น้ำยาบ้วนปากเป็นตัวช่วยทำความสะอาดช่องปากได้อีกตัวหนึ่ง มีทั้งของผู้ใหญ่และของเด็ก ต้องเลือกใช้ให้ถูกประเภท โดยเฉพาะเลือกที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เป็นวิธีที่ช่วยกำจัดคราบแบคทีเรียได้ดี แก้เหงือกอักเสบ ขจัดหินปูน ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็ช่วยซอกเพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียได้ถึงบริเวณที่การแปรงฟันเข้าไม่ถึงในเนื้อหาจะกล่าวถึง ประโยชน์ วิธีการเลือก เป็นอย่างไร เพื่อการใช้ได้อย่างถูกวิธี
ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากอื่นๆที่นอกเหนือจากนี้ ได้แก่ ยาสีฟัน , ยาสีฟันฟันขาว , ยาสีฟันคนจัดฟัน , แปรงสีฟันไฟฟ้า , ที่บีบยาสีฟัน , แปรงสีฟัน
หรือสำหรับหมวดหมู่ของใช้ภายในบ้านอื่นๆที่น่าสนใจมีดังต่อไปนี้ เช่น พรมปูพื้น , น้ำยาเช็ดกระจก , ที่เช็ดกระจก , ไฟแช็ค , กริ่งไร้สาย , เครื่องบดกาแฟ , สบู่เหลวล้างมือ , เตียงพับ , เก้าอี้โยก , เต็นท์ , เครื่องรีดผ้าไอน้ำ , กล้องส่องพระ , น้ำยาล้างห้องน้ำ , ที่บีบยาสีฟัน , ที่วางสบู่ , แปรงสีฟัน , เทียนไฟฟ้า
เครื่องซักผ้าอบผ้าในตัว , เตาแก๊สปิ้งย่าง , จักรยายไฟฟ้าพับได้ , รางปลั๊กไฟ , เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย , ตู้เย็น 5 คิว , เครื่องซักผ้า , เครื่องซักผ้าฝาหน้า , ปลั๊กไฟอัจฉริยะ , เทียนหอม , ลิปมัน , กล้องส่องพระ , น้ำยาล้างห้องน้ำ , เทียนไฟฟ้า ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
น้ำยาบ้วนปาก คืออะไร
เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดภายในช่องปากสำหรับต้านเชื้อจุลินทรีย์ กำจัดคราบอาหาร ลมหายใจหอมสดชื่น มีกลิ่นอ่อนโยน ไม่แสบปาก มีสรรพคุณ ช่วยลดกลิ่นปาก แก้เหงือกอักเสบ ขจัดหินปูน ไม่เสียวฟัน ไม่แสบปาก มักใช้ควบคู่หลังการแปรงฟัน หรือไม่สามารถแปรงฟันได้ตามปกติ
ส่วนผสมในน้ำยาบ้วนปาก
- เซทิลไพริดิเนียมคลอไรด์ Cetylpyridinium Chloride – สารประกอบแอมโมเนียม ที่สามารถกำจัดกลิ่นปากได้ดี รวมถึงกำจัดแบคทีเรียและยับยั้งการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์
- คลอร์เฮกซิดีน Chlorhexidine – ส่วนประกอบสำคัญในการรักษาโรคปริทันต์ และต้านคราบจุลินทรีย์ได้ดี แต่ถ้าหากใช้เป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้เกิดคราบสีบนผิวฟันได้
- ฟลูออไรด์ – ส่วนผสมฟลูออไรด์ อย่างเช่น สแตนนัสฟลูออไรด์ โซเดียมฟลูออไรด์ จะช่วยป้องกันฟันผุได้ดี แต่ถ้าใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ก็ไม่แนะนำให้ใช้ที่มีฟลูออไรด์อีก
- น้ำมันหอมระเหย – ที่มีแอลกอฮอล์ผสม มักใช้น้ำมันหอมระเหยด้วย เช่น เมนทอล และยูคาลิปตอล ทำหน้าที่เหมือนตัวดับกลิ่นปาก รวมถึงช่วยในการต้านแบคทีเรีย
- เอนไซม์ต้านแบคทีเรีย – เอนไซม์อย่างไลโซไซม์ และแลคโตเพอออกซิเดส ในน้ำยาอาจช่วยลดอาการปากแห้งได้
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ Hydrogen Peroxide – สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดคราบจุลินทรีย์ โรคเหงือกอักเสบ แต่ไม่แนะนำให้ใช้มากเกินไปเพราะจะเกิดการระคายเคืองได้
- สารฆ่าเชื้อในจุลินทรีย์ – เพื่อช่วยในการฆ่าเชื้อแทนการใช้กลุ่มน้ำมันหอมระเหยที่ออกฤทธิ์ได้ไม่ดี หากไม่ใช้แอลกอฮอล์ แต่ให้รสขมติดปาก ทำให้ต้องใส่วัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาลเพื่อช่วยปรับรสชาติ
ประเภทของน้ำยาบ้วนปาก
โดยแบ่งประเภท 5 กลุ่มคือ
1.กลุ่มที่กลบกลิ่นและสร้างความสดชื่นในช่องปากด้วยน้ำมันหอมระเหย
ไม่เพียงให้กลิ่นหอมและความรู้สึกเย็นสดชื่น แต่ยังมีฤทธืในการระงับการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ด้วย โดยน้ำมันหอมระเหยที่นิยมใช้ได้แก่ Thymol, Menthol, Eucalyptol, Methyl Salicylate, Clove oil เป็นต้น
กลุ่มนี้ช่วยกลบกลิ่นปากได้ 2-3 ชั่วโมง แต่กลิ่นหอมจะอยู่ได้ไม่นานอยู่ได้แค่ประมาณ 20 นาทีก็จะจางไป เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยจะผสมแอลกอฮอล์ในความเข้มข้นที่ 10-30 เปอร์เซนต์ ทำให้เกิดภาวะแสบร้อน ทำให้หลายคนใช้ด้ไม่นาน แต่ปัจจุบันมีสูตรแบบไร้แอลกอฮอล์ออกมาเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้
2.กลุ่มที่ผสมสารฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ร่วมกับฟลูออไรด์
เพื่อลดจำนวนจุลินทรีย์ในปากลง แต่ถ้าใช้ไม่ถูกหรือใช้ในระยะเวลาที่ไม่นานพอ สารจะถูกดูดซับไว้ในช่องปากก็เหมือนกับไม่เห็นผลลัพธ์ในการระงับเชื้อเลย จึงควรใช้ให้ตรงตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันสารฆ่าเชื้อได้แก่ กลุ่มน้ำมันหอมระเหย อย่างไธมอล เมนทอล ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
สำหรับสูตรไร้แอลกอฮอล์ จะนิยมใส่สาร Cetylpyridinum Chloride เพื่อช่วยในการฆ่าเชื้อแทนการใช้กลุ่มน้ำมันหอมระเหยที่จะออกฤทธิ์ได้ไม่ดีหากไม่ใช้แอลกอฮอล์ในการทำละลาย
ฟลูออไรด์ที่ผสมจะมีผลในการป้องกันฟันผุได้จริง แต่ต้องใช้กลั้วปากให้นานอย่างน้อย 1 นาที และไม่บ้วนน้ำตาม ซึ่งน้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์ ไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีใช้ตามคำเตือนบนฉลาก
ซึ่งปกติเราจะได้รับฟลูออไรด็จากการใช้ยาสีฟันอยู่แล้ว ดังนั้นหากรับฟลูออไรด์มากไปอาจเกิดปัญหาฟันตกกระได้แต่สำหรับคนที่เสี่ยงต่อฟันผุ กินขนมหวาน น้ำอัดลมบ่อย ๆ หรือผู้สูงอายุที่มีปัญหาเหงือกร่น อาจต้องใช้ที่ผสมฟลูออไรด์ด้วยเพื่อป้องกันฟันผุที่รากฟันได้
3.กลุ่มที่ผสมสารเพื่อลดปัญหาในช่องปาก
ปัญหาในช่องปาก ได้แก่เสียวฟัน ลดคราบหินปูน แก้เหงือกอักเสบ ขจัดหินปูน ซึ่งน้ำยาบ้วนปากที่ใช้ลดอาการเสียวฟัน จะใช้สารออกฤทธิ์ Potassium Nitrate ร่วมกับการใช้สารฆ่าเชื้อ จะช่วยบรรเทาอาการเสียวฟันได้ ส่วนสารออกฤทธิ์สำคัญอย่างสาร Zinc Chloride, Zinc Lactate จะช่วยลดคราบหินปูน และช่วยลดคราบต่าง ๆ ได้ดี
4.สูตรสำหรับเด็ก
ออกแบบมาเพื่อป้องกันฟันผุสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งสารออกฤทธิ์ที่สำคัญคือสารฟลูออไรด์ ไม่มีสารฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ และไม่มีแอลกอฮฮล์ผสม ซึ่งการเลือกสำหรับเด็กควรเลือกในกลุ่มสำหรับเด็กใช้ได้เท่านั้น ห้ามใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี
5.กลุ่มครอบจักรวาล Total Care
กลุ่มที่ดูแลหมดทุกอย่าง เป็นทั้งฆ่าเชื้อ สรรพคุณลดกลิ่นปาก ป้องกันฟันผุ ลดคราบหินปูน ลดเสียวฟัน ควรเลือกใช้ให้ตรงตามความต้องการ
การใช้น้ำยาบ้วนปาก
สามารถใช้ได้ทั้งก่อนและหลังแปรงฟัน และควรกลั้วให้ทั่วปากอมทิ้งไว้ประมาณ 40 วินาที ไม่ควรนานเกิน 1 นาที เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน แต่ไม่จำเป็นต้องบ้วนน้ำเปล่าตาม
ประโยชน์ของน้ำยาบ้วนปาก ช่วยอะไร
มีสรรพคุณ ลดกลิ่นปาก ขจัดหินปูน แล้ว ยังมีส่วนผสมพิเศษที่ช่วยดูแลปัญหาสุขภาพในช่องปากอื่น ๆ ได้อีกเช่น
- ลดการก่อตัวของไบโอฟิลม์ในช่องปาก
- ลดกลิ่นปาก
- ทำให้ฟันขาวขึ้น
- ลดการเกิดเหงือกอักเสบ
- ลดและต้านเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นโทษต่อช่องปาก
- ออกฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์ได้นาน
- บรรเทาอาหารปวดเฉพาะจุดในช่องปาก
น้ำยาบ้วนปากจำเป็นหรือไม่
เป็นอีกทางเลือกวิธีหนึ่งในการรักษาทำความสะอาดช่องปากด้วยคุณสมบัติเด่นที่ให้เห็นว่าช่วยยับยั้งคราบจุลินทรีย์แบคทีเรียในช่องปาก ลมหายใจสดชื่น ลดโอกาสฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบ
วิธีเลือกซื้อน้ำยาบ้วนปาก
- ประเภทแรก คือ คลอเฮกซิดีน Chlorhexidine
เป็นสารที่ช่วยลดการเกิดคราบไบโอฟิล์ม และเหงือกอักเสบ วิธีการใช้แนะนำให้ใช้ทันทีหลังการแปรงฟัน และ ไม่ควรใช้นานต่อเนื่องเกินสองสัปดาห์ เพราะอาจเกิดคราบสีที่ฟัน ที่ไม่สามารถกำจัดด้วยการแปรงฟัน ซึ่งการใช้ประเภทนี้ต้องใช้ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์เท่านั้น
- ประเภทสอง คือ เซทิลไพริดิเนียมคลอไรด์ Celylpyridinium Chloride หรือ CPC
ประเภทนี้สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวัน เนื่องจาก CPC เป็นสารออกฤทธิ์ที่มีประจุ ในการลดคราบไบโอฟิล์มและเหงือกอักเสบ จึงควรใช้หลังการแปรงฟันสักครึ่งชั่วโมงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และที่สำคัญหลังการใช้ไม่ควรทานอาหารหรือดื่มน้ำทันที เพราะอาจทำให้เกิดการติดสีของอาหารที่ฟันได้
- ประเภทสาม คือ น้ำมันสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ Essential Oils
เป็นสารไม่มีประจุ และมีโมเลกุลขนาดเล็กซอกซอนได้ดี ช่วยลดการเกิดคราบไบโอฟิล์มและเหงือกอักเสบได้ มีงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ระบุว่า สามารถใช้ประเภทนี้ได้เป็นประจำทุกวันโดยไม่ก่อให้เกิดคราบสีที่ฟัน เนื่องจากจะมีรสชาติเฉพาะตัวจากสารสกัดธรรมชาติ เมื่อบ้วนปากแล้วจะรู้สึกสดชื่น
คำถามที่พบบ่อยสำหรับน้ำยาบ้วนปาก
ใช้ตอนไหน
สามารถใช้ได้ทั้งก่อนและหลังแปรงฟัน โดยอมเอาไว้ในปริมาณ 4-5 ช้อนชา เป็นเวลา 40 วินาที กลั้วให้ทั่วช่องปาก จากนั้นค่อยบ้วนทิ้งไปได้เลย
กลืนได้ไหม
การเผลอกลืนลงไป อาจส่งผลให้มีอาการคล้ายกับการดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากเข้าไปนั่นเอง โดยอาจทำให้มีอาการด้านลำไส้และปวดท้องและนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงของกรดเบสในร่างกายได้เช่นกัน
อมกี่นาที
สามารถอม กลั้วให้ทั่วช่องปาก ได้เป็นเวลา 30 40 50 60 วินาทีก็เพียงพอ
ระงับกลิ่นปากได้จริงหรือไม่
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า กลิ่นปาก คือก๊าซที่เป็นสารประกอบของซัลเฟอร์ จะก่อตัวมาจากแบคทีเรียที่เกี่ยวข้องกับโรคในช่องปาก คราบจุลินทรีย์ น้ำยาบ้วนปากอาจมีส่วนช่วยในการควบคุม หรือระงับกลิ่นปากได้
แม้การใช้จะไม่สามารถนำมาใช้ดูแลสุขอนามัยในช่องปากแทนการแปรงฟันได้ เพราะกลิ่นปากเกิดจากการดูแลช่องปากไม่ดีพอ แต่หากใส่ใจการดูแลช่องปากให้สะอาด น้ำยาบ้วนปากก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป
รักษาโรคในช่องปากได้หรือไม่
ในบางประเภทผลิตมาเพื่อกำจัดคราบแบคทีเรียและคราบจุลินทรีย์ รวมถึงป้องกันโรคเหงือกอักเสบในระยะเริ่มแรกได้
ใช้แล้วยิ่มอมยิ่งแสบ แสดงว่าฆ่าเชื้อได้ดีจริงหรือไม่
ไม่ถูกต้อง เพราะอาการแสบปากขณะกลั้วปากหมายถึงปริมาณแอลกอฮอล์ที่มากไป ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุภายในช่องปาก รวมถึงผิวปากบางลง ทำให้รู้สึกเสียวฟัน เกิดแผลในช่องปากได้ จึงควรเลือกใช้ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮฮล์เป็นดีที่สุด
ใช้บ่อยไป ช่องปากสะอาดขึ้นกว่าเดิมหรือไม่
ไม่จริงแต่อย่างใด เพราะในช่องปากไม่ได้มีแค่แบคทีเรียไม่ดี แต่ยังมีแบคทีเรียดีรวมอยู่ด้วย หากใช้บ่อยไปอาจทำลายเชื้อแบคทีเรียจนเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราในช่องปาก ส่งผลเสียต่อเคลือบผิวฟัน ตุ่มรับรสชาตลิ้นผิดเพี้ยนไป
ใช้แล้วต้องบ้วนน้ำสะอาดตามหรือไม่
ไม่ควรบ้วนน้ำสะอาดตาม เนื่องจากมีสารฟลูออไรด์ที่ช่วยทำความสะอาดช่องปาก และเคลือบฟันแข็งแรง หากบ้วนน้ำสะอาดตามอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง
บ้วนปากทันทีหลังแปรงฟันได้หรือไม่
ไม่จำเป็น เพราะยาสีฟันจะมีสารฟลูออไรด์อยู่ จึงควรปล่อยให้ฟลูออไรด์ทำงานในช่องปากอย่างน้อย 30 นาทีแล้วค่อยใช้น้ำยาบ้วนปากต่อ
น้ำยาบ้วนปากจำเป็นไหม
สรุป
น้ำยาบ้วนปากเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นิยมในการทำความสะอาดช่องปาก โดยส่วนใหญ่เชื่อกันว่าจะสามารถดับกลิ่นปาก และรักษาสุขภาพฟันเหงือกในการขจัดสิ่งสกปรกในส่วนที่การแปรงฟันเข้าได้ไม่ทั่วถึง
อย่างไรก็ตามทุกคนก็ยังต้องรักษาความสะอาดด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธีเสมอ รวมถึงหมั่นตรวจเช็คสุขภาพช่องปาก และฟันกับทันตแพทย์อย่างน้อย ปีละ1-2 ครั้ง เพื่อให้สุขภาพฟันของเราแข็งแรงตลอดเวลา จะได้สร้างรอยยิ้มที่สวยงามและพูดคุยกับคนอื่นได้อย่างมั่นใจ
อ้างอิง
- น้ำยาบ้วนปากมีประโยชน์จริงหรือไม่ : ศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง
- น้ำยาบ้วนปากจำเป็นจริงหรือ : พบแพทย์
เจ้าของร้านขายยาโดยเภสัชกรชั้นนำหลายสาขา ขายดีจ่ายยาแล้วคนไข้หายจนเป็นที่ยอมรับ การศึกษาปริญญาตรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทจากประเทศออสเตรเลีย มีความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับ สุขภาพ อาหารเสริม ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี