เครื่องดูดควัน คืออะไร
คือ เครื่องใช้ในการดูดควันอาหาร เน้นการติดตั้งไว้ด้านบนส่วนที่เป็นเตา หรือส่วนที่เป็นพื้นที่ในการทำอาหาร เป็นเครื่องใช้ที่จำเป็นอย่างมากสำหรับห้องครัว สามารถใช้กับครัวไทย, ที่พักอาศัยที่เป็นบ้านอยู่, คอนโด หรือตามร้านอาหาร เครื่องดูดควันมีทั้งรูปแบบไม่เจาะผนัง, พร้อมติดตั้ง ช่วยในเรื่องการขจัดกลิ่นและควัน ที่เกิดจากการทำอาหารได้เป็นอย่างดี
เครื่องดูดควัน มีกี่แบบ
ถึงแม้ว่าเครื่องที่ใช้ในการดูดควันนั้น เป็นเครื่องใช้ที่มีความจำเป็นอย่างมาก สำหรับครัวไม่ว่าจะเป็นบ้านอยู่ หรือตามร้านอาหารก็ตาม เพราะเมื่อไหร่ที่มีการทำอาหารเกิดขึ้นแล้ว ย่อมที่จะต้องมีควันตามมาอย่างแน่นอน ไม่ว่าอาหารชนิดนั้นจะเป็นผัด, ต้ม, ทอด หรือนึ่งก็ตาม และถึงแม้จะเป็นอาหารที่มีกลิ่น และควันน้อยที่สุด หากมีระบบการระบายอากาศ และกลิ่นที่ไม่ดีพอ ก็ทำให้ภายในที่พัก หรือครัวร้านอาหารมีกลิ่นอาหาร และยังทำให้การหายใจไม่สะดวก
โดยเฉพาะหากมีการเน้นทำอาหารที่ต้องผัด หรือทอดเป็นพิเศษแล้ว การพิจารณาดูเครื่องช่วยในการดูดควัน ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ และควรเลือกให้เหมาะสมกับรูปแบบการทำอาหาร, ขนาดของพื้นที่ส่วนที่ใช้ในการทำอาหาร และโครงสร้างของสถานที่นั้นๆ เพราะในแต่ละเครื่องที่ใช้ดูดควันนั้น จะมีทั้งแบบที่เจาะผนัง และแบบไม่เจาะผนัง รวมถึงการวางปล่องดูดควัน ก็สามารถเลือกตามความเหมาะสมได้
โดยในแต่ละประเภทของเครื่องดูดควันนั้น มีความเหมาะสมกับรูปแบบของบ้านอยู่ และร้านอาหาร โดยขึ้นอยู่กับขนาดของ hood ดูดควันที่แตกต่างกันตามการใช้งานอีกด้วย และรูปแบบการติดตั้งที่มีความสัมพันธ์ กับการทำงานของเครื่องที่ใช้ในการดูดควัน ซึ่งเราสามารถเลือกได้ทั้งขนาดเล็ก หรือใหญ่ตามความเหมาะสม
เครื่องดูดควันแบบมาตรฐาน (Slimline Hood)
รูปแบบนี้เราจะเคยเห็นบ่อย สำหรับที่อยู่อาศัยในรูปแบบของอพาร์ทเมนท์ หรือคอนโด ที่เน้นการใช้สอยพื้นที่แต่ละโซนที่มีจำกัด ซึ่งขนาดของตัวเครื่องที่ใช้ดูดควันนั้น ส่วนใหญ่มักจะเลือกให้พอดีกับพื้นที่ๆ ใช้ในการทำอาหาร เป็นการติดตั้งแบบไม่เจาะผนัง และเป็นระบบการระบายอากาศแบบหมุนเวียน หรือ Recycle System
ถึงแม้ว่าจะมีข้อได้เปรียบในเรื่องของ การติดตั้งที่สามารถทำได้ง่ายๆ และพร้อมติดตั้งได้เลย รวมถึงตัวเครื่องที่มีขนาดเล็ก ไม่ต้องมีปล่องดูดควัน หรือhood ดูดควันให้ยุ่งยาก แต่ในอีกมุมหนึ่งกับการใช้งานนั้น ความสามารถในการดูดควันก็มีน้อย ดังนั้นในการเลือกหากสามารถเลือกระดับการดูดควัน ที่มีกำลังการดูดอยู่ที่ 900-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ก็จะช่วยในการระบายอากาศ และควันอาหารได้มากทีเดียว
อย่างที่เราเกริ่นไว้ข้างต้นแล้วว่า เครื่องที่ใช้ดูดควันรูปแบบนี้นั้น จะเหมาะกับการใช้งานสำหรับที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่จำกัดอย่างคอนโด หรือห้องพักที่มีพื้นที่ทำครัวจำกัด ซึ่งไม่รวมคอนโดที่เป็นห้องชุด หรือพื้นที่กว้าง ที่เราสามารถเลือกการติดตั้งเป็นแบบเครื่องดูดกลางห้องได้ เราอาจจะต้องมีอุปกรณ์เสริมในการใช้งานร่วมกับเครื่อง อย่างเช่น แผ่นกรองคาร์บอน ที่ช่วยในการขจัดกลิ่นอาหารอีกชั้นหนึ่ง
ด้วยความที่มีการดูดควันในรูปแบบอากาศหมุนเวียนก็คือ จะเป็นการดูดเอาอากาศที่มีกลิ่นอาหารนั้น เข้าไปด้านในตัวเครื่องด้านบน แต่ไม่มีการต่อท่อออกด้านนอกสถานที่ เพราะเป็นรูปแบบไม่เจาะผนัง แต่เป็นการกรองกลิ่นอาหารผ่านตัวฟิลเตอร์ และหากมีการติดตั้งตัวแผ่นกรองคาร์บอนอีกชั้นนอก ก็จะช่วยในเรื่องขจัดกลิ่นอาหารออกไปได้พอสมควรทีเดียว
รวมถึงสอดคล้องกับการติดตั้ง ในรูปแบบที่ไม่จำเป็นต้องเจาะผนัง ทำให้รูปแบบมาตรฐาน หรือ Slimline Hood นี้นั้นจะไม่มีอุปกรณ์ด้านบนอย่าง ปล่องดูดควัน หรือ hood ดูดควัน ที่เป็นตัวกลางในการระบายอากาศ และกลิ่นอาหารออกไปด้านนอกสถานที่ ดังนั้นในรูปแบบมาตรฐานนี้นั้น ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง สำหรับธุรกิจร้านอาหาร หรือการทำอาหารในรูปแบบครัวไทย โดยข้อดีจะอยู่ที่การติดตั้งที่ง่าย และพร้อมติดตั้งได้ทันที ไม่เสียเวลาการติดตั้ง
วัสดุส่วนใหญ่ที่ประกอบเป็นตัวเครื่องนั้น มีความคล้ายกับรูปแบบอื่นๆ ที่มีขนาดเครื่องใหญ่กว่า คือเป็นวัสดุสแตนเลส และด้วยระบบการดูดอากาศแบบหมุนเวียนนี้ ก็ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก และเหมาะสมกับพื้นที่ครัวขนาดจำกัด ไม่เปลืองพื้นที่ในการติดตั้งด้านบน และไม่เสียสภาพผนังหรือเพดานในการเจาะฝังตัว hood ดูดควัน เพียงแต่ควรที่จะใช้แผ่นกรองคาร์บอน ในการช่วยกรองกลิ่นอาหารร่วมกับ การทำงานของตัวเครื่อง
เครื่องดูดควันแบบติดผนังหรือติดเพดาน (Chimney Hood)
รูปแบบของเครื่องที่ใช้ในการดูดควันนี้ หากจะพูดเปรียบเทียบให้เห็นข้อแตกต่างชัดเจน จะอยู่ในระดับกลางระหว่างเครื่องแบบ Slimline Hood และเครื่องขนาดใหญ่ หรือ Island Hood ซึ่งถ้าจะบอกว่ามีประสิทธิภาพในการดูดกลิ่นอาหารได้ดีกว่าแบบแรก แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำอาหารที่เกิดควัน ในปริมาณมากๆ เท่ากับร้านอาหารได้
รวมถึงเครื่องรูปแบบ Chimney Hood นี้ก็ยังเหมาะสมกับ สถานที่พักอาศัยในรูปแบบบ้านอยู่ สำหรับการติดตั้งตัวเครื่องนั้น จำเป็นที่จะต้องเจาะผนัง หรือเพดาน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างการวางท่อระบายอากาศด้านใน ว่าจะมีความยากง่ายต่อการวางท่อมากน้อยแค่ไหน ทั้งการเจาะผนัง หรือเจาะด้านบนเพดาน
การเปรียบเทียบตัวท่อที่ใช้ระบายอากาศด้านนอกนั้น ยิ่งท่อมีรูปแบบการวางที่เป็น ลักษณะทางตรงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งระบายอากาศ และดูดกลิ่นอาหารได้ดีมากเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาระยะในการวางท่ออีกด้วยว่า ไม่ควรมากจนเกินไป ทั้งระยะทางและรูปแบบการวางท่อ มีความสัมพันธ์ต่อการระบายอากาศ และกลิ่นอาหารได้ดี
สิ่งที่จะช่วยผู้ใช้งานได้พิจารณาได้ง่ายมากขึ้น สำหรับรูปแบบ Chimney Hood นี้นั้นก็คือ เป็นรูปแบบตัวเครื่องที่ไม่สามารถพร้อมติดตั้ง เหมือนกับ Slimline Hood และรวมถึงยังไม่เหมาะกับการทำอาหารในรูปแบบครัวไทยอีกด้วย ซึ่งสามารถทำได้ในปริมาณไม่มาก แต่ไม่สามารถทำอาหารที่มีกลิ่นและควันที่แรงตลอดทั้งวันได้ และไม่แนะนำเครื่องรูปแบบ Chimney Hood นี้กับธุรกิจร้านอาหารอีกด้วย
ส่วนใหญ่แล้วจะใช้วัสดุที่เป็นสแตนเลส เพราะด้วยการทำงานของตัวเครื่องที่ใช้ดูดควันอาหารนี้ จะเน้นการใช้งานที่ทนทานเป็นหลัก ถึงแม้จะเป็นรูปแบบตัวเครื่องในระดับกลาง ที่มีคุณสมบัติดูดควันอาหาร และระบายอากาศได้มากกว่ารูปแบบแรก แต่ก็ยังมีกำลังแรงดูดที่ไม่เท่ากับเครื่องตัวใหญ่อย่าง Island Hood
เครื่องดูดควันแบบกลางห้อง (Island Hood)
เครื่องดูดควันในรูปแบบนี้นั้น มีคุณสมบัติในการดูดควันอาหาร และระบายอากาศได้ดีมากกว่า 2 รูปแบบแรก ด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่กว่า และมีพลังในการดูดของตัวมอเตอร์ที่มากกว่า ทั้งรูปแบบ Chimney Hood หรือ รูปแบบ Slimline Hood เราอาจจะเห็นว่าโครงสร้างที่คล้ายกับ เครื่องดูดแบบ Chimney Hood ที่มีตัวปล่องดูดควัน หรือตัว hood ดูดควัน
แต่รูปแบบ Island Hood จะเป็นการเจาะเพดานด้านบน เพื่อให้มีการระบายอากาศที่ดีกว่า และสะดวกกว่า ระดับเสียงในการทำงาน เราสามารถที่จะเลือกเครื่องรุ่นที่มีการทำงาน ในระดับเสียงที่ไม่ดังมากได้ ซึ่งจะให้เสียงเงียบในการเปิดใช้เครื่อง ซี่งไม่ว่าจะเป็นบ้านอยู่ที่มีพื้นที่มากๆ, คอนโดห้องชุด หรือแม้กระทั่งรูปแบบของร้านอาหารเหมาะที่จะเลือกใช้ เครื่องรูปแบบ Island Hood นี้
นอกจากตัววัสดุที่จะเป็นสแตนเลส ทั้งตัวปล่องดูดควัน และส่วนประกอบอื่นๆ แล้วนั้น เพื่อที่จะเสริมการใช้งานตัวเครื่อง ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานแล้วนั้น วัสดุสแตนเลสนี้นั้น ยังช่วยในเรื่องการเช็ดและดูแลรักษาความสะอาดที่ง่ายอีกด้วย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารที่มีกลิ่นแรงๆ อย่างอาหารรูปแบบครัวไทย หรืออาหารทอดต่างๆ ก็สามารถใช้งานกับเครื่องรูปแบบติดตั้งกลางห้อง หรือ Island Hood นี้ได้ และยังช่วยให้เสียงเงียบระหว่างการเปิดเครื่องอีกด้วย
วิธีเลือกซื้อเครื่องดูดควัน
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ในบ้าน หรือแม้แต่การเลือกซื้อเพื่อนำมาใช้ในธุรกิจร้านค้านั้น จำเป็นอย่างยิ่ง ที่เราควรมีหลักที่ใช้ในการพิจารณาเหมือนๆ กับเครื่องไฟฟ้าที่ใช้ในการทำอาหาร อย่างเช่น เครื่องทำวาฟเฟิล , เครื่องทำแซนวิช , กระทะเหล็ก , เตาแก๊สปิ้งย่าง , เตาปิคนิค , เตาปิ้งย่างไฟฟ้า , ไมโครเวฟ , เครื่องบดอาหาร , เครื่องปั่นสมูทตี้ , เครื่องคั้นน้ำส้ม โดยหากเป็นเครื่องที่ใช้ดูดควัน หลักใหญ่ๆ ที่ใช้ในการพิจารณาเลือกซื้อ ได้แก่
ประเภทเครื่องดูดควัน
เครื่องดูดควันแบบมาตรฐาน
หรือแบบ Slimline Hood เหมาะกับรูปแบบที่อยู่อาศัย ที่เน้นเรื่องพื้นที่จำกัด อย่างเช่น ห้องพัก หรือคอนโดที่มีขนาดพื้นที่ในโซนทำอาหารที่ไม่กว้างมาก ดังนั้นการเลือกเครื่องในรูปแบบมาตรฐานนี้นั้น จำเป็นที่จะต้องมีการประกอบอาหาร ที่ไม่เน้นอาหารกลิ่นแรง หรือการทอดในปริมาณที่มากเกินไป เพราะการทำงานของเครื่องรูปแบบ Slimline Hood นี้นั้น จะเป็นการระบายอากาศแบบหมุนเวียน หรือ recycle
ซี่งการดูดกลิ่น หรือระบบระบายอากาศในแบบหมุนเวียน จะไม่สามารถขจัดกลิ่น และควันที่เกิดจากการทำอาหารได้มากนัก เพราะเป็นการติดตั้งตัวเครื่องแบบง่ายๆ ไม่มีการเจาะผนัง หรือต่อท่อระบายอากาศด้านนอก โดยมีข้อแนะนำในการใช้เครื่องรูปแบบนี้ ให้มีประสิทธิภาพในการดูดกลิ่น และระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้นคือ การใช้ร่วมกับแผ่นกรองคาร์บอน ในการติดตั้งด้านนอกของแผ่นกรองน้ำมัน หรือแผ่นฟิลเตอร์
เครื่องดูดควันแบบติดผนัง
หรือแบบ Chimney Hood ซึ่งเป็นการติดตั้ง ที่ต้องอาศัยการเจาะผนังร่วมด้วย เพื่อติดตั้งปล่องดูดควัน หรือ hood ดูดควัน โดยให้ระบายอากาศผ่านท่อออกไปด้านนอก ดังนั้นประสิทธิภาพในการระบายอากาศ และขจัดกลิ่นควันอาหารต่างๆ นั้นจะดีกว่าในแบบแรก ซึ่งสามารถใช้กับบ้านอยู่ และคอนโดที่มีพื้นที่มากขึ้นกว่าแบบแรก แต่สำหรับการใช้งานจริงนั้น เราสามารถทำอาหารทอดและผัด ได้ แต่ไม่ควรทำในปริมาณที่มาก หรือเทียบเท่ากับร้านอาหาร
เพราะด้วยกำลังการดูดควันของตัวมอเตอร์ มีไม่มากเท่ากับแบบเครื่องขนาดใหญ่อย่าง Island Hood แต่ยังถือว่าเป็นรูปแบบเครื่องที่น่าสนใจ สามารถขจัดกลิ่นอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหากต้องการให้เครื่องทำงานมีเสียงเงียบนั้น ควรเลือกที่ระดับเสียงอยู่ที่ 40-60 เดซิเบล ซึ่งเสียงในการทำงานของตัวเครื่องนั้น อาจจะขึ้นอยู่กับช่วงอายุในการใช้งาน และการดูแลรักษาร่วมด้วย
เครื่องดูดควันแบบกลางห้อง
หรือเราสามารถเรียกได้อีกชื่อว่า Island Hood ที่หากเป็นบ้านที่มีการออกแบบรุ่นใหม่ๆ หรือคอนโดห้องชุด ที่มีบริเวณในตัวบ้าน มีการแบ่งโซนทำอาหารที่มีพื้นที่มากๆ แล้วนั้นจะเน้นการออกแบบเครื่องที่ใช้ดูดควันในรูปแบบนี้ หรือเรียกว่า รูปแบบติดตั้งกลางห้อง และรวมถึงโซนในการทำอาหารจะเป็นการออกแบบ เป็นเคาน์เตอร์ในบริเวณกลางห้อง ตำแหน่งเดียวกับตัวเครื่องอีกด้วย
หากพูดในเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเครื่อง หรือการระบายอากาศได้ดีนั้น ต้องบอกเลยว่า ด้วยพลังมอเตอร์ที่มากกว่า 2 รูปแบบแรก ทำให้ระบบการระบายอากาศ และควันอาหารได้ดีกว่า ซึ่งเราอาจจะดูได้จากขนาดของตัวเครื่องร่วมด้วย เพราะจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าเครื่อง 2 รูปแบบแรก และมีฟังก์ชั่นให้เสียงเงียบในขณะเปิดเครื่องทำงาน
ขนาดเครื่องดูดควัน
หากเรายกให้การพิจารณาเลือกที่ประเภทของตัวเครื่อง มาเป็นอันดับแรกนั้น ในเรื่องของขนาดตัวเครื่อง ก็เป็นส่วนสำคัญรองๆ ลงมาที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว รวมถึงเครื่องที่ใช้ดูดควันนั้น ก็ควรมีขนาดที่ใหญ่ หรือครอบคลุมพื้นที่หรือโซนในการทำอาหาร ที่เราสามารถดูได้จากส่วนที่เป็นเตา อย่างเช่น หากพื้นที่ส่วนเตามีขนาด 30 นิ้ว ส่วนด้านบนที่เป็นตัวเครื่องดูดกลิ่นควันนั้น ควรที่จะอยู่ในขนาด 36 นิ้ว
รวมถึงการกะพื้นที่รอบข้าง คล้ายกับการเลือกซื้อตู้เย็น ที่เราควรเว้นพื้นที่ด้านข้างของตัวเครื่องดูดกลิ่นควัน และพื้นที่ในการทำอาหารด้านข้างซ้ายและขวา เพื่อให้มีพื้นที่ในการระบายอากาศร่วมด้วย และไม่ควรน้อยกว่า 3 นิ้วทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ในส่วนของเครื่องที่ใช้ดูดควันรูปแบบกลางห้อง หรือ Island Hood นั้น ควรเว้นพื้นที่ด้านซ้ายและด้านขวาไม่น้อยกว่า 3-6 นิ้ว
แผ่นกรองน้ำมันของเครื่องดูดควัน
หรือตัวแผ่นฟิลเตอร์ ที่เป็นด่านหน้าสำคัญ ในเวลาทำอาหารโดยเฉพาะอาหารทอด ที่มีไอหรือควันน้ำมันมากเป็นพิเศษ สำหรับการเลือกตัวแผ่นกรองนี้ มีความสอดคล้องกับอาหาร ที่ส่วนใหญ่เรามักจะเน้นทำกินกัน ไม่ว่าจะเป็นหมวดอาหารทอด หรืออาหารผัด หรือเป็นเพียงอาหารลวก หรือต้มเท่านั้น เพราะยิ่งมีคราบไอน้ำมันมากเท่าไหร่ ก็ควรที่จะเน้นเลือกใช้แผ่นกรอง ที่มีประสิทธิภาพในการกรองคราบน้ำมันได้มากเท่านั้น
แบบฟิลเตอร์
ส่วนใหญ่หากเป็นเครื่องดูดควันรูปแบบ Chimney Hood จะเป็นรูปแบบฟิลเตอร์นี้เป็นส่วนใหญ่ ที่มีวัสดุให้เลือกระหว่าง อลูมิเนียม หรือสแตนเลส ที่มีการทำออกมาคล้ายการสานให้มีรูในการเข้าของอากาศที่น้อยมาก เพื่อดักจับตัวไอน้ำมันที่จะลอยขึ้นไปติดด้านบนแผ่นกรองน้ำมัน หรือฟิลเตอร์นี้ การนำออกมาทำความสะอาดก็จะง่ายและสะดวก เพียงแค่ล้างด้วยน้ำยาขจัดคราบไขมัน แต่ควรที่จะเน้นถอดออกทำความสะอาดเป็นประจำ หากมีการทำอาหารเรื่อยๆ
แบบพัดลมแยกน้ำมัน
จุดเด่นของรูปแบบแผ่นกรองนี้ก็คือ จะเน้นการใช้ความเร็วและแรงของตัวใบพัด ในการพัดแยกระหว่างไอน้ำมัน และอากาศออกจากกัน และจะได้คราบน้ำมันออกมาส่วนที่รองน้ำมัน ดังนั้นนอกจากที่เราจะต้องถอดตัวแผ่นกรองน้ำมันด้านนอกออกมาแล้วนั้น ยังจำเป็นที่จะต้องถอดตัวรองน้ำมัน ออกมาล้างทำความสะอาดอีกด้วย
แบบแผ่นกรองคาร์บอน
ส่วนที่แตกต่างจากแผ่นกรองน้ำมัน 2 รูปแบบแรกคือ จะมีตัวแผ่นกรองคาร์บอน ลักษณะสีดำอยู่ด้านนอก ซึ่งแผ่นกรองคาร์บอนนี้ จะช่วยในการกรองทั้งไอน้ำมันที่ลอยตัวด้านบน และขจัดกลิ่นอาหารร่วมด้วย ซึ่งเราสามารถเลือกซื้อวัสดุเสริมนี้ได้ในทุกที่ๆ มีขายอุปกรณ์เครื่องครัว ควรเปลี่ยนประจำอย่างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง หรือถี่กว่านั้น หากมีการทำอาหารบ่อยครั้ง หรือทุกวันและเน้นเป็นอาหารจำพวกทอด
การเลือกใช้รูปแบบการกรองน้ำมันนี้ จะเน้นการทำอาหารที่มีควันมาก หรือกลิ่นแรง ซึ่งระบบการระบายอากาศจะมีทั้ง การทำงานของตัวมอเตอร์ด้านในตัวเครื่อง ร่วมกับแผ่นกรองคาร์บอนด้านนอก ที่เน้นในเรื่องการขจัดกลิ่นอาหาร และคราบน้ำมันจะมาเกาะติดที่ตัวแผ่นกรองคาร์บอนนี้ก่อน
พลังการดูดควัน
หากต้องการให้มีการดูดควันอาหาร และช่วยระบายอากาศได้ดี ควรเลือกเครื่องดูดควันที่มีกำลังการทำงานของตัวมอเตอร์ไม่ต่ำกว่า 900 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ยิ่งมีกำลังในการทำงานของตัวมอเตอร์มากแค่ไหน การขจัดกลิ่นอาหาร และควันที่มาจากการทำอาหาร ก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น รวมถึงรูปแบบของตัวเครื่อง ที่จำเป็นต้องมีการต่อปล่องดูดควัน และท่อระบายอากาศด้านนอกร่วมด้วย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่องที่เราเลือกอีกด้วย ส่วนใหญ่เครื่องที่มีขนาดใหญ่ อย่างเครื่องรูปแบบ Island Hood หรือ Chimney Hood จะมีกำลังมอเตอร์ที่สูงกว่า เครื่องรูปแบบ Slimline Hood ดังนั้นเราอาจจะต้องพิจารณา ในแต่ละตัวเลือกเพื่อประกอบการตัดสินใจร่วมด้วย
วิธีล้างคราบน้ำมันเครื่องดูดควัน
การดูแลและทำความสะอาดเครื่องใช้ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ทุกประเภทนั้น มีส่วนช่วยอย่างมาก ที่จะทำให้อายุการใช้งานที่นานมากขึ้น เพราะเพียงแค่ฝุ่นละออง หรือสิ่งสกปรกต่างๆ เกาะติดและฝังแน่นเป็นเวลานาน ก็มีส่วนที่จะทำให้เครื่องใช้เหล่านั้น เสื่อมสภาพการใช้งานได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว
โดยเฉพาะเครื่องดูดควันที่เมื่อผ่านการใช้งานไปสักพักแล้ว จะมีตัวการหลักคือ คราบน้ำมัน ที่ฝังแน่นและเป็นคราบเหนียว คราบน้ำมันนี้มีส่วนอย่างมาก ที่จะสร้างปัญหาในการทำงานให้กับตัวเครื่อง ทั้งการดูดกลิ่น, การระบายอากาศ และการทำงานของตัวมอเตอร์ที่หนักมากกว่าเดิม ซึ่งหากมีคราบน้ำมันเกาะติดตั้งแต่ตัวแผ่นกรองน้ำมัน หรือแผ่นฟิลเตอร์ด้านนอก ดังนั้นเรามาดูกันว่า มีส่วนประกอบไหนของตัวเครื่องบ้าง ที่ควรเน้นทำความสะอาด
ตัวเครื่องด้านนอก
- ใช้น้ำยาเช็ดคราบมัน สำหรับวัสดุที่เป็นสแตนเลสได้
- ฉีดพ่นน้ำยาพื้นผิวด้านนอกตัวเครื่อง โดยเฉพาะบริเวณที่มีคราบน้ำมัน
- ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาด เช็ดตาม
- ใช้ผ้าแห้งเช็ดตามให้มีความเงา และแวววาว
แผ่นกรองน้ำมันหรือตัวฟิลเตอร์
- ถอดแผ่นกรองน้ำมัน หรือตัวฟิลเตอร์ออกจากตัวเครื่อง
- นำมาล้างด้วยน้ำยาขจัดคราบมัน หรือน้ำยาล้างจาน
- ล้างตามด้วยน้ำสะอาด
- เช็ดด้วยผ้าแห้ง และวางผึ่งไว้ให้ตัววัสดุแห้งสนิท
- ประกอบเข้ากับตัวเครื่อง
ถาดรองน้ำมันด้านใน
- ถอดถาดรองน้ำมัน และเทน้ำมันด้านในออก
- ใช้น้ำยาล้างให้คราบมันหาย และล้างตามด้วยน้ำสะอาด
- เช็ดด้วยผ้าแห้ง และวางผึ่งให้แห้ง
- ก่อนนำมาประกอบกับตัวเครื่อง ควรใส่น้ำด้านในเล็กน้อย เพื่อให้น้ำมันไม่ฝังแน่น
เคล็ดลับการเลือกเครื่องดูดควัน
สรุป
หลายคนที่ชื่นชอบการทำอาหารกินเองที่บ้าน ซี่งเครื่องใช้ในครัวโดยเฉพาะ เครื่องดูดควัน ก็มีส่วนสำคัญอย่างมาก สำหรับผู้ที่ทำอาหารไม่ว่าจะเป็นบ้านอยู่, คอนโด หรือร้านอาหาร ด้วยคุณสมบัติในการทำงานของตัวเครื่อง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีให้เลือกหลากหลายประเภท สามารถใช้ได้กับการทำอาหารรูปแบบครัวไทย ด้วยความสามารถในการขจัดกลิ่นได้ดี และยังมีการติดตั้งที่ง่าย มีให้เลือกทั้งแบบไม่เจาะผนัง รวมถึงพร้อมติดตั้งได้สะดวกและรวดเร็ว
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
เครื่องดูดควัน Axia รุ่น C-SENSE 60
-ทำความสะอาดฟิลเตอร์อัติโนมัติด้วยแผ่นฮีตเตอร์ทำความร้อน
-กำลังดูดสูงสุด 1,300 ลบ.ม./ชม. ปรับความแรงได้3ระดับ
เครื่องดูดควัน Lucky Flame รุ่น RG-961S
-กระจกนิรภัย ทนทานต่อแรงกระแทกและความร้อนสูง
-ถาดรองน้ำมันถอดทำความสะอาดง่ายความแรง2ระดับ
เครื่องดูดควัน Kashiwa รุ่น KW-101
-แผงเครื่องไร้รอยต่อ ง่ายต่อการทำความสะอาด
-ท่อฟรอยด์เส้นผ่านศูนย์กลาง16ซม.ยาว150ม.
เครื่องดูดควัน Dyna Home รุ่น DH-600
-ติดตั้งได้ทั้งระบบท่อดูดอากาศและระบบหมุนเวียนภายใน
-ปรับการทำงานได้3ระดับ ท่อระบายอากาศขนาด 5 นิ้ว
เครื่องดูดควัน Rinnai รุ่น RH-L409-GC
-ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
-ตกแต่งไฟส่องสว่างด้วยหลอด LED 4 x 3 วัตต์
เครื่องดูดควัน MEX รุ่น K631XS90
-ไฟส่องสว่างแบบฮาโลเจน 2 ดวง(2 x 20 วัตต์)
-กำลังการดูดอากาศสุทธิสูงสุด950ลูกบาศเมตร/ชั่วโมง
เครื่องดูดควัน HAFELE รุ่น HH-TP60-12
-ติดตั้งได้2แบบ ระบบต่อท่อและระบบหมุนเวียน
-แผ่นกรองอลูมิเนียมหนา3ชั้น จำนวน 2 =bho
เครื่องดูดควัน TECNOPLUS รุ่น TNS HD 90 MA B
-มีระบบทำความสะอาดโดยใช้ความร้อนเพื่อประสิทธิภาพที่ดี
-โครงสร้างสแตนเลสและกระจกนิรภัยคุณภาพดีทนความร้อนสูง
เครื่องดูดควัน EVE รุ่น HC-LOFTBOX-90
-ระบบควบคุมแบบสัมผัสพร้อมหน้าจอแสดงผล
-ทำความสะอาดเครื่องอัติโนมัติด้วยการอบร้อน
เครื่องดูดควัน FRANKE รุ่น CXW 220 FT903 P
-กำลังดูด 1,600 ลบ.ม./ชม.ปรับความแรงได้3ระดับ
-ไฟส่งอสว่างแบบ LED 3 วัตต์ จำนวน 2 ดวง