กาแฟสดคืออะไร
เป็นกาแฟที่ให้รสชาติที่ยอดเยี่ยมในความเป็นธรรมชาติในตัวกาแฟ กาแฟสดนั้นคือเมล็ดผลกาแฟที่เกษตรกรเก็บสดจากต้นนำมาตากแห้งในรูปแบบต่าง ๆ แล้วจึงนำมาคั่วในระดับ Profile ที่แตกต่างกัน
เริ่มตั้งแต่คั่วอ่อน Light Roast, คั่วกลาง Medium Roast และ คั่วเข้ม Dark Roast จนได้เป็น เมล็ดกาแฟ คั่วในระดับต่าง ๆ เพื่อเอามาสกัดผ่านเครื่อง หรือ อุปกรณ์สกัดกาแฟต่าง ๆจนออกมาเป็นกาแฟให้เราได้ดื่มกัน
การกินกาแฟสด ดียังไง
กาแฟสดเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนทั่วโลกเลยก็ว่าได้ กลิ่นหอม ๆ ของกาแฟทำให้เรารู้สึกอยากดื่มกาแฟสดขึ้นมาทันที นอกจากได้ดื่มกาแฟสดที่แสนอร่อยแล้วยังมีประโยชน์จากการดื่มกาแฟสดอีกด้วย มีอะไรบ้าง
1.ดื่มกาแฟเป็นประจำ ช่วยป้องกันโรคหอบ โรคไวรัสตับอักเสบบี ได้
2.ดื่มกาแฟเป็นประจำช่วยลดการเกิดโรคตับจากการดื่มสุราได้
3.สารคาเฟอีนในกาแฟมีกรดอะซิติก ที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งช่องปากได้
4.ช่วยชะลอความแก่ได้ เพราะกาแฟที่เข้มข้นจะทำให้ออกไซด์แตกตัว กระตุ้นการเผสผลาญอาหารในร่างกาย
5.ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือดแข็งตัวได้
6.การดื่มกาแฟหลังจากรับประทานอาหารแล้ว จะช่วยลดความอ้วนได้
7.ช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวได้ จากการวิจัยพบว่า คนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำจะมีไขมันชนิด HDL เพิ่มขึ้น ไขมันชนิดนี้จะไล่คอเลสเตอรอลออกไป
8.ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมอง และเพิ่มสมรรถภาพทางสมองได้ ความหอมของกาแฟช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้เร็วขึ้น
9.ช่วยทำให้น้ำย่อยในกระเพาะหลั่งดีขึ้น ไขมันแตกตัวหากได้ดื่มกาแฟเล็กน้อยหลังทานอาหารเสร็จ สารคาเฟอีนในกาแฟจะมีประโยชน์ต่อกระเพาะโดยตรง น้ำย่อยที่กระเพาะและตับอ่อนเพิ่มขึ้น และไขมันจะถูกเผาผลาญได้ดี
เครื่องชงกาแฟสด คืออะไร
เครื่องชงกาแฟสดที่เราเห็นทั่วไปตามร้านกาแฟ ซึ่งแตกต่างจากเครื่องชงกาแฟทั่วไป ตรงที่เครื่องชงกาแฟนี้อาศัยใช้แรงดันไอน้ำในหม้อต้มสกัดช็อตกาแฟออกมา แล้วค่อยนำไปชงกาแฟเมนูอื่น เช่น ลาเต้ คาปูชิโน่ มอคค่า รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนรสชาติและความเข้มขันได้เองอีกด้วย
ข้อดีเครื่องชงกาแฟสด คือ
สามารถเลือก เมล็ดกาแฟ สายพันธุ์ที่ชอบมาชงได้เอง, ชงกาแฟได้หลายเมนู และสามารถเลือกระดับความเข้มข้นได้, คิดสูตรกาแฟได้เอง, มีก้านชงทำฟองนมได้ และคุ้มค่ากับการใช้ในระยะยาว
ข้อเสียเครื่องชงกาแฟสด คือ
ต้องมีความรู้และเทคนิคการชงกาแฟ เช่น ปริมาณน้ำ ปริมาณกาแฟ ความละเอียดของกาแฟบด น้ำหนักมือการบดอัดลงก้านชง, มีราคาสูงเมื่อเทียบกับเครื่องชงกาแฟประเภทอื่น, มีขั้นตอนการลงที่ซับซ้อนและใช้อุปกรณ์มาก, บางรุ่นต้องวอร์มเครื่องก่อนใช้.
