มาม่าเกาหลีในวันนี้เป็นหนี่งในอาหาร ที่หลายคนติดใจและเป็นกระแสความนิยมทั้งในส่วนของซีรี่ย์เกาหลี รวมถึงทางเลือกของรสชาติที่หลากหลายทั้งแบบเผ็ด และไม่เผ็ด แต่ไม่ว่าใครจะชอบกินรสชาติแบบไหนก็ตาม ก็ให้ความอร่อยเหมือนเข้าไปอยู่ในซีรี่ย์เกาหลีเลยทีเดียว รวมถึงการให้ปริมาณแคลอรี่ที่มากกว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จที่เราเคยๆ กินกัน ช่วยให้อิ่มท้องได้มากกว่า และใครที่คลั่งไคล้รสชีส หรือกิมจิ ก็ยังมีให้เลือกกินกันได้อีกด้วย
ในหมวดหมู่อาหาร ของกิน เครื่องดื่ม หรือ เครื่องปรุงติดครัวที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น ซีอิ๊วขาว , น้ำปลาแท้ , ข้าวญี่ปุ่น , กิมจิ , กะทิกล่อง , น้ำจิ้มซีฟู้ด , กุนเชียง , ข้าวโอ๊ต , ขนมปังปี๊บ , ขิงผง , มายองเนส , ชาซีลอน , กาแฟกระป๋อง , น้ำนมข้าว , กาแฟดริป , กาแฟขี้ชะมด , กาแฟสำเร็จรูป , Bean bag , กาแฟอาราบิก้า , กะปิ ถ้าสนใจสามารถกดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จ้า
มาม่าเกาหลี คืออะไร
คือ เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือที่เราสามารถเรียกในสไตล์ภาษาเกาหลีว่า รามยอน (Ramyun) เป็นเส้นบะหมี่มาม่ากึ่งสำเร็จรูป หรือที่เรียกว่า Instant Noodle ที่มีทั้งรสชาติเผ็ด และไม่เผ็ด อีกทั้งยังให้เลือกได้ทั้งแบบแห้ง และแบบน้ำ
ความนิยมในการกินราเมนและรามยอนในเกาหลีนั้น อาจจะไม่ด้เพียงแค่มาจากเทรนด์ หรือกระแสซีรี่ย์เกาหลีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มาจากคุณภาพ และการมีทางเลือกให้ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมาม่าเผ็ดเกาหลี, รามยอนรสชีส, ที่สามารถทำได้ทั้ง หม้อไฟ หรือแบบชามกินคนเดียวก็ยังได้ รวมถึงยี่ห้อดังแห่งยุคนี้ก็คือ ซัมยัง ที่ทำให้เรายืนเลือกไม่ถูกว่ารสไหนอร่อย
คุณสมบัติของมาม่าเกาหลี
คือ รูปแบบเส้นที่หนา, นุ่ม และไม่เละ คำพูดเดียวที่คนส่วนใหญ่ได้รับรู้คือ วิเศษมากๆ สำหรับเส้นบะหมี่แบบนี้ ที่มาในรูปแบบที่ทำกินได้ง่ายๆ, ใช้เวลาต้มไม่นาน โดยเฉพาะหากเป็นแบบ Noodle Cup ด้วยแล้ว เพียงแค่เทน้ำร้อนเท่านั้น และจับเวลารอกินได้เลย
ไฮไลท์ที่แตกต่างจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทยเรา ก็คือตัวเครื่องปรุงที่มีความเป็นเอกลักษณ์พิเศษ ทั้งความเข้มข้น และรสชาติพริกเกาหลี, พริกโคชูจัง, กิมจิที่เหมือนเราไปนั่งกินที่ร้านในประเทศเกาหลีเลยทีเดียว และไม่ว่าเราจะเลือกรสไหนอร่อยก็ตาม ก็จะให้รสชาติในสไตล์เกาหลี ที่ไม่เหมือนกับประเทศไหน
ตัวอย่างรสชาติของมาม่าเกาหลี
1.รสเผ็ดร้อน (Hot/Spicy Flavor)
การเปิดตัวของมาม่าในแบบเกาหลี เราจะจำได้ดีกับรสชาติเผ็ดร้อนนี้ ด้วยสัญลักษณ์ของซองบะหมี่ หรือแบบถ้วยก็ตาม ที่ในแต่ละยี่ห้อจะเน้นทำสีซองบะหมี่ออกมา ให้มีสีแดงสด หรือแดงเข้ม เพื่อเป็นการบอกถึงระดับความเผ็ดของเครื่องปรุงในซอง มีทั้งรูปแบบน้ำและแห้ง โดยที่ระดับความเผ็ดนั้นถือว่า เหมาะกับผู้ที่ชอบความเผ็ดแบบสุดขั้วกันเลยทีเดียว โดยความเผ็ดร้อนนี้ สามารถเรียกน้ำตาให้ไหลได้ในขณะที่กินไปด้วย
