ฮาดะลาโบะ คืออะไร
คือผลิตภัณฑ์สกินแคร์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการดูแลผิวหน้า ที่มีลักษณะเป็นน้ำ ที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นเอสเซ้นต์ หรือน้ำตบ โดยสิ่งที่น่าสนใจก็คือ การที่ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ยี่ห้อ Hadalabo นี้มีการแยกสีแบ่งตามสูตร ที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า และปัญหาของผิวหน้าของแต่ละคนได้อย่างละเอียด
ในแต่ละสูตร หรือแต่ละสีนั้นจะมีส่วนประกอบที่เน้นเฉพาะในการแก้ปัญหาผิวหน้า อย่างเช่น ผู้ที่มีปัญหาเรื่องความมัน หรือการเกิดสิวได้ง่าย ควรที่จะเลือกใช้สูตรขวดสีเขียว, ผู้ที่มีปัญหาฝ้า, กระ, จุดด่างดำ และปัญหาที่เกิดจากการเจอแดดอยู่เป็นประจำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรที่จะเลือกสูตรขวดสีฟ้า หรือสีน้ำเงิน หรือผู้ที่มีวัยเลย 30 ปีขึ้นไป และมีปัญหาริ้วรอย ควรที่จะเลือกสูตรขวดสีแดง เป็นต้น
ทำให้เรารู้ว่าฮาดะลาโบะนั้น มีการทำออกมามีหลายสูตร และแต่ละสูตรนั้น ก็มีการแบ่งสีขวดที่แตกต่างกัน รวมถึงการพิจารณาเลือกใช้ สำหรับผิวหน้าที่แตกต่างกันร่วมด้วย โดยเฉพาะสียอดนิยม ที่มีคนเลือกใช้กันมากได้แก่ สีทอง, สีเขียว และสีขาว เป็นต้น
สี สูตรของฮาดะลาโบะ
ฮาดะลาโบะสีทอง
น้ำตบฮาดะลาโบะ หรือเราสามารถเข้าใจในรูปแบบของ เอสเซ้นต์ที่มีลักษณะความเป็นน้ำสูง และสามารถแทรกซึมผ่านเข้าชั้นในของ ผิวหน้าได้อย่างเต็มที่ ไอเท็มขวดสีทองตัวนี้ของ Hadalabo จัดว่าเป็นตัวพรีเมี่ยมเลยก็ว่าได้ หากถามว่าใครบ้างที่เหมาะสมกับสูตรนี้ หรือสูตรขวดสีทอง คงต้องบอกว่าเป็นผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าอย่างเร่งด่วน, ผิวหน้าแห้ง หรือขาดการบำรุงมานาน รวมถึงคุณสมบัติที่สามารถลดความหมองคล้ำ ได้ในระดับที่ดีมากๆ อีกด้วย
เราต่างรู้กันว่าแบรนด์น้ำตบ หรือเอสเซ้นต์ตัวนี้นั้น ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ หรือ singnature ในเรื่องของการเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้า ด้วยส่วนประกอบของ ไฮยาลูโรนิค หรือกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) ที่มีหน้าที่ทั้งเก็บกักน้ำ และอุ้มน้ำใต้ผิวหน้าของเรา ซึ่งสามารถเปรียบเทียบภาพให้เห็น เหมือนต้นไม้ที่มีการรดน้ำอยู่เป็นประจำ ความชุ่มชื่น, ผิวอิ่มน้ำ และมีความนุ่มเด้ง อีกทั้งยังสามารถช่วยลดหน้าหมองคล้ำ ให้เราเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน
ผิวหน้าที่ควรใช้ผลิตภัณฑ์สูตรสีทองนี้ สังเกตได้จากตรงไหนได้บ้าง คงมีหลายคนคิดว่าตัวเอง ควรหรือไม่ ที่จะใช้ในระดับสูตรที่เข้มข้นสีนี้ เพราะในหลายคนก่อนหน้านี้ ก็อาจมีการใช้สกินแคร์หลายตัวเพื่อบำรุงผิวหน้าอยู่แล้ว
อย่างเช่น ครีมลดริ้วรอย , ครีมบำรุงผิวหน้า , ครีมกระชับรูขุมขน , เซรั่มหน้าใส , ครีมรกแกะ , โคลนพอกหน้า , เซรั่มเกาหลี , น้ำตบ , วิตามินซีทาหน้า , เจลว่านหางจระเข้ แต่คำถามคือ ทำไมผิวหน้ายังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
รวมถึงการที่ผลิตภัณฑ์สกินแคร์หลายตัวนั้น มีการระบุคล้ายกันว่า มีส่วนประกอบให้ความชุ่มชื่นแบบเดียวกันคือ ไฮยาลูโรนิค แต่ทำไมผลลัพธ์การใช้ในแต่ละผลิตภัณฑ์ถึงไม่เหมือนกัน ซึ่งคำตอบมีให้ หากเราดูในรายละเอียดส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ Hadalabo สูตรสีทองนี้ คือ การใส่ส่วนประกอบกรดไฮยาลูโรนิค ในสูตรเข้มข้มพรีเมี่ยมสีทองนี้ ทั้งหมด 5 ตัวด้วยกันคือ
- Hyaluronic Acid
- Super Hyaluronic Acid
- Nano-Hyaluronic Acid
- 3D Hyaluronic Acid
- Absorption Type Hyaluronic Acid
Hadalabo สำหรับสูตรสีทองนี้ จะมีการระบุบนผลิตภัณฑ์สกินแคร์โดยเน้นคำว่า Gokujyun Premium Hyaluronic Milk Lotion ซึ่งหมายถึงส่วนประกอบที่เป็นกรดอะมิโนในโคจิ และส่วนประกอบ Milk Lotion ที่มาจากข้าวหมักญี่ปุ่น ที่เป็นการผลิตของสาเก มีคุณสมบัติให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม และเมื่อผิวหน้ามีการกักเก็บน้ำอย่างสมบูรณ์แล้ว ก็จะช่วยให้ผิวหน้ามีความเด้งฟู เหมือนกับผิวหน้าของเด็ก และช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้กลับมาดีขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว
ฮาดะลาโบะขวดสีเขียว
ใครที่มีปัญหาทั้งเรื่องผิวมัน และผิวที่เกิดสิวขึ้นง่ายก็ตาม ในการเลือกสกินแคร์แต่ละตัว ก็มีความกลัวว่า นอกจากการให้ความชุ่มชื่นกับผิวหน้าแล้ว แต่จะเป็นปัจจัยก่อให้เกิดสิวร่วมด้วย รวมถึงไม่ชอบผิวหน้าที่มีความมันเยิ้ม และเหนอะหนะหลังจากการใช้สกินแคร์ร่วมด้วย สำหรับอสเซ้นต์ฮาดะลาโบะนั้น ทำให้หมดความกังวลไปได้เรื่องหนึ่งคือ ความเหนียวเหนอะหนะ และการทิ้งความมันไว้บนใบหน้า
รวมถึง Hadalabo สูตรขวดสีเขียวนี้ ยังคงยืนหนึ่งในหลายๆ สูตรของสกินแคร์ยี่ห้อนี้ ที่ได้รับความสนใจ และมีการซื้อใช้งานอย่างต่อเนื่อง ด้วยความที่สูตรสีเขียวนี้ มีความเหมาะกับสภาพอากาศในบ้านเราร่วมด้วย ที่มีทั้งอากาศร้อน และการออกไปเจอแดดและความร้อนอยู่ตลอดทั้งวันสำหรับบางคนนั้น ยังส่งผลให้ผิวหน้าขึ้นสิวได้ง่าย
เสน่ห์และสิ่งที่น่าดึงดูดของสูตรสีเขียวของ Hadalabo นี้ก็คือ การนำเอาส่วนประกอบที่มาจากธรรมดชาติ ไม่ว่าจะเป็น Hatomugi, Houttuynia Cordata Extract และ Chamomile Extract เข้ามาเป็นส่วนประกอบหลัก ในการช่วยยับยั้ง และลดการเกิดสิวสำหรับผู้ที่เป็นสิวง่าย และผิวหน้ามันโดยเฉพาะ ซึ่งคุณสมบัติที่น่าสนใจของส่วนประกอบเหล่านี้ก็คือ
ฮาโตมูกิ (Hatomugi)
ที่เป็นสารสกัดธรรมชาติ จากเม็ดลูกเดือย และข้าวบาร์เลย์
โฮตูเนีย (Houttuynia Cordata Extract)
หรือเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่บ้านเราเรียกกันว่า พลู นั่นเอง โดยมีคุณสมบัติในการยับยั้งผิวหนังอักเสบ ที่หมายรวมถึงผิวหน้าที่มีปัญหาในเรื่องสิว ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้สิวที่เกิดขึ้นมานั้นมีความอักเสบ อยู่ภายใต้รูขุมขน โดยในประเทศในแถบเอเชีย อย่างเช่น ญี่ปุ่น, จีน หรือเกาหลี มีความนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบร่วมด้วย ในผลิตภัณฑ์ที่เป็นสกินแคร์
สารสกัดคาโมมายล์ (Chamomile Extract)
มีผลในการรักษาการเกิดสิว ร่วมกับสารสกัดจากพลู หรือ Houttuynia Cordata Extract ร่วมถึงการลดอาการอาการอักเสบ และการระคายเคืองของเซลล์ผิวหน้าร่วมด้วย คุณสมบัติที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่รู้ เกี่ยวกับสารสกัดคาโมมายล์ โดยที่คนส่วนใหญ่จะรู้ในมุมของตัวดอกคาโมมายล์เท่านั้น ที่มีคุณสมบัติช่วยในการผ่อนคลายความเครียด และช่วยให้เกิดการนอนหลับสบาย
ผู้ที่มีปัญหาสิว หรือมีผิวหน้ามันนั้น หลายคนที่เจอกับปัญหาหลังการหายจากสิวแล้ว เกิดรอยแผลเป็น, รูหลุมสิว ที่สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่เหมือนกัน สำหรับผู้ที่เป็นสิวได้ง่าย ซึ่งสารสกัดคาโมมายล์นี้ จะช่วยในเรื่องการลดรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว และปรับสภาพผิวหน้าให้มีความเรียบเนียนมากขึ้นร่วมด้วย รวมถึงการบำรุงให้เซลล์ผิวหน้ามีความแข็งแรง และลดหน้าหมองคล้ำ ด้วยการเพิ่มความชุ่มชื่นไว้ใต้ผิวหน้า ใครที่มีผิวมันไม่ควรพลาดสูตรสีเขียวขวดนี้
ฮาดะลาโบะขวดสีฟ้า
เหมาะกับผู้ที่มีผิวขึ้นกระ, ฝ้า หรือมีผิวที่เจอแดดบ่อย ซึ่งไอเท็มตัวนี้มีคุณสมบัติเด่น ในเรื่องของการลดหน้าหมองคล้ำ โดยลดการสร้างเม็ดสีของตัวเมลานิน ในเวลาที่เราออกไปเจอกับแดด หรือความร้อนภายนอก เรามักจะพบว่าตัวเองมีผิวหน้าที่เข้มขึ้น โดยเฉพาะแดดในเวลาใกล้เที่ยงจนถึงเวลา 14.00 น. เมื่อเจอแสงแดดแบบนี้เรื่อยๆ และหากไม่มีการใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์อย่างเช่น ฮาดะลาโบะขวดสีฟ้า ที่ช่วยในเรื่องการปรับสีผิวหน้าให้กระจ่างใสมากขึ้น
การช่วยป้องกันผิวหน้า โดยเข้าไปลดการทำงานของเมลานิน ที่จะสร้างเม็ดสีผิวของเราให้เข้มขึ้นนั้น เป็นคุณสมบัติเด่นของส่วนประกอบที่เรียกว่า อาร์บูติน หรือ Arbutin ที่มีเฉพาะในสูตรสีฟ้านี้เท่านั้น ร่วมกับ วิตามินซี และวิตามินอี ที่เข้าไปผลัดเปลี่ยนให้เกิดเซลล์ผิวหน้าใหม่ขึ้นมา นอกยังข่วยบำรุงผิวหน้าให้มีทั้งความชุ่มชื่น และเนียนนุ่มร่วมด้วย
เราสามารถจำได้ง่ายๆ สำหรับ Hadalabo สูตรขวดสีฟ้านี้ ที่หากไม่นับในบ้านเราแล้วนั้น ผู้หญิงที่ประเทศญี่ปุ่นมีความนิยมใช้สูตรนี้กันมาก ด้วยไม่ว่าจะผิวหน้าแบบไหนก็สามารถใช้ได้ และยังเพิ่มคุณสมบัติในการซ่อมแซมเซลล์ผิวหน้า ที่มีปัญหาทั้งเรื่องกระ, ฝ้า, รอยด่างดำ และรวมถึงลดหน้าหมองคล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลได้เร็วอีกด้วย ซึ่งเรามาดูส่วนประกอบที่สำคัญ สำหรับสูตรสีฟ้านี้กันว่า แต่ละส่วนประกอบมีความสำคัญอย่างไร
อาร์บูติน (Arbutin)
เป็นสารที่สกัดมาจากธรรมชาติ โดยได้มาจาก แครนเบอร์รี่ (Cranberry), แบร์เบอร์รี่ (Bearberry), บลูเบอร์รี่ (Blueberry) และแพร์ (Pear) ที่มีส่วนสำคัญอย่างมาก ในการดูแลผิวที่เกิดปัญหาเรื่องฝ้า, กระ, รอยด่างดำที่เกิดจากสิว และผิวที่เกิดจากการโดนแสงแดด และความร้อนอย่างต่อเนื่อง และเป็นระยะเวลานาน จนเกิดความหมองคล้ำขึ้นบนใบหน้า
เราจะสามารถเห็นได้ชัดเลยทีเดียว สำหรับผู้ที่เป็นสิว และหลังจากที่หายจากสิวแล้ว โดยเฉพาะสิวอักเสบ ที่ต้องใช้ระยะเวลานานในการหาย เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ภายใต้รูขุมขนนั้น เป็นตัวสาเหตุก่อให้เกิดสิวอักเสบขึ้น และร่วมกับการออกไปเจอแดด ทำให้ตัวเมลานิน ที่มีอยู่ในร่างกายของเราทุกคนโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ทำงานเปลี่ยนเม็ดสีผิวให้เข้มขึ้น จากสีผิวเดิมของเรา
รวมถึงผู้ที่เจอแดดเป็นเวลานาน อย่างต่อเนื่องหลายเดือน หรือเป็นเวลาหลายปีก็ตาม มีผลตามมาอย่างที่เรารู้กันว่า จะเกิดเป็นกระ และฝ้า ขึ้นบนผิวหน้านั้น ปัญหาทั้งหมดนี้จะไม่เป็นเรื่องใหญ่เลย เมื่อเราใช้ผลิตภัณฑ์ Hadalabo ขวดสีฟ้านี้ ที่เข้าไปควบคุมการทำงานของเมลานิน และลดการเปลี่ยนเม็ดสีผิว อันเนื่องจากการเจอแดด และความร้อนจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ที่บางคนเราก็ไม่สามารถเลี่ยงได้
ด้วยตัวสารสกัดอย่างอาร์บูตินนี้ จึงทำให้สูตรสีฟ้า หรือสูตรที่เน้นเรื่องลดหน้าหมองคล้ำ, ลดรอยด่างดำ และลดปัญหาการเกิดฝ้าและกระร่วมด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมสูตรขวดสีฟ้าของ Hadalabo นี้จึงเป็นที่นิยมใช้กันมาก นอกเหนือจากที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวหน้า ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสูตร ที่เราสามารถวางไว้คู่กับสูตรอื่นๆ ของสกินแคร์ยี่ห้อนี้ และใช้ได้ทุกวันก่อนออกจากบ้าน เพื่อเป็นการป้องกันผิวหน้าของเราได้ในแบบง่ายที่สุด
สารสกัดวิตามินซี (Vitamin C Extract)
เป็นอีกหนี่งส่วนประกอบ ที่ร่วมในการทำงานกับอาร์บูติน โดยลดการทำงานของเมลานิน หรือลดการสร้างเซลล์เม็ดสีผิวที่เข้มมากขึ้น เมื่อมีตัวปัจจัยเร่งอย่างแสงแดด อีกทั้งยังช่วยในการเรื่องการลดริ้วรอยที่เกิดจากแดด และความร้อน ส่วนสำหรับผู้ที่เป็นสิว ที่สามารถเลือกสูตรขวดสีฟ้านี้ วางไว้ร่วมกับขวดสีเขียวก็คือ จะมีคุณสมบัติในการรักษาแผล ที่เกิดจากสิว, ช่วยให้เซลล์ผิวหน้ามีความแข็งแรง และลดการอักเสบในขณะที่เป็นสิวอักเสบร่วมด้วย
สารสกัดวิตามินอี (Vitamin E Extract)
ด้วยความที่วิตามิน อี สามารถที่จะละลายในน้ำมัน การเข้าไปทำงานเพื่อบำรุงผิวหน้านั้น จึงสามารถเข้าไปได้ถึงชั้นในสุดของผิวหน้า อีกทั้งยังช่วยในเรื่องการลดรอยแผลเป็นต่างๆ บนใบหน้า โดยเฉพาะรอยแผลเป็นที่เป็นหลุมสิว ที่มักจะเกิดหลังจากที่สิวอักเสบหายแล้ว เราต่างรู้กันว่า หากเป็นวิตามินอี ที่ใช้ในการกินนั้น จะมีผลในการป้องกันอนุมูลอิสระ อย่างเช่น การเกิดของโรคมะเร็ง หรือช่วยลดความเสี่ยง ในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท
สารสกัดวิตามินอี ยังมีผลในการรักษาริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งเรามักจะเห็นว่า ในหลายสกินแคร์แต่ละยี่ห้อนั้น จะมีการเน้นส่วนประกอบหนึ่งในหลายๆ อย่างคือ สารสกัดวิตามินอี เข้าไปในตัวผลิตภัณฑ์ เพราะนอกจาการช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ร่วมกับ วิตามินซี และอาร์บูตินแล้วนั้น วิตามินอี ยังช่วยในการป้องกันรังสี UV และลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งบนผิวหนัง ซึ่งเริ่มมีคนเป็นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ฮาดะลาโบะขวดสีน้ำเงิน
สูตรขวดนี้ เป็นการผลิตที่แยกออกมาจากขวดสีฟ้า โดยที่เราสามารถเห็นจากหน้าขวดว่า มีการระบุเน้นเฉพาะว่าเป็นตัวPremium ที่มีคุณสมบัติหลักยืนพื้นคล้ายกับตัวสูตรขวดสีฟ้า ในเรื่องของการลดรอยด่างดำ, ฝ้า, กระ และลดการทำงานของเม็ดสีผิวอย่าง เมลานิน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญเลยทีเดียว ในการทำให้ผิวหน้าของเรา มีความหมองคล้ำ และสีผิวที่เข้มกว่าผิวจริงของเราเอง
ด้วยการเติมส่วนประกอบของทั้ง สารสกัดวิตามินซี, สารสกัดวิตามินอี, กรดไฮยาลูโรนิค, ไฮยาลูโรนิคในแบบนาโน และส่วนประกอบที่สำคัญ ที่ถือว่าขาดไม่ได้เลย สำหรับสูตรสีน้ำเงินนี้ก็คือ กรดทรานซามิค หรือ Tranexamic Acid ที่เรามาดูในรายละเอียดลงลึก ของส่วนประกอบหลักๆ อย่างกรดทรานซามิค, และไฮยาลูโรนิคในแบบนาโน ว่าช่วยให้สกินแคร์สูตรสีน้ำเงินนี้ แตกต่างไปจากสูตรอื่นๆ อย่างไรกันบ้าง
กรดทรานซามิค (Tranexamic Acid)
โดยคุณสมบัติหลักๆ ที่ช่วยในการลดการทำงานของเมลานิน ที่จะทำให้เกิดผิวหน้าคล้ำ หรือสีผิวที่เข้มขึ้นจากเนื้อสีผิวเดิมของเราเอง หากเทียบกับสูตรขวดสีฟ้านั้น กรดทรานซามิคจะมีการทำงานเหมือนกับอาร์บูติน ที่ช่วยลดการเกิดของฝ้า, กระ และลดการเกิดของจุดด่างดำ, รอยดำหลังสิวหายแล้ว รวมถึงช่วยลดหน้าหมองคล้ำที่มีสาเหตุจากแสงแดด
กรดนาโนไฮยาลูโรนิค (Nano-Hyaluronic Acid)
คำถามก็คือในเมื่อสูตรขวดสีฟ้า และสูตรขวดสีน้ำเงินมีการทำงาน และคุณสมบัติที่เหมือนกันแล้ว ทำไมจึงต้องมีการออกตัวสกินแคร์แยกออกมา เป็น 2 สูตร และมีการเน้นสูตรขวดสีน้ำเงินนี้ในรูปแบบของ Premium อีกด้วย เหตุผลก็คือ มีการเพิ่มคุณสมบัติ สำหรับการใส่ความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้า ในรูปของกรดไฮยาลูโรนิค และที่สำคัญคือ ส่วนประกอบของ กรดนาโนไฮยาลูโรนิค ที่มีเฉพาะสูตรสีน้ำเงินนี้เท่านั้น
โดยส่วนประกอบที่สำคัญ มีเฉพาะในสูตรสีน้ำเงินนี้คือ Nano Hyaluronic Acid นี้มีความแตกต่างจากกรดไฮยาลูโรนิครูปแบบธรรมดาตรงที่ โมเลกุลที่มีขนาดเล็กกว่า และสามารถแทรกซึมลึกเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหน้าได้ดีกว่าในรูปแบบธรรมดา จึงทำให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื่น และที่เราเรียกกันติดปากในสมัยนี้กันว่า ผิวที่มีสุขภาพที่ดี ต้องมีความฉ่ำน้ำนั่นเอง
ฮาดะลาโบะขวดสีขาว
ใครที่ได้เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ยี่ห้อนี้ มาตั้งแต่แรกที่มีการนำเข้ามาในไทย หรืออาจจะเป็นการที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น และลองใช้ในช่วงแรกๆ นั้น สูตรขวดสีขาวนี้ ถือว่าเป็นสูตรแรก ที่ใครหลายคนเริ่มรู้จักสกินแคร์ยี่ห้อนี้ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีผิวแพ้ง่าย และผิวหน้าบอบบาง โดยการเติมส่วนประกอบ ที่ถือว่าเป็นแม่เหล็กดึงดูด สำหรับสกินแคร์ยี่ห้อนี้ คือ กรดไฮยาลูโรนิค ทั้ง 4 ชนิดเข้าไปในสูตรขวดสีขาว
พร้อมด้วยการเน้นเป็นพิเศษ ด้วยการไม่เติมสารต่างๆ ที่ไปเน้นให้เกิดการระคายเคือง หรืออาการแพ้ใดๆ ที่จะเกิดขึ้นบนผิวหน้าได้ อย่างเช่น Mineral Oil, สารเติมกลิ่นต่างๆ หรือ แอลกอฮอล์ โดยสูตรสีขาวนี้ สามารถที่จะซื้อเป็นตัวเลือกใช้คู่กับสูตรอื่นๆ ได้เหมือนกับสูตรขวดสีฟ้า ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว แต่สำหรับสูตรสีขาว จะมีการเน้นสำหรับผู้มีผิวแพ้ง่าย สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย โดยที่ไม่ต้องกังวลเลยว่า จะมีสิว หรือผื่นแพ้ใดๆ เกิดขึ้น
ฮาดะลาโบะขวดสีแดง
สูตรขวดสีแดงนี้จะมีคุณสมบัติโดดเด่น ด้วยการระบุว่าเป็นสูตร Premium ในแบบเดียวกับ สูตรขวดสีน้ำเงิน แต่เน้นส่วนประกอบที่แตกต่างกันคือ หากเป็น Hadalabo สูตรขวดสีแดงนั้น จะมีการเติมส่วนประกอบ ที่ถือว่าเป็นการคิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ ในการเน้นกลุ่มผู้ใช้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป สำหรับการลดเลือน และแก้ไขปัญหาริ้วรอย หรือความเหี่ยวย่นต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนใบหน้า ที่นอกจากจะมีตัวกรดไฮยาลูโรนิค ช่วยเติมความชุ่มชื่น และกักเก็บน้ำภายใต้ผิวหน้าด้วยแล้ว