อุปกรณ์การชงกาแฟสดมีอะไรบ้าง
อุปกรณ์การชงมีมากมาย แต่หลักๆต้องมี
- เครื่องชงกาแฟสด
- เครื่องบดเมล็ดกาแฟ
- เมล็ดกาแฟสด
- ตัวกดกาแฟ หรือ แทมป์เปอร์
เมล็ดกาแฟสด
เมล็ดกาแฟมีหลายชนิด การจะเลือกเมล็ดกาแฟให้เหมาะสมกับการทำกาแฟต้องคำนึงถึงรายละเอียดต่าง ๆ จะเป็นแหล่งที่มา ระดับการคั่ว เทคนิคการชง
เมล็ดกาแฟส่วนใหญ่ ผ่านการคั่วก่อนที่จะนำมาบดชงกันต่อไป ระดับการคั่วจะส่งผลกับรสชาติและกลิ่นของกาแฟ เมล็ดกาแฟคั่วเข้มจะมีรสชาติขมเข้ม รสชาติของความเป็นกาแฟจะไม่จางไปกับการเติม นมพร่องมันเนย น้ำแข็ง หรือ เติม ครีมเทียม ราดด้วย วิปปิ้งครีม หอม ๆ แต่หากใครที่ชื่นชอบกาแฟที่คงรสชาติของความเป็นผลไม้ ความหอมเปรี้ยวสดชื่น ควรเลือกเมล็ดกาแฟที่มีการคั่วอ่อน เพื่อให้ได้ชิมรสแท้ของกาแฟมากกว่า
โดยระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟ จะส่งผลต่อรสชาติและเป็นตัวกำหนดรสชาติของกาแฟที่แตกต่างกัน เช่น ระดับการคั่วกาแฟแบบอ่อน Light Roast เมล็ดกาแฟ จะมีสีน้ำตาลอ่อน มีรสชาติเปรี้ยว มีความ Fruitty สูง
เหมาะต่อการทำเป็นกาแฟร้อนที่สุด ส่วนระดับการคั่วแบบเข้ม Dark Roast เมล็ดกาแฟจะมีสีดำ มีน้ำมันเคลือบที่ผิวบาง ๆ มีรสชาติที่เข้มข้นจนไม่มีความเปรี้ยวลงเหลือเหมาะกับการทำเป็นกาแฟเย็น
ส่วนแหล่งกำเนิดของเมล็ดกาแฟมาจากประเทศแถบอเมริกาใต้ อย่างบลาซิล โคลอมเบีย จะเป็นกาแฟที่มีรสเข้มข้นและหอม ขณะที่เมล็ดกาแฟจากประเทศแถบอเมริกาอย่าง คอสตาริก้า ปานามาจะให้รสชาติที่มีความเปรี้ยวสดชื่นแบบผลไม้ ส่วนเมล็ดกาแฟจากแทบแอฟริกาเช่น เอธิโอเปีย และเคนยา จะมีรสและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
สำหรับการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟ สามารถเก็บได้ตั้งแต่ 3 สัปดาห์ไปจนถึง 1 เดือนจากที่เปิดถุง โดยการเก็บเมล็ดกาแฟแนะนำไว้ในถุงสูญญากาศเพื่อรักษาคุณค่าทางรสชาติและกลิ่นให้คงอยู่ได้ยาวนาน
เครื่องบดกาแฟ
เครื่องบดกาแฟ อีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในการบดกาแฟ ไม่ว่าจะบดหยาบ บดละเอียด หรือบดด้วยเครื่องบดกาแฟมือหมุน หรือ เครื่องบดกาแฟไฟฟ้า ที่ได้รับความนิยม และหาซื้อได้ง่ายดาย แต่ที่สำคัญคุณต้องเลือกเครื่องบดกาแฟให้ถูกหลักตามประเภทการใช้งาน
อย่าง เครื่องบดกาแฟมือหมุน ถือเป็นความคลาสสิคที่สุดเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในความพิถีพิถัน หรือ เชี่ยวชาญในเรื่องกาแฟ ซึ่งมีทั้งแบบเก่าแก่ที่ใช้กล่องไม้ และแบบสเตนเลส
ปริมาณกาแฟบดที่ได้ต่อหนึ่งครั้งจะค่อนข้างน้อยและมีจำกัดเมื่อเทียบกับการใช้แบบไฟฟ้าที่สามารถบดได้ในเวลาอันสั้น บดได้ครั้งละมาก ๆ ในเวลาไม่นาน ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความสะดวกอย่างยิ่ง
วิธีเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟสดสำหรับใช้ในบ้าน หรือเปิดร้าน
การเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟสดสักเครื่อง ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับการใช้งาน ดูจากหลักการทำงานและความแตกต่างของกลไกในตัวเครื่อง
1.เลือกตามระบบการทำงานของตัวเครื่อง
เครื่องชงกาแฟสดสามารถแบ่งตามระบบการทำงานได้ดังนี้
ระบบแมนวล Manual
สำหรับคนที่มีความรู้และประสบการณ์ในการชงกาแฟมาจนเชี่ยวชาญแล้วจะเหมาะกับเครื่องแบบนี้ต้องทำทุกอย่างเอง ตั้งแต่ดูระดับปริมาณน้ำ คั่วบดเมล็ดกาแฟเอง ควบคุมแรงอัดในการกดกาแฟเอง เพื่อให้ได้กาแฟรสชั้นเลิศที่มีคุณภาพที่สุด
ระบบอัตโนมัติ Automatic
สำหรับมือใหม่หัดชงกาแฟควรเลือกเครื่องที่มีระบบอัตโนมัติ เพราะใช้งานง่าย กดเพียงครั้งเดียวก็สามารถชงเครื่องดื่มตามต้องการได้ ไม่ต้องบดกาแฟหรือสตรีมนม ได้ความอร่อยในสูตรที่เป็นมาตรฐาน
ระบบกึ่งอัตโนมัติ Semi-Automatic
สำหรับผู้ที่มีความรู้เล็กน้อยในการบดกาแฟและสตรีมนมด้วยตัวเองจะเหมาะกับเครื่องชงระบบนี้ ความอร่อยหรือรสชาติของกาแฟจะเปลี่ยนแปลงไปจากมาตรฐานบ้าง แต่ถ้าฝึกฝนบ่อย ๆ ก็จะสามารถสร้างสรรค์เมนูกาแฟชั้นเยี่ยมได้
2.เลือกตามความถี่ในการดื่มกาแฟ
สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟต่อวันไม่มากนัก วันละแก้วในตอนเช้า ก็สามารถเลือกเครื่องชงที่มีหม้อต้มหรือบอยเลอร์ Boiler ขนาดเล็ก หรือ หม้อต้มแบบ Single Boiler ก็เพียงพอ ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด ชงกาแฟได้ครั้งละ 1-2 แก้ว ต้องมีเวลาให้เครื่องพักเพื่อทำความความร้อน ส่วนราคาก็ถูกกว่ารุ่นอื่น ๆ
สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟบ่อยมากกว่า 2 แก้ว ก็สามารถเลือกเป็นเครื่องชงที่มีหม้อต้มแบบ Double Boiler ที่มีขนาดใหญ่กว่า ควบคุมอุณหภูมิได้คงที่ และสามารถชงได้ต่อเนื่องมากกว่า
สำหรับการเปิดร้านกาแฟควรคำนวณว่าวันนึงขายอยู่เฉลี่ยประมาณกี่แก้ว ควรเลือกเครื่องชงกาแฟสดที่มีฟังก์ชั่นเสริมที่สามารถทำได้หลายๆอย่าง เช่น มีก้านสตรีมนม มีปุ่มกดน้ำร้อน เป็นต้น
นอกจากนี้สำหรับร้านกาแฟควรคำนึงถึงระบบภายในต่างๆของตัวเครื่อง เช่น มีหัวชงกาแฟกี่ช่องสำหรับเวลาชงกาแฟในแต่ละครั้ง ควรเลือกเครื่องที่มีความมาตราฐานใช้สำหรับเชิงพานิชย์ได้ เพราะจะมีความอึดถึกทนไม้ทนมือมากกว่าเครื่องชงกาแฟสดที่ไว้สำหรับทานเองที่บ้าน
3.เลือกตามระบบควบคุมอุณหภูมิ
เครื่องชงกาแฟสดจะมีระบบควบคุมอุณหภูมิให้เลือกทั้งระบบสวิตซ์แรงดันที่เป็นแบบอนาล็อก ต้องปรับและตั้งค่าด้วยตัวเอง และระบบควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิทัล ควบคุมการทำงานของเครื่องทำความร้อนเพื่อรักษาอุณหภูมิที่ตั้งไว้ได้อย่างแม่นยำ และยังช่วยประหยัดไฟได้อีกด้วย
4.เลือกตามออฟชันเสริม
เครื่องบดเมล็ดกาแฟ
การสกัดกาแฟแบบเอสเพรสโซ่ จำเป็นต้องใช้เมล็ดกาแฟที่คั่วและบดให้ละเอียดที่สุด ซึ่งเครื่องชงกาแฟบางรุ่นอาจไม่มีระบบบดเมล็ดกาแฟทำให้ต้องเอามาบดเอง อาจไม่ได้ความละเอียดเท่าที่ควร ดังนั้นควรเลือกเครื่องชงที่มีระบบบดเมล็ดกาแฟในตัวเพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่ยอดเยี่ยม
ฉนวนกันความร้อนของหม้อต้ม
ถ้าเครื่องชงกาแฟรุ่นใหม่มีออปชันตัวนี้ จะช่วยลดการใช้ไฟฟ้า และได้อุณหภูมิที่คงที่ยิ่งขึ้น
ปั๊ม
ปั๊มทำหน้าที่ดันแรงดันไอน้ำในระหว่างการสกัดกาแฟ อาจทำให้เกิดเสียงดัง สำหรับเครื่องชงกาแฟที่มีปั๊มแบบสั่นสะเทือนอาจจะส่งเสียงรบกวนกว่าเครื่องชงที่มีปั๊มแบบหมุนเวียน
ก้านทำฟองนม
เครื่องชงกาแฟมีตัวแลกเปลี่ยนความร้อนและมีหม้อต้มแบบ Double ทำให้ตีฟองนมได้หนานุ่มและเร็วขึ้น สะดวกว่าเครื่องชงที่มีหม้อต้มแบบ Single ด้วย
การเชื่อมต่อน้ำ
เป็นฟังก์ชันการทำงานที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย เพราะเครื่องจะเชื่อมต่อท่อน้ำกรองและท่อระบายน้ำไว้ จึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับถังบำบัดน้ำเสีย หรือ ปัญหาน้ำในตัวเครื่องหมด
5.เลือกตามงบประมาณ
ราคาเครื่องชงกาแฟในท้องตลาดจะอยู่ที่ตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป จนถึง 40,000-50,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความหลากหลายของฟังก์ชันในตัวเครื่องด้วย ยิ่งฟังก์ชันเยอะราคาก็สูงขึ้นตาม
วิธีล้าง/ทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟแบบละเอียดยิบ
สรุป
เครื่องชงกาแฟสด เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยในการชงกาแฟสดให้ได้กาแฟคุณภาพ ได้สัมผัสกับรสชาติที่อร่อย หอมละมุนของเมล็ดกาแฟบดอย่าง กาแฟขี้ชะมด ที่อบอวลไปด้วยรสชาติแห่งความพิถีพิถันชวนลิ้มลอง
เรียกได้ว่าถ้าคุณเป็นคอกาแฟต้องห้ามพลาดที่จะมีเครื่องชงกาแฟสดติดบ้านไว้อย่างแน่นอน และหวังว่าความรู้เกี่ยวกับเครื่องชงกาแฟสดที่จะนำพาให้ท่านได้เลือกได้ถูกใจเหมาะกับการใช้งานของคุณ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์ที่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขจากการได้ดื่มกาแฟสดในแต่ละวันอย่างมีความสุขสดชื่นตลอดทุกวัน
เชพขวัญ ขวัญเรือน ผู้ชำนาญการด้านการทำอาหารและเครื่องครัว ประสบการณ์ด้านการทำอาหารมากกว่า 20 ปี เคยอยู่ร้านอาหารชื่อดังหลายแห่ง มีความรู้และเชี่ยวชาญ เป็นนักเขียนและวิจารณ์รีวิวอาหาร และแนะนำเครื่องใช้ในครัวเรือน
เครื่องชงกาแฟสด Duchess CM3000B
– ให้คุณชงเครื่องดื่มได้ในระบบแรงดันน้ำ 15 บาร์
– มีความจุถังน้ำขนาด 1.5ลิตร
– ฟรี!!! ก้านชง, ถ้วยกรองขนาด 2 ช็อต ช้อนตักและกดกาแฟคั่วบด
เครื่องชงกาแฟ Clarte'รุ่น FCM135S
– ถาดรองน้ำสามารถถอดได้ และมีลูกลอยบอกรดับน้ำในถาดรอง
– มีหัวตีเป่าฟองนมในตัว ใช้งานและสามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย
– มีตัวกรองสำหรับกาแฟ 1 และ 2 แก้ว สามารถเปลี่ยนได้ตามต้องการ
– ขนาดสินค้า ( ซม.) :กว้าง 22ลึก/หนา 28 ยาว/สูง 30.5
เครื่องชงกาแฟสด Worldtech Xpresso รุ่น WT-CM15
– ฟังก์ชั่นการใช้งานครบ ทั้งทำกาแฟ และสตีมฟองนมได้ในเครื่องเดียวกัน
– ใช้งานง่าย ด้วย 3 ปุ่มกดการทำงาน พร้อมไฟแจ้งสถานะ
– มีถาดรองน้ำ ถอดรองสำหรับวางแก้ว ถอดล้างทำความสะอาดได้
เครื่องชงกาแฟ ETZEL รุ่น SN603
– ปุ่มอัตโนมัติ ทั้งกลั่นกาแฟ ทำน้ำร้อน ตีฟองนม
– ปุ่มอัตโนมัติตัดน้ำเอง
– ถาดรองน้ำทิ้ง ถอดล้างทำความสะอาดง่าย
เครื่องกาแฟสด Philips EP5447-90
– ระบบทำฟองนมที่ง่าย มีส่วนประกอบเพียงสองชิ้นไม่มีท่อทำความสะอาดง่ายและไว
– มีระบบขจัดคราบตะกรันในตัว
– ออกแบบในอิตาลี และตัวเครื่องผลิตในยุโรป
เครื่องชงกาแฟ Gmax รุ่น CM-Series
-ดีไซน์ทันสมัย ขนาดกำลังดี สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย
-ผลิตจากสแตนเลส พลาสติกเนื้อหนา คุณภาพดี ทนทาน
เครื่องชงกาแฟ Edoolffe
– สำหรับเมนูกาแฟ และเมนูร้อนต่าง ๆ เช่น ชอคโกแลต ชา นม
– ระบบแรงดันน้ำ 5 บาร์
– ความจุน้ำ 0.24 ลิัตร
เครื่องชงกาแฟสด SKG รุ่น SK-1205
– เหมาะสำหรับใช้งานร้านขนาดเล็ก บ้าน สำนักงาน
– สามารถใช้ไอน้ำตีฟองนมได้
– ปุ่มกดอัตโนมัติ และไฟแจ้งสถานะ สะดวก ง่ายต่อการใช้งาน
– ตัวเครื่องและอุปกรณ์ ทำจากสแตนเลส และพลาสติกเนื้อหนา
เครื่องชงกาแฟ KRUPS รุ่น EA819E10
– บันทึกการตั้งค่าเครื่องดื่มได้ 4 เมนู:
– ขนาดสินค้า 39×25.5×36.3 ซม. (ยาวxกว้างxสูง)
– หัวบดเมล็ดกาแฟสเตนเลสทรงกรวย บดได้ละเอียดทำให้รสชาติกาแฟดี
– ทำความสะอาดเครื่องได้ง่ายโดยอัตโนมัติด้วยระบบบำรุงรักษาอัตโนมัติ
เครื่องชงกาแฟ COFFEE PRESS รุ่น BLACK PLUS MODEL
– มาพร้อมแท่งสตรีม ทำได้หลากหลายเมนูกาแฟ
– ดึงรสชาติกาแฟเข้มข้น ชัด จากเมล็ดกาแฟสด
– ระบบอัจฉริยะ จดจำสูตรกาแฟแก้วโปรดของคุณ
– สามารถเลือกใช้เมล็ดกาแฟสดหรือแบบผง