2.รสชีส (Cheese Flavor)
สายชีสทั้งหลายอาจจะต้องซื้อตุนไว้ที่บ้าน เพราะรสชีสนี้จะเป็นที่ถูกใจคนส่วนใหญ่ ด้วยความหอมของตัวเชดด้าชีสกับรสชาติเผ็ดนิดๆ ของพริกเกาหลี และหากใครที่เคยกินรสชาตินี้ทั้งในแบบน้ำ และแบบแห้งแล้วจะรู้ได้ทันที ตั้งแต่ตอนที่เริ่มเทเครื่องปรุงลงไปคลุกกันตัวเส้นบะหมี่ กลิ่นชีสแท้ๆ จะลอยขึ้นมาให้เราเกิดอาการหิวมากขึ้นได้อีก ซึ่งสูตรนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นสวรรค์ของคนรักชีสเลยทีเดียว
3.รสกิมจิ (Kimchi Flavor)
เครื่องของชาวเกาหลี ที่ต้องมีประจำมื้ออาหารทุกโต๊ะของทุกครอบครัวนั่นคือ ผักดอง หรือที่เรารู้จักในชื่อว่า กิมจิ ที่เกิดจากการนำเอาผักชนิดต่างๆ มาหมักกับพริกของเกาหลีที่เรียกว่า โกชูการุ ที่ถือว่าเป็นหนี่งในเครื่องเทศคนเกาหลี นอกเหนือจากที่เราเคยรู้จักอย่าง พริกโคชูจังมาแล้ว
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นกิมจิผักกาดขาว, กิมจิหัวไชเท้า หรือแม้แต่กิมจิต้นหอมก็ตาม ต่างให้รสชาติที่เหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่เนื้อสัมผัสของผักในแต่ละชนิด รวมถึงกลิ่นหอมของผักแต่ละชนิดก็จะไม่เหมือนกัน การนำกิมจิมาทำเป็นหนี่งในรสชาติของมาม่าเกาหลีนี้นั้น ซึ่งทำให้รสชาตินี้ติดอันดับต้นๆ ของผู้ที่นิยมกินอาหารเกาหลี และหลงเสน่ห์ในผักดองกิมจิอยู่แล้ว
ความอร่อยของน้ำซุปรสชาตินี้ จะเข้มข้นและครบเครื่องมากขึ้น ถ้าเราเติมเต้าหู้อ่อน, เนื้อสัตว์, เห็ดสด, ผักโรยอย่างต้นหอมญี่ปุ่นหั่นซอยเพิ่มลงไป สำหรับรสชาตินี้นั้นทั้งผู้ที่กินเผ็ดมาก หรือผู้ที่กินเผ็ดน้อยก็สามารถที่จะกินได้ เราสามารถเพิ่มความเผ็ดมากขึ้นได้ จากการเติมพริกโคชูจัง เพื่อเพิ่มทั้งความเผ็ด และความหอมของตัวพริกได้อีก
4.รสจาจังมยอน หรือจาจาโรนี (Jjajangmyeon/Chacharoni Flavor)
มีเอกลักษณ์หลักคือ ซอสสีดำ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการเรียกในแบบ จาจังมยอน หรือจาจาโรนีนั้น มีความหมายเหมือนกัน คือรสชาตินุ่มละมุนของซอสถั่วดำหมัก โดยซอสนี้เกิดจากการหมักของถั่วดำ และน้ำตาลคาราเมล ตัวซอสจะมีความเข้มข้นมาก แต่เมื่อเทเครื่องปรุงมาผสมรวมกับเส้นบะหมี่เกาหลีแล้วนั้น จะได้ความพอที่ตัวซอสสีดำเคลือบเส้นบะหมี่
เสน่ห์ของจาจังมยอน หรือจาจาโรนีนี้นั้น ยังเป็นที่ถูกใจสำหรับหลายคนที่ไม่นิยมกินรสเผ็ด หรือใครที่สามารถกินเผ็ดได้เพียงเล็กน้อย ใครที่อยากจะเรียนรู้วิธีทำก็สามารถซื้อมาม่าในเซเว่นรสชาติซอสถั่วดำ หรือซอสดำนี้ โดยที่ทำกินได้ง่ายๆ ถือว่าเป็นอีกหนี่งรสชาติที่คนไทยนิยมกิน สำหรับผู้ที่กินเผ็ดได้เล็กน้อย
5.รสบูลโกกิ (Bulgogi Flavor)
ใครที่เคยสั่งเมนูอาหารเกาหลีบูลโกกิมากินกันแล้ว คงเข้าใจกันดีว่ารสชาตินี้ก็คือ ดัดแปลงมาจากเนื้อผัดซอสเผ็ดนั่นเอง แต่ไม่ใช่จะมีเพียงรสชาติเผ็ดอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีความผสมผสานระหว่างความเผ็ดกับผัดเปรี้ยวหวาน ที่มีทั้งรสชาติเผ็ด, รสเค็ม และรสหวานตาม ใครที่เป็นสายกินเนื้อรับรองว่าไม่ผิดหวัง เพราะจะให้กลิ่นรสชาติเนื้อตามมาพร้อมกับเครื่องปรุง ที่เราเทผสมลงไปกับเส้นบะหมี่ร่วมด้วย
ระดับความเผ็ดของมาม่าเกาหลี
มาม่าสไตล์เกาหลี, รามยอน หรือราเมนก็ตาม รสชาติที่ทำออกมามีทั้งแบบเผ็ดมาก, เผ็ดกลาง และเผ็ดน้อย เพื่อตอบโจทย์ให้ทั้งคนที่ชื่นชอบกับรสชาติเผ็ดจัดจ้าน และผู้ที่กินเผ็ดได้น้อย โดยเราอาจจะสามารถแบ่งระดับความเผ็ดให้เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ด้วยการใช้ตัวเลขเป็นตัวแบ่ง ซึ่งในระดับเผ็ดน้อยอย่าง ระดับที่ 1 หรือ 2 นั้นก็อาจจะขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน ที่มีความชอบในรสชาติเผ็ดได้มากน้อยแค่ไหน
เผ็ดมากระดับ 5
รสชาติจะเน้นระบุไว้ว่า เผ็ดร้อน หรือ Hot Spicy หรือมีเน้นว่า x2 Hot Spicy
เผ็ดระดับ 4
เราจะเห็นเพียงแค่บอกถึงคำว่าเผ็ดเท่านั้น หรือ Hot/Spicy
เผ็ดระดับ 3
ความเผ็ดในระดับนี้ เราจะสามารถบอกได้ว่า เป็นความเผ็ดระดับปานกลาง ที่เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่กินเผ็ดจัดได้ และคนที่กินเผ็ดได้ในระดับปานกลาง รวมถึงรสชาติที่มีการทำออกมาในรูปแบบแห้ง อย่างเช่น รสคาโบนาร่า, รสแกงกะหรี่, รสบะหมี่เย็น และรสหม่าล่า
เผ็ดอ่อนระดับ 2
ระดับความเผ็ดนี้ จะอยู่ในรสชาติเผ็ดแบบบางเบา ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบแห้งอย่าง รสชาติซอสถั่วดำ หรือจาจังมยอนก็ตาม ตัวอย่างรสชาติที่อยู่ในความเผ็ดระดับนี้คือ รสต๊อกโบกี, รสจาจังมยอน หรือรสจาจาโรนี และกิมจิ
เผ็ดน้อยระดับ 1
จะเป็นความเผ็ดที่เหมาะสำหรับผู้ที่กินเผ็ดได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หรือมีรสชาติเผ็ดติดที่ปลายลิ้นในแต่ละคำที่เรากิน อย่างเช่น รสบิบิม, รสดั้งเดิม และรสบูลโกกิ
เทคนิคต้มมาม่าเกาหลียังไงให้อร่อย
สรุป
มาม่าเกาหลีจากทั้งหมดนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรสชาติ, ตัวเส้นบะหมี่เกาหลีที่หนานุ่ม และก้อนใหญ่ รวมถึงรสชาติเครื่องปรุง ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในแบบเกาหลีเท่านั้น ทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมถึงมีผู้คนติดใจและซื้อกินอยู่ตลอดจนถึงวันนี้ โดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็นรสเผ็ด, เผ็ดน้อย หรือไม่เผ็ดก็ตาม ยิ่งได้ใส่ผัก, เนื้อสัตว์ หรือไข่เพิ่มเข้าไปด้วยแล้ว ต้องยกนิ้วให้พร้อมกับพูดว่า มาชิตะ ให้กับทุกรสชาติเลยทีเดียว
เชพขวัญ ขวัญเรือน ผู้ชำนาญการด้านการทำอาหารและเครื่องครัว ประสบการณ์ด้านการทำอาหารมากกว่า 20 ปี เคยอยู่ร้านอาหารชื่อดังหลายแห่ง มีความรู้และเชี่ยวชาญ เป็นนักเขียนและวิจารณ์รีวิวอาหาร และแนะนำเครื่องใช้ในครัวเรือน