ปัญหาผิวกาย มีอะไรบ้าง
1.ผิวแห้ง
ลักษณะที่เราสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนคือ เนื้อผิวภายนอกเห็นรอยเหี่ยวย่น โดยเฉพาะหากเจอกับอากาศหนาว หรือเย็นจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น อย่างเช่น เมื่ออยู่ในห้องแอร์ หรือช่วงฤดูหนาว ในบางคนอาจมีลักษณะผิวที่เป็นมากกว่าก็คือ การที่ผิวหนังแห้งและเกิดเป็นขุยลอก หรือแตกเป็นลาย ซึ่งอาจมีมาจากหลายสาเหตุด้วยกันคือ
ขาดการบำรุง
เกิดจากการไม่ค่อยได้ใช้โลชั่นบำรุงผิว หรือสกินแคร์เป็นประจำและต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดได้ทั้งปัญหาผิวแห้ง และผิวที่หยาบกร้านร่วมด้วย โดยเน้นการใช้โลชั่นที่ช่วยให้ผิวขาว ที่มีส่วนประกอบของวิตามินอี, กลีเซอรีน, คลอลาเจน และเซราไมด์เป็นหลัก รวมถึงหากมีกรดไฮยาลูโรนิค ก็จะช่วยในการเก็บความชุ่มชื่นไว้ภายใต้ผิวร่วมด้วย
แสงแดด หรือรังสี UV
การปล่อยให้ผิวกายโดนแสงแดดเป็นประจำ โดยที่ไม่มีการทาสกินแคร์ที่ช่วยป้องกันเลย นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งแล้ว ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยความเหี่ยวย่นต่างๆ บนผิวกาย รวมถึงยังทำให้เกิดสีผิวไม่สม่ำเสมอกันอีกด้วย
ดื่มน้ำไม่พอ
หลายคนคิดว่าการบำรุงผิว ต้องเน้นเฉพาะการหาสกินแคร์ที่ดีที่สุด เพื่อทาโดยตรงกับผิวหนังเลย แต่จริงๆ แล้วน้ำที่เราดื่มเข้าไปในแต่ละวัน ที่เน้นว่าควรดื่มน้ำให้ได้ครบ 2 ลิตรต่อวัน หรือดื่มน้ำวันละ 8 แก้วนั้น มีความสำคัญต่อการสร้างความชุ่มชื่นให้กับผิวหนังร่วมด้วย
ใช้น้ำอุ่นอาบน้ำบ่อย
ไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำอุ่นอาบน้ำ หรือสระผมก็ตาม มีผลทำให้เกิดอาการแห้งทั้งผิวแห้ง และหนังศีรษะแห้ง ที่เป็นสาเหตุของการเกิดรังแคได้
ขาดสารอาหาร
อย่างเช่นสารอาหารที่สำคัญต่อการดูแลผิว ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี, วิตามินบี หรือแร่ธาตุสังกะสี ที่มีผลอย่างมากในการดูแลทั้งเซลล์เส้นผม, เล็บ และผิวหนังเป็นส่วนใหญ่
2.สีผิวไม่สม่ำเสมอ
ปัจจัยหรือสาเหตุที่ทำให้เกิด สีผิวของเรามีความไม่สม่ำเสมอ หรืออย่างที่เราเรียกกันว่า กระดำกระด่างนั่นเอง มาจากการปล่อยผิวให้โดนกับความร้อน และแสงแดดเป็นเวลานาน โดยที่ไม่มีการป้องกัน
อย่างเช่น การทาครีมกันแดด ที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA ในรูปแบบPA++ หรือรังสี UVB ที่มีคลื่นรังสีที่ยาวกว่า สามารถทะลุได้ชั้นลึกในชั้นผิวหนังแท้ของเราได้ โดยเลือกป้องกันที่ค่าSPF 15
3.ผิวหยาบกระด้าง
โดยหลักๆ แล้วเกิดจากขาดการบำรุง ด้วยสกินแคร์ หรือโลชั่นผิวขาวเป็นระยะเวลานาน ซึ่งปัญหาผิวกายในเรื่องนี้ ไม่ได้ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ เพราะการเลือกใช้ครีมบำรุง หรือโลชั่นช่วยให้ผิวขาว ที่มีส่วนประกอบของวิตามินอี และสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ที่มาจากธรรมชาติ, กลีเซอรีน, เซราไมด์ และส่วนผสมจากคลอลาเจน ก็จะช่วยปรับและฟื้นฟูสุขภาพของผิวกายให้มีผิวที่เนียนนุ่มได้
โลชั่นผิวขาว คืออะไร
ไอเท็มตัวเด่นของสกินแคร์ ที่ได้รับความนิยมในการใช้จริงจากผู้หญิง โดยที่เน้นในเรื่องการปรับผิวกายให้ขาว หรือมีความขาวกว่าเดิมนั่นเอง ส่วนประกอบหลักๆ ที่มีอยู่ในสกินแคร์ตัวที่ช่วยให้ผิวขาวนั้น จะเน้นไปที่ลดการสร้างตัวของเซลล์เม็ดสีผิว หรือที่เรียกว่า เมลานิน (Melanin) ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ผิดปกติ หรือเกิดจากการโดนแสงแดดก็ตาม ซึ่งจะมีผลทำให้ผิวกาย และผิวหน้ามีความคล้ำ หรือสีเข้มมากขึ้นกว่าพื้นสีผิวเดิมของเรา
โดยส่วนใหญ่แล้ว ส่วนประกอบหลักของโลชั่นที่ช่วยให้ผิวขาว จะมีกรดทรานซามิค หรือ Tranexamic Acid และตัว อาร์บูติน หรือ Arbutin ซึ่งทั้ง 2 ส่วนประกอบนี้ จะมีส่วนในการไปลด หรือยับยั้งการสร้างของเซลล์เม็ดสีผิว ที่เรียกว่าเมลานิน ที่มีผลทำให้ผิวเรามีความเข้ม หรือหมองคล้ำมากกว่าเดิม
ซึ่งในผลิตภัณฑ์สกินแคร์แต่ละยี่ห้อนั้น ก็จะมีการเลือกส่วนประกอบ 2 ตัวหลักนี้ หรือส่วนประกอบตัวอื่นๆ ร่วมด้วย ที่มีคุณสมบัติในส่วนที่คล้ายกัน รวมถึงการบำรุงผิว, ปรับสีผิวสม่ำเสมอ อย่างปลอดภัย และช่วยให้เห็นผลจริง เพราะในบางสูตรนั้นเราสามารถเห็นผลจริง ภายใน 2-4 สัปดาห์ ถือว่าเป็นสูตรแบบเร่งด่วน
ซึ่งโลชั่นผิวขาวนั้นอย่างที่เรารู้กันว่า เป็นไอเท็มตัวเด่นเลยก็ว่าได้ สำหรับหมวดสินค้าดูแลผิว หรือสกินแคร์นั่นเอง นอกเหนือจาก น้ำตบ , ครีมลดริ้วรอย , ฮาดะลาโบะ , ครีมรกแกะ , วิตามินบำรุงผิว , โคลนพอกหน้า , ครีมกันแดดผู้หญิง , สบู่ผิวขาว , เซรั่มเกาหลี , ครีมบำรุงผิวหน้า จะมีสกินแคร์เพียงบางตัวเท่านั้น ที่เน้นในเรื่องการช่วยปรับสีผิวให้ขาว กระจ่างใสได้
เราจะเห็นว่าในโลชั่นผิวขาวนั้น ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหน หรือสูตรไหนก็ตาม จะมีส่วนประกอบที่แตกต่างกันไป แต่เน้นในเรื่องคุณสมบัติ การปรับผิวให้ขาวกระจ่างใส, ช่วยในการบำรุงผิว, ปรับสีผิวสม่ำเสมอ และช่วยให้ผิวมีความนุ่มเนียน ดังนั้นเรามาดูกันว่าในแต่ละส่วนประกอบนั้นมีการทำงานอย่างไรกันบ้าง
ส่วนประกอบหลักในโลชั่นผิวขาว
1.กรดทรานซามิค (Tranexamic Acid)
ส่วนที่ดีที่หลายผลิตภัณฑ์สกินแคร์ มักจะนำไปใส่เป็นส่วนประกอบในตัวสินค้าโลชั่นช่วยให้ผิวขาวก็คือ การช่วยลดการสร้างเซลล์ผิวสีของเมลานิน โดยเฉพาะลดการเกิดฝ้าที่มีผลมาจากการเจอแสงแดดอยู่เป็นประจำ
เป็นสารสกัดที่ไม่ได้แค่ช่วยปรับเม็ดสีเมลานินเท่านั้น แต่ยังหมายความถึง ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดฝ้าขึ้นที่ผิวหน้าร่วมด้วย ดังนั้นส่วนประกอบตัวนี้ มักจะมีอยู่ในทั้งสกินแคร์ที่เป็นโลชั่นบำรุงผิวกาย และโลชั่น, ครีมที่เกี่ยวกับผิวหน้าร่วมด้วย
2.วิตามินบี 5 (Vitamin B5)
คุณสมบัติในการสร้งความชุ่มชื่นให้กับผิว ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบในสกินแคร์สำหรับผิวกาย หรือผิวหน้าก็ตาม มีหน้าที่และการดูแลผิวที่เหมือนกับ กรดไฮยาลูโรนิค หรือ กลีเซอรีนนั่นเอง รวมถึงยังช่วยในผู้ที่มีผิวแห้ง, ผิวแพ้ง่ายอีกด้วย ที่จะไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว
3.ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone)
มีคุณสมบัติที่เหมือนกับตัวกรดทรานซามิค และส่วนประกอบอาร์บูติน ที่เน้นไปปรับลด, ยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวอย่างเมลานิน ที่จะทำให้สีผิวมีความเข้ม หรือคล้ำมากขึ้น โดยเฉพาะปัจจัยเสี่ยงอันดับแรกๆ คือแสงแดด
4.กลีเซอรีน (Glycerine)
ช่วยปรับและบำรุงผิวให้มีความนุ่ม และชุ่มชื่นด้วยน้ำมันที่เข้าไปหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวหนัง เป็นประโยชน์กับผู้ที่มีผิวแห้ง และผิวหยาบกร้าน
5.วิตามินซี (Vitamin C)
หรือเราสามารถเรียกได้อีกอย่างคือ กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) ที่มีคุณสมบติที่ดีหลายอย่าง โดยเน้นในเรื่องของการสร้างความกระจ่างใสให้กับผิว และผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเก่า เพื่อให้เซลล์ผิวใหม่ได้เกิด
รวมถึงยังยับยั้งการสร้างของเม็ดสีผิวเมลานิน เป็นส่วนประกอบหลัก ในการช่วยให้เกิดผิวขาว โลชั่นผิวขาวที่มีส่วนประกอบของวิตามินซีนี้นั้น ยังมีสมานรอยแผลเป็น และช่วยในการสังเคราะห์คลอลาเจน ที่จะช่วยให้ผิวมีความนุ่มเด้ง และเนียนนุ่ม
วิตามินซี ถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว สำหรับไอเท็มสกินแคร์ ที่ช่วยให้ผิวเกิดความขาว และกระจ่างใสแบบมีออร่า เพราะนอกจากจะช่วยผลัดเปลี่ยนให้เกิดเซลล์ผิวใหม่เกิดขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ผิวมีความสว่าง ที่นอกจากจะ Whitening
แล้วจะต้องมีความกระจ่างใส หรือ Lightening อีกด้วย อีกทั้งสิ่งหนี่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ การป้องกันการเกิดสารอนุมูลอิสระ ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย
6.วิตามินอี (Vitamin E)
นอกจากช่วยในเรื่องความเนียนนุ่มให้กับผิวกายแล้ว สำหรับโลชั่นช่วยให้ผิวขาวนั้น ยังมีคุณสมบัติในการลดจุดด่างดำ ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่โดนทำลาย อย่างเช่น รอยแผลจากสิว ที่มาจากสาเหตุหลักๆ คือแสงแดด ที่ทำให้เกิดปัญหาฝ้า
และกระร่วมด้วย ดังนั้นเราจึงมักจะเห็น วิตามินอี เป็นส่วนประกอบในเกือบทุกยี่ห้อของ โลชั่นช่วยให้ผิวขาว ที่ถือว่าเป็นส่วนประกอบ ที่มาเติมเต็มคุณสมบัติของ Whitening Lotion ให้สมบูรณ์มากขึ้น
7.ส่วนประกอบที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น
นอกจากคุณสมบัติหลัก ของโลชั่นผิวขาวที่จะต้องมีการควบคุม และยับยั้งการทำงานของเม็ดสีผิวอย่างเมลานินเป็นหลักแล้ว หากไม่มีส่วนประกอบที่ช่วยเติมความชุ่มชื่น, การเก็บกักน้ำใต้ผิวหนัง และการเติมให้ผิวมีความยืดหยุ่น
ไม่ว่าจะเป็น คลอลาเจน, เซราไมด์, กลีเซอรีน, กรดไฮยาลูโรนิค และกรดอะมิโน เป็นต้น เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ส่วนประกอบ ที่เน้นในเรื่องผิวขาวเป็นหลัก แต่จะเป็นตัวเสริมให้ผิวกายมีความสุขภาพดี เนียนนุ่ม และไม่แห้งกระด้าง
คุณสมบัติของโลชั่นผิวขาวที่ดี
นอกจากคุณสมบัติที่เราต้องการให้มีในโลชั่นช่วยให้ผิวขาว อย่างการช่วยปรับสีผิวให้มีความกระจ่างใส, ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ และเห็นผลจริงในการใช้ อีกทั้งในเรื่องความปลอดภัยหลังการใช้ก็มีความสำคัญ แต่คุณสมบัติหลักๆ ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับสกินแคร์ไอเท็มที่ได้รับความสนใจอยู่ในตอนนี้ก็คือ
ซึมเร็ว ไม่เหนียว
ด้วยความที่บ้านเรามีอากาศส่วนใหญ่เป็นแบบร้อนชื้น ที่เกิดเหงื่อ และความเหนอะหนะได้ง่ายหลังจากที่ทาโลชั่น ดังนั้นโลชั่นที่ช่วยให้ผิวขาวนั้น ควรที่จะมีคุณสมบัติ เมื่อทาแล้วเห็นผลในเรื่องการซึมเข้าสู่ผิวหนังได้เร็ว มีเนื้อบางเบา และไม่เกิดความเหนียวเหนอะหนะ พร้อมกับการให้ความนุ่ม และชุ่มชื่นเคลือบผิวด้านนอกร่วมด้วย
ไม่ทิ้งคราบด่างสีขาว
หลายคนที่เคยลองใช้โลชั่นที่ช่วยให้ผิวขาวบางตัว บางยี่ห้อ ต้องเป็นกังวลกับปัญหาเรื่องหลังจากที่ตัวโลชั่นแห้งแล้ว เกิดเป็นคราบขาวขึ้นตามผิว ซึ่งถึงแม้จะช่วยให้มองดูว่าผิวขาวก็ตาม แต่เป็นคราบขาวที่เกิดจากแป้งที่เป็นส่วนประกอบ และเป็นคราบขาวที่ไม่เสมอกับทั่วทั้งผิวหนัง
กลิ่นหอม
เราจะเห็นกลิ่นที่มีความนิยมในการใส่ในโลชั่น ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของกลุ่มผลไม้เบอร์รี่ต่างๆ อย่างเช่น โกจิเบอร์รี่ หรือราสเบอร์รี่, กลิ่นที่เป็นดอกไม้อย่างเช่น ดอกซากุระ หรือกลิ่นลูกพีช ที่ส่วนใหญ่หากเป็นกลิ่นของผลไม้ จะเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซี เพราะอย่างที่เรารู้กันว่า วิตามินซีมีผลในการช่วยให้ผิวขาว ด้วยการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว และยังช่วยให้ในการควบคุมเม็ดสีผิวอย่าง เมลานินร่วมด้วย
ประโยชน์ของโลชั่นผิวขาว
นอกเหนือจากโลชั่นช่วยให้ผิวขาว ที่จะต้องปรับสีผิวกายของเราให้มีความกระจ่าง ขาว ใส แล้วนั้น ยังมีส่วนประกอบที่ช่วยสร้างคุณสมบัติเสริมให้กับ สกินแคร์ตัวนี้ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างผิวให้มีความนุ่มลื่น, ลดรอยด่างดำที่เกิดทั้งจากแสงแดด และรอยสิว รวมถึงการปรับให้สีผิวมีความสม่ำเสมอเท่ากันหมด โดยมีสูตรที่สามารถเห็นผลจริงได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ ที่เป็นสูตรแบบเร่งด่วน
ช่วยให้ผิวขาว
ตัวที่เป็นสารสกัดทั้งจากวิตามินเอ หรือเรตินอยด์ และวิตามินซี หรือกรดแอสคอร์บิกจะช่วยให้ผิวกระจ่างใส และลดริ้วรอย ที่ทำหน้าที่ร่วมกันกับ อาร์บูติน, กรดทรานเซมิค ที่ช่วยควบคุมสีผิวของเราไม่ให้หมองคล้ำ หรือไม่ให้มีสีผิวที่เข้มไปกว่า พื้นสีผิวเดิม
สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
สารสกัดจากอาร์บูติน และกรดทรานซามิค นั้นนอกจากจะช่วยควบคุม และยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิวเมลานินแล้วนั้น ผลที่ได้จากการใช้โลชั่นช่วยให้ผิวขาวคือ การปรับสภาพสีผิวสม่ำเสมอ และให้เนียนเรียบเท่ากัน หรือที่เราเห็นสาวๆ หลายคนที่มีผิวเนียนนั้น หมายความถึงสีผิวของผู้หญิงเหล่านั้น มีสีผิวที่เนียนสวยสม่ำเสมอเท่ากันหมด
ลดจุดด่างดำ
เป็นคุณสมบัติหลักของวิตามินอี ที่นอกเหนือจากที่เราจะรู้แล้วว่า ช่วยสร้างความนุ่มให้กับผิวแล้วนั้น ยังช่วยในการลดรอยด่างดำ, รอยแผลที่เกิดจากสิวได้เห็นผลจริงอีกด้วย และถือว่าเป็นส่วนประกอบตัวหนี่ง ที่ให้ความปลอดภัยอย่างสูง สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือผู้ที่เป็นสิวง่าย และส่วนใหญ่แล้วโลชั่นผิวขาว จะมีส่วนประกอบร่วมอย่างวิตามินซี และวิตามินซีร่วมกัน
ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น และเรียบเนียน
วิตามินบี 3 หรือ ไนอาซินาไมต์ (Niacinamide) ที่นอกจากจะช่วยลดริ้วรอย และจุดด่างดำ เป็นตัวช่วยร่วมกับวิตามินซีแล้วนั้น ยังช่วยปรับผิวให้มีความชุ่มชื่น และกระชับ เหมือนกับกรดไฮยาลูโรนิค, กลีเซอรีน และคลอลาเจนร่วมด้วยอีกทาง
สารอันตรายที่ไม่ควรมีในโลชั่นผิวขาว
พาราเบน (Paraben)
เราสามารถรู้จักสารตัวนี้ได้ในรูปแบบของ สารกันเสีย ที่ทำให้ยับยั้งการเติบโตของเชื้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เชื้อรา, เชื้อแบคทีเรีย, และยีสต์ เป็นต้น โดยที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ หรือสกินแคร์เหล่านั้น สามารถมีอายุใช้ได้นาน
แต่ในทางกลับกันนั้น เป็นสารที่สร้างความระคายเคืองให้กับผิวหนังได้ อย่างเช่น การขึ้นผื่นแดง, อาการระคายเคืองบนผิวหนัง, การขึ้นเม็ดตุ่มที่เกิดจากการแพ้ และเกิดการอุดตันของรูขุมขนร่วมด้วย
สารปรอท (Mercury)
เรามักจะเห็นสารตัวนี้ ในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ที่เน้นในเรื่องคุณสมบัติการช่วยปรับผิวให้ขาว และช่วยในการลดสิวอุดตัน อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่น่าดึงดูด ในเรื่องการช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ที่มีฝ้า และกระร่วมด้วย ในขณะที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารปรอทอยู่นี้ เรามักจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีผิวได้เร็ว โดยมีความขาวขึ้นแบบผิดหูผิดตา แต่เมื่อหยุดใช้ผิวจะกลับมีความหมองคล้ำ และมีจุดด่างดำมากขึ้นกว่าเดิม
วิธีเลือกซื้อโลชั่นผิวขาวที่ปลอดภัย และใช้ได้ผลจริง
1.เลือกจากผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบหลักที่ปลอดภัย
หากเป็นโลชั่นที่ช่วยให้ผิวขาวนั้น เราก็ควรเลือกส่วนประกอบหลัก ในการช่วยปรับสีผิวให้มีความกระจ่างใส และมีความขาวออร่า แต่ควรเป็นส่วนประกอบหลัก ที่มีความปลอดภัยจริง อย่างเช่น กรดทรานเซมิค, สารสกัดอาร์บูติน, วิตามินซี หรือ กรดแอสคอร์บิก ที่มีส่วนช่วยให้เกิดการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว และลดการสร้างเม็ดสีผิวที่เข้มเกินผิวจริงของเราเอง
2.เลือกส่วนประกอบที่ให้ความชุ่มชื่นร่วมด้วย
ส่วนประกอบที่ให้ความชุ่มชื่น และมีการเก็บกักความชุ่มชื่นไว้ที่ใต้ผิวหนัง โดยเน้นที่ความปลอดภัยต่อการใช้ก็คือ กลีเซอรีน, เซราไมด์, วิตามินอี, คลอลาเจน ที่ส่วนใหญ่แล้ว สกินแคร์ในไอเท็มโลชั่นผิวขาวนั้น จะมีส่วนประกอบเหล่านี้ไม่มากก็น้อย เป็นโลชั่นบำรุงผิวกาย เน้นในเรื่องผิวขาว และช่วยดูแลให้สีผิวมีความสม่ำเสมอ และมีความนุ่มเนียนทั่วเสมอกัน
3.คุณสมบัติเสริมในการป้องกันรังสี UV
โดยส่วนใหญ่ที่เราเห็นโลชั่นที่ช่วยให้ผิวขาว จะมีการเติมสารป้องกันทั้งรังสี UVA และรังสี UVB พร้อมกันทั้ง 2 ตัว ที่เรามักจะเห็นจากที่ตัวผลิตภัณฑ์ระบุไว้ว่า มีค่า SPF 15 นั่นหมายถึงการป้องกันในส่วนของรังสี UVB และค่า PA++ คือค่าการป้องกันรังสี UVA
4.มี อย. รับรอง
ควรมี อย หรือ เลขที่การจดแจ้งเพื่อเป็นการยืนยันว่า ส่วนประกอบต่างๆ ในผลิตภัณฑ์สกินแคร์นั้นๆ ได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้อง ในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้ อีกทั้งยังเป็นเครื่องรับรองให้กับผู้ใช้ได้ว่า หากมีผลกระทบใดๆ ต่อการใช้นั้น ผู้ใช้สามารถร้องเรียนได้โดยอ้างอิงเลขที่จดแจ้ง หรือเลขที่ขอจาก อย.
5.รับรองจากผู้ใช้ว่าเห็นผลจริง
เราสามารถที่เข้าไปดูผลการตอบรับ จากผู้ใช้งานจริงว่า เห็นผลการใช้ตามที่ระบุไว้ของผลิตภัณฑ์สกินแคร์นั้นๆ หรือไม่ อย่างเช่นการเข้าไปอ่านรีวิวก่อน สำหรับในรูปแบบการซื้อผ่านออนไลน์
สูตรเร่งผิวขาว ใสด่วน ขาวไว คุณหมอก็ทำ
สรุป
เราอาจจะคิดว่าเป็นเทรนด์กระแสนิยมที่ทำให้สาวๆ นิยมการมีผิวขาวกัน แต่ในความจริงแล้วนั้น การมีผิวกายที่ขาวกระจ่างใส ก็ทำให้เกิดความน่ามอง และความน่าสนใจต่อผู้ที่พบเห็น การเลือกใช้โลชั่นผิวขาว ที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวกายได้เร็ว อีกทั้งบางสูตรสามารถเร่งผิวขาวแบบเร่งด่วน หรือเห็นผลการใช้จริงภายใน 2-4 สัปดาห์เท่านั้น เมื่อมีผลิตภัณฑ์ที่ดีแบบนี้แล้ว การมีผิวขาวแบบออร่าก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
โลชั่นผิวขาว BEAUTY BUFFET
-มีส่วนผสมของโคเอนไซม์ คิวเทน(Co-enzyme Q10)
-บำรุงให้ผิวขาวนุ่มดูอ่อนวัยและป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ
โลชั่นผิวขาว KA
-บำรุงผิวคล้ำเสีย ให้กระจ่างใสเปล่งประกาย
-สารสกัดจากไม้ตระกูลเบอร์รี่ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส
โลชั่นผิวขาว Vaseline
-ประสิทธิภาพดีกว่าวิตตามินซีถึง 10 เท่า
-ช่วยปรับผิวกระจ่างใส 4 เท่า พร้อม UV ฟิลเตอร์
โลชั่นผิวขาว Citra
-มะเขือเทศ160X ไลโคบีนบูสผิวดูโกลว์ใสอิ่มฟู
-ดับเบิ้ล ยูวีโพรเทคชั่น ปกป้องจาก UVA,UVB 8 เท่า
โลชั่นผิวขาว NIVEA
-ไบรท์เทนนิ่งโลชั่น ผสม โจโจ้บาออย ปลุก4สัมผัสผิวสวย
-ลิโคลิช สารไบรท์เทนนิ่งทรงพลัง ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
โลชั่นผิวขาว EVE'S
-ช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
-ช่วยรักษาสมดุลของแบคทีเรียชนิดดีบนผิวหนัง
โลชั่นผิวขาว KIZZEI
-ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวแห้งกร้านให้กลับมาเนียนนุ่ม
-ช่วยให้ผิวกายเรียบเนียน ดูสุขภาพดี อย่างเป็นธรรมชาติ
โลชั่นผิวขาว Cathy Doll
-สารสกัดจากกลูตาไธโอน ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่่อมสภาพ
-เนื้อโลชั่นซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นซากุระ
โลชั่นผิวขาว BP
-เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว เรียบเนียนกระชับ
-ทำให้ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
โลชั่นทาผิวขาว Disaar
-เร่งให้ผิวเปล่งประกายมีออร่าอย่างที่คุณต้องการ
-กลิ่นหอมช่วยเพิ่มความมั่นใจ ผ่อนคลายจากกลิ่นที่ละมุน