เครื่องบดกาแฟในตลาดมีหลากหลายยี่ห้อโดยจะคุณภาพจะแตกต่างกันไปตามราคา ซึ่งจะส่งผลถึงรสชาติของกาแฟแต่ละที่นั้นจะไม่เหมือนกันบางร้านมีความเข้มข้น บางร้านจะออกไปทางหอมนุ่มลิ้นซึ่งสาเหตุที่ทำให้ไม่เหมือนกันนั้นเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง บทความนี้เราคัดมาแบบที่มช้ดี ทนๆ ร้านเล็กๆใช้ได้ ไปรับชมกันเลยจ้า
เช่น เมล็ดกาแฟที่เลือกใช้ วัตถุดิบต่างๆ ที่ประกอบกัน คุณภาพของเครื่องชงกาแฟ และรวมไปถึงเครื่องบดด้วยสำหรับอุปกรณ์อื่นที่ที่ท่านผู้อ่านสนใจสามารถกดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้นะจ้า เครื่องชงกาแฟแคปซูล , เครื่องชงกาแฟดริป , กาแฟขี้ชะมด , เครื่องชงกาแฟสด , กาแฟอาราบิก้า
สำหรับอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนอื่นๆที่นอกเหนือจากนี้ที่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น เครื่องบดกาแฟมือหมุน , เตาอบไฟฟ้า , ตู้เย็น 5 คิว , ตู้แช่แข็ง , หม้อสุกี้ , หม้อหุงข้าวดิจิตอล , เครื่องต้มไข่ , เครื่องดูดควัน , เตาปิ้งย่างไฟฟ้า , เตาปิคนิค , เครื่องทำวาฟเฟิล , เครื่องบดอาหาร , เครื่องทำแซนวิช , เครื่องคั้นน้ำส้ม , กระทะเหล็ก , เตาแก๊สปิ้งย่าง , โต๊ะกินข้าว , เหยือกกรองน้ำ , แก้วเยติ , เครื่องปั่นสมูทตี้ , ไมโครเวฟ ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
เครื่องบดกาแฟ คืออะไร
เป็นเครื่องมือสำหรับบดเมล็ดกาแฟเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการชงสกัดน้ำกาแฟโดยจะมีทั้งแบบอุตสาหกรรม และแบบเครื่องบดมือหมุนพกพาไปใช้ได้ตามสถานที่ต่าง ๆได้
ประเภทจานบดในเครื่องบดกาแฟ
จานบดแบบ Conical Burr
จะมีฟันบดสองชิ้น ลักษณะทรงกรวยคว่ำ และแกนกลวง จะสวมเข้ากันได้พอดี โดยสามารถปรับความหยาบ ความละเอียดของการบดได้ ด้วยการปรับระยะห่างของฟันบดชั้นบนให้สูงหรือต่ำ เป็นตัวหมุนเพื่อบดกาแฟลงมาด้านล่าง กาแฟจะค่อย ๆ ถูกบดลงมาด้านล่าง
จานบดกาแฟ Blade Grinder
การบดเมล็ดกาแฟจะใช้หลักการปั่นให้เมล็ดกาแฟแตกละเอียด ทั้งนี้ขึ้นกับการบด และระยะเวลาในการปั่น หากปั่นนานจะมีกาแฟที่ละเอียดมาก ข้อเสียของการบดแบบ Blade Grinder คือ กาแฟจะบดละเอียดไม่เท่ากันทุกครั้งที่มีการปั่น ผงกาแฟจะมีทั้งเกร็ด เป็นเม็ด และ ผงที่เป็นแป้ง ๆ ผสมกันออกมา
จะไม่แนะนำมาใช้บดเพื่อชงกาแฟเอสเพรสโซ่ ซึ่งจะเหมาะกับการชงแบบ FrechPress มากกว่า
แบบ Flat Burr
จะมีฟันบดสองชิ้น ลักษณะเป็นวงกลมมีรูกลวงตรงกลาง ประกอบกันโดยเมื่อเมล็ดกาแฟผ่านระหว่างฟันบดสองชิ้นก็จะถูกบดออกมา โดยจานบดชิ้นล่างจะมีหน้าที่ในการหมุนบด ส่วนชิ้นบดมีหน้าที่ในการปรับขึ้นลงเพื่อกำหนดระยะห่างระหว่างจากบดทั้งสองอัน จะได้กาแฟที่ถูกแรงหมุนของจานบดล่าง เหวี่ยงดันผงกาแฟออกรอบ ๆ และถูกกวางให้ลงมาในช่องปล่อยกาแฟ
รสชาติที่ได้จากเครื่องบด Flat Burr จะมีความเข้มหนักมาก เพราะจานบดกาแฟจะมีการบดกาแฟออกมาโดยมี Particle ที่ละเอียดเป็นเกล็ด และมีแป้ง ๆ ปนออกมาบ้าง เป็นที่นิยมจากคนรักกาแฟมาก
ตัวอย่างคุณสมบัติของเครื่องบดกาแฟ
- สามารถปรับความละเอียดได้แบบถี่มาก เราสามารถกำหนดความละเอียดของเมล็ดกาแฟได้อย่างที่ต้องการ โดยทำให้ผู้ชงสามารถเข้าไปควบคุมเวลาไปการสกัดกาแฟด้วยเหมาะสม ถ้าเครื่องบดที่ไม่สามารถปรับความละเอียดเป็นเบอร์ 8 2 ได้ก็ไม่สามารถเข้าไปกำหนดเวลาให้ได้ 23 วินาที หรือใกล้เคียงกับ 25 วินาทีได้
- สามารถบดกาแฟออกมาได้รสชาติที่ดี ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับจานบดกาแฟ รูปแบบฟันบนจานบดแต่ละแบรนด์ก็จะมีรูปแบบที่ต่างกัน ซึ่งการออกแบบจานบดกาแฟที่ดีคือ ลดการเกิด Channeling ให้มากที่สุด เพื่อให้กาแฟได้มีการสกัดทั่วถึงที่สุด
- Channeling มีข้อเสียของการเกลี่ยผงกาแฟลงบนด้ามชง เกิดการเกาะตัวของกาแฟที่แน่นจนเป็นก้อน ซึ่งไม่มีความสม่ำเสมอ บางจุดแน่นบางจุดหลวม ทำให้เวลาที่กาแฟสกัดกาแฟนั้น กาแฟที่แน่นไม่ได้รับการสกัดได้ทั่วถึง เพราะน้ำร้อนจะพยายามไหลผ่านได้ไม่ทั่วถึงกัน จะได้กาแฟรสชาติผิดเพี้ยนไป
- ตกค้างน้อย เครื่องบดที่ดีต้องบดกาแฟออกมาได้หมด ไม่ค้างกาแฟของเก่าอยู่ด้านในมากจนมีผลต่อรสชาติกาแฟแก้วอื่น ทั้งนี้ขึ้นกับการออกแบบเครื่องบด
- มีความสามารถในการบดได้เร็วทันใจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ 5 ปัจจัย
- รูปแบบจานบด
- ขนาดจานบด
- ความละเอียดที่ต้องการ บดละเอียดมาก กาแฟออกมาช้าในเวลาเท่ากัน บดหยาบกาแฟออกมาเร็ว
- ระดับการคั่วของกาแฟ กาแฟคั่วเข้มบดช้ากว่ากาแฟคั่วอ่อน
- รอบการหมุนมอเตอร์ รอบมอเตอร์สูงกาแฟบดเร็วกาแฟ เกิดความร้อนสูง มอเตอร์ต่ำบดช้า เกิดความร้อนได้ช้ากว่า
ส่วนประกอบของเครื่องบดกาแฟ
- ความจุสำหรับใส่กแฟกว่า 1200 กรัม เป็นความจุที่ค่อนข้างใหญ่ บดเมล็ดกาแฟได้จำนวนมาก
- จานบดหรือหัวบดขนาด 64 มิลลิเมตร บดเมล็ดได้ละเอียดและสม่ำเสมอ
- มอเตอร์ ประสิทธิภาพสูง สามารถบดเม,ดได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ภายใน 1 ชั่วโมงบดเมล็ดกาแฟได้สูงสุดถึง 9 กิโลกรัม
- ใช้วัสดุอย่างสแตนเลสและพลาสติกคุณภาพดี ในการผลิต มีความทนทานและอายุการใช้งานยาวนาน
- จอแสดงผลแบบดิจิตอล ตัวเลขขนาดใหญ่แสดงผลได้ชัดเจน
วิธีการเลือกซื้อเครื่องบดกาแฟ
เราสามารถพิจารณาวิธีเลือกเครื่องตามคำแนะนำได้ดังนี้
1.เลือกเครื่องที่สามารถปรับความละเอียดได้เพื่อให้เราสามารถกำหนดความละเอียดของกาแฟได้อย่างที่ต้องการ ทำให้ผู้ชงสามารถเข้าไปควบคุมเวลาในการสกัดกาแฟได้อย่างเหมาะสม
2.ดูที่คุณลักษณะจานบดและรูปแบบฟันบนจานบด เพราะแต่ละแบรนด์จะมีการวางลายเส้นบนจานบดแตกต่างกันออกไป การออกแบบจานบดกาแฟที่ดี จะต้องลดการเกิด Channeling ให้มากที่สุด
เพื่อให้กาแฟได้มีการสกัดอย่างทั่วถึง สำหรับเครื่องบดแบบ Flat Burr เป็นเครื่องที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องการชงกาแฟจะออกมาเข้มในสไตล์เอสเพรสโซ่ มากกว่าเครื่องบดที่เลือกใช้จานบดกาแฟแบบ Conicle
3.ดู 5 ปัจจัยได้แก่ รูปแบบจานบด, ขนาดจานบด, รอบการหมุนมอเตอร์, ความละเอียดที่ต้องการ และ ระดับการคั่วของกาแฟ
4.การตกค้างภายในของกาแฟในเครื่องบด – เครื่องบดที่ดีจะต้องบดกาแฟออกมาหมดจด ไม่มีกาแฟค้างด้านใน เพราะการมีเศษผงกาแฟค้างจะมีผลต่อรสชาติแก้วถัดไป ซึ่งการตกค้างขึ้นกับการออกแบบเครื่องบด
เมล็ดกาแฟจะไหลลงไปหมดไม่ตกค้าง ซึ่งเครื่องแบบ Flat burr แบบแนวขวาง จะมีโอกาสในเรื่องการตกค้างผงกาแฟน้อยกว่าประเภทอื่น
5.เลือกจากความทนทานของเครื่อง – โดยดูว่าเราจะเอามาใช้เปิดร้าน หรือว่า ทำกินเองใช้ในบ้าน ซึ่งแต่ละวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันก็จะทำให้เราต้องเลือกใช้ให้ถูกตรงตามวัตถุประสงค์ ซึ่งถ้าใช้เปิดร้าน ต้องเลือกวัสดุตัวเครื่องอย่างดี ทนรับการใช้งานที่ถี่ และหนักได้
วิธีการดูแลรักษาเครื่องบดกาแฟ
การทำความสะอาดในแต่ละวัน
1.เอาแบล็ดออกจาก Hopper เครื่องบดให้หมด เก็บเมล็ดกาแฟไว้ในถุงฟอยด์ การเก็บกาแฟที่ดีและง่ายที่สุด คือ เก็บไว้ในถุงฟอยด์ที่บรรจุเมล็ดกาแฟมา
2.ปิดผงกาแฟที่เหลือใน doser ออกให้หมด
3.เช็ด Hopper ด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำหมาด ๆ แล้วเช็ดด้วยผ้าแห้งสะอาดอีกครั้งให้แห้งสนิทก่อนประกอบกลับเข้าไปที่ตัวเครื่องบด
การทำความสะอาดในแต่ละสัปดาห์
1.นำเมล็ดกาแฟออกจา Hopper ของเครื่องบดออกให้หมด เก็บเมล็ดกาแฟไว้ในถุงฟอยด์
2.บดเมล็ดกาแฟที่ติดในเฟือง และปิดผงกาแฟที่เหลือใน Doser ออกให้หมด
3.ทำความสะอาดเฟืองบด ด้วยการถอดเฟืองบดออกมา ใช้แปรงปัดผงกาแฟที่ติดเฟืองบดออกให้หมด ไม่ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด เพราะจะทำให้เกิดสนิมได้ เพราะโดยมากแล้ว วัสดุที่ใช้ทำเฟืองบดจะทำจากเหล็ก จากนั้นเอาเศษผงกาแฟออกให้หมด
4.ทำความสะอาด Hopper ด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำสบู่หมาด ๆ ตามมาด้วยการเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำเย็นหมาด ๆ และจบด้วยการเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าแห้ง และรอให้แห้งสนิทก่อนจะประกอบกลับเข้าไปที่ตัวเครื่องบด
รู้จักเครื่องบดกาแฟให้มากขึ้น ลักษณะการบดอย่างไร ก่อนเลือกซื้อ
สรุป
เครื่องบดกาแฟคุณภาพสูงจะสามารถใช้ได้นาน และมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ เรายังต้องใส่ใจกับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ควรมีการล้างเฟืองบดเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อลดปัญหาผงกาแฟบดไม่สม่ำเสมอ
การล้างทำความสะอาดยังช่วยให้กลิ่นเหม็นหืนหายไปได้ ในการทำการบดกาแฟในแต่ละครั้ง ผงกาแฟอาจไปติดอยู่ตามซอกต่าง ๆ ในห้องบดกาแฟได้ เมื่อเราบดไปเรื่อย ๆ ผงกาแฟจะเริ่มสะสมอัดแน่นอีก ส่งผลทำให้เกิดกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ ฉะนั้นเราควรทำความสะอาดเครื่องบดกาแฟเป็นประจำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดเพี้ยนของรสชาติ
เชพขวัญ ขวัญเรือน ผู้ชำนาญการด้านการทำอาหารและเครื่องครัว ประสบการณ์ด้านการทำอาหารมากกว่า 20 ปี เคยอยู่ร้านอาหารชื่อดังหลายแห่ง มีความรู้และเชี่ยวชาญ เป็นนักเขียนและวิจารณ์รีวิวอาหาร และแนะนำเครื่องใช้ในครัวเรือน