น้ำตบ คืออะไร
คือ ไอเท็มในหมวดผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการดูแลผิว ในแบบเดียวกับเซรั่ม และเป็นความหมายเดียวกับเอสเซ้นต์ หรือ Essence ซึ่งการใช้คำว่า น้ำ+ตบนั้น มาจากตัวผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิวยี่ห้อหนึ่งที่มีชื่อเสียง และตั้งชื่อตามวิธีการใช้ ที่หลังจากการทาลงบนใบหน้าแล้วนั้น จะมีการตบเบาๆ เพื่อเป็นการให้ส่วนประกอบต่างๆ ซึมซาบเข้าสู่ผิวหน้าชั้นในสุด
รวมถึงยังมีคุณสมบัติ ในเรื่องการช่วยให้ผิวนุ่มฟูเด้ง, เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน และผิวแพ้ง่าย รวมถึงยังสามารถช่วยปรับสภาพผิวหน้า และคืนความสมดุลให้กับผิวหน้า อย่างเช่น หากเป็นผู้ที่มีผิวหน้ามัน จะช่วยให้ลดความมัน
และรวมถึงช่วยให้ผิวหน้าดูอิ่มน้ำ ในทางกลับกัน สำหรับผู้ที่มีผิวผสม หรือผิวแห้ง ก็จะช่วยเพิ่มความขาว กระจ่างใส และมีหลายสูตรให้สามารถเลือกใช้ ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละผิวหน้า
Essence คืออะไร
คือ น้ำตบนั่นเอง เอสเซ้นต์ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์ หรือผลิตภัณฑ์ในการดูแลผิวหน้า ที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่มีผิวมัน และผิวแพ้ง่าย ด้วยความที่มีอนูที่เล็ก และมีความเป็นน้ำ หรือ Water Base นั่นเอง เลยทำให้นอกจากการดูแลผิว ให้มีความชุ่มชื่นแล้วนั้น ยังช่วยลดการเกิดสิว และลดการเกิดสิ่งอุดตันในรูขุมขนได้อีก
จริงๆ แล้วเอสเซ้นต์นั้น มีความคล้ายกับเซรั่มมาก ไม่ว่าจะเป็นลักษณะอนูที่เล็ก สามารถซึมเข้าใต้ผิวหน้าได้อย่างรวดเร็ว และให้การดูแลผิวหน้าได้สมบูรณ์ แต่หากมองลงลึกในรายละเอียดนั้น ถึงแม้จะช่วยทั้งในเรื่อง การช่วยให้หน้าขาวกระจ่างใส หรือผิวนุ่มก็ตาม
แต่เรามาดูกันที่ตัวเอสเซ้นต์ก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในไอเท็มในการบำรุงผิวหน้า เหมือนๆ กับเซรั่ม แต่ด้วยความที่เอสเซ้นต์นั้น มีความบางเบา และเป็นน้ำที่สูงกว่า ซึ่งหากใครหลายคนที่เคยได้ลองใช้มาบ้างแล้วนั้น จะให้ความรู้สึกเหมือนเราสัมผัสกับน้ำธรรมดาๆ แต่หลังจากที่แห้งแล้วนั้น เราจะรู้ได้ทันทีว่า มีส่วนประกอบที่ช่วยในการบำรุงผิวทั้งซึมเข้าไปใต้ผิวหน้า และเคลือบอยู่ชั้นด้านนอกผิวหน้าร่วมด้วย
ซึ่งเอสเซ้นต์ (Essence) นั้นมีความเป็น Water Base จึงทำให้มีคุณสมบัติที่เข้าสู่ชั้นลึกในสุดของผิวหน้าได้ดีกว่า ทั้งครีมบำรุงผิว และเซรั่ม ถือว่าเป็นสกินแคร์ตัวที่น่าจับตามองตัวหนึ่งเลยทีเดียว ในการสร้างความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้า และมีจุดเด่นที่น่าสนใจคือ เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ไม่เกิดการระคายเคืองผิวหน้า
คุณสมบัติของน้ำตบที่ดี
ถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่า เอสเซ้นต์มีคุณลักษณะเฉพาะอย่างไรบ้าง แต่ในเรื่องประโยชน์ หรือคุณสมบัติที่ช่วยดูแลผิวหน้าของเราในด้านไหนได้บ้าง ก็เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการพิจารณาเลือกใช้ให้ตรงกับปัญหาของผิวของผู้ใช้แต่ละคน อย่างเช่น ผู้ที่มีปัญหาผิวมัน ควรที่จะเลือกส่วนประกอบที่มาจาก AHA และ BHA เน้นในเรื่องผลัดเซลล์ผิว และลดความมันบนใบหน้า
ในส่วนของผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย ควรพิจารณาสารสกัดที่เป็นไฮยาลูโรนิค หรือ Hyaluronic Acid ที่เหมือนกับการเลือกไอเท็มช่วยดูแลผิวหน้าตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น โคลนพอกหน้า , ครีมลดริ้วรอย , โฟมล้างหน้าลดสิว , ครีมบำรุงผิวหน้า , เซรั่มหน้าใส , ครีมรกแกะ , เซรั่มเกาหลี , ฮาดะลาโบะ , ครีมกระชับรูขุมขน , วิตามินบำรุงผิว มีส่วนสำคัญในการพิจารณาเลือกให้ตรงกับสภาพผิวหน้าของตัวเอง
1.ช่วยหน้าขาวกระจ่างใส
คุณสมบัติในการช่วยให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสนั้น เป็นผลมาจากสารสกัดที่มีอยู่ในน้ำตบ อย่างเช่น สารสกัด AHA และ BHA ที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของ การผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวหน้า
รวมถึงนอกจากจะช่วยให้หน้าขาวกระจ่างใสแล้วนั้น ยังช่วยลดความหมองคล้ำ ที่เกิดจากริ้วรอย, รอยด่างดำ ได้เป็นอย่างดีทีเดียว และที่ขาดไม่ได้คือ วิตามินซี ที่มีคุณสมบัติเฉพาะ ในการลดความหมองคล้ำ และทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส
ซึ่งสาเหตุของผิวหน้าหมองคล้ำ หรือรอยด่างดำที่ไม่เสมอกัน และมีอยู่ทั่วบนผิวหน้านั้น มาจากหลายทางไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแสงแดดที่เราต้องออกไปเจอทุกวัน, สารเคมีที่เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้า ที่ไม่เหมาะสมกับผิวตัวเอง หรือสำหรับในบางคน ที่มีปัญหาผิวมัน และเกิดสิว รวมถึงหลังจากที่สิวหายดีแล้ว ก็สร้างรอยจุดด่างดำ และรอยแดงเกิดขึ้นบนใบหน้า
2.ผิวเด้ง นุ่ม ชุ่มชื่น
ผิวนุ่ม ดูเด้ง และชุ่มชื่นนั้น เป็นคุณสมบัติของตัว กลีเซอรีน หรือ Glycerin ที่เน้นในเรื่องการให้ความชุ่มชื่นกับผิวหน้า และกักเก็บน้ำไว้ภายใต้ผิวหน้า ดังนั้นเมื่อเราใช้น้ำตบที่มีส่วนประกอบตรงนี้แล้วนั้น นอกจากจะมีผิวที่มีน้ำมีนวล ดูฉ่ำน้ำแล้ว ยังช่วยปรับสภาพผิวหน้าไปพร้อมๆ กันอีกด้วย
แต่มีหลายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติ เน้นในเรื่องการให้ความชุ่มชื่นกับผิวหน้า และกักเก็บน้ำเพื่อให้ผิวหน้ามีความเด้งฟูนั้น จะมีส่วนประกอบที่มาคู่กับกลีเซอรีนก็คือ กรดไฮยาลูโรนิค ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำไว้ใต้ผิวหน้า และช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น ทำให้สามารถลดริ้วรอย, ปลอดภัยจากการระคายเคือง และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหน้า
3.ลดความมันบนใบหน้า
ส่วนประกอบที่เป็นสารสกัด BHA ในน้ำตบสามารถเข้าช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้ ด้วยความที่ Beta Hydroxy Acid นั้นสามารถละลายได้ด้วยน้ำมัน หมายถึงความสามารถที่จะซึมเข้าสู่ชั้นรูขุมขนด้านในสุด และช่วยควบคุมน้ำมันที่อยู่ด้านใน รวมถึงการทำความสะอาด ผลัดเซลล์ผิวเก่าให้ออกไป และสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่
