* ภาพปกมากจาก shopee.co.th ร้าน katenora
ปัญหาของเส้นผมมีอะไรบ้าง
ผมไม่ว่าจะเป็นผมยาว, ผมสั้น, ผมที่มีลักษณะตรง, ดัดลอน หรือหยิกหยักศกก็ตาม เรามักจะมีการเจอกับปัญหาเส้นผมที่หลากหลายแตกต่างกันไป อันเนื่องมาจากการที่เส้นผมโดนความร้อน, สารเคมีอย่างเช่น น้ำยา หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ในการจัดแต่งทรงผมทุกวัน และมีการล้างออกไม่หมด ทำให้เกิดสิ่งสกปรกและสารเคมีตกค้างไว้ที่ หนังศีรษะ หรือบนเส้นผมโดยที่เราคาดไม่ถึง
ซึ่งปัญหาเส้นผมสำหรับบางคน ก็อยู่ในระยะช่วงแรกเริ่ม ที่ผมยังไม่เสียมากเท่าไหร่ แต่สำหรับบางคนที่อาจปล่อยไว้นาน, โดนสารเคมีและความร้อนซ้ำซ้อน และรวมถึงการไม่ได้บำรุงเส้นผมอย่างต่อเนื่องและเพียงพอ ทำให้ผมที่เสียอยู่แล้ว กลับมีปัญหาผมเสียมากขึ้น จนหลายคนที่จำเป็นต้องคอยตัดและเล็มผมเสียออกทุกเดือน เพื่อให้ผมงอกใหม่ขึ้นมาแทน ซึ่งโดยหลักๆ แล้วเราจะพบปัญหาเส้นผมได้ดังต่อไปนี้ คือ
ผมแตกปลาย
หากเราพูดถึงปัญหาผมที่หลายคนเจอกัน และถือว่าเป็นปัญหาเส้นผมอันดับแรกๆ คือผมแห้งแตกปลาย ที่หากมองลงไปในสาเหตุที่ทำให้เกิด สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความร้อนทั้งจากอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับผม หรือความร้อนจากแสงแดด ที่สำคัญคือ การใช้ไดร์เป่าผมในทุกวัน ด้วยความร้อนสูง และเน้นไดร์เป่าในตำแหน่งเดิมๆ ของเส้นผม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นสาเหตุที่สำคัญเลยทีเดียว ที่จะทำให้เส้นผมเกิดปัญหาผมแตกปลายได้
ซึ่งถึงแม้ว่าผมแตกปลายจะเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับเส้นผม และเป็นปัญหายอดนิยม ที่ใครหลายคนต้องเจอและเป็นกังวล แต่เชื่อหรือไม่ว่าเป็นปัญหาที่สามารถแก้ได้ง่ายๆ ด้วยการอบไอน้ำ หรือการใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า หมวกสำหรับอบไอน้ำเพียงเท่านั้นเอง เพียงแค่เดือนละ 2 ครั้ง เพราะการฟื้นฟูเส้นผมแตกปลายนั้น ต้องอาศัยระยะเวลาร่วมกับการอบไอน้ำ
ส่วนสำคัญอีกอย่างคือ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้หมักผมก่อนอบไอน้ำ ควรที่จะเลือกส่วนประกอบที่มีสารอาหารที่จำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟูเส้นผม และซ่อมแซมเส้นผม อย่างเช่น เคราติน, โปรวิตามินบี5 หรือวิตามินอี ที่ส่วนประกอบ และสารอาหารผลเหล่านี้ จะตรงเข้าค่อยๆ บำรุงและปรับสภาพเส้นผมให้ดีขึ้นตามลำดับ
ผมซ็อต
ปัญหาผมช็อตก็คือ เส้นผมที่แห้งกระด้าง, กรอบและชี้ในแบบที่ไม่เป็นทรง เราไม่สามารถจัดทิศทางของทรงผมได้ หรือจัดทรงได้ยาก ซึ่งกว่าที่จะมาถึงจุดปัญหานี้ได้ ผมอาจจะผ่านการทำเคมีจากตัวน้ำยา ไม่ว่าจะเป็นการดัดผม, การยืดผม หรือการย้อมสีผม มาอย่างต่อเนื่อง และมีความถี่มากจนเกินไป รวมถึงภายหลังการทำไม่ได้มีการบำรุงเส้นผมอย่างต่อเนื่องและดีพอ
ซึ่งผมอาจจะเริ่มจากลักษณะแห้งกรอบ และชี้ฟู และมีการดัดผม หรือยืดผมซ้ำๆ ต่อเนื่องโดยไม่มีช่วงเวลาให้เส้นผมได้พักบำรุงก่อน ทั้งนี้หลายคนจึงตัดสินใจในการแก้ปัญหา ผมที่มีความแห้งกระด้าง หรือปัญหาผมช็อตนี้ด้วยการตัดเล็มทิ้งไปเรื่อยๆ โดยที่หลายครั้งผมที่งอกใหม่ ก็เกิดปัญหาเดียวกัน ซึ่งนั่นอาจหมายถึง เซลล์รากผมที่เกิดปัญหาร่วมด้วย ดังนั้นการแก้ไขนอกจากที่จะตัดเล็มผมเสียออกแล้ว ควรที่จะมีการบำรุงด้วยการอบไอน้ำร่วมด้วย
ผมไม่มีน้ำหนัก
เส้นผมที่ขาดน้ำหนัก หรือที่เรามักเรียกกันว่า ผมขาดวอลุ่มนั่นเอง ถือว่าไม่ใช่ปัญหาเล็กเลยทีเดียว เพราะในการจัดแต่งทรงผมในแต่ละวันนั้น ทั้งการไดร์ผมหรือหนีบผม ไม่ว่าจะทำให้ผมตรงแค่ไหนก็ตาม เมื่อออกไปนอกบ้าน ผมก็จะไม่อยู่ทรง รวมถึงยังมีปัญหาในเรื่องลักษณะเส้นผมที่บางและลีบอีกด้วย ทำให้ถึงแม้ผมจะมีลักษณะเรียบตรง แต่ขาดความเป็นธรรมชาติไป
ผมชี้ฟู
อย่างที่เราได้พูดถึงปัญหาผมเสีย โดยเฉพาะปัญหาผมช็อตกันมาแล้ว ว่ามีสาเหตุหลักๆ ที่เกิดจากความร้อนและสารเคมีจากน้ำยาในการดัดผม, ยืดผม, หรือการทำสีผม รวมถึงการใช้ ไดร์เป่าผม และ ที่หนีบผม ในทุกวัน มีส่วนที่จะทำให้ผมชี้ฟู และมีความแห้งกรอบ ซึ่งก็จะนำปัญหาต่อเนื่องอย่างเช่น ผมที่จัดทรงยาก และผมไม่มีน้ำหนักตามมาด้วย
ผมแห้งเสีย
เป็นสัญญาณบ่งบอกถึง สุขภาพของเส้นผมที่เริ่มจะย่ำแย่ และถือว่าเป็นปัญหาเส้นผมอันดับแรกๆ รองจากผมแตกปลาย ซี่งหากปล่อยไปนานวันเข้า ก็จะเกิดปัญหาผมแห้งเสีย คือสภาพเส้นผมแห้งแตกปลายตลอดทั้งเส้น และหากเราไม่บำรุง และฟื้นฟูด้วยการลงครีมหมักผม พร้อมกับการใช้หมวกอบไอน้ำร่วมด้วยแล้ว ปัญหาผมแห้งเสีย ก็จะลามไปสู่ปัญหาผมชี้ฟู และผมไม่มีน้ำหนักต่อเนื่องกัน
การอบไอน้ำ คืออะไร
คือ การใช้ไอความร้อนจากไอน้ำ หรือจากไอความร้อน เข้ามาช่วยในการบำรุงและซ่อมแซมเส้นผม ในกรณีที่เป็นการอบไอน้ำผม โดยไอความร้อนที่เกิดขึ้นนั้น จะเป็นตัวกลางช่วยให้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นครีมบำรุงผมซึมเข้าสู่เกล็ดผมด้านในได้อย่างสมบูรณ์ และได้ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ซึ่งการอบไอน้ำผมอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ แต่ไม่ถี่จนเกินไป นอกจากจะช่วยในการบำรุงเส้นผมด้วยแล้ว ยังเป็นการฟื้นฟูสภาพเส้นผม สำหรับผมแห้งเสีย, ผมแห้งแตกปลาย, ผมไม่มีน้ำหนัก และผมชี้ฟู เป็นต้น กลับมามีสภาพดีขึ้นได้ และเป็นการเตรียมผมเพื่อใช้ร่วมกับ ที่ม้วนผม , ที่หนีบผม , โรลม้วนผม , หวีไฟฟ้า , กรรไกรซอยผม , ครีมยืดผม , ครีมจับลอน , โฟมเปลี่ยนสีผม , ทรีทเม้นท์ผม , มูสใส่ผม ให้ได้ทรงผมที่มีความเงางาม และจัดทรงได้ง่าย
หมวกอบไอน้ำ คืออะไร
คือ หมวกที่ใช้ในการอบไอน้ำร่วมกับผม เพื่อช่วยให้ครีมบำรุงผม หรือครีมหมักผมซีมเข้าสู่เส้นผมได้ลึกถึงด้านใน หรือในขณะที่เกล็ดผมเปิดอยู่ สารอาหารผมที่อยู่ในครีมหมักผม จะเข้าไปซ่อมแซมและฟื้นฟูผมแห้งเสีย, ผมชี้ฟู และผมไม่มีน้ำหนัก ให้กลับมามีสภาพเส้นผมที่ดีขึ้น หมวกอบไอน้ำถือว่าเป็นไอเท็ม ในการช่วยบำรุงเส้นผม และฟื้นฟูซ่อมแซมเส้นผม ที่มีการใช้ง่ายและสะดวก เหมาะสำหรับการดูแลเส้นผมได้เองที่บ้าน
หมวกอบไอน้ำ ช่วยอะไรได้บ้าง
ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ครีมหมักผมซึมเข้าเส้นผมได้ดี
ก่อนหน้านั้นเรามักจะดูแลเส้นผม เพียงแค่ลงครีมนวดทุกครั้งหลังสระ และนั่นคือการบำรุงเส้นผมอย่างดีแล้ว หรืออาจจะมีการใช้ครีมหมักผม หรือทรีทเม้นท์โดยการชโลมบนเส้นผม และล้างออก ซี่งหลายคนก็บอกว่า ได้เส้นผมที่นุ่มสลวย และดีขึ้นกว่าเดิม แต่หากการใช้ครีมหมักผมใช้ร่วมกับหมวกสำหรับอบไอน้ำด้วยแล้ว จะยิ่งทำให้ส่วนประกอบที่เป็นสารอาหารสำหรับเส้นผม ซึมเข้าสู่เส้นผมได้ดียิ่งขึ้น
ฟื้นฟูเส้นผมส่วนที่เสีย
ถึงแม้ว่าอุปกรณ์ในการอบไอน้ำ หรือ Hair Steaming ที่เรียกว่า หมวกสำหรับอบไอน้ำนี้จะไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยฟื้นฟู และซ่อมแซมผม โดยในการใช้งานจริงนั้น ต้องร่วมกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม อย่างเช่น ไบโอติน , ทรีทเม้นท์ หรือมาส์กผม ก็ตาม แต่หากมีการหมักผมแบบไม่ใช้ความร้อนจากการอบไอน้ำ ประโยชน์จากสารอาหารเส้นผม ที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ก็ไม่สามารถซึมเข้าลึกสู่เกล็ดผมด้านในได้
ผลที่ได้ก็คือ เป็นการบำรุงเส้นผมเพียงแค่การเคลือบเส้นผมด้านนอกเท่านั้น จึงเป็นสิ่งที่เรามักจะเห็นว่า หลังการหมักผมทำให้ผมนุ่มลื่น แต่สภาพผมที่แห้งเสียก็ยังเป็นเหมือนเดิม หากเปรียบเทียบกับการใช้ครีมหมักผม ร่วมกับการอบไอน้ำร่วมด้วยแล้ว เราจะสังเกตเห็นได้ชัดถึงผลการเปลี่ยนแปลง สำหรับปัญหาผมเสียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ผมแตกปลาย, ผมชี้ฟู, สภาพผมช็อต, ผมไม่มีน้ำหนัก หรือผมจัดทรงยาก จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
ชะล้างสิ่งสกปรกที่ตกค้าง
เชื่อหรือไม่ว่าในแต่ละวันที่เราได้มีการ สระผมด้วยแชมพูที่เราทุกคนคิดว่าสะอาดแล้ว แต่ในความจริงเราอาจจะทิ้งคราบสิ่งสกปรก หรือสารเคมีตกค้างไม่ว่าจะเป็นการทำน้ำยาเคมีจากการยืดผม, ดัดผม หรือย้อมสีผมก็ตาม ตกค้างไว้บนหนังศีรษะ และรวมถึงการบำรุงผมในทุกวันผ่านครีมนวดผม หรือครีมหมักผมนั้น ก็เป็นเพียงการบำรุงแค่เพียงด้านนอกของเส้นผมเท่านั้น
ซี่งการอบไอน้ำผม จะช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อยู่บนหนังศีรษะ และเส้นผมออกไปได้อย่างล้ำลึกมากกว่าการสระผมธรรมดาเพียงเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นแล้ว หมวกสำหรับอบไอน้ำนี้ ยังมีการใช้งานง่าย, สะดวก และประหยัดเวลา สามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน แต่ผลจากการอบไอน้ำผม สามารได้สภาพเส้นผมที่นุ่มสลวย, ดูมีน้ำหนัก และจัดทรงได้ง่ายมากขึ้น
สปาให้ผมได้ผ่อนคลาย
การใช้งานร่างกายเมื่อถึงเวลา เราก็ควรที่จะให้ร่างกายส่วนนั้นได้รับการพักผ่อน หรือผ่อนคลาย ซึ่งรวมถึงเส้นผมร่วมด้วย การอบไอน้ำผมถึอว่า เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คล้ายกับการที่เราได้ไปสปานวดผ่อนคลายร่างกาย แต่เป็นการใช้ครีมหมักผมเพื่อตรงเข้าช่วยดูแลและฟื้นฟูสภาพเส้นผม ให้คืนความมีสุขภาพเส้นผมที่ดีขึ้นได้ กับการใช้เวลาในการอบไอน้ำเพียงแค่ 15-30 นาทีเท่านั้น
หมวกอบไอน้ำ กับวิธีใช้
เส้นผมไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีผมตรง หรือผมดัดลอนก็ตาม ถือว่าเป็นส่วนที่เราควรมีเวลา บำรุงหรือเติมสารอาหารทั้งในรูปแบบกินอย่างวิตามินบำรุงผม หรือวิตามินแก้ผมร่วง แต่อย่างไรก็ดีการเน้นเติมอาหารผมให้ทางทรีทเม้นท์ผม, ครีมหมักผม หรือมาสก์หมักผม ที่เรามักเรียกกันว่า Hair Mask นั้นก็เป็นสิ่งสำคัญทีเดียว เพราะในทุกวันที่เรามีการจัดแต่งทรงผม ไม่ว่าจะเป็นการเป่าผมด้วยความร้อน, การม้วนผม หรือการหนีบผม ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้เส้นผมแห้งเสียได้
ซึ่งหากพูดถึงเรื่องบำรุงหรือการอบไอน้ำผม ใครหลายคนอาจจะคิดถึงการเสียเวลา และมีขั้นตอนที่มากมายจนเกินไป จนคิดว่าการใช้ครีมนวดผมเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่จริงๆ แล้วในการอบไอน้ำที่มีความง่ายและสะดวกมากขึ้น กับอุปกรณ์หมวกสำหรับอบไอน้ำ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคนส่วนใหญ่ในวันนี้ ที่อบไอน้ำผมได้ง่ายๆ ที่บ้านและที่สำคัญคือ ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ก็ได้ผมที่นุ่มสลวย และเงางามในทันที
หมวกอบไอน้ำแบบมีสายไฟ
- เมื่อสระผมแล้วล้างแชมพูออกแล้ว ชโลมทรีทเม้นท์, ครีมหมักผม หรือแฮร์มาสก์ให้ทั่วเส้นผม
- การชโลมเน้นที่ส่วนกลางผมลงมาที่ปลายผม
- จากนั้นสวมหมวกใยผ้าชั้นแรก เพื่อทำการเก็บผมที่เปียกหมาด และมีการหมักครีมบำรุงไว้ให้เรียบร้อย
- สวมหมวกสำหรับอบไอน้ำ โดยการครอบให้ทั่วศีรษะ จากนั้นไม่ลืมที่จะรัดสายกระชับหมวก เพื่อไม่ให้เกิดการเคลื่อนตัว ในขณะที่ทำการอบไอน้ำ และสะดวกสำหรับผู้ใช้งานที่จะสามารถทำอย่างอื่นไปด้วยได้
- จับเวลาในการอบไอน้ำผมเพียงแค่ 15-30 นาทีเท่านั้น ไม่ควรนานกว่านี้
- เมื่อถึงเวลาแล้ว ให้ถอดสายปรับกระชับหมวกออก และถอดหมวก
- ปรับระดับความร้อนไว้ที่จุดศูนย์ หรือปิดเครื่อง และดึงปลั๊กออก
- วางหมวกให้เย็น แล้วจึงค่อยเก็บ
หมวกอบไอน้ำแบบไร้สาย
- สระผมและลงทรีทเม้นท์, ครีมหมักผม หรือมาส์กผมหลังจากนั้น
- สวมหมวกผ้าไว้ชั้นแรก โดยเก็บเส้นผมให้เรียบร้อยภายในหมวกชั้นแรกนี้
- จากนั้นค่อยนำหมวกแบบเจล หรือ Gel Cap เข้าทำความร้อนในไมโครเวฟเป็นเวลา 1 นาที
- เมื่อครบเวลาแล้ว ให้สวมหมวกเจลคลุมศีรษะ จับเวลา 30 นาที เพราะความร้อนจะถูกเก็บในหมวกได้ถึง 30 นาทีพอดี
- หลังครบเวลาแล้วจึงถอดหมวกเจลออก และวางหมวกเจลหงายและอ้า เพื่อให้คลายความร้อน
- ล้างผมให้สะอาด และเมื่อหมวกเย็นแล้ว จึงสามารถเก็บหมวกได้ เพื่อที่จะได้สะดวกในการนำออกมาใช้ในครั้งหน้า
ข้อควรระวังในการใช้หมวกอบไอน้ำ
- ไม่ควรลงบริเวณโคนผม เพราะจะทำให้โคนผม และหนังศีรษะมันมากจนเกินไป และอาจเกิดปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะตามมา
- สำหรับหมวกสำหรับอบไอน้ำ ในแบบไร้สาย เมื่อหมักผมและสวมหมวกชั้นแรกเรียบร้อยแล้ว จึงค่อยนำหมวกที่จะใช้อบไอน้ำแบบเจล หรือ Gel Cap เข้าเวฟเพียงแค่1 นาที เน้นเมื่อต้องการใช้งานแล้วจึงนำไปเวฟ เพื่อให้หมวกเก็บความร้อนได้อย่างเต็มที่
- เมื่อจะใช้หมวกอบไอน้ำ อย่าลืมที่จะใส่หมวกใยผ้าแบบบางก่อนทุกครั้ง และสวมเป็นชั้นแรกก่อนที่จะสวมอุปกรณ์หมวกสำหรับไอน้ำ เพื่อช่วยกันความร้อนในระดับที่มากเกินไป และความปลอดภัยในการใช้งาน
- ไม่ควรวอร์มหมวกอบไอน้ำก่อนที่จะสวมจริง หรือควรสวมใส่หมวกสำหรับอบไอน้ำก่อน แล้วค่อยทำการปรับระดับความร้อน ถึงแม้ภายในหมวกจะไม่มีอันตรายต่อการสัมผัสก็ตาม
- ตรวจสอบดูสำหรับการใช้งานเกินปี ว่าตัวอุปกรณ์วัสดุผ้า มีตำแหน่งหรือจุดไหนที่ชำรุด, เปื่อยหรือขาด เพราะอาจเกิดอันตรายในขณะทำการอบไอน้ำได้
- เพื่อความปลอดภัย ควรใช้เวลาในการอบไอน้ำเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น หรือสูงสุดไม่ควรเกิน 30 นาที เพียงเท่านี้ครีมบำรุงที่หมักผม ก็จะซึมเข้าบำรุงถึงชั้นในเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การเก็บรักษาตัวหมวกให้ดี เป็นสิ่งที่ผู้ใช้ควรใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพราะหากวัสดุผ้าของหมวกชำรุด หรือฉีกขาด ไม่ควรใช้งานเพราะจะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานได้
วิธีเลือกซื้อหมวกอบไอน้ำ
รูปแบบการทำงาน
อุปกรณ์หมวกสำหรับอบไอน้ำ เราจะสังเกตได้ว่าบางอุปกรณ์จะเป็นตัวหมวกมาพร้อมกับ สายไฟและปลั๊กไฟ นั่นคือการใช้งานที่ต้องอาศัยการเสียบไฟในการเปิดเครื่อง แต่อีกรูปแบบการทำงานหนึ่งก็คือ เป็นหมวกเพียงอย่างเดียว ซึ่งด้านในของหมวกจะเป็นเจลเก็บความร้อน หรือเรียกว่าเป็นแบบ Gel Cap ไร้สาย ไม่ต้องใช้สายไฟ เมื่อต้องการใช้อบไอน้ำกับผม เพียงแค่ใส่ในไมโครเวฟ เปิดความร้อนเพียงแค่ 1 นาที ก็สามารถนำมาอบไอน้ำผมได้ทันที
- สายไฟ การให้ความร้อนและแผงวงจรจะอยู่ด้านในหมวก และมีผ้าหุ้มเย็บกันอันตรายไว้ ในการใช้งานจะได้ความร้อนที่เหมาะกับการทรีทเม้นท์ผม
- ไร้สาย ด้านในหมวกเป็นเจลเก็บความร้อนได้ ในการเวฟต่อครั้ง สามารถเก็บความร้อนได้ 30 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่พอดีต่อการอบไอน้ำผมต่อครั้ง
สายรัดกระชับ
อุปกรณ์ส่วนที่เป็นหมวก จะมีสายกระชับเมื่อสวมหมวกเรียบร้อยแล้ว เพื่อกันไม่ให้หมวกมีการขยับหรือเคลื่อนไหว สำหรับในเวลาที่อบไอน้ำผม เราอาจจะลุกเดิน หรือสามารถนั่งอ่านหนังสือ และทำอะไรอีกหลายอย่างได้สะดวกมากขึ้น
- สายรัดคาง เป็นรูปแบบการกระชับหมวกที่สวม ด้วยการรัดใต้คางไว้ โดยให้หมวกตั้งตรง และไม่เอียงไปมาในขณะที่อบไอน้ำ
- สายรัดขอบปลายหมวก เราจะคุ้นเคยและเห็นรูปแบบนี้กันมาก เมื่อสวมหมวกแล้ว สามารถกระชับหมวกจากขอบปลายหมวกได้เลย
สีของหมวกอบไอน้ำ
ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่สีชมพู และสีดำ ซี่งในบางรุ่นก็จะมีการออกแบบ หรือมีลวดลายที่แตกต่างกันไป เพื่อเป็นทางเลือกมากขึ้นให้กับผู้ที่ต้องการใช้งาน
อุปกรณ์เสริม
ในบางรุ่นจะมีให้อุปกรณ์เสริม อย่างเช่น หมวกใยผ้า ซึ่งเป็นหมวกชิ้นแรกที่เราควรสวมป้องกันเส้นผม ก่อนที่จะสวมหมวกที่ใช้สำหรับอบไอน้ำ ถือว่าเป็นการป้องกันเส้นผมจากความร้อน ระหว่างที่อบไอน้ำ
ความปลอดภัย
ในการปรับความร้อน หรือระดับในการปรับอุณหภูมิระหว่างอบไอน้ำผมนั้น จะมีให้เลือกแบบที่เป็นตัวเลข หรือ เป็นตัวหนังสืออย่างเช่น Low, Medium หรือ High หรือในบางอุปกรณ์จะระบุเป็นตัวเลข ซี่งระดับความร้อนที่ปลอดภัยอยู่ที่ 40-60 องศาเซลเซียส ในหลายอุปกรณ์ที่มีการออกแบบความปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการตั้งค่าความร้อนเมื่อถึงระดับสูงสุด จะมีการตัดไฟ หรือตัดความร้อนที่จะส่งมาจากหมวกโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
หมวกอบไอน้ำ (หมักผมเองง่ายๆ)
สรุป
ก่อนหน้านั้นสภาพเส้นผมที่เสีย และหมดสภาพอาจจะสร้างความหมดหวังกับใครหลายคน ที่จะบำรุงเส้นผมมีสภาพกลับมาดีได้เหมือนเดิม แต่หากเราลองใช้ครีมหมักผมร่วมกับหมวกอบไอน้ำ เพื่อให้ความร้อนจากหมวก นำเอาสารอาหารสำหรับเส้นผมที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ครีมหมักผมนี้ ซึมเข้าบำรุงและซ่อมแซมเส้นผมได้อย่างล้ำลึกมากกว่าเดิม อีกทั้งยังสะดวกในการใช้งาน และดูแลเส้นผมได้ง่ายๆ ที่บ้าน
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
หมวกอบไอน้ำระบบไฟฟ้า
-อุณภูมิของหมวกอยู่ที่ 20 – 65 องศาเซลเซียส
-ช่วยดูแลรักษาเส้นผมที่เสียให้เส้นผมมีสุขภาพดีแข็งแรง
หมวกอบไอน้ำ Earryshop
-ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ไม่หนักหัว
-สามารถเสียบ USB เพื่อชาร์จกับ Power Bank ก็ได้
หมวกอบไอน้ำ Morning Kiss
-ขนาดกะทัดรัด สะดวกต่อการพกพา ประหยัดเวลา
-เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมแห้งเสีย ช่วยให้ผมนุ่มสลวย
หมวกอบไอน้ำ TOKAI
-มีระบบตัดไฟอัตโนมัติใช้งานได้อย่างปลอดภัย พกพาง่าย
-มีปุ่มปรับระดับความร้อนได้ 2 ระดับ สายไฟยาว 2.3 เมตร
หมวกอบไอน้ำ Rainbowzap
-อุณภูมิของหมวกอยู่ที่ 20 – 65 องศาเซลเซียส
-ใช้งานง่าย ปลอดภัย มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