เครื่องที่ใช้ดูดควันช่วยระบายอากาศ และขจัดกลิ่นและควันอาหารได้ หลายคนที่อยู่คอนโด อยากที่จะทำอาหารหลากหลายอย่าง แต่ติดที่กลัวจะมีกลิ่นอาหารคลุ้งห้อง ดังนั้นต้องเลือกที่คุณสมบัติของตัวเครื่องตรงกับความต้องการของเรา ซี่งมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบทั้งแบบที่ไม่ต้องเจาะผนัง, พร้อมติดตั้งได้อย่างง่าย ไม่เสียเวลา มีการทำงานของตัวเครื่อง ที่ให้เสียงเงียบ และใช้งานได้ทั้งกับที่อยู่อาศัยแบบบ้านอยู่, คอนโด หรือร้านอาหาร
สำหรับอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนอื่นๆที่นอกเหนือจากนี้ที่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น เครื่องชงกาแฟแคปซูล , เครื่องบดกาแฟ , เครื่องบดกาแฟมือหมุน , เครื่องชงกาแฟดริป , เตาอบไฟฟ้า , ตู้เย็น 5 คิว , ตู้แช่แข็ง , หม้อสุกี้
หม้อหุงข้าวดิจิตอล , เครื่องดูดควัน , เตาปิ้งย่างไฟฟ้า , เตาปิคนิค , เครื่องทำวาฟเฟิล , เครื่องบดอาหาร , เครื่องทำแซนวิช , เครื่องคั้นน้ำส้ม , กระทะเหล็ก , เตาแก๊สปิ้งย่าง , โต๊ะกินข้าว , เหยือกกรองน้ำ , แก้วเยติ , เครื่องชงกาแฟสด , เครื่องปั่นสมูทตี้ , ไมโครเวฟ ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
เครื่องดูดควัน คืออะไร
คือ เครื่องใช้ในการดูดควันอาหาร เน้นการติดตั้งไว้ด้านบนส่วนที่เป็นเตา หรือส่วนที่เป็นพื้นที่ในการทำอาหาร เป็นเครื่องใช้ที่จำเป็นอย่างมากสำหรับห้องครัว สามารถใช้กับครัวไทย, ที่พักอาศัยที่เป็นบ้านอยู่, คอนโด หรือตามร้านอาหาร มีทั้งรูปแบบไม่เจาะผนัง, พร้อมติดตั้ง ช่วยในเรื่องการขจัดกลิ่นและควัน ที่เกิดจากการทำอาหารได้เป็นอย่างดี
เครื่องดูดควัน มีกี่แบบ
แบบมาตรฐาน (Slimline Hood)
รูปแบบนี้เราจะเคยเห็นบ่อย สำหรับที่อยู่อาศัยในรูปแบบของอพาร์ทเมนท์ หรือคอนโด ที่เน้นการใช้สอยพื้นที่แต่ละโซนที่มีจำกัด ซึ่งขนาดของตัวเครื่องที่ใช้ดูดควันนั้น ส่วนใหญ่มักจะเลือกให้พอดีกับพื้นที่ๆ ใช้ในการทำอาหาร เป็นการติดตั้งแบบไม่เจาะผนัง และเป็นระบบการระบายอากาศแบบหมุนเวียน หรือ Recycle System
การเลือกหากสามารถเลือกระดับการดูดควัน ที่มีกำลังการดูดอยู่ที่ 900-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ก็จะช่วยในการระบายอากาศ และควันอาหารได้มากทีเดียว จะเหมาะกับการใช้งานสำหรับที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่จำกัดอย่างคอนโด หรือห้องพักที่มีพื้นที่ทำครัวจำกัด ซึ่งไม่รวมคอนโดที่เป็นห้องชุด หรือพื้นที่กว้าง ที่เราสามารถเลือกการติดตั้งเป็นแบบเครื่องดูดกลางห้องได้ เราอาจจะต้องมีอุปกรณ์เสริมในการใช้งานร่วมกับเครื่อง อย่างเช่น แผ่นกรองคาร์บอน ที่ช่วยในการขจัดกลิ่นอาหารอีกชั้นหนึ่ง
แบบติดผนังหรือติดเพดาน (Chimney Hood)
หากจะพูดเปรียบเทียบให้เห็นข้อแตกต่างชัดเจน จะอยู่ในระดับกลางระหว่างเครื่องแบบ Slimline Hood และเครื่องขนาดใหญ่ หรือ Island Hood ซึ่งถ้าจะบอกว่ามีประสิทธิภาพในการดูดกลิ่นอาหารได้ดีกว่าแบบแรก
รูปแบบ Chimney Hood นี้ก็ยังเหมาะสมกับ สถานที่พักอาศัยในรูปแบบบ้านอยู่ สำหรับการติดตั้งตัวเครื่องนั้น จำเป็นที่จะต้องเจาะผนัง หรือเพดาน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างการวางท่อระบายอากาศด้านใน ว่าจะมีความยากง่ายต่อการวางท่อมากน้อยแค่ไหน ทั้งการเจาะผนัง หรือเจาะด้านบนเพดาน
การเปรียบเทียบตัวท่อที่ใช้ระบายอากาศด้านนอกนั้น ยิ่งท่อมีรูปแบบการวางที่เป็น ลักษณะทางตรงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งระบายอากาศ และดูดกลิ่นอาหารได้ดีมากเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาระยะในการวางท่ออีกด้วยว่า ไม่ควรมากจนเกินไป ทั้งระยะทางและรูปแบบการวางท่อ มีความสัมพันธ์ต่อการระบายอากาศ และกลิ่นอาหารได้ดี
ส่วนใหญ่แล้วจะใช้วัสดุที่เป็นสแตนเลส เพราะด้วยการทำงานของตัวเครื่องที่ใช้ดูดควันอาหารนี้ จะเน้นการใช้งานที่ทนทานเป็นหลัก ถึงแม้จะเป็นรูปแบบตัวเครื่องในระดับกลาง ที่มีคุณสมบัติดูดควันอาหาร และระบายอากาศได้มากกว่ารูปแบบแรก แต่ก็ยังมีกำลังแรงดูดที่ไม่เท่ากับเครื่องตัวใหญ่อย่าง Island Hood
แบบกลางห้อง (Island Hood)
มีคุณสมบัติในการดูดควันอาหาร และระบายอากาศได้ดีมากกว่า 2 รูปแบบแรก ด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่กว่า และมีพลังในการดูดของตัวมอเตอร์ที่มากกว่า ทั้งรูปแบบ Chimney Hood หรือ รูปแบบ Slimline Hood
แต่รูปแบบ Island Hood จะเป็นการเจาะเพดานด้านบน เพื่อให้มีการระบายอากาศที่ดีกว่า และสะดวกกว่า ระดับเสียงในการทำงาน เราสามารถที่จะเลือกเครื่องรุ่นที่มีการทำงาน ในระดับเสียงที่ไม่ดังมากได้ ซึ่งจะให้เสียงเงียบในการเปิดใช้เครื่อง ซี่งไม่ว่าจะเป็นบ้านอยู่ที่มีพื้นที่มากๆ, คอนโดห้องชุด หรือแม้กระทั่งรูปแบบของร้านอาหารเหมาะที่จะเลือกใช้ เครื่องรูปแบบ Island Hood นี้
นอกจากตัววัสดุที่จะเป็นสแตนเลส ทั้งตัวปล่องดูดควัน และส่วนประกอบอื่นๆ แล้วนั้น เพื่อที่จะเสริมการใช้งานตัวเครื่อง ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานแล้วนั้น วัสดุสแตนเลสนี้นั้น ยังช่วยในเรื่องการเช็ดและดูแลรักษาความสะอาดที่ง่ายอีกด้วย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารที่มีกลิ่นแรงๆ อย่างอาหารรูปแบบครัวไทย หรืออาหารทอดต่างๆ ก็สามารถใช้งานกับเครื่องรูปแบบติดตั้งกลางห้อง หรือ Island Hood นี้ได้ และยังช่วยให้เสียงเงียบระหว่างการเปิดเครื่องอีกด้วย
วิธีเลือกซื้อเครื่องดูดควัน
เลือกจากประเภทเครื่อง
แบบมาตรฐาน
หรือแบบ Slimline Hood เหมาะกับรูปแบบที่อยู่อาศัย ที่เน้นเรื่องพื้นที่จำกัด อย่างเช่น ห้องพัก หรือคอนโดที่มีขนาดพื้นที่ในโซนทำอาหารที่ไม่กว้างมาก ดังนั้นการเลือกเครื่องในรูปแบบมาตรฐานนี้นั้น จำเป็นที่จะต้องมีการประกอบอาหาร ที่ไม่เน้นอาหารกลิ่นแรง หรือการทอดในปริมาณที่มากเกินไป เพราะการทำงานของเครื่องรูปแบบ Slimline Hood นี้นั้น จะเป็นการระบายอากาศแบบหมุนเวียน หรือ recycle
ซี่งการดูดกลิ่น หรือระบบระบายอากาศในแบบหมุนเวียน จะไม่สามารถขจัดกลิ่น และควันที่เกิดจากการทำอาหารได้มากนัก เพราะเป็นการติดตั้งตัวเครื่องแบบง่ายๆ ไม่มีการเจาะผนัง หรือต่อท่อระบายอากาศด้านนอก โดยมีข้อแนะนำในการใช้เครื่องรูปแบบนี้ ให้มีประสิทธิภาพในการดูดกลิ่น และระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้นคือ การใช้ร่วมกับแผ่นกรองคาร์บอน ในการติดตั้งด้านนอกของแผ่นกรองน้ำมัน หรือแผ่นฟิลเตอร์
แบบติดผนัง
หรือแบบ Chimney Hood ซึ่งเป็นการติดตั้ง ที่ต้องอาศัยการเจาะผนังร่วมด้วย เพื่อติดตั้งปล่องดูดควัน หรือ hood ดูดควัน โดยให้ระบายอากาศผ่านท่อออกไปด้านนอก ดังนั้นประสิทธิภาพในการระบายอากาศ และขจัดกลิ่นควันอาหารต่างๆ นั้นจะดีกว่าในแบบแรก ซึ่งสามารถใช้กับบ้านอยู่ และคอนโดที่มีพื้นที่มากขึ้นกว่าแบบแรก แต่สำหรับการใช้งานจริงนั้น เราสามารถทำอาหารทอดและผัด ได้ แต่ไม่ควรทำในปริมาณที่มาก หรือเทียบเท่ากับร้านอาหาร
เพราะด้วยกำลังการดูดควันของตัวมอเตอร์ มีไม่มากเท่ากับแบบเครื่องขนาดใหญ่อย่าง Island Hood แต่ยังถือว่าเป็นรูปแบบเครื่องที่น่าสนใจ สามารถขจัดกลิ่นอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหากต้องการให้เครื่องทำงานมีเสียงเงียบนั้น ควรเลือกที่ระดับเสียงอยู่ที่ 40-60 เดซิเบล ซึ่งเสียงในการทำงานของตัวเครื่องนั้น อาจจะขึ้นอยู่กับช่วงอายุในการใช้งาน และการดูแลรักษาร่วมด้วย
แบบกลางห้อง
หรือเราสามารถเรียกได้อีกชื่อว่า Island Hood ที่หากเป็นบ้านที่มีการออกแบบรุ่นใหม่ๆ หรือคอนโดห้องชุด ที่มีบริเวณในตัวบ้าน มีการแบ่งโซนทำอาหารที่มีพื้นที่มากๆ แล้วนั้นจะเน้นการออกแบบเครื่องที่ใช้ดูดควันในรูปแบบนี้ หรือเรียกว่า รูปแบบติดตั้งกลางห้อง และรวมถึงโซนในการทำอาหารจะเป็นการออกแบบ เป็นเคาน์เตอร์ในบริเวณกลางห้อง ตำแหน่งเดียวกับตัวเครื่องอีกด้วย
หากพูดในเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเครื่อง หรือการระบายอากาศได้ดีนั้น ต้องบอกเลยว่า ด้วยพลังมอเตอร์ที่มากกว่า 2 รูปแบบแรก ทำให้ระบบการระบายอากาศ และควันอาหารได้ดีกว่า ซึ่งเราอาจจะดูได้จากขนาดของตัวเครื่องร่วมด้วย เพราะจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าเครื่อง 2 รูปแบบแรก และมีฟังก์ชั่นให้เสียงเงียบในขณะเปิดเครื่องทำงาน
ขนาดเครื่อง
เครื่องควรมีขนาดที่ใหญ่ หรือครอบคลุมพื้นที่หรือโซนในการทำอาหาร ที่เราสามารถดูได้จากส่วนที่เป็นเตา อย่างเช่น หากพื้นที่ส่วนเตามีขนาด 30 นิ้ว ส่วนด้านบนที่เป็นตัวเครื่องดูดกลิ่นควันนั้น ควรที่จะอยู่ในขนาด 36 นิ้ว
รวมถึงการกะพื้นที่รอบข้างที่เราควรเว้นพื้นที่ด้านข้างของตัวเครื่องดูดกลิ่นควัน และพื้นที่ในการทำอาหารด้านข้างซ้ายและขวา เพื่อให้มีพื้นที่ในการระบายอากาศร่วมด้วย และไม่ควรน้อยกว่า 3 นิ้วทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ในส่วนของเครื่องที่ใช้ดูดควันรูปแบบกลางห้อง หรือ Island Hood นั้น ควรเว้นพื้นที่ด้านซ้ายและด้านขวาไม่น้อยกว่า 3-6 นิ้ว
แผ่นกรองน้ำมัน
หรือตัวแผ่นฟิลเตอร์ ที่เป็นด่านหน้าสำคัญ ในเวลาทำอาหารโดยเฉพาะอาหารทอด ที่มีไอหรือควันน้ำมันมากเป็นพิเศษ สำหรับการเลือกตัวแผ่นกรองนี้ มีความสอดคล้องกับอาหาร ที่ส่วนใหญ่เรามักจะเน้นทำกินกัน ไม่ว่าจะเป็นหมวดอาหารทอด หรืออาหารผัด หรือเป็นเพียงอาหารลวก หรือต้มเท่านั้น เพราะยิ่งมีคราบไอน้ำมันมากเท่าไหร่ ก็ควรที่จะเน้นเลือกใช้แผ่นกรอง ที่มีประสิทธิภาพในการกรองคราบน้ำมันได้มากเท่านั้น
แบบฟิลเตอร์
ส่วนใหญ่หากเป็นเครื่องดูดควันรูปแบบ Chimney Hood จะเป็นรูปแบบฟิลเตอร์นี้เป็นส่วนใหญ่ ที่มีวัสดุให้เลือกระหว่าง อลูมิเนียม หรือสแตนเลส ที่มีการทำออกมาคล้ายการสานให้มีรูในการเข้าของอากาศที่น้อยมาก เพื่อดักจับตัวไอน้ำมันที่จะลอยขึ้นไปติดด้านบนแผ่นกรองน้ำมัน หรือฟิลเตอร์นี้ การนำออกมาทำความสะอาดก็จะง่ายและสะดวก เพียงแค่ล้างด้วยน้ำยาขจัดคราบไขมัน แต่ควรที่จะเน้นถอดออกทำความสะอาดเป็นประจำ หากมีการทำอาหารเรื่อยๆ
แบบพัดลมแยกน้ำมัน
จุดเด่นของรูปแบบแผ่นกรองนี้ก็คือ จะเน้นการใช้ความเร็วและแรงของตัวใบพัด ในการพัดแยกระหว่างไอน้ำมัน และอากาศออกจากกัน และจะได้คราบน้ำมันออกมาส่วนที่รองน้ำมัน ดังนั้นนอกจากที่เราจะต้องถอดตัวแผ่นกรองน้ำมันด้านนอกออกมาแล้วนั้น ยังจำเป็นที่จะต้องถอดตัวรองน้ำมัน ออกมาล้างทำความสะอาดอีกด้วย
แบบแผ่นกรองคาร์บอน
ส่วนที่แตกต่างจากแผ่นกรองน้ำมัน 2 รูปแบบแรกคือ จะมีตัวแผ่นกรองคาร์บอน ลักษณะสีดำอยู่ด้านนอก ซึ่งแผ่นกรองคาร์บอนนี้ จะช่วยในการกรองทั้งไอน้ำมันที่ลอยตัวด้านบน และขจัดกลิ่นอาหารร่วมด้วย ซึ่งเราสามารถเลือกซื้อวัสดุเสริมนี้ได้ในทุกที่ๆ มีขายอุปกรณ์เครื่องครัว ควรเปลี่ยนประจำอย่างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง หรือถี่กว่านั้น หากมีการทำอาหารบ่อยครั้ง หรือทุกวันและเน้นเป็นอาหารจำพวกทอด
การเลือกใช้รูปแบบการกรองน้ำมันนี้ จะเน้นการทำอาหารที่มีควันมาก หรือกลิ่นแรง ซึ่งระบบการระบายอากาศจะมีทั้ง การทำงานของตัวมอเตอร์ด้านในตัวเครื่อง ร่วมกับแผ่นกรองคาร์บอนด้านนอก ที่เน้นในเรื่องการขจัดกลิ่นอาหาร และคราบน้ำมันจะมาเกาะติดที่ตัวแผ่นกรองคาร์บอนนี้ก่อน
เคล็ดลับการเลือกเครื่องดูดควัน
สรุป
หลายคนที่ชื่นชอบการทำอาหารกินเองที่บ้าน ซี่งเครื่องใช้ในครัวโดยเฉพาะ เครื่องดูดควัน ก็มีส่วนสำคัญอย่างมาก สำหรับผู้ที่ทำอาหารไม่ว่าจะเป็นบ้านอยู่, คอนโด หรือร้านอาหาร ด้วยคุณสมบัติในการทำงานของตัวเครื่อง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีให้เลือกหลากหลายประเภท สามารถใช้ได้กับการทำอาหารรูปแบบครัวไทย ด้วยความสามารถในการขจัดกลิ่นได้ดี และยังมีการติดตั้งที่ง่าย มีให้เลือกทั้งแบบไม่เจาะผนัง รวมถึงพร้อมติดตั้งได้สะดวกและรวดเร็ว
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน