ตัวขยายสัญญาณ wifiเป็นอุปกรณ์เสริมที่จะช่วยเพิ่มขอบเขตสัญญาณไวไฟจากตัวไวไฟของเร้าเตอร์ให้ไปได้ไกล ครอบคลุมพื้นที่มากกว่าเดิม การใช้งานก็ง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อนแต่มีประโยชน์ช่วยให้เราประหยัดค่าแพคเกจไวไฟได้
ถ้าเป็นหมวดหมู่คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค อุปกรณ์ไอทีที่น่าสนใจ เช่น เครื่องพิมพ์ฉลากสินค้า , เครื่องปริ้นพกพา , สาย lan , เครื่องปริ้น wifi , เครื่องสแกนเอกสาร , keyboard ไร้สาย , เครื่องอ่านบาร์โค้ด , ไมค์คอม , พัดลมระบายความร้อน notebook , เมาส์ไร้สาย , โต๊ะคอมเกมมิ่ง , จอติดรถยนต์ android ถ้าท่านผู้อ่านสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม 10 อันดับ สามารถกดดูได้ที่ลิ้งค์สีชมพูได้เลยจ้า
ตัวขยายสัญญาณ wifi คืออะไร
คือ เครื่องที่ช่วยขยายคลื่นความถี่ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นจากตัวเร้าเตอร์ เสาสัญญาณเครือข่ายต่างๆ หรือแม้แต่จากเครื่อง Access Point (AP) ให้ได้รับช่องสัญญาณ และคลื่นความถี่ที่มากขึ้น ซึ่งตัวขยายสัญญาณนี้ จะเน้นในเรื่องเสริมการใช้งานของการเชื่อมต่อ wifi มาเป็นอันดับต้นๆ
ประเภทของตัวขยายสัญญาณ wifi
แบ่งตามคลื่นความถี่ที่รองรับ
1.Single Band
ในจำนวนคลื่นความถี่ทั้ง 2 แบบ คือ คลื่นความถี่แบบ 2.4 GHz และ คลื่นความถี่แบบ 5 GHz นั้น ในประเภทของตัวขยายสัญญาณรูปแบบนี้นั้น จำเป็นที่จะต้องเลือกใช้งานที่คลื่นความถี่เดียวเท่านั้น
ไม่ว่าตัวขยายสัญญาณเครื่องนั้น จะสามารถรองรับได้ทั้ง 2 คลื่นความถี่ หรือรองรับได้แค่คลื่นความถี่เดียวก็ตาม รูปแบบนี้จะเป็นแบบทั่วไป ที่เราเห็นในรุ่นแรกๆ ที่มีการออกตัวขยายสัญญาณ wifi ที่มีทางเลือกให้กับผู้ใช้ได้น้อยมาก
2.Dual Band
ส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้จะมีการเลือกใช้ ตัวขยายสัญญาณในรูปแบบนี้เป็นจำนวนมาก เพราะเอื้ออำนวยประโยชน์ และทางเลือกให้กับผู้ใช้ได้มากกว่าตัวขยายสัญญาณแบบแรก ซึ่งอย่างที่เราได้รู้กันแล้วว่า ในแต่ละคลื่นความถี่ ก็จะมีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันไป
ดังนั้นการที่เครื่องขยายสัญญาณ จะสามารถรองรับได้ทั้ง คลื่นความถี่แบบ 2.4 GHz และคลื่นความถี่แบบ 5 GHz รวมทั้งการเปิดใช้งานได้ทั้ง 2 แบบนี้ ก็จะทำให้สัญญาณเสถียร และส่งสัญญาณไปได้ไกลมากขึ้นนั่นเอง
แบ่งตามรูปแบบการทำงาน
1.Repeater
การทำงานหลักๆในรูปแบบนี้คือ การรับช่วงต่อจากตัวเร้าเตอร์ ในการรับและส่งข้อมูล ที่อาจจะมีช่องสัญญาณที่น้อยไป หรือมีความผันผวนของคลื่นความถี่ให้แม่นยำ และมีความเสถียรมากขึ้นกว่าเดิม เหมาะกับปัญหาในการรับคลื่นสัญญาณ ที่ติดๆ ดับๆ หรือสัญญาณค้างเป็นประจำ การเปิดหน้าอินเตอร์เน็ทได้บ้าง ไม่ได้บ้าง หรือที่เราเจอๆ กันบ่อยๆ ในบางจุดของสถานที่ๆ เราผ่านไปคือ การโหลดหน้าอินเตอร์เน็ทที่ช้า และค้าง
2.Extender
หน้าที่หลักของตัวขยายสัญญาณรูปแบบนี้ คือการเน้นที่การขยายหรือเพิ่มพื้นที่ ในการเข้าถึงคลื่นสัญญาณได้มากขึ้น อย่างเช่น สำหรับที่พักอาศัยที่มีบริเวณที่กว้าง หรือตัวบ้านที่มีความลึกมากๆ การติดตั้งตัวเร้าเตอร์ในบริเวณช่วงหน้าบ้าน แต่ในส่วนห้องชั้นบน ที่มีตำแหน่งไปทางหลังบ้าน ก็อาจจะไม่สามารถได้รับคลื่นสัญญาณได้
รวมถึงหากมีสัญญาณก็เจอกับปัญหา จำนวนขีดสัญญาณขึ้นๆ ลงๆ ไม่เสถียร รวมถึงความแรงของคลื่นสัญญาณที่มีไม่มากพอ ทำให้เกิดปัญหาที่หลายครั้ง เราไม่สามารถใช้งานโปรแกรมที่เป็น real time
วิธีเลือกซื้อตัวขยายสัญญาณ wifi
1.เลือกซื้อในแบบ Dual Band
ซึ่งถึงแม้เราจะรู้ว่า ตัวขยายสัญญาณมีทั้งแบบ รองรับได้ทั้งสองคลื่นความถี่ และรองรับรวมถึงการใช้งานได้เพียงแค่คลื่นความถี่เดียว แต่ในปัจจุบันนี้ การเลือกตัวขยายสัญญาณในแบบแรก หรือแบบ Dual Band นั้นถือว่าเป็นการตอบโจทย์ ในทุกปัญหาของผู้ใช้งาน
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาคลื่นสัญญาณไม่เสถียร ขาดๆ หายๆ หรือเป็นที่คลื่นสัญญาณไม่แรงพอ เพราะบริเวณที่ใช้ หรือที่อยู่อาศัยมีพื้นที่ความกว้างมาก อย่างเช่น ถ้าตัวเร้าเตอร์ติดตั้งชั้นล่าง ส่วนใกล้กับหน้าบ้าน แต่ในการใช้งานจริง มีหลายห้อง และหลายชั้นในบ้านหลังนี้ การเลือกคลื่นความถี่แบบ 2.4 GHz นั้นก็ถือว่า จะช่วยในการกระจายคลื่นสัญญาณได้ทุกชั้น และทุกห้องได้
แต่ถ้าหากในกรณีที่บ้านหลังเดียวกัน มีจำนวนสมาชิกหลายคน มีการใช้อินเตอร์เน็ท และเชื่อมต่อสัญญาณ wifi ในทุกห้อง รวมถึงการใช้อุปกรณ์ในการเชื่อมต่อหลายเครื่อง การเข้าถึงหลายช่องทางแบบนี้
เราอาจจะต้องเลือกการตัวขยายสัญญาณแบบ Dual Band เพื่อให้การเข้าถึงในอุปกรณ์การเชื่อมต่อ wifi ได้เสถียร มีความแรงของคลื่นสัญญาณที่เท่ากันตลอด และทุกอุปกรณ์สามารถใช้ wifi ได้อย่างไม่มีปัญหา
2.ฟังค์ชั่นการใช้งานเสริม
ตัวขยายสัญญาณอาจไม่ได้มีประโยชน์ เพียงแค่การแก้ปัญหาในเรื่องการเชื่อมต่อ wifi หรือ ความไม่เสถียรของคลื่นสัญญาณเพียงเท่านั้น อย่างที่เรารู้กันว่า เครื่องขยายสัญญาณนี้ สามารถที่จะเพิ่มการทำงาน ของเครื่องเล่นมัลติมีเดีย
เอ็นเตอร์เทนอย่าง สมาร์ททีวี เครื่องเล่นเกมต่างๆ เช่น นินเทนโด หรือ เพลย์สเตชั่น รวมถึงการพ่วงต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ และโน๊ตบุ๊ค ที่ช่วยให้สัญญาณในการใช้งานได้สมบูรณ์มากขึ้นอีกด้วย ด้วยช่องเสียบ Ethernet หรือช่องเสียบสาย lan ที่เพิ่มทางเลือกให้กับเราได้มากขึ้นอีกด้วย
3.เลือกตามรูปแบบการทำงานของตัวขยายสัญญาณ wifi
ในแต่ละการใช้งานของแต่ละบ้าน หรือส่วนบุคคลนั้น จะมีปัญหาแตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงควรเลือกตัวขยายสัญญาณ ให้สอดคล้องกับปัญหาที่เราเจออยู่ ทั้งในแบบของ Repeater ที่เน้นในเรื่องของ การรับส่งข้อมูล สัญญาณที่ไม่ผิดเพี้ยน
ที่จะทำให้สัญญาณที่เราได้ มีความเสถียร และนิ่ง ใช้แก้ปัญหาหลักๆ ในส่วนของเร้าเตอร์เดิม ที่เป็นตัวปล่อยสัญญาณ มีปัญหาขีดสัญญาณที่ขึ้นๆ ลงๆ ตั้งแต่แรกแล้ว
