รองเท้าคัทชูนั้นสามารถเข้าคู่กับชุดเสื้อผ้าได้หลากหลาย รวมถึงได้ในทุกโอกาสมากกว่า รองเท้าประเภทอื่นๆซึ่งแต่ก่อนการใส่รองเท้าแบบนี้เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดปัญหาที่เท้า ต่างๆ นานา อย่างเช่น ปัญหาปวดข้อ หรือกระดูกที่เท้า, เส้นเอ็นข้อเท้าอักเสบ หรือมีผลลามมาถึงโครงสร้างร่างกาย และการปวดศีรษะร่วมด้วย
แต่วันนี้มีการแก้ไขสิ่งที่เป็นความกังวลดังกล่าวได้แล้วโดยการเสริมส้นด้านหน้า ให้มีความหนา เพื่อที่จะลดความชัน หรือลดความเหลื่อมของส้นด้านหลัง กับด้านหน้าของรองเท้า รวมถึงมีการทำพื้นรองเท้าด้านใน หรือ Insole ให้มีความนุ่ม และใส่สบายมากขึ้น รวมถึงอีกทางเลือกคือ มีตัวเลือกทั้งแบบมีส้น และไม่มีส้นอีกด้วย
เราขอแนะนำสินค้าน่าใช้สำหรับหมวดหมู่เสื้อผ้า แฟชั่น ที่ใช้คู่กันได้ ยกตัวอย่างเช่น กระเป๋าคาดอกผู้ชาย , กระเป๋าสตางค์ , กางเกงสแล็ค , กางเกงทำงานผู้หญิง , เสื้อครอป , ชุดเดรส , รองเท้าแตะผู้ชาย , รองเท้าสลิปออนผู้หญิง , รองเท้าหนังผู้ชาย , รองเท้าส้นสูง , รองเท้ารัดส้น , ผ้าคลุมไหล่ , เสื้อขนเป็ด
นอกจากนี้ยังมีหมวดหมู่เครื่องสำอางที่เราอยากแนะนำใช้ดี ได้แก่ ลิปแก้ปากดำ , แปรงปัดแก้ม , กล่องเก็บเครื่องสำอาง , มาสคาร่า , บลัชออน , ไพรเมอร์ , รองพื้น , แป้งฝุ่น , ที่ดัดขนตา , ขนตาปลอม , ลิปแมท , ลิปกันแดด , ysl ลิป ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
รองเท้าคัทชู คืออะไร
มาจากคำว่า Court Shoe ที่ใช้ในการใส่ในงานที่เป็นทางการอย่าง งานรับปริญญา หรือในเทรนด์ปัจจุบันนี้ ก็สามารถนำมาใส่ร่วมได้กับหลากหลายเสื้อผ้า หรือหลายโอกาสร่วมด้วย ทั้งในแบบที่มีส้น และไม่มีส้น เป็นรองเท้าที่มีการคว้านด้านหน้าเท้า หรือส่วนที่เป็น Upper ให้มีส่วนเว้า
ด้วยเหตุผลในการใช้งานดังกล่าว จึงทำให้เป็นรองเท้าที่ใช้ใส่ในแบบที่ทนต่อการใช้งานแล้วนั้น ยังให้ความรู้สึกที่ใส่สบาย หรือใส่กับกางเกงยีนส์ได้แบบสวยๆ หรือหากเรามีชุดเดรส หรือชุดราตรี ก็สามารถเลือกจับคู่ได้ กับทั้งความสูงของส้นรองเท้า และงานหรือสถานที่ๆ ต้องไป เท่านี้ก็จะทำให้ผู้หญิงดูมีทั้งความสวย และเป็นการเสริมบุคลิกภาพที่ดีร่วมด้วย
รองเท้าคัทชูมีกี่ประเภท
1.ประเภทหัวแหลม
เข้าได้ทุกการแต่งตัวไม่ว่าจะเป็น กางเกงทำงานผู้หญิง ในหมวดกางเกงยีนส์ทรงต่างๆ หรือแม้แต่ชุดกระโปรง หรือชุดเดรส โดดเด่น และให้ความนุ่มเท้าในการสวมใส่ร่วมด้วย
แต่ข้อจำกัดของรองเท้า Court Shoe ในประเภทหัวแหลมนี้ ถึงแม้จะมีเสน่ห์ที่มัดใจสาวๆ ที่อยากจะสวมใส่กันทุกคนก็ตาม หน้าเท้าของผู้ที่สวมใส่ อาจจะต้องมีความเรียว และเล็กที่สามารถรับกับทรงรองเท้าที่มีความแหลมที่ปลายหัวรองเท้าได้ ซึ่งก็จะมีแยกย่อยเป็นอีก 2 รูปแบบคือ
ทรงหัวแหลมลึก
ด้วยทรงรองเท้า จะมีความบีบหน้าเท้าพอสมควร ดังนั้นนอกจากที่เท้าของผู้สวมใส่ ควรที่จะเรียว, หน้าเท้าแคบแล้วนั้น ยังควรมีโครงสร้าง และทรงเท้า ที่มีขนาดไม่ใหญ่อีกด้วย
ทรงหัวแหลมตื้น
ทำให้ผู้หญิงที่มีหน้าเท้ากว้าง แต่ไม่กว้างมาก สามารถที่จะเลือกใส่รองเท้าหัวแหลมในรูปทรงแบบนี้ได้ อีกทั้งเราสามารถที่จะเลือกใส่ได้ทั้งแบบที่มีส้น, ส้นเตี้ย หรือไม่มีส้นได้ ทั้งกับกางเกงทำงานผู้หญิง, กางเกงยีนส์ผู้หญิง, หรือแม้แต่ชุดเดรส ที่ช่วยเพิ่มความน่ารัก และใส่ได้กับชุดราตรีในแบบที่สวยๆ ได้เลยทีเดียว
2.ประเภทหัวมน
ด้วยการสวมใส่ที่สบาย, มีพื้นนิ่ม หรือให้ความรู้สึกที่นุ่มเท้าร่วมด้วย ให้ความสุภาพเหมาะกับโอกาส และงานที่เป็นพิธีการทำให้ชนิดนี้ฮิตใส่กันมากสามารถใส่คู่กับเสื้อผ้าได้ในหลากหลายชุด
3.ประเภทหัวตัด
เป็นทางเลือกให้กับผู้หญิงที่มีหน้าเท้ากว้าง หรืออึดอัดที่จะใส่ในรูปทรงหัวแหลมหรือหัวมน การเลือกในทรงหัวตัดนี้ ถือว่าเป็นการเลือกที่ช่วยให้การสวมใส่สบายที่สุด
การแต่งตัวกับรองเท้าคัทชู
1.ชุดเดรส
รองเท้าหัวแหลม
การจับคู่ระหว่างรองเท้าหุ้มส้น Cout Shoe กับชุดเดรส ที่มีผ้าที่พลิ้วไหว หรือเป็นชุดที่มีสี และแบบในทางผู้หญิงหวานๆ นั้น เราสามารถใส่เข้าได้กับ รองเท้าหัวแหลม ทั้ง 2 แบบคือ แบบที่เป็นหัวแหลมทรงลึก หรือหัวแหลมตื้น เปลี่ยนแต่ปรับเปลี่ยนเรื่องสีรองเท้า ให้สอดรับกับสีของชุดเดรส
อย่างเช่น หากเป็นชุดเดรสที่ให้สีพาสเทล อ่อนหวาน หรือสีแนวลูกกวาด ที่อินตามเทรนด์เกาหลีนั้น การเลือกสีของรองเท้าที่มีหัวแหลมนั้น ก็ควรที่จะเลี่ยงสีดำ หรือสีเข้ม แต่เน้นในสีที่อ่อนเข้าไว้ อย่างเช่น สีครีม, สีเบจ หรือสีขาวก็ตาม
คำถามคือ เราจะเลือกส้นรองเท้าอย่างไรดี ให้เหมาะกับชุดเดรสนี้ หากเป็นชุดเดรสที่มีความยาวเลยเข่านั้น ควรที่จะเลือกส้นรองเท้าที่สูงอย่างน้อยๆ 2 นิ้ว เพื่อเสริมความสูง และเรียวขาให้ดูสูงเรียวยาวมากขึ้น
ในทางกลับกันนั้น หากเป็นชุดเดรสที่มีลักษณะปลายสั้น เหนือเข่า เราสามารถที่จะเลือกใส่ได้ทั้งส้นเตี้ย, ส้นสูง หรือไม่มีส้นก็ได้ หากผู้สวมใส่มีความสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
รองเท้าหัวมน
ส่วนใหญ่ที่เรามักจะเห็นก็คือ ความนิยมในการใส่ชุดเดรสแบบสั้นเหนือเข่า คู่กับรองเท้า Court Shoe ที่มีส้นพอประมาณ อย่างเช่น ส้นเพียงแค่ 1 นิ้ว – 1 นิ้วครึ่งเพียงเท่านั้น และเป็นการใส่สบายในแบบที่สวยๆ ไปในตัวร่วมด้วย เพราะด้วยความที่เป็นทรงหัวมนนั้น จะให้ความรู้สึกต่อผู้ที่มองเห็น ในแนวใสๆ น่ารักๆ เข้ากันดีกับชุดเดรสแบบสั้นเหนือเข่ามากกว่า
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรองเท้าทรงหัวมน หรือหัวแหลมก็ตาม ถึงแม้จะมีรูปแบบการแต่งให้เข้ากับชุดเดรสได้แบบเดียวกัน แต่สไตล์ของทรงหัวรองเท้า จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ซี่งหัวแหลมจะเน้นไปที่ผู้หญิงที่มีความโดดเด่น และโฉบเฉี่ยว ในทางกลับกัน ทรงหัวมนนั้น จะให้ความรู้สึกในทางน่ารัก หรือในเทรนด์แบบเกาหลี, ญี่ปุ่นมากกว่า
2.กางเกงทำงานหรือกางเกงยีนส์
ตรงนี้เราสามารถที่จะปรับเลือกพิจารณา ในการสวมใส่ได้ทั้ง 2 รูปทรงไม่ว่าจะเป็น ทรงหัวแหลม หรือหัวมนก็ตาม แต่อีกทางเลือกหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมา คือทรงหัวตัด ที่สามารถนำเข้ามาใส่ร่วมด้วยกับกางเกงผ้าทำงาน หรือกางเกงยีนส์ได้ เพียงแค่หากไม่อยากให้ดูเป็นทางการมากจนเกินไป การเลือกสีรองเท้าก็มีส่วนสำคัญ และสัมพันธ์กับรูปแบบทรงรองเท้าร่วมด้วย
3.กางเกง 4 ส่วน หรือ กางเกง 5 ส่วน
การแต่งตัวในชุดที่ใส่สบายๆ อาจไม่ใช่เพียงแค่กางเกงยีนส์ หรือชุดกระโปรงเท่านั้น สำหรับวันหยุด แต่รูปแบบการใส่กางเกงในแบบ 4 ส่วน หรือ 5 ส่วนก็ยังเห็นกันอยู่ ที่สำคัญการเลือกที่จะใส่รองเท้าส้นเตารีด หรือรองเท้าส้นตึกในแบบเดิม อาจจะเป็นทางเลือกที่จำกัดเกินไป สำหรับผู้หญิงหลายคนที่เบื่อความจำเจ และชอบแต่งตัว รวมถึงทางเลือกรองเท้าในแบบคัทชู ก็สามารถช่วยให้การแต่งตัว มีความน่าสนใจได้มากทีเดียว
ทรงสกินนี่ หรือพอดีตัว
เราสามารถที่จะเลือกรองเท้า Court Shoeได้ไม่ว่าจะเป็นทรงหัวแหลม, หัวมน หรือทรงหัวตัด และรวมถึงการเลือกได้ตั้งแต่ มีส้นเตี้ย, ส้นสูง แต่เน้นเลี่ยงการใส่ในแบบไม่มีส้น เพราะจะทำให้ตัวดูตัน และขาไม่เรียวสวย นอกจากผู้ที่สวมใส่ จะมีความสูงที่มากพออยู่แล้ว
ทรงขาบาน
ควรที่จะเน้นการเลือกแบบมีส้น และอย่างน้อยๆ ควรมีความสูงไม่น้อยกว่า 1 นิ้วขึ้นไป ด้วยความที่กางเกงมีลักษณะขาบาน จึงทำให้มุมมองที่จะออกไปทางกว้าง ดังนั้นการใส่รองเท้า ก็ควรให้มีการเสริมในความสูงที่มากขึ้น
4.ชุดราตรี
ควรที่จะเลือกสวมใส่รองเท้าในทรงหัวแหลม หรือหัวมนเท่านั้น เพราะหากสวมใส่ทรงหัวตัด จะดูเป็นการสร้างการแต่งตัว ที่เป็นงานเป็นการ และดูเคร่งครึมจนเกินไป ถึงแม้ว่าจะเลือกสีของรองเท้าที่อ่อนลงก็ตาม อีกทั้งสิ่งที่ใส่ใจคือ ควรเลือกรองเท้าในแบบที่มีส้นที่มีความสูงอย่างน้อยๆ 2 นิ้วขึ้นไป
ถึงแม้ว่ารองเท้าที่มีส้นสูงในแบบคัทชูนั้น จะมีความสูง และต้องใช้การทรงตัวมาก แต่ด้วยพื้นรองเท้าด้านในที่มีความนิ่ม, ใส่สบาย รวมถึงการออกแบบให้เสริมพื้นส้นด้านหน้าเท้าร่วมด้วย จะช่วยให้เกิดการรองรับเป็นอย่างดี โดยที่ไม่มีความปวดเมื่อยเท้า อีกทั้งยังสามารถใช้งานใส่ได้หลายโอกาส ไม่เพียงแค่ใส่ร่วมกับชุดราตรีเพียงเท่านั้น
วิธีเลือกซื้อรองเท้าคัทชู
1.ส่วนสูงของส้นรองเท้า
ในกรณีที่เป็นการใส่รองเท้ารูปแบบนี้ เพื่อรับปริญญานั้น ส้นควรมีความสูงอยู่ที่ 1 นิ้ว – 1 นิ้วครึ่ง และหากต้องการใส่สูง เพื่อให้ขาดูเรียวยาวนั้น ก็ไม่ควรที่จะใส่สูงเกิน 2 นิ้ว ทั้งนี้นอกจากเรื่องความเหมาะสมด้วยแล้ว ยังช่วยให้สามารถใส่สบาย ได้แบบสวยๆ ไปในตัวอีกด้วย
ส่วนรองเท้าแบบไม่มีส้นนั้น ใครมองว่าไม่สามารถที่จะหาโอกาส ให้ใส่เพื่อเข้าคู่สวยๆ กับเสื้อผ้าในรูปแบบ หรือให้เข้ากับโอกาสอื่นได้ เพราะหากเป็นผู้หญิงที่มีความสูงอยู่แล้ว และมีเรียวขาที่เรียว เราสามารถที่จะใส่กับกางเกงยีนส์ ในแบบที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี ดูแล้วมีความคล่องตัว หรือจะให้อารมณ์ของผู้หญิงที่ลุยๆ ได้
2.วัสดุ
มีการผลิตออกมาเป็นวัสดุที่หลากหลายมาก แต่ที่เห็น และดูจะเป็นเอกลักษณ์ก็คือ วัสดุที่เป็นหนังส่วนทางเลือกอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น พลาสติก PVC หรือแบบเป็นผ้านั้น มีให้เห็นอยู่ แต่ก็มีส่วนน้อย และด้วยวัสดุที่มีความหลากหลาย ทำให้เราได้รู้ว่า ความนิยมในการสวมใส่รองเท้าประเภทนี้นั้น มีได้หลากหลายโอกาส และหลากหลายการใช้งาน
หนังแท้
มีทั้งหนังวัว, หนัวแกะ หรือหนังม้าก็ตาม ที่มีความนิยมในการนำมาผลิต โดยเน้นเรื่องความนิ่ม, ใส่สบาย และใส่ได้อย่างสวยๆ ในสีแบบธรรมชาติของหนังแท้ โดยมีทั้งแบบรองเท้ามีส้น และไม่มีส้นร่วมด้วย เพราส่วนใหญ่วัสดุที่เป็นหนังแท้ จะมีบางแบรนด์ที่เน้นในส่วนของการดูแลเพื่อสุขภาพเท้าที่ดีก็จะมีตัวเลือกเป็นรองเท้าคัทชูแบบไม่มีส้น ให้อารมณ์การใส่สบายๆ ไม่ว่าใส่ในวันรับปริญญา หรือใส่กับกางเกงยีนส์ก็ได้
หนังสังเคราะห์
เป็นหนัง PU หรือหนังยูรีเทน เน้นการดูแลรักษาที่ง่าย ซึ่งสามารถใส่ได้ทั้งกับงานรับปริญญา, ใส่กับกางเกงยีนส์ ในรูปแบบของรองเท้าไม่มีส้น แต่สิ่งหนึ่งที่หนังสังเคราะห์มีคุณสมบัติ ที่ไม่เท่ากับหนังแท้คือ ความนิ่มของเนื้อวัสดุ
3.รูปแบบส่วนหัวรองเท้า
หากเป็นการรับปริญญาหัวมนจะเป็นทั้งการใช้งานที่เหมาะกับกับโอกาส และทำให้เสริมบุคลิกของผู้ใส่ ให้ดูดี และเน้นในเรื่องความสุภาพร่วมด้วย แต่หากเป็นการจับคู่การใส่กับกางเกงยีนส์ควรที่จะเลือกในแบบหัวแหลม เพื่อให้ดูช่วงขาเรียวยาว ใส่คู่กับกางเกงยีนส์ทรงสกินนี่ หรือทรงสลิมจะช่วยให้ดูคล่องตัว และมีความเป็นผู้หญิงสมาร์ทในตัวอย่างมีเอกลักษณ์ทีเดียว
4.ทรงอุ้งเท้าที่สัมพันธ์กับรูปแบบรองเท้า
ผู้ที่มีลักษณะอุ้งเท้า หรือฝ่าเท้าที่มีความโค้งเว้ามาก หรือเรียกว่า High Arch นั้นควรอย่างยิ่งที่จะเลือกรองเท้าคัทชูที่มีการเสริมพื้นหน้าเท้าให้มีระดับเทียบเท่า หรือมีความชันน้อยลง สำหรับรองเท้าที่มีส้นสูงเกิน 3 นิ้ว เพราส่วนประกอบรองเท้านี้ จะช่วยลดทั้ง อาการเมื่อยล้าที่เกิดจากการ เดิน หรือยืนนานๆ อาจเป็นสาเหตุของการอักเสบของเส้นเอ็นข้อเท้า หรือปัญหากระดูก และข้อในส่วนของขาและเท้าร่วมด้วย
วิธีเลือกรองเท้าคัทชูใส่ทำงาน
สรุป
รองเท้าคัทชูเมื่อพิจารณาถึงประเภท รวมถึงการใส่ใช้งานร่วมกับเสื้อผ้า หรือชุดในโอกาสงานต่างๆ แล้วนั้น ทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมรองเท้าสำหรับผู้หญิงชนิดนี้ ถึงได้ครองใจผู้หญิงหลายคน ที่นอกจากจะมีซื้อเก็บไว้ใช้งานหลายคู่แล้ว ยังสามารถนำมาปรับเปลี่ยน ให้สามารถใส่ได้กับทุกโอกาส รวมถึงราคาไม่แพงอีกด้วย
กวาง จบการศึกษาปริญญาตรี วิทยาการจัดการ เอกสาขาวิทยุและโทรทัศน์ งานอดิเรกชอบท่องเที่ยวต่างประเทศ ไปมาแล้วหลายประเทศ เช่น ตุรกี อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน ปัจจุบันเป็นนักชำนาญการเขียนบทความด้านแฟชั่น ความสวยความงามโดยเฉพาะ