Hadalabo สูตรสีแดงนี้ มีส่วนประกอบหลัก ที่แตกต่างไปจากสูตรอื่นคือ ตัวElasgrow ที่สร้างตัวคอลลาเจน และอิลาสติน เพื่อช่วยให้ผิวหน้ามีความยืดหยุ่น และเด้งฟูเหมือนผิวของเด็ก และเป็นสูตรที่มีความเข้มข้น สามารถเห็นผลการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และถือว่าเป็นสูตรที่มีผู้นิยมพิจารณาเลือกใช้กันมาก ไม่แพ้สูตรขวดสีฟ้าเลยทีเดียว
วิธีเลือกซื้อฮาดะลาโบะ
1.เลือกตามลักษณะผิวหน้าและตามสูตรสี
โดยที่เราสามารถจำสี และสูตรได้ง่ายๆ อย่างเช่น หากเรามีผิวมัน และมีปัญหาสิว สามารถเลือกสูตรสีเขียว, ปัญหาเรื่องวัยที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมกับริ้วรอยที่ตามมา สูตรสีแดงก็จะมีความเหมาะสมมากที่สุด, ผู้ที่มีปัญหาในเรื่องรอยด่างดำ, ฝ้า, กระ หรือการเจอแดดเป็นประจำ ควรที่จะเลือก สีฟ้า หรือสีน้ำเงิน หรือผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรเลือกสีขาว ที่มีความอ่อนโยน และไม่เติมสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นสูตรสีฟ้า หรือสีขาว ทุกสภาพผิวหน้าก็สามารถใช้ได้
2.เลือกสูตรธรรมดา หรือระดับความเข้มข้นแบบ Premium
เราสามารถที่จะเลือกลงลึกไปได้ว่า ต้องการให้เกิดการเห็นผลที่ชัดเจนหรือไม่ ในการดูแล และแก้ไขปัญหาผิวหน้า ที่มีรอยด่างดำ, การเกิดของฝ้า และกระ ซึ่งเราสามารถเลือกในสูตรขวดสีน้ำเงิน Premium ได้ หรือในสูตรที่คล้ายกับ Anti Agint คือ สูตรขวดสีแดง Premium ที่เน้นคุณสมบัติในการลดริ้วรอย สำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือผู้ใช้ที่มีปัญหาผิวหน้า อยู่ในระดับปกติ สามารถที่จะเลือกใช้สูตรตามสีที่แยกตามสภาพผิวหน้าได้
3.เลือกสำหรับการทดสอบใช้ครั้งแรก
ใครบางคนอาจจะไม่เคยลองใช้สกินแคร์ยี่ห้อ Hadalabo นี้ เราสามารถที่จะลองใช้เริ่มแรก กับสูตรอ่อนโยน ที่เน้นในการเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าก่อน ด้วยสูตรสีขาว เสมือนเป็นการปรับสภาพผิวหน้าของเรา ด้วยคุณสมบัติของกรดไฮยาลูโรนิค ที่จะช่วยให้ผิวหน้าของเราอิ่มน้ำ และมีความชุ่มชื่นก่อน แล้วจึงค่อยเลือกสูตรเฉพาะที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าของเรา
วิธีใช้น้ำตบฮาดะลาโบะ
- เทฮาดะลาโบะลงบนฝ่ามือในปริมาณที่พอเหมาะเพียงพอกับใบหน้าไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไป
- ใช้ทั้งสองฝ่ามือถูเข้าด้วยกันแล้วค่อยเอามาวางบนใบหน้าแล้วตบไปทีละส่วนๆก็ได้
- พอเริ่มซึมเข้าแล้ว ค่อยๆใช้นิ้วดีดๆเคาะๆให้ทั่วบริเวณใบหน้าที่ื่ทา