ส่วนหากเรามีปัญหาเรื่อง พื้นที่ในการใช้งานที่กว้าง อย่างเช่น ในสำนักงาน หรือบ้านหลังใหญ่ พื้นที่ๆ กว้างมาก การเลือกแบบ Extender นั้นจะตอบโจทย์ความต้องการได้มากกว่า ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ที่สั้น ความแรงของสัญญาณไม่ได้เป็นปัญหา
แต่เน้นในเรื่องของการขยายสัญญาณให้กินพื้นที่ได้กว้างมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเน้นใช้กับบ้าน หรือที่พักอาศัยที่มีบริเวณบ้านที่กว้าง ซึ่งเร้าเตอร์ตัวปล่อยสัญญาณเพียงตัวเดียว อาจไม่สามารถรองรับการใช้งานได้ตรงตามที่ต้องการ
4.เลือกตามการติดตั้ง
ส่วนของข้อมูลที่บอกถึงในข้างต้นนั้น ถึงการแบ่งประเภทของตัวเครื่องขยายสัญญาณ ตามการจ่ายไฟ หรือการติดตั้งในครั้งแรก เครื่องในปัจจุบันนี้ที่มีความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับผู้ใช้ที่ไม่จำเป็นต้องชำนาญทางคอมพิวเตอร์ สามารถซื้อมาติดตั้ง และใช้ได้ทันที
หากเป็นเครื่องขยายสัญญาณแบบ ที่มีปลั๊กเสียบด้านหลัง โดยที่เราจะสังเกตได้ว่า เครื่องในรูปแบบนี้ จะมีขนาดที่เล็ก และนอกจากจะมีปลั๊กเสียบด้านหลังแล้ว ตัวเครื่องยังมีตัวปุ่มเปิดปิด ที่ด้านหน้าตัวเครื่องขยายสัญญาณ เพื่อเป็นตัวตั้งค่า และรีสตาร์ทในครั้งแรก ให้มีการจดจำค่าตัวเลขประจำเครื่องขยายสัญญาณ ซึ่งไม่ต้องผ่านการตั้งค่าจากเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุ๊คเลย
5.เลือกเทคโนโลยีที่เสริมเข้ามา
ในหลายยี่ห้อสินค้าหมวดตัวขยายสัญญาณนี้ มีการแข่งขันกันสูงมากขึ้น ด้วยการขยายตัวของที่พักอาศัยในรูปแบบของคอนโด และการเกิดขึ้นของบ้านเดี่ยว ที่มีพื้นที่บริเวณภายในบ้านที่กว้าง ดังนั้นสำหรับบางยี่ห้อจะมีการคิดค้น เทคโนโลยีเฉพาะ ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อ
จากเดิมที่มีการขยายสัญญาณให้กินพื้นที่ๆ มากขึ้นแล้ว ยังช่วยในเรื่องความเสถียรของสัญญาณ และให้มีความนิ่งของสัญญาณมากขึ้น อย่างเช่น เทคโนโลยี MIMO (MU-MIMU) ที่มีจุดขาย และชูในเรื่องของ การเชื่อมต่อของอุปกรณ์หลายๆ ชิ้นพร้อมกัน
ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ การใช้โทรศัพท์มือถือ การดูหนัง โดยเฉพาะการการสตรีมมิ่งผ่านสื่อบันเทิง ที่ไม่มีปัญหาเรื่องการสะดุดระหว่างการดูเลยทีเดียว
ส่วนเทคโนโลยีอย่าง Beamforming จะมีหน้าที่คล้ายกับ Extender ที่ลดปัญหาจุดอับสัญญาณภายในบ้าน และขยายสัญญาณให้มีพื้นที่ๆ กว้างมากขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีทั้งสองตัวนี้ เราจะเห็นได้เพียงแค่บางยี่ห้อ ของตัวขยายสัญญาณไวไฟเท่านั้น
เพราะในคุณสมบัติเหล่านี้ จะมีอยู่แล้วในตัวเครื่องขยายสัญญาณแบบ Repeater และ Extender เพียงแต่เทคโนโลยีทั้ง 2 ตัวนี้จะช่วยให้การทำงานของตัวเครื่อง มีการทำงานที่สมบูรณ์มากขึ้น หรือเรียกว่าเป็นการทำงานเสริมกัน
รีวิว XiaoMi Wi-Fi Amplifier Pro
สรุป
ตัวขยายสัญญาณ wifi ทำให้การเชื่อมต่อสัญญาณไม่ว่าจะเป็นการใช้งานผ่านอุปกรณ์อะไรก็ตามไม่สะดุดและมีประสิทธิภาพตรงตามความต้องการของเรา แถมยังช่วยประหยัดค่าแพคเกจรายเดือน หรือประหยัดจำนวนในการติดตั้งเร้าเตอร์ไวไฟอีกด้วย
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน