ชั้นวางทีวีในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายสไตล์ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ประเภทหนึ่งดังนั้นการนำมาตั้งไว้ในบ้านก็เสมือนเป็นการนำเฟอร์นิเจอร์เข้ามาตกแต่งห้อง ทั้งยังที่มีดีไซน์สวยๆ อีกด้วย
สำหรับใครที่ต้องการซื้อควรพิจารณาถึงความเหมาะสมซึ่งแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน นอกจากเลือกดีไซน์สวยๆ แล้วจะต้องพิจารณาทีวีที่ใช้ด้วยว่าเหมาะกับชั้นวางที่เลือกซื้อมาหรือไม่ อย่างไรก็ตามหากคุณไม่มีไอเดียในการเลือกบทความนี้จะช่วยให้คุณเลือกซื้อได้อย่างเหมาะสม
ยังมีเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ ยกตัวเอย่างเช่น ประตูบานเลื่อน , เก้าอี้พับนอน , ชั้นวางหนังสือ , ชั้นวางของ , เก้าอี้โยก , เก้าอี้ ergonomic , เตียงพับ , Bean bag , เก้าอี้สำนักงาน , โซฟาเดี่ยวปรับนอน , โต๊ะข้างเตียง , ตู้ยา , ชั้นวางของในห้องน้ำ , ผ้าม่าน , โคมไฟตั้งพื้น ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
ชั้นวางทีวี คืออะไร
คือเฟอร์นิเจอร์ประเภทหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการวางทีวีโดยส่วนใหญ่จะมีขนาดและดีไซน์ที่แตกต่างกันเพื่อให้ผู้ใช้มีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ในปัจจุบันเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ไม่ได้ผลิตขึ้นเพื่อใช้วางทีวีเท่านั้น แต่ด้วยดีไซน์สวยๆ งามๆ ที่มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ จึงมักจะถูกใช้ในการตกแต่งห้องด้วย โดยเฉพาะห้องที่มีพื้นที่จำกัด
ด้วยเหตุผลนี้ผู้ผลิตจึงต้องออกแบบให้มีหลายขนาดและหลายรูปแบบ เพื่อให้ผู้ใช้งานทุกคนเลือกใช้ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ดีไซน์ออกมาให้สามารถวางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้อีกด้วย
รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องใช้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น เทียนหอม , แก้วเยติ , แก้วหัดดื่ม , พาวเวอร์แบงค์ เป็นต้น
นอกจากนี้ขนาดและดีไซน์ของแต่ละแบบก็จะมีความโดดเด่นไม่เหมือนกันด้วยเพราะฉะนั้นการจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นผู้ใช้จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวทีวีเองรวมไปถึงพื้นที่ภายในบ้านด้วย
ชั้นวางทีวีมีกี่ประเภท
1. ทรงเตี้ย
จะมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 120 เซนติเมตร ไปจนถึง 240 เซนติเมตร ซึ่งไม่มีขนาดที่มากไปกว่านี้แล้ว เพราะโดยปกติแผ่นไม้จะมีความกว้างสูงสุดอยู่ที่ 120 เซนติเมตร และยาวสูงสุด 244 เซนติเมตร เมื่อนำมาตัดทำเฟอร์นิเจอร์ ขนาดยาวสูงสุดก็จะได้แค่ 240 เซนติเมตร ส่วนวัสดุอื่นๆ นั้นก็จะถูกออกแบบมาให้มีลักษณะเป็นทรงเตี้ยเช่นกัน
2. แบบติดผนัง
มักจะถูกออกแบบมาให้มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งจะเน้นให้ทีวีนั้นดูมีความกว้างและสูงอยู่พอสมควร เนื่องจากการติดตั้งทีวีแบบติดผนังนั้นจะต้องดูโปร่งและสบายตา จึงได้ทำชั้นวางออกมาให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน จัดเป็นชั้นสำหรับใช้วางทีวีประเภทหนึ่งที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่ในห้องค่อนข้างกว้าง ทั้งยังใช้วางสิ่งของต่างๆ ได้อีกด้วย แต่ควรเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทาน
3.แบบเข้ามุม
เป็นชั้นวางที่เหมาะกับคนที่มีพื้นที่จำกัด เนื่องจากเป็นชั้นที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดค่อนข้างเล็ก ซึ่งมักจะดีไซน์ออกมาให้เป็นรูปทรงสามเหลี่ยม เพื่อให้เหมาะสมกับมุมห้องที่จะตั้งชั้นวางสำหรับวางทีวีเอาไว้ และช่วยเพิ่มระยะสายตาในการดูทีวีอย่างเหมาะสมมากขึ้น หากใครที่มีห้องหน้าแคบหรือเป็นพื้นที่จำกัดก็ควรเลือกชั้นทีวีประเภทนี้
4. ชั้นทีวีเหล็ก
จะมีโครงสร้างที่มีความแข็งแรงมากเป็นพิเศษ อย่างที่ทราบกันดีว่าเหล็กนั้นเป็นวัสดุที่มีความทนทาน และแข็งแรงมาก และมักจะมาพร้อมกับน้ำหนักที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นชั้นวางทีวีประเภทนี้จะเคลื่อนย้ายได้ค่อนข้างลำบาก แนะนำให้เลือกแบบมีล้อหมุนเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายขึ้น
5. แบบลอย
เป็นชั้นสำหรับวางทีวีที่เน้นให้ตัวทีวีมีความโดดเด่นมากที่สุด โครงสร้างส่วนใหญ่มักจะใช้วัสดุอย่างไม้หรืออะคริลิกเป็นหลัก ออกแบบมาเพื่อให้วางทีวีอยู่ตรงกึ่งกลาง ซึ่งดูเหมือนทีวีลอยอยู่กลางอากาศ ในส่วนของช่องหรือชั้นวางของนั้นมักจะอยู่ในส่วนบนและส่วนล่าง
6. แบบไม้
เป็นอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยจะใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการผลิต ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะถูกออกแบบให้มีลักษณะแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่จะมีดีไซน์สวยๆ ตามแบบฉบับของวัสดุจากธรรมชาติ ด้วยความที่ไม้เป็นวัสดุหลัก จึงทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายกว่าวัสดุหนักๆ อย่างชั้นทีวีแบบเหล็ก
7.แบบอเนกประสงค์
ถือว่าเป็นประเภทที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ภายในอุปกรณ์เดียว นอกจากจะใช้วางทีวีได้แล้ว ยังสามารถที่จะนำสิ่งของหรืออุปกรณ์อื่นๆ มาวางไว้ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ที่สำคัญช่วยประหยัดพื้นที่ภายในบ้านหรือห้อง และทำให้การจัดวางสิ่งของมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ดูน่ามองได้ดีอีกด้วย
8. แบบเสริมกระจก
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน ที่จะช่วยให้บ้านมีความน่ามอง ดูดีมีสไตล์ทันสมัยมากขึ้นอีกด้วย แต่ข้อควรระวังในการเลือกซื้อชั้นแบบเสริมกระจกก็คือ หากเลือกที่ทำจากวัสดุหรือมีราคาที่ถูก อาจจะทำให้แตกได้ง่าย เพราะฉะนั้นก่อนเลือกซื้อควรเลือกที่มีความปลอดภัยสูง และกระจกมีความหนาเป็นพิเศษ
วิธีเลือกซื้อชั้นวางทีวี
1. เลือกซื้อตามสไตล์การตกแต่งห้อง
- สไตล์โมเดิร์น แนะนำให้เลือกชั้นทีวีที่มีดีไซน์แบบเรียบง่ายแต่ดูโมเดิร์นหรือทันสมัย ปรับแต่งให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน อาจเลือกชั้นวางที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานแบบประหยัดพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มลิ้นชัก หรือช่องต่างๆ ที่สามารถเก็บอุปกรณ์และสายไฟได้อย่างเป็นระเบียบ
- สไตล์ฮัสค์ เป็นอีกหนึ่งสไตล์การตกแต่งห้องที่มีความโมเดิร์นแต่เน้นความเรียบง่าย แต่ก็ยังคงมีความทันสมัยอยู่ในตัว แนะนำให้เลือกชั้นแบบไม้ที่มีการเคลือบด้วยเมลามีน ถึงแม้ว่าดีไซน์จะเน้นความเรียบง่ายแต่ลักษณะภายนอกก็ดูไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
- สไตล์ลอฟท์ เป็นอีกหนึ่งสไตล์การแต่งห้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยความเป็นลอฟท์ก็เน้นที่ตัววัสดุเป็นหลัก ซึ่งดูมีความดิบอยู่ในตัว สำหรับใครที่ต้องการจะแต่งห้องในสไตล์ลอฟท์แบบสวยๆ ดิบๆ ก็ต้องเน้นโทนสีดำ เทาและน้ำตาล อาจเลือกที่ใช้วัสดุเหล็กหรือไม้เป็นหลัก
- สไตล์มินิมอล สามารถเลือกใช้ชั้นทีวีแบบไม้ในการตกแต่งห้องได้ เพราะการตกแต่งห้องในสไตล์มินิมอลมักจะนิยมใช้วัสดุอย่างไม้เป็นหลัก เพราะมีสีที่ดูสบายตา มีความเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ หรือจะเลือกชั้นวางทีวีแบบอื่นก็ได้เช่นกัน แต่ควรเน้นโทนสีขาวและน้ำตาลเป็นหลัก
2. เลือกตามลักษณะและขนาดของห้อง
ให้เลือกตามลักษณะและขนาดของห้อง ไม่ว่าจะมีราคาถูกหรือแพง หากเลือกไม่เหมาะกับขนาดของห้องก็อาจเปล่าประโยชน์ แนะนำให้พิจารณาจากห้องที่จะตั้งทีวีไว้เป็นหลัก โดยเลือกชั้นทีวีที่ห้องนั้นสามารถรองรับได้ และลักษณะของเฟอร์นิเจอร์ต้องสอดคล้องกันด้วย
3. เลือกตามขนาดจอทีวีที่ใช้งาน
เนื่องจากทีวีในปัจจุบันค่อนข้างมีขนาดใหญ่ โดยส่วนมากแล้วจะมีขนาด 50 – 55 นิ้ว ควรเลือกชั้นที่มีขนาด 120 เซนติเมตร เพราะสามารถรองรับขนาดของทีวีได้ ทั้งนี้ควรตรวจสอบ ที่แขวนทีวี , ขายึดทีวี ขาของทีวีด้วยว่าอยู่ในขอบ 120 เซนติเมตรหรือไม่ หากไม่มั่นใจก็ควรขอคำแนะนำจากผู้ขายโดยตรง
4. เลือกตามขนาดและความแข็งแรงของชั้น
ควรพิจารณาจากขนาดของทีวีก่อนจะเลือกซื้อชั้นวาง ผู้ใช้จำเป็นต้องทราบว่าทีวีของตนเองนั้นมีขนาดกว้างและยาวอยู่ในระดับใด นอกจากนี้ความแข็งแรงก็เป็นสิ่งที่สำคัญ หากเลือกชั้นวางที่มีความแข็งแรงมากพอก็จะสามารถรองรับน้ำหนักของทีวีและอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้
5. เลือกตามคุณสมบัติของชั้นวาง
ควรมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นช่องรองรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, AV, สายเคเบิล , ซาวด์บาร์ , เครื่องเล่นเกม และอื่นๆ หากเลือกคุณสมบัติที่ครอบคลุมการใช้งานก็จะช่วยอำนวยความสะดวกได้มากขึ้น
6. เลือกตามราคา
ไม่ว่าชั้นจะมีราคาถูกหรือราคาแพงมากแค่ไหนก็ตาม หากเลือกซื้อไม่เหมาะสม ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์การนำมาใช้งานนัก อย่างไรก็ตามควรเลือกชั้นวางที่มีคุณสมบัติตามความต้องการ และต้องดูด้วยว่ามีความเหมาะสมที่จะนำมาใช้งานหรือไม่ แนะนำให้พิจารณาจากสิ่งที่กล่าวไปข้างต้น และไม่ว่าจะมีราคาถูกหรือแพงก็ต้องดูให้สมเหตุสมผลด้วย
การดูแลรักษาชั้นวางทีวี
- หมั่นปัดฝุ่นโดยใช้ไม่ขนไก่ปัดทุกวันเพื่อป้องกันฝุ่นเกาะ
- ให้นำผ้าสะอาดชุบน้ำ บิดหมาดๆเช็ดให้ทั่ว ให้ทำ 2 อาทิตย์ ทำ 1 ครั้ง
- ต่อจากขั้นตอนเมื่อกี้ คือ หลังจากลงผ้าบิดหมาดแล้ว ให้ตามด้วยผ้าปห้งสะอาดเช็ดตาม เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นคราบน้ำตามชั้นวาง
ชั้นวางทีวีไซส์ไหน ที่ใช่กับทีวีบ้านคุณ
สรุป
ชั้นวางทีวีนั้นมีความสำคัญหากคุณเป็นผู้ที่กำลังมองหาหรือตัดสินใจจะซื้อมาใช้งานก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับทีวีของตนเอง นอกจากดีไซน์สวยๆ ราคาถูกหรือแพงแบบสมเหตุสมผลแล้ว ก็ควรคำนึงถึงพื้นที่ที่จะใช้ตั้งด้วยว่าสามารถรองรับได้มากน้อยเพียงใด ถ้าหากเลือกได้อย่างเหมาะสมก็จะตอบโจทย์ในการใช้งานอย่างแน่นอน
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน