น้ำยาล้างเล็บ คืออะไร
คือน้ำยาที่ใช้ในการล้างสีเล็บทั้งในแบบอะคริลิค และสีเล็บแบบเจล รวมถึงความสามารถในการเช็ดส่วนผสมของยาทาเล็บที่เป็นกลิตเตอร์ร่วมด้วย น้ำยาใช้ล้างเล็บ หรือ Nail Polish Remover นอกจากการทำความสะอาดสีเล็บออกได้เกลี้ยงและไม่เปลืองแรงแล้ว ยังมีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับตัวเล็บ และมีกลิ่นหอมร่วมด้วย ที่ในแต่ละยี่ห้อมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ อย่างเช่นการให้กลิ่นหอมอ่อนๆ, ไม่ทำลายผิวเล็บ หรือไม่เติมสีสังเคราะห์
ซึ่งในทุกวันที่เรามีการใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้อยู่เป็นประจำนั้น เราจะได้รู้ในรายละเอียดต่างๆ ของน้ำยาตัวนี้เพิ่มมากขึ้น ทั้งด้านส่วนประกอบจริงๆ ในนั้น, ประโยชน์การใช้งานอย่างอื่นเพิ่มเติม รวมถึง ข้อควรระวังในการใช้ที่จะช่วยให้เรามีการใช้ที่ได้รับประโยชน์ จากผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้อย่างสมบูรณ์จริงๆ
ส่วนประกอบของน้ำยาล้างเล็บ
เราจะเห็นความคล้ายกันของน้ำยาที่ใช้ในการล้างเล็บ ในแต่ละแบบและแต่ละยี่ห้อกันมาแล้ว ซึ่งสิ่งที่มักจะมีความคล้ายกันคือ ความใสของน้ำยา, มีกลิ่นหอมของน้ำยา รวมถึงอาจจะมีการเติมสีเพื่อเพิ่มความน่าใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสีฟ้า, สีชมพู, สีเขียว หรือสีขาวก็ตาม ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะช่วยในการเช็ดยาทาเล็บออกจากเล็บของเราจนหมดได้
แต่เราเคยสงสัยกันไหมว่า คุณสมบัติที่ดีขนาดนี้ ซี่งหลายครั้งที่เรามักจะมีการทาเล็บที่มีความหนา อย่างเช่น การทาเล็บรอบแรกเพื่อเป็นการรองพื้นเล็บ และการทารอบที่ 2 เพื่อเป็นการทำให้ผิวหน้าเล็บเนียน และมีความวาวมากขึ้น น้ำยาที่ทำขึ้นเพื่อล้างเล็บนี้ เช็ดเพียงไม่กี่ครั้งก็สามารถทำความสะอาด สีทาเล็บเหล่านี้ได้หมด ทั้งสีเล็บแบบอะคริลิค และสีเล็บเจลก็ตาม
ซึ่งจริงๆ แล้วส่วนประกอบของน้ำยาล้างเล็บ มีเพียงไม่กี่ตัว แต่เรามาดูกันว่าคุณสมบัติของส่วนประกอบต่างๆ ที่มีอยู่ในน้ำยาตัวนี้มีอะไรกันบ้าง และมีอะไรที่เราควรระวังในการใช้งานกันบ้าง เพราะในประโยชน์ของน้ำยาที่ใช้ล้างเล็บนี้นั้น นอกจากจะสามารถเช็ดยาทาเล็บออกได้เกลี้ยง ทั้งแบบยาทาเล็บเจล และแบบยาทาเล็บอะคริลิคก็ตาม แต่ก็ยังมีส่วนที่แยกย่อยออกไปอีก ทั้งสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ของส่วนประกอบตัวน้ำยา และคุณสมบัติที่แตกต่างกันร่วมด้วย
- สารอะซิโตน (Acetone)
- สารโพรพิลีน ไกลคอล (Propylene Glycol)
- น้ำ
อะซิโตน (Acetone)
สารเคมีชนิดนี้เมื่อนำมาทำเป็นน้ำยาที่ใช้ในการล้างเล็บ หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้งานใกล้กับตัวเรา อย่างเช่น การโดนผิวหนัง และผิวหน้าเล็บ จะมีการเลือกนำผลิตในสัดส่วนที่น้อย และมีความเป็นพิษต่อร่างกายน้อยมากสารอะซิโตนหรือเรียกอีกอย่างได้ว่า เป็นสารเอทิลอะซิเตต มีคุณสมบัติเฉพาะเป็นสารอินทรีย์ ที่ใช้ในการล้างหรือชะล้างสีที่ยึดติด หรือเกาะติดให้หลุดออกจากเล็บของเรา ซึ่งไม่มีสีแต่อาจจะมีกลิ่นคล้ายมิ้นท์ ซึ่งหลายคนอาจจะแพ้กลิ่นนี้
ซึ่งที่เราเห็นว่าการใช้สำลีชุบน้ำยาที่ใช้ในการล้างเล็บ และนำมาเช็ดไม่เท่าไหร่สียาทาเล็บก็ออกเกลี้ยงและสะอาดได้เร็ว เพราะตัวสารอะซิโตนนี้ เป็นสารในการทำละลาย โดยต้องอาศัยน้ำเป็นตัวกลางในการชะล้างสิ่งที่ติดอยู่ที่เล็บ อย่างเช่น น้ำยาล้างเล็บ เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นการเช็ดยาทาเล็บแบบเจล หรือการเช็ดน้ำยาทาเล็บแบบอะคริลิคก็ตาม ที่เราเห็นว่าเช็ดได้ง่าย, เร็ว และไม่เปลืองแรงนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นคุณสมบัติของส่วนประกอบหลักที่เรียกว่า อะซิโตนนี้
แต่สิ่งหนึ่งที่เราอาจจะคิดไม่ถึง และควรมีความระวังสำหรับการเก็บรักษาน้ำยาที่ใช้ล้างเล็บนี้คือ ด้วยความที่มีตัวน้ำยามีส่วนประกอบหลักอย่าง อะซิโตน อย่างที่เราได้เกริ่นข้างต้นแล้วนั้น และสารตัวนี้มีคุณสมบัติอีกอย่างก็คือการติดไฟง่ายและหากเก็บในพื้นที่ๆ มีอุณหภูมิที่ร้อนเกินไป ก็สามารถติดไฟได้เอง
ถึงแม้ว่าเราจะบอกกันแล้วคือ น้ำยาที่ใช้ล้างเล็บนี้มีสารอะซิโตนนี้ในสัดส่วนที่ปลอดภัยแล้วนั้น เราก็ควรที่จะเน้นการเก็บรักษา และการนำมาใช้งานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยทั้งกับตัวเราเอง และสถานที่นั้นๆ ซึ่งถึงแม้ว่าบรรจุภัณฑ์จะเน้นในการดูแลความปลอดภัย ด้วยการเน้นวัสดุที่เป็นแก้ว หรือเป็นวัสดุพลาสติก แต่เป็นรูปแบบพลาสติกอย่างหนาก็ตามที
ดังนั้นไม่ว่าจะวางขวดน้ำยาใช้ล้างเล็บตรงมุมไหนของห้อง หรือสถานที่นั้นๆ ควรพิจารณาอย่างดีแล้วว่า ต้องมีอากาศถ่ายเทได้ดี, อุณหภูมิตรงนั้นไม่ร้อนจนเกินไป และไม่ควรวางสำลีที่ชุบน้ำยาที่ใช้ล้างเล็บ วางทิ้งบนที่ต่างๆ เพราะหากมีเชื้อไฟ, การจุดบุหรี่ หรือความร้อนใกล้กับวัตถุชิ้นนั้น ก็อาจทำให้เกิดการติดไฟ หรือเกิดไฟไหม้ได้อย่างคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว
โพรพิลีน ไกลคอล (Propylene Glycol)
เป็นสารอีกตัวที่ใช้ในการทำละลาย แต่มีความปลอดภัยกว่า อิซิโดน โดยโพรพิลีน ไกลคอลนี้ มีการนำเข้ามาเป็นส่วนประกอบไม่เพียงแค่น้ำยาล้างเล็บเท่านั้น แต่ยังนำมาใช้เป็นส่วนประกอบ และตัวทำละลาย และเจือจางให้กับเครื่องสำอางหลายกลุ่มด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว, ครีมบำรุง หรือแม้กระทั่งน้ำหอม ซึ่งสารโพรพิลีน ไกลคอลนั้น มีการใช้ชื่ออื่นๆ ได้อีกอย่างเช่น
- Propanediol
- Dihydroxypronpane
- Methyl Ethyl Glycol
- Trimethyl Elycol
ซึ่งนอกเหนือจากนี้แล้วสารโพรพิลีน ไกลคอลยังเป็นส่วนสำคัญในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ รวมถึงในกลุ่มอาหารทั้งหลาย ที่เป็นทั้งอาหารสำเร็จรูป และกลุ่มอาหารที่ทำออกมาเป็นผงสำเร็จ คุณสมบัตินอกจากจะเป็นตัวทำละลาย, ตัวกลางในการเจือจางแล้วนั้น สารตัวนี้ยังช่วยในการแยกผงต่างๆ ที่เป็นอาหารสำเร็จรูปในแบบผง ให้ไม่เกาะติดกัน หรือแยกตัวเป็นอิสระออกจากกัน
ทำให้เราได้มองเห็นในความปลอดภัยได้ว่า หากสารโพรพิลีน ไกลคอลนี้ สามารถนำไปเป็นส่วนประกอบในตัวอาหารได้แล้วนั้น ย่อมมีความปลอดภัย แต่ในความจริงแล้ว การที่สารตัวนี้สามารถนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหารได้นั้น เป็นเพียงส่วนเดียวคือ ส่วนที่ใช้สำหรับอาหารเฉพาะ หรือเป็นกลุ่มสารโพรพิลีน ไกลคอลสำหรับฟู้ดเกรดนั่นเอง
ดังนั้นสารตัวนี้ยังมีการแบ่งนำไปใช้ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์, ส่วนประกอบในการผลิตเรซิ่น, ส่วนประกอบในการผลิตอาหารสำเร็จรูปต่างๆ ทั้งที่เป็นแบอุ่นกิน หรือสำเร็จรูปแบบแห้ง, ส่วนประกอบของเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม หรือครีมบำรุงผิวต่างๆ หรือกระทั่งเป็นทางเคมีตัวกลางสำหรับการผลิตยาฆ่าแมลงก็ตาม
ซึ่งถึงแม้ว่าส่วนประกอบเหล่านี้ ทั้งสารอะซิโตน หรือสารโพรพิลีน ไกลคอล จะมีการกำหนดในสัดส่วนที่ปลอดภัยต่อการใช้ ไม่ว่าจะเป็นการโดนผิวหนัง หรือความปลอดภัยสำหรับการเช็ดกับผิวเล็บโดยตรงก็ตาม แต่อาจจะมีบางคนที่แพ้ไม่ว่าจะเป็นทั้งการสัมผัสในการเช็ดหลายรอบ ทั้งตัวเล็บ และผิวหนังบริเวณนิ้ว รวมถึงกลิ่นของตัวสารเหล่านี้
เราควรที่จะสังเกตในการใช้น้ำยาล้างเล็บว่า มีอาการผิดปกติ หรือเกิดอาการแพ้ใดๆ หรือไม่ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์สกินแคร์อื่นๆ ร่วมด้วย ที่เราควรที่จะสังเกตหลังการใช้ว่า เรามีอาการแพ้ใดๆ บ้าง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้าหรือผิวตัว อย่างเช่น ครีมกันแดดผู้หญิง , มาร์คใต้ตา , คลีนซิ่งออย , น้ำแร่ฉีดหน้า , เซรั่มเกาหลี , ครีมรกแกะ , ครีมลดริ้วรอย , เจลว่านหางจระเข้ , สบู่ล้างหน้า , ครีมกระชับรูขุมขน
โดยหากเรามีอาการแพ้ตามที่ระบุมาด้านล่างนี้ จากน้ำยาที่ใช้ล้างเล็บ ควรที่จะหยุดการใช้ หากเป็นอาการแพ้ที่เกิดขึ้นตามผิวหนังที่ได้รับการสัมผัสโดยตรงจากน้ำยา ซี่งอาการแพ้เหล่านี้เป็นผลมาจากการแพ้ส่วนประกอบที่มีอยู่ในน้ำยาที่ใช้ในการล้างเล็บ หรือหากเป็นการแพ้กลิ่นควรหาผ้าหรือแมสปิดจมูกก่อนที่จะใช้น้ำยาตัวนี้ เพื่อป้องกันอาการแพ้จากทางกลิ่นของส่วนประกอบน้ำยา
- ผื่นแดงขึ้นตามผิวหนังส่วนที่โดนน้ำยา
- ผิวหนังแห้ง, แตก และลอกเป็นขุย
- อาการวิงเวียนและปวดศีรษะ, คลื่นไส้ และอาเจียน หลังได้กลิ่นน้ำ
- อาการกับดวงตา อย่างเช่น แสบ, ปวดตา, ตาบวม หรือน้ำตาไหล
ประโยชน์ของน้ำยาล้างเล็บ
เมื่อเราพูดถึงตัวน้ำยาที่ใช้ในการล้างเล็บนั้น เราคงคิดแต่ว่าประโยชน์ หรือความสามารถในการใช้งาน คงมีเพียงแค่การช่วยเช็ดน้ำยาทาเล็บออกจากเล็บเพียงเท่านั้น แต่ในความจริงสำหรับการนำมาใช้งานในด้านอื่นๆ แล้วนั้น ด้วยส่วนประกอบที่เราได้กล่าวถึงในข้างต้นแล้ว สำหรับส่วนประกอบอะซิโตน ที่นอกจากเป็นตัวทำละลายแล้ว ยังช่วยในการเช็ดคราบฝังแน่น หรือคราบเกาะติดแน่นอื่นๆ ออกได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
ขจัดคราบกาว
เราจะเห็นว่ามีหลายเครื่องใช้ ที่เราซื้อมาแล้วมีคราบกาวที่หลงเหลือไว้ จากการที่เราแกะป้ายราคา หรือตัวสติ๊กเกอร์ติดยี่ห้อของสินค้านั้นๆ ออก และทำให้เกิดความไม่สวยงาม เพียงแค่นำสำลีชุบกับน้ำยาที่ใช้ล้างเล็บนี้ แล้วนำไปเช็ดกับของใช้ที่มีคราบกาวฝังแน่น ส่วนประกอบต่างๆ ที่มีอยู่ในน้ำยาใช้ล้างเล็บนี้ จะช่วยในการขจัดคราบกาวที่ออกยาก ให้หลุดออกได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว
เช็ดคราบ, ฝุ่นฝังแน่นกับวัสดุต่างๆ ได้ดี
ไม่ว่าจะเป็นคราบฝุ่นที่สะสม หรือสิ่งสกปรกใดๆ ก็ตาม อย่างเช่น ความหมองที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์สีขาว อย่างโต๊ะวางโทรทัศน์ที่มีสีหมองจากสิ่งสกปรกที่เกาะติด หรือ คราบจากสายชาร์ทโทรศัพท์ เราสามารถนำผ้า หรือสำลีชุบน้ำยาใช้ล้างเล็บนี้ แล้วรูดไปที่สายชาร์ทโทรศัพท์ หรือนำผ้าที่ชุบน้ำยาใช้ล้างเล็บ เช็ดไปที่พื้นผิวของเฟอร์นิเจอร์ จะช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรก และขจัดความหมองออกไปได้อย่างชัดเจน
ลบคราบเคมีที่เขียนบนพื้นผิว
คราบเคมีต่างๆ ที่เปื้อนอยู่บนพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นวัสดุยาง, พลาสติก หรือตามสิ่งของต่างๆ ภายในบ้าน อย่างเช่น คราบปากกาเคมีที่อยู่บนขวดแก้ว และรอยปากกาที่เปื้อนบนส้นยางรองเท้าผ้าใบ ทั้งหมดนี้เราสามารถที่จะใช้ผ้าหรือสำลีชุบน้ำยาใช้ล้างเล็บ เช็ดลงบนสิ่งของที่เปื้อน คราบต่างๆ จะสามารถหลุดออกมาได้อย่างรวดเร็ว และสะอาดเกลี้ยงเกลาเลยทีเดียว
การเลือกซื้อน้ำยาล้างเล็บ
ส่วนประกอบ
แบบมีส่วนประกอบอะซิโตนสัดส่วนปกติ
หากเป็นน้ำยาใช้ล้างเล็บ ที่มีเปอร์เซ็นต์ของอะซิโตนที่เป็นสัดส่วนที่ควรมีทั่วไปสำหรับน้ำยาชนิดนี้ ข้อดีก็คือ ไม่ว่าจะเป็นยาทาเล็บในรูปแบบเจล หรือแม้กระทั่งยาทาเล็บในแบบที่ล้างออกยากอย่าง ยาทาเล็บแบบอะคริลิค หรือ ยาทาเล็บที่มีการเน้นกลิตเตอร์ หรือส่วนผสมที่ให้ความแวววาวที่เติมแต่งมาพร้อมสีทาเล็บนั้น ก็สามารถเช็ดออกได้หมด และไม่เปลืองแรงเช็ดหลายรอบ
แบบมีอะซิโตนในสัดส่วนที่น้อย
ซึ่งเราสามารถอ่านในรายละเอียด ของส่วนประกอบของน้ำยาล้างเล็บได้ว่า มีเปอร์เซ็นต์ของสารอะซิโตนมากน้อยแค่ไหน ข้อดีของการใส่สัดส่วนของอะซิโตนที่น้อยคือ เน้นในความปลอดภัยทั้งกับผิวหนัง และตัวเนื้อเล็บ โดยเฉพาะเรื่องกลิ่นของน้ำยา ซึ่งจะมีกลิ่นแรงที่น้อยกว่าในแบบแรก และมีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพ้ต่อผิวหนังที่น้อยกว่าแบบแรกอีกด้วย
แบบไม่มีอะซิโตน
เน้นในเรื่องการดูแลเล็บที่มากกว่า แบบที่มีอะซิโตนในสัดส่วนที่น้อย และจะไม่มีการส่งผลต่ออาการแพ้ทั้งผิวหนัง และทางระบบประสาทไม่ว่าจะเป็นอาการปวดศีรษะ หรือวิงเวียน ซึ่งถือว่าเป็นผลดีต่อผู้ใช้ แต่ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ด้วยว่า มีความต้องการที่จะเช็ดยาทาเล็บในรูปแบบไหน ที่ตัวยาทาเล็บมีการหลุดออกได้ยากหรือไม่เพียงใด
ที่สำคัญหากเลือกในรูปแบบไม่มีสารอะซิโตนนั้น เราจะไม่ต้องห่วงในเรื่องของกลิ่น ที่จะส่งผลต่อการคลื่นไส้ หรือเวียนศีรษะ หรือหากมีการใส่กลิ่นก็จะเป็นกลิ่นที่อ่อนมาก เพราะส่วนหนึ่งของน้ำยาสำหรับล้างเล็บนั้น ที่เรามักจะเห็นคุณลักษณะที่เด่นชัดคือ มีกลิ่นน้ำยาที่ค่อนข้างรุนแรง และส่งผลต่อการแพ้ในรูปแบบของการวิงเวียนหัว รวมถึงการคลื่นไส้นั้น เป็นเพราะการเติมกลิ่นที่ต้องการกลบกลิ่นของสารอะซิโตน
สีและกลิ่นสังเคราะห์
ในวันนี้เราอาจจะเห็นมีหลายยี่ห้อ ที่เน้นการไม่เติมสีกันแล้ว โดยเน้นให้เห็นความใส เพราะมองเห็นว่าผู้ใช้เริ่มมีความใส่ใจในความปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะสารเคมีสังเคราะห์ ที่มีการเติมใส่ไปในตัวน้ำยาใช้ล้างเล็บทั้งสีและกลิ่น ซี่งหลายยี่ห้อก็เริ่มใส่ใจในเรื่องของกลิ่นน้ำยาด้วยเช่นกัน โดยการปรับให้มีกลิ่นหอม และปรับระดับกลิ่นให้มีความอ่อนลงมากทีเดียว
รูปแบบการใช้งาน
แบบแผ่น
ความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับการแยกเป็นห่อเล็กๆ ที่ด้านในเป็นสำลีที่ชุบตัวน้ำยาที่ใช้ในการล้างเล็บไว้เรียบร้อยแล้ว เราเพียงแค่ฉีกแต่ละซองออกมาเช็ดยาทาเล็บเท่านั้นเอง ทำให้สะดวกทั้งการใช้งาน และการพกติดตัวในกรณีที่ต้องมีการทาเล็บนอกสถานที่ร่วมด้วย ดังนั้นการล้างเล็บในรูปแบบใหม่นี้ จึงไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ที่จะต้องพกขวดน้ำยาให้วุ่นวาย
แบบน้ำยา
ถือว่าเป็นรูปแบบการใช้งาน ที่เราก็ยังคงเน้นการใช้ในรูปแบบขวด ที่มีน้ำยาอยู่ด้านใน เพื่อใช้งานทั้งการเช็ดในปริมาณที่น้อย หรือมากตามความต้องการ และเอื้ออำนวยต่อการใช้งานทั้งการเช็ดยาทาเล็บ หรือทางประโยชน์การใช้งานด้านอื่นๆ ตามที่ได้เกริ่นไว้แล้วในเรื่องของประโยชน์ใช้งาน
วิธีล้างเล็บเจลด้วยตัวเอง & รีวิวเปรียบเทียบน้ำยาล้างเล็บ
สรุป
อย่างไรก็ดีจากข้อมูลข้างต้นทั้งหมดแล้ว ทำให้เราได้เห็นภาพมุมกว้างของผลิตภัณฑ์ ที่เป็นน้ำยาล้างเล็บนี้ว่า มีทั้งประโยชน์ในการเช็ดยาทาเล็บออกได้เกลี้ยง และสะอาดในแบบที่ไม่เปลืองแรง รวมถึงยังช่วยให้ความชุ่มชื่นและถนอมผิวหน้าเล็บได้เป็นอย่างดี มีทั้งแบบที่มีกลิ่นหอม และสามารถล้างเล็บได้ทุกรูปแบบของยาทาเล็บไม่ว่าจะเป็นยาทาเล็บเจล หรือยาทาเล็บอะคริลิคก็ตาม
แต่นอกเหนือจากนี้ก็อยากที่จะให้เรา ใส่ใจในส่วนของการใช้งานร่วมด้วยว่า ส่วนประกอบส่วนหนึ่งของน้ำยาล้างเล็บ มีความสามารถในการติดไฟได้เร็ว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการเก็บรักษา หรือวางในจุดที่ควรจะเน้นอากาศที่ถ่ายเท และไม่มีอุณหภูมิความร้อนสูง เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง ในการใช้งานผลิตภัณฑ์ยาล้างเล็บ
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
น้ำยาล้างเล็บ Peterpannt
-ปริมาณสุทธิของสินค้า 1 ลิตร ชนิดแกลอน
-กลิ่นไม่ฉุน ไม่แสบเล็บ ไม่ทำให้ระคายเคืองผิว
น้ำยาล้างเล็บ Innisfree
-มีส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากส้มเขียวหวาน
-สามารถลบยาทาเล็บได้อย่างสะอาดหมดจด
น้ำยาล้างเล็บ IWANT IT
-กลิ่นหอม สามารถเลือกสินค้าได้ถึง 4 กลิ่น
-ใช้งานง่าย ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ถนอมเล็บ
น้ำยาล้างเล็บ Yumie
-สูตรพิเศษ เช็ดออกง่ายไม่ทำให้เล็บเหลือง
-ให้ความชุ่มชื่นกับเล็บและผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
น้ำยาล้างเล็บ Allvery Shop
-ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ไม่เทอะทะ
-ช่วยล้างยาทาเล็บได้สะอาด กลิ่นไม่ฉุนมาก
น้ำยาล้างเล็บ Boset
-สูตรม้อยเจอร์ กลิ่นหอม ไม่ฉุน ถนอมเล็บ
-สามารถล้างสีเจลได้ ไม่เป็นคราบขาวและคราบเหลือง
น้ำยาล้างเล็บ YUSHAN
-สามารถล้างสีได้ไวภายใน 2 นาที
-ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก แค่ทาทิ้งไว้
น้ำยาล้างเล็บ Ladieshome
-รูปทรงกะทัดรัด ขนาดพกพาสะดวก
-ล้างง่าย สลายสีเจลได้ไวภายใน 3 นาที
น้ำยาล้างเล็บ Ano Beauty
-ใช้งานสะดวก แบบหัวปั้ม ไมทำให้แสบเล็บ
-สามารถล้างเล็บเจล เล็บต่อ และอะคลิลิค ได้ง่าย
น้ำยาล้างเล็บ Annasia
-กลิ่นหอมผลไม้ มีส่วนผสมของวิตามินอีที่ช่วยบำรุงเล็บ
-ไม่ทำให้เล็บเหลือง ล้างสีออกได้สะอาด