ทำความรู้จัก Hada Labo และวิธีใช้ยังไงให้ผิวปัง
สรุป
เราเคยมั้ยที่เห็นผิวหน้าของเด็ก ที่ยังอยู่ในวัยอายุน้อยๆ แล้วรู้สึกว่าทำไมผิวถึงมีความใส และนุ่มฟูเด้งได้แบบนี้ เด็กบางคนมีผิวหน้าที่มีสีชมพู แสดงออกถึงความมีสุขภาพผิวที่ดี่ แต่ไม่ได้เป็นการยากเลย กับการที่เราทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในวัยใดก็ตาม สามารถมีผิวหน้าแบบเด็กได้ ด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์สกินแคร์อย่าง ฮาดะลาโบะ ที่นอกเหนือจากส่วนประกอบที่ทรงคุณค่าแล้ว ยังมีการแบ่งสี และสูตรตามความเหมาะสมของผิวหน้าแต่ละคนอีกด้วย
นามปากกา เถาองุ่น การศึกษาจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นนักรีวิวผลิตภัณฑ์ด้านการบำรุงผิวโดยเฉพาะ ทั้งผิวกาย ผิวหน้า ความงาม และเป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายมาแล้วหลายยี่ห้อ
ฮาดะลาโบะ โลชั่นน้ำตบ สูตรเซรั่มผิวกระจ่างใส
-ลดปัญหาผิวหมองคล้ำ ฝ่า กระ และจุดด่างดำ
-ช่วยเติมและเก็บความชุ่มชื่นแทรกซึมถึงผิวชั้นในสุด
ฮาดะลาโบะ เจลบำรุงผิว
-เนื้อเจลนุ่มเด้ง เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว บำรุงผิว
-ปราศจากน้ำหอม ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว
ฮาดะลาโบะ โฟมล้างหน้า
-สูตรไม่มีสบู่ ทำความสะอาดได้ดี อ่อนโยนต่อผิว
-อุดมไปด้วยแร่ธาตุจำเป็นต่อผิว ช่วยฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรง
ฮาดะลาโบะ คลีนซิ่งสูตรน้ำ
-สามารถใช้ได้ทั่วใบหน้ารวมถึงผิวรอบดวงตาและริมฝีปาก
-มี Super Hyaluronic Acid ทำให้ผิวไม่แห้งตึง อ่อนโยน
ฮาดะลาโบะ แผ่นมาส์กหน้า
-ช่วยป้องกันไม่ให้เสียความชุ่มชื่น ให้ผิวแข็งแรง อิ่มน้ำ
-ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำมันแร่ น้ำหอม และสี
ฮาดะลาโบะ โลชั่นน้ำตบ สูตรผิวแข็งแรง
-เนื้อโลชั่นซึมซาบเร็ว สบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
-ช่วยเสริมเกราะปกป้องผิว ลดแพ้ ลดผด ลดหน้าแห้ง
ฮาดะลาโบะ โลชั่นน้ำตบ สูตรจบผิวโทรม
-เนื้อเข้มข้นอัดแน่นด้วยไฮยา อ่อนโยนต่อผิวบอบบาง
-ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น เร่งฟื้นฟูเหมือนนอนเต็มอิ่ม 8 ชั่วโมง
ฮาดะลาโบะ โลชั่นน้ำตบ สูตรจบผิวแก่
-ช่วยปรับสมดุลผิวให้พร้อมเปิดรับการบำรุงผิว
-ช่วยให้ผิวกระชับ ดูเด็กลง เติมร่องริ้วรอยให้เรียบเนียน
ฮาดะลาโบะ โลชั่นน้ำตบ สูตรจบสิว คุมมัน
-เนื้อบางเบา สัมผัสเย็นสดชื่น ซึมซาบลงสู่ผิวรวดเร็ว
-ช่วยลดแบคทีเรีย รอยแดง รอยดำจากสิว และผิวอักเสบ
ฮาดะลาโบะ โลชั่นน้ำตบ สูตรกันแก่
-ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม เต่งตึง กระชับ จนสัมผัสได้
-ช่วยยับยั้งริ้วรอยแรกเริ่ม ให้ผิวอ่อนเยาว์ อิ่มน้ำล้ำลึก