ถึงแม้ว่า BHA และ AHA จะเป็นส่วนประกอบที่คู่กันในเอสเซ้นต์ก็ตาม แต่ AHA จะไม่สามารถเข้าไปสู่รูขุมขนลึกได้เท่ากับ BHA และไม่สามารถขจัดความมันในส่วนลึกของชั้นในผิวหน้าได้
นอกเหนือจากการาลดผิวมันแล้วนั้น ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำได้ไปพร้อมๆ กัน นอกเหนือจากนั้น สารสกัดจากวิตามินซี ก็ยังมีคุณสมบัติในการลดความมันบนผิวหน้า และเหมาะกับคนที่มีผิวมัน ช่วยลดการอุดตันของไขมันในรูขุมขน ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
4.อ่อนโยน ผิวแพ้ง่ายใช้ได้
โดยผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายนั้น ควรที่จะเลือกน้ำตบที่มีสารสกัดที่มีส่วนประกอบทั้งจาก ไฮยาลูโรนิค หรือ Hyaluronic Acid โดยมีคุณสมบัติในการเน้นสร้างความแข็งแรงให้กับชั้นในของผิวหน้า เป็นส่วนสำคัญในการกักเก็บน้ำ และความชื้นให้กับผิวหน้า และช่วยในการกระตุ้นคลอลาเจน (Collagen) และอิลาสติน (Elastin) เพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้กับโครงสร้างด้านในของผิวหน้า
ซึ่งด้วยคุณลักษณะโดยรวมของตัว ไฮยาลูโรนิค ที่ช่วยให้ความชุ่มชื่นกับผิวหน้า รวมถึงการช่วยให้ผิวหน้ามีความอิ่มน้ำ หรือฉ่ำน้ำนั่นเอง จึงมีความอ่อนโยนต่อผิวหน้า จริงๆ แล้วไฮยาลูโรนิคนั้น มีการสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ โดยในวัยอายุ 20 ปีจะมีความสมบูรณ์ของสารชนิดนี้มาก เมื่อมีอายุมากขึ้นเราจะมีระดับของ ไฮยาลูโรนิคที่ลดน้อยลง
เมื่อผิวหนังมีการผลิตไฮยาลูโรนิคที่น้อยลง ก็มีผลตามมานั่นคือ ผิวหน้ามีความหย่อนคล้อย, ผิวแห้ง และมีปัญหาผิวแพ้ง่ายตามมา ดังนั้นการเลือกใช้เอสเซ้นต์ที่มีส่วนประกอบของสารสกัดชนิดนี้ โดยมีการสังเคราะห์ขึ้นทดแทนในส่วนที่ร่างกายมีน้อยลง
นอกจากการเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้าแล้วนั้น ยังช่วยในการสร้างความแข็งแรงให้กับโครงสร้างของผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น และปรับสภาพผิวหน้าเพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง
นอกเหนือจากส่วนประกอบจากสารสกัดกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) การพิจารณาเลือกไอเท็มที่เป็นเอสเซ้นต์นั้น ควรเน้นในเรื่องของส่วนประกอบ ที่สกัดมาจากธรรมชาติ
ซี่งในปัจจุบันนี้ มีการคิดค้นถึงประสิทธิภาพของส่วนประกอบที่จากธรรมชาติหลายชนิด ที่นอกจากจะเหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายแล้ว ยังช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้ดูอิ่มน้ำได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
ส่วนประกอบหนึ่ง ที่กำลังได้รับความสนใจ และมีการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในเอสเซ้นต์คือ สารสกัดจากแพลนตอน ที่มีทั้งแบบที่เป็นพืช และสัตว์ การนำมาทำเป็นสารสกัด และใส่ลงไปเป็นส่วนประกอบของน้ำตบนั้น
มีคุณสมบัติที่เหมือนกับสารสกัดกรดไฮยาลูโรนิค คือ โดยมีคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มคลอเจนบนผิวหน้า และเพิ่มความยืดหยุ่นในส่วนของอิลาสตินไปพร้อมๆ กัน อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองบนผิวหน้าอีกด้วย