เครื่องซักผ้ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการซักและทำความสะอาดเสื้อผ้า และยังเป็นเครื่องใช้ที่สามารถดูแลเสื้อผ้าให้อยู่ในสภาพที่สวยงามได้นานๆ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายทั้งขนาด, รูปแบบของตัวเครื่องและ ฟังค์ชั่นการใช้งานเสริมไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีสำหรับเครื่องฝาบน และเครื่องฝาหน้า อย่างเช่น ฟังค์ชั่นการขจัดเชื้อโรค, การซักแบบถนอมเนื้อผ้า และการทำงานของเครื่องที่ลดเสียงรบกวน เป็นต้น
สำหรับหมวดหมู่ของใช้ภายในบ้านอื่นๆที่น่าสนใจนอกเหนือจากนี้ มีดังต่อไปนี้ เช่น เครื่องซักผ้าฝาหน้า , เครื่องซักผ้าอบผ้าในตัว , เครื่องฟอกอากาศ , แอร์เคลื่อนที่ , ตู้เย็น 5 คิว , ไมโครเวฟ , ไฟฉุกเฉิน , รางปลั๊กไฟ , พัดลมไอเย็น , เครื่องรีดผ้าไอน้ำ , พรมปูพื้น , น้ำยาเช็ดกระจก , ที่เช็ดกระจก , ไฟแช็ค , กริ่งไร้สาย , เครื่องบดกาแฟ , สบู่เหลวล้างมือ , เตียงพับ , เก้าอี้โยก , ยาสีฟัน , น้ำยาบ้วนปาก , เต็นท์ , เครื่องรีดผ้าไอน้ำ , เตาแก๊สปิ้งย่าง , จักรยายไฟฟ้าพับได้ , เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย , ปลั๊กไฟอัจฉริยะ , เทียนหอม ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
เครื่องซักผ้า คืออะไร
คือ เครื่องที่ใช้ในการทำความสะอาดเสื้อผ้าด้วยวิธีการซัก โดยมีทั้งขั้นตอนการซักน้ำยาและซักล้างน้ำ รวมถึงขั้นตอนสุดท้ายคือ การปั่นผ้าให้แห้ง มีหลากหลายประเภท ซึ่งเราสามารถเรียกได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Clothes Washer, Laundry Machine, Washer หรือที่เรามักจะเห็นกันก็คือ Washing Machine ก็ตาม
ซึ่งเดี๋ยวนี้เครื่อง Washing Machine นั้นมีการผลิตให้มีเทคโนโลยีในการซัก ที่ล้ำหน้าและช่วยทั้งอำนวยความสะดวก รวมถึงการประหยัดเวลาได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้เรามีเวลาเหลือในการทำอย่างอื่นได้ พร้อมกับการได้เสื้อผ้าที่หอม และสะอาดใส่ได้ในทุกๆ วัน สามารถใช้ได้ทั้งกับน้ำยาซักแห้ง, ผงซักฟอกที่ใช้ และน้ำยาซักผ้า
เครื่องซักผ้า มีกี่แบบ
1.เครื่องฝาบน
เครื่องwashing machine ในแบบฝาบนนั้น จะมีคุณสมบัติพิเศษ ที่แตกต่างไปจากฝาหน้า โดยเฉพาะหากเป็นฝาบนอัตโนมัติด้วยแล้ว จะมีฟังค์ชั่นการใช้งานเสริมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวลาในการซัก, โหมดในการซักที่ถนอมเนื้อผ้ามากยิ่งขึ้น เป็นต้น สิ่งที่ผู้ใช้งานจะได้จากเครื่องในแบบนี้ก็คือ การรองรับการซักผ้าได้ในปริมาณที่มาก, และมีความแรงในการซัก ซึ่งเป็นผลดีต่อการขจัดคราบ และการปั่น แต่ในทางกลับกัน ก็สามารถทำให้เนื้อผ้าเสื่อมสภาพได้เร็ว
ในการเลือกใช้งานเครื่องฝาบนนั้น ณ วันนี้ที่มีเทคโนโลยีในการซักผ้าที่ล้ำหน้า มีฟังค์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายมากกว่า การตั้งอุณหภูมิน้ำ หรือการตั้งเวลาได้เท่านั้น รวมถึงหลายระดับราคาให้เลือก ด้วยความที่เครื่องฝาบน มีทั้งแบบที่เป็นอัตโนมัติ และกึ่งอัตโนมัติในราคาที่ถูกกว่า เพื่อเป็นตัวเลือกให้เหมาะทั้งการใช้งาน และความคุ้มค่าในเรื่องราคาอีกด้วย
ฝาบนกึ่งอัตโนมัติ
การใช้งานที่จะต้องมีการตั้งโหมดสั่งงานหลายครั้งต่อการซัก 1 รอบ ไม่ว่าจะเป็นตั้งค่าการซักครั้งแรก หลังจากนั้นผู้ใช้งานต้องมาตั้งโหมดการล้างผ้าอีกรอบ เพื่อให้เครื่องดูดน้ำออก และใส่น้ำเข้าเครื่อง รวมถึงการปั่นให้แห้งเพื่อดูดน้ำออก ตัวเครื่องมีราคาที่ถูก แต่ในการใช้งานจริงนั้น จะมีความเสียเวลาในการซักผ้าเสร็จในแต่ละรอบ
ฝาบนอัตโนมัติ
ความสะดวกในการซักผ้าสำหรับเครื่องฝาบนอัตโนมัตินี้ เราไม่จำเป็นต้องมาสั่งงาน หรือตั้งโหมดสั่งงานหลายครั้ง เพียงกดเริ่มต้นการซัก เครื่องก็จะกำหนดระดับปริมาณน้ำ, จำนวนรอบการซัก และการล้างน้ำ และการปั่นให้เสร็จเรียบร้อย เราเพียงแค่ใส่น้ำยาซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่มในช่องที่แยกของตัวเครื่องเท่านั้น
หากเราต้องการที่จะปรับตั้งค่าการใช้งานเอง ก็สามารถที่จะทำได้ อย่างเช่น เสื้อผ้าที่ต้องเน้นการดูแลเป็นพิเศษ, การตั้งค่ารอบการล้างน้ำกี่รอบ หรือการกำหนดเวลาการปั่นนานแค่ไหน เป็นต้น รวมถึงในฟังค์ชั่นการทำงานของตัวเครื่องที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าอีกหลากหลาย ที่เหมาะกับทั้งคนทำงานที่ไม่มีเวลา และผู้ที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในการใช้
2.เครื่องฝาหน้า
เครื่องฝาหน้านั้นถือว่า เป็นอีกหนี่งตัวเลือกนอกเหนือจากเครื่องฝาบนแล้ว ที่นอกเหนือจากมีการใช้งานที่ง่าย และเน้นในเรื่องความสะดวกสบายในการซักผ้า ช่วยให้เราสามารถนำเวลาที่เหลือไปพักผ่อน หรือทำงานอย่างอื่นได้อีก อีกทั้งเครื่องฝาหน้านั้นยังมีคุณสมบัติในเรื่องการประหยัดน้ำ, การถนอมเนื้อผ้า และเกิดปัญหาการพันกันของผ้าน้อยกว่าแบบฝาบน
การสั่งงานในอดีตที่ยังคงต้องใช้การหมุน หรือการปรับตั้งค่าแบบบิดตัวหมุนอยู่ มาวันนี้ที่เน้นความง่าย, สะดวกในการใช้งาน และความสวยงามเหมาะกับตัวเครื่องมากขึ้น ด้วยการสั่งงานผ่านปุ่มกด, ปุ่มสัมผัส และหน้าจอดิจิตอล เพียงแต่ในการปิดประตูฝาหน้าเครื่องนั้น อาจจะต้องมีดูให้ดีว่า มีการปิดที่แน่นหรือไม่ เพราะหากปิดไม่แน่นแล้ว เครื่องก็จะไม่สามารถทำงานได้ เพื่อเป็นระบบป้องกันความปลอดภัยด้วยในตัว
3.เครื่องซักผ้าและอบผ้าในตัว
เป็นเครื่องที่นอกจากใช้ซักผ้าและอบผ้าได้ในเครื่องเดียวกัน หรือเหมือนเป็นการนำเอา home appliance ทั้ง 2 เครื่องอย่าง เครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้ามารวมกัน ถือว่าเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย และประหยัดพื้นที่ๆ ใช้งานในการวางใช้งานร่วมด้วย เราสามารถที่จะอบผ้าได้ทันทีหลังจากที่ปั่นแล้ว
ขนาดของเครื่องซักผ้ามาตรฐาน มีกี่ขนาด
ในการซักผ้าแต่ละครั้งนั้น เราจะเห็นได้ว่ามีตัวปัจจัยในการเลือกซื้อตัวเครื่องว่า ควรจะเลือกขนาดตัวเครื่องเท่าไหร่ หรือกี่กิโล ไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่ยอดนิยม และเป็นรุ่นน้ำหนักที่มีคนเลือกพิจารณาซื้อกันมากคือ 10 กิโล และ 15 กิโล เป็นต้น แต่จริงๆ แล้วเครื่อง washing machine ยังมีความจุน้ำหนักให้เลือกที่มากกว่านั้นอีก
หลายคนอาจจะสงสัยกันว่า การที่บอกว่าเครื่องซักผ้ารุ่นนั้นๆ กี่กิโลหมายถึงอะไร ซึ่งคำว่ากิโลนั้นไม่ได้หมายถึง น้ำหนักของตัวเครื่อง แต่หมายถึงน้ำหนักของตัวเสื้อผ้า ที่สามารถใส่ซักในเครื่องได้ อย่างเช่น เครื่อง 10 กิโล คือ เครื่องที่สามารถรองรับเสื้อผ้าที่อยู่ในสภาพที่แห้งปริมาณน้ำหนัก 10 กิโลนั้นเอง
รวมถึงอย่างที่เราเกริ่นไว้แล้วว่า การเลือกเครื่องน้ำหนักเท่าไหร่นั้น อาจจะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นความถี่ในการซักผ้าต่ออาทิตย์, จำนวนสมาชิกในครอบครัว, ประเภทของผ้าที่นำมาซัก
รวมถึงเป็นเสื้อผ้าที่เน้นการทะนุถนอมเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะทั้งหมดนี้นอกจากจะทำให้เราได้รู้ว่า เครื่องที่ใช้ในการซักผ้าที่เหมาะสมกับเรา ควรเป็นเครื่องน้ำหนักกี่กิโลแล้ว ยังรวมไปถึงประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งานอีกด้วย
ซึ่งหากเป็นขนาดที่มีความจุมากกว่า 10 กิโล หรือ 15 กิโล ความสามารถในการใส่จำนวนผ้าที่มากชิ้น หรือเป็นผ้าที่มีขนาดที่ใหญ่ก็จะมีมากกว่า เครื่องที่รองรับน้ำหนักได้น้อยกิโลกว่า
- ขนาดความจุ 5-7 กิโล
- ขนาดความจุ 7-9 กืโล
- ขนาดความจุ 10 กิโลขึ้นไป
วิธีเลือกซื้อเครื่องซักผ้า
1.ประเภท
ไม่ว่าจะเป็นแบบฝาหน้า, ฝาบนในแบบอัตโนมัติ หรือกึ่งอัตโนมัติ หรือแม้แต่เครื่องที่มีทั้งการซักผ้าและอบผ้าได้ในตัวนั้น ปัจจัยต่างๆ ที่จะช่วยให้เรารู้ได้ว่าประเภทของเครื่องแบบไหน ที่เหมาะกับการใช้งาน
อย่างเช่น หากเรามีเสื้อผ้าใส่ทำงาน ที่เนื้อผ้าต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ การเลือกใช้เครื่องแบบฝาหน้าก็จะเป็นการเหมาะสมกว่า หรือหากครอบครัวใหญ่ มีผ้าที่ต้องซักในปริมาณมากต่อครั้ง การเลือกซื้อเครื่องฝาบนอัตโนมัติ ก็จะช่วยรองรับจำนวนเสื้อผ้าได้มากกว่า
2.ขนาด
เราอาจจะไม่เพียงแค่ดูปริมาณเสื้อผ้าที่ต้องซักต่อครั้งเท่านั้น กับการเลือกเครื่องกี่โล แต่รวมถึงพื้นที่ๆ เรามีสำหรับการวางเครื่อง washing machine ร่วมด้วย ว่ามีพื้นที่เพียงพอหรือไม่ เพราะอย่างเช่น สำหรับที่พักแบบคอนโด พื้นที่ในการใช้สอยที่จำกัด จำเป็นที่เราจะต้องจัดสรรพื้นที่อย่างคุ้มค่าที่สุด
3.ฟังค์ชั่นการใช้งาน
ถึงแม้ว่าเราอาจจะมองเห็นคุณสมบัติหลักของตัวเครื่อง ที่เน้นในเรื่องของการซักผ้าเป็นหลักนั้น แต่ฟังค์ชั่นการใช้งานเสริม ก็เป็นเรื่องที่จะช่วยให้เราพิจารณาเลือกซื้อเครื่องได้ง่ายขึ้น อย่างเช่น การกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์บนเสื้อผ้า, การช่วยฆ่าเชื้อโรคในขณะซักไปด้วย, การทำงานที่เงียบ หรือเป็นการซักด่วนที่เราอาจจะต้องการใส่ภายใน 2-3 ชั่วโมงข้างหน้านี้
4.สีและความสวยงาม
เมื่อเราซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้ามาในบ้านนั้น อาจไม่เป็นเพียงการเน้นที่ประโยชน์การใช้งานเท่านั้น แต่จะต้องรวมไปถึงการวางตกแต่ง และเข้ากันได้กับสีและการออกแบบของตัวบ้านร่วมด้วย และการออกแบบของตัวเครื่องมีความน่าสนใจ และมีสไตล์ที่โดดเด่นร่วมด้วย อย่างเช่น หน้าจอดิจิตอลที่ดูโมเดิร์น เป็นต้น
5.ยี่ห้อ
ในแต่ละยี่ห้อจะมีการคิดค้น เทคโนลยีและการเพิ่มฟังค์ชั่นการใช้งานใหม่ๆ มาในทุกๆ รุ่น และในบางเทคโนโลยีนั้น เป็นการจดลิขสิทธิ์เฉพาะยี่ห้อนั้นๆ เฉพาะ ดังนั้นการเลือกยี่ห้อของตัวเครื่อง ไม่เพียงแค่ชื่อเสียงของยี่ห้อ แต่อาจจะต้องดูว่ามีเทคโนโลยีอะไรที่เพิ่มเติม มาในแต่ละยี่ห้อร่วมด้วย
เลือกเครื่องซักผ้า แบบไหนดี เครื่องซักฝาหน้า หรือ ฝาบน
สรุป
เครื่องซักผ้า washing machine จึงถือว่าเป็นทั้งเครื่องใช้อำนวยความสะดวก และเครื่องใช้ไฟฟ้าในตัวบ้าน ที่มาช่วยชีวิตความเป็นอยู่ของเราทุกคนให้ง่ายมากขึ้น รวมถึงตัวเลือกทั้งประเภทของเครื่อง, รูปแบบการใช้งาน, ฟังค์ชั่นที่เสริมเข้ามาเพิ่ม ที่เราสามารถเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน
จบการศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ สาขาเอกประชาสัมพันธ์และวารสารศาสตร์ ปัจจุบันทำงานเป็นนักเขียนคอนเท้นท์ครีเอเตอร์ฟรีแลนซ์ ประสบการณ์มากกว่า 5 ปี ถนัดด้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และผลิตภัณฑ์ด้านอื่นๆ