ก็ได้ เตียงขนาดนี้อาจใช้ได้สำหรับการนอนคนเดียว สำหรับคนที่ชอบนอนที่กว้างกว่าเตียงแบบ Single Size หรือในอีกกรณีหนึ่งคือ คู่ของสามีภรรยาที่อาจจะต้องการ ประหยัดพื้นที่ภายในห้องนอน
3.ขนาด 6 ฟุต
King Sizeควรที่จะเลือกซื้อในขนาดที่เท่ากัน เพราะหากเลือกขนาดที่เล็ก หรือใหญ่ไป นอกจากจะปูเตียงได้ไม่พอดีแล้ว ยังอาจทำให้เรานอนไม่หลับ เพราะปัญหาผ้าปูเตียงย่นก็เป็นได้
วิธีเลือกซื้อผ้าปูที่นอน
1.เลือกจากเนื้อผ้า
มีตัวเลือกตั้งแต่เนื้อผ้าฝ้ายจากธรรมชาติ หรือใยไผ่ที่เน้นผู้ที่มีผิวระคายเคือง หรือแพ้ง่าย หากเป็นผู้ที่ชื่นชอบลวดลายที่เน้นรายละเอียดหรูหรา และเนื้อผ้าลื่น การเลือกเนื้อผ้าแบบซาตินก็จะช่วยให้เหมาะกับความชอบส่วนตัว อีกทั้งยังช่วยให้เย็นสบายในเวลานอนหลับอีกด้วย
2.เลือกจากรูปแบบการปูผ้า
มีทั้งการผ้าปูเตียงแบบรัดมุมทั้ง 4 หรือเป็นผ้าปูแบบปล่อยชาย ที่ต้องเก็บชาย และรวบให้ตึงเหมือนการปูเตียงในแบบโรงแรม ซึ่งราคาสำหรับผ้าปูปล่อยชายในปัจจุบันนี้ จะมีราคาที่ถุกกว่าแบบรัดมุม ด้วยความที่มีผู้ใช้น้อยลง และต้องมีเทคนิคในการปูเตียงโดยอาศัยความชำนาญร่วมด้วย
3.เลือกสี และลวดลาย
สีมักจะทำให้เรามีจินตนาการ สร้างความรู้สึกและอารมณ์ให้กับเราได้หลากหลาย รวมถึงการเลือกผ้าปูเตียง ก็คล้ายกับการเลือกเสื้อผ้า ที่ในแต่ละลวดลาย และสีสัน ก็สามารถที่จะบ่งบอกลักษณะเด่นของผู้ใช้คนนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี
ดังนั้นสีที่เราจะเลือกใช้นั้น อาจจะไม่ได้เป็นการบอกความเป็นตัวของเราเองเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความรู้สึก และอารมณ์ให้กับตัวเราเองร่วมด้วย
- เน้นลายเส้นบางเบา
- สีสันโดดเด่น และชัดเจน
- สีพื้นเรียบในแบบเอิร์ธโทน
เน้นในกลุ่มผู้ใช้แบบเดียวกันคือ ความเรียบง่ายแต่ดูดี ซึ่งสีพื้นเรียบแบบนี้ สามารถใช้ได้ตลอด และสามารถนำมาใช้ปูเตียงได้แบบไม่น่าเบื่อ เพราะตัวเฉดสีที่ทำออกมา มีความน่าดึงดูด และไม่เหมือนใคร
4.เลือกจากการตัดเย็น
ผ้าปูเตียงแบบไร้รอยต่อนั้น ในช่วงที่เริ่มมีการวางขายใหม่ๆ ถือว่าเป็นสินค้าที่มีราคาแพงกว่า ผ้าปูเตียงทั่วๆ ไปอย่างมาก และทำให้หลายคนคิดว่าไม่ได้มีความแตกต่างกันสักเท่าไหร่ แต่สำหรับผู้ที่ได้ลองใช้ดูแล้ว จะรู้ได้ทันทีว่าในขณะที่เรากำลังที่จะหลับ หรือช่วงเวลาที่เราควรจะพักผ่อน และทำให้ร่างกายทุกส่วนของเราได้รับความสบาย และผ่อนคลายมากที่สุดนั้น ผ้าปูที่มีการตัดเย็บแบบไร้รอยต่อนั้น เป็นส่วนเสริมที่ช่วยให้การนอนหลับได้ดีขึ้น
5.เลือกที่มีเคลือบสารป้องกันไรฝุ่น
เราอาจจะอ่านรายละเอียดของแต่ละยี่ห้อที่มีการระบุว่ากันไรฝุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ หรือสำหรับเด็กเล็ก ถึงแม้ว่าเตียง หรือฟูกที่เราใช้อยู่นั้น จะมีการรับประกันในเรื่องการปลอดจากไรฝุ่น และยังอยู่ในอายุการใช้งานที่ครอบคลุมอยู่แล้วก็ตาม แต่จะดีแค่ไหนหากเราใช้ผ้าปูเตียงที่ปลอดจากไรฝุ่น เพราะสุขภาพที่ดีเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง
ผ้าปูที่นอน ควรเปลี่ยนบ่อยขนาดไหน
ในทุกคืนที่เรานอนหลับนั้น ถึงแม้จะมีการนอนที่เปิดเครื่องปรับอากาศ โดยที่เราไม่มีเหงื่อไหลเลยก็ตาม การเปลี่ยนผ้าปูเตียงจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนสัปดาห์ละครั้ง เพื่อป้องกันไรฝุ่น ที่มากับเศษผม หรือรังแคที่ตกลงบนผ้าปู
3 เทคนิคเลือกซื้อ ผ้าปูที่นอน ให้เหมาะสมกับตัวเอง
สรุป
ผ้าปูที่นอนเป็นส่วนประกอบหนึ่งของชุดเครื่องนอนจะมีความสำคัญหลักในเรื่องของ การนอนหลับที่ดี, สีสันและความชอบส่วนตัวในการเลือกซื้อแล้วนั้น อีกหนี่งอย่างที่ไม่อยากให้เราละเลยกันไปคือ การดูแลความสะอาดเครื่องนอนทุกชิ้นในเวลาที่กำหนด อย่างเช่น การซักผ้าปูสัปดาห์ละครั้ง หรือการนำผ้านวมไปซักเดือนละครั้ง เพื่อเป็นผลดีต่อสูขภาพของเราโดยตรง และมีผลต่อการนอนหลับที่ดีร่วมด้วย
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน