ตู้แช่แข็งมีกำลังวัตต์ตั้งแต่ 150 วัตต์ 180 วัตต์ 210 วัตต์ ที่สามารถส่งพลังงานให้ได้รับความเย็นถึงจุดเยือกแข็ง มีหลายคิว คงความสดของอาหารให้อยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยการแช่แข็ง เป็นการทำให้อุณหภูมิของสิ่งของนั้นลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ดังนั้นวันนี้เราจะมาคุยเกี่ยวกับเรื่องราว ทำไมถึงนิยมและมีกี่ประเภท ทำงานอย่างไร กำลังวัตต์เท่าไหร่ กินไฟไหม
อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนอื่นๆที่นอกเหนือจากนี้ที่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น เครื่องชงกาแฟแคปซูล , เครื่องบดกาแฟ , เครื่องบดกาแฟมือหมุน , เครื่องชงกาแฟดริป , เตาอบไฟฟ้า , ตู้เย็น 5 คิว , หม้อสุกี้
หม้อหุงข้าวดิจิตอล , เครื่องต้มไข่ , เครื่องดูดควัน , เตาปิ้งย่างไฟฟ้า , เตาปิคนิค , เครื่องทำวาฟเฟิล , เครื่องบดอาหาร , เครื่องทำแซนวิช , เครื่องคั้นน้ำส้ม , กระทะเหล็ก , เตาแก๊สปิ้งย่าง , โต๊ะกินข้าว , เหยือกกรองน้ำ , แก้วเยติ , เครื่องชงกาแฟสด , เครื่องปั่นสมูทตี้ , ไมโครเวฟ ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
ตู้แช่แข็ง คืออะไร
คือ ตู้เย็นที่ให้ความเย็นหรืออุณหภูมิที่ต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส ในการเก็บรักษาวัตถุดิบ อาหาร อาหารสด เครื่องดื่ม หรือสิ่งที่ต้องการจะแช่ให้แข็งในจุดที่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง เพื่อคงรักษาความสดนั้นไว้ในลักษณะของการแช่แข็ง และนำมาละลายการแช่แข็งก่อนการใช้งาน สามารถแช่ได้ทั้งอาหารสด อาหารแปรรูป สิ่งของเครื่องใช้ได้หลากหลาย
รูปแบบ
1.ทรงต่ำ
มีลักษณะเป็นตู้ทรงสี่เหลี่ยมที่มีเปิดปิดด้านบน และมีจุดให้สามารถล็อคกุญแจได้ มีไว้สำหรับการเก็บวัตถุดิบอาหารไว้ภายใน เพื่อการเก็บส่วนผสมของเครื่องสำอาง ไอศกรีม ที่จำเป็นต้องใช้อุณหภูมิในการแช่แข็งอยู่ที่อุณหภูมิที่ต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิติดลบ
หรือเราเรียกกันว่า จุดเยือกแข็ง เพื่อรักษาคุณค่าภายในสิ่งของ อาหารให้ถูกแช่อยู่ไว้ได้เป็นอย่างดี รวมถึงการเก็บรักษาคุณภาพของอาหาร กลิ่น รสชาติ สีสันไว้ให้เหมือนของสดได้นานที่สุด แบบทรงต่ำลักษณะนี้เหมาะกับร้านค้า ร้านอาหารขนาดเล็กจนถึงขนาดกลาง จะสามารถรองรับการใช้งานได้ยาวนาน
2.ทรงสูง หรือทรงยืน
มีลักษณะคล้ายกับตู้เย็นทั่วไป เพียงแต่มีข้อแตกต่างกันตรงที่อุณหภูมิภายในที่มีตั้งแต่ 0 องศาเซลเซียส จนถึงอุณหภูมิติดลบ จุดเยือกแข็ง โดยตู้เย็นทั่วไปจะมีอุณหภูมิความเย็นที่ติดลบเช่นกันแต่จะทำอุณหภูมิได้คงที่ไม่เท่ากับตู้แช่แข็ง รวมถึงการเปิดปิดของตู้เย็นอาจทำให้ความเย็นระเหยออก ส่งผลต่ออาหารที่แช่ภายใน
แต่ตู้ทรงสูงจะมีตัวซีนความเย็นที่มีความหนาและแข็งแรงมากกว่า ช่วยทำให้เก็บความเย็นได้คงที่กว่า ปัญหาการเปิดปิดประตูก็ไม่ค่อยมีปัญหาใด ๆ มารบกวน ทั้งนี้ยังให้คุณสมบัติที่ดีกว่าแบบทรงต่ำ ด้วยการมีชั้นวางที่จะแบ่งของต่าง ๆ ให้เก็บได้อย่างครบทุกส่วน
ความจุของตู้แช่แข็ง
ขนาด 3.5 คิว
ความจุที่ 93 ลิตร ขนาด WX574XD564XH845 mm. รักษาอุณหภูมิได้ -18 เก็บรักษาอาหารให้สดใหม่และแช่แข็งอาหารของคุณด้วยความเย็นที่ทั่วถึง สามารถมั่นใจได้ไปกับการควบคุมอุณหภูมิแบบคุณภาพระดับมาตรฐาน
ขนาด 5 คิว
ขนาด W73.0xH85.0xD56.5 มีฟังก์ชันในเครื่องเดียว เลือกใช้งานได้ทั้งระบบแช่เย็น และระบบแช๋แข็ง สามารถปรับอุณหภูมิได้ระหว่าง 10 องศาถึง -25 องศา
ใช้น้ำยาทำความเย็นระบบ R600 เป็นหลอดไฟ LED ใช้งานได้นาน ประหยัดพลังงาน มีระบบ Safety Key ภายในมีตะกร้าแยกส่วน สามารถปรับเปลี่ยนที่วางได้ง่าย มีฐานด้านล่างปิดเรียบ อย่างมั่นคง มีแผงควบคุมอุณหภูมิ Thermostat
ขนาด 7 คิว
ปริมาณความจุ 200 ลิตร ขนาด 85.00H X91.00WX55.00 D. มีดีไซน์ที่สวยหรูสีขาว วัสดุด้านในเป็นอลูมิเนียม มี LED Lamp ส่องสว่างได้ทั่วถึง สามารถแช่แข็งอุณหภูมิสูงสุด -11C ถึง -25C ระบบทำความเย็น โรตาลี่ น้ำยาทำความเย็น R600A ระบบกระจายความเย็นธรรมดา มีไฟแสดงสถานะการทำงานของคอมเพรสเซอร์ ผนังตู้เสริมฉนวนกันความร้อน หนาแน่นสูง ประหยัดพลังงาน และทำความสะอาดได้ง่าย
การเลือกซื้อตู้แช่แข็ง
1.เลือกซื้อที่ความจุ
สิ่งแรกทึ่ควรหาคำตอบก่อนซื้อคือ ให้สำรวจว่าในแต่ละวันเราต้องมีสิ่งของเครื่องใช้ หรือ อาหารที่จะต้องแช่แข็งในปริมาณมากน้อยแค่ไหน หรือว่ามีวัตถุประสงค์ในการใช้งานอย่างไร เช่นหากใช้ปริมาณเก็บรักษาน้อยอาจเลือกตู้ขนาด 2.5-5 Queue หรือมากกว่านั้นควรเลือก 14-22 Queue
2.วัสดุการออกแบบ
ควรเลือกจากวัสดุในการผลิต จะต้องมีความแข็งแรง ทนทาน โดยข้างในควรบุด้วยอลูมิเนียม มีตัวล็อคที่แน่น มีขอบยางที่มีความยืดหยุ่นที่สามารถซีลความเย็นได้ดี โดยจะต้องไม่มีช่องโหว่ ถ้าเป็นประตูแบบปิด แบบแนวตั้งต้องมีน้ำหนัก เพื่อให้การปิดสนิทไม่จำเป็นต้องมีตัวล็อคอัตโนมัติก็ได้เช่นกัน
3.ประสิทธิภาพการทำงาน
การทำงานของตู้จะต้องมีความแข็งแรงทนทาน ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่สูง เพราะการตั้งไว้ในบ้าน ไม่ควรมีเสียงรบกวนระหว่างการทำงาน โดยการเลือกระดับเดซิเบลต่ำ ๆ ไว้ก่อน ก็จะไม่เกิดเสียงให้รำคาญใจอีกต่อไป
4.ฟังก์ชันเสริม
ในการเลือกควรมีฟังก์ชันเสริมพิเศษเพิ่มขึ้นมาด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้มากขึ้น เช่น มีระบบการแจ้งเตือนถึงความผิดปกติภายในเครื่อง การดับกลิ่นอัตโนมัติ โดยการเลือกควรเลือกสิ่งที่คิดว่าเหมาะสมและมีประโยชน์ได้ตามต้องการ หรือมีไฟ LED ส่องสว่างสำหรับการค้นหาของในตู้ได้
5.ประหยัดพลังงาน
โดยลักษณะทั่วไปการทำงานของจะต้องพลังงานมาก ดังนั้นควรมองหาตู้ที่มีการรับรองจากฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่ทาง กฟผ.ได้ประกาศใช้ไว้ ฉลากเบอร์ 5 แบบใหม่ ติดไว้ด้วยเสมอ ความหมายยิ่งดาวเยอะจะยิ่งมีประสิทธิภาพในการประหยัดไฟได้มากขึ้น
วิธีปรับอุณหภูมิตู้แช่แข็ง
การตั้งค่าอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดสำหรับช่องแช่แข็งคือ -19 องศา และ 3 องศา หากอุณหภูมิในช่องแช่แข็งสูงหรือต่ำเกินไป จำเป็นต้องปรับอุณหภูมิด้วยตนเอง
วิธีปรับอุณหภูมิ – ตั้งอุณหภูมิที่ต้องการระหว่าง -15 องศาเซลเซียส ถึง -23 องศาเซลเซียส โดยกดปุ่ม -Freezer ซึ่งค่าเริ่มต้นคือ -19 องศาเซลเซียส และทุกครั้งที่กดปุ่มช่องแช่แข็ง อุณหภูมิจะเปลี่ยนไปและปรากฏบนหน้าจอ
วิธีการดูแลรักษา
- บริเวณด้านนอกตัวเครื่อง ควรทำความสะอาด ใช้น้ำยาเช็ดเฟอร์นิเจอร์ หรือผลิตภัณฑ์เคลือบป้องกันผิว
- บริเวณขอบยางที่ขอบประตู ควรทำความสะอาด โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่น ไม่ต้องผสมน้ำยาใด ๆ
- บริเวณคอนเดนเซอรืด้านหลังเครื่อง ให้ใช้แปรงขนอ่อน ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นออก และคราบสกปรกออก เพื่อลดการเกิดฝุ่นเกาะหนาจนทำให้เครื่องไม่สามารถระบายความร้อนได้
- บริเวณผนังด้านในตู้ กรณีเกิดน้ำแข็งเกาะหนา ไม่ควรปล่อยไว้ เพราะจะทำให้ตู้แช่แข็งไม่เย็น แนะนำให้ทำการจัดน้ำแข็งเกาะผนัง โดยใช้ที่ขูดน้ำแข็งค่อย ๆ แซะออก
- หากไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลานาน แนะนำให้เคลียร์อาหารออกจากตู้ทั้งหมด ถอดปลั๊ก จากนั้นเปิดประตูไว้เพื่อป้องกันกลิ่นอับและเชื้อรา
ข้อควรจำ
- เมื่อเปิดเครื่องแล้ว ควรทิ้งให้ตู้ทำความเย็นไปประมาณ 1ชั่วโมงก่อนนำอาหารไปแช่แข็ง
- หากตั้งความเย็นเป็นโหมดแช่แข็ง ห้ามแช่เครื่องดื่มขวดแก้ว หรือ เครื่องดื่มที่มีก๊าซแช่เด็ดขาด เพราะความเย็นจะทำให้ขวดขยายตัวและขวดแตกได้
- ประตูจะมีขอบยางสูญญากาศ เมื่อปิดประตูลง จึงทำให้ไม่สามารถเปิดออกได้ทันที ควรรอ 1-2 นาที และอย่าฝืนเปิดก่อนเวลา เพราะจะทำให้ขอบยางได้รับความเสียหาย
คำถามที่พบบ่อยสำหรับตู้แช่แข็ง
ตู้มีกี่วัตต์บ้าง – มีตั้งแต่ 150 วัตต์ 180 วัตต์ 210 วัตต์ ให้เลือกใช้ตามปริมาณสิ่งของที่จะบรรจุ
กินไฟไหม – ขนาด150 วัตต์ ถ้าค่าไฟหน่วยละ 4 บาท จะต้องเสียค่าไฟวันละประมาณ 150×24/1000 = 14.4 บาท แต่หากใช้งานแบบไม่เปิดประตูเลย ค่าไฟจะลดลงได้อีกครึ่งหนึ่ง
เลือกซื้อตู้แช่แข็ง แนวนอน หรือ แนวตั้งดี
สรุป
ตู้แช่แข็งเป็นคำตอบที่ใช่เลยสำหรับงานนี้จะช่วยทำให้อาหารสด เครื่องดื่ม เวชภัณฑ์ต่าง ๆ ยืดอายุให้ยาวนานยิ่งขึ้น หากเป็นอาหารก็คือคงความสดของอาหารได้อย่างดี หรือหากเป็นสิ่งของเครื่องใช้ ก็มีอายุยาวนานยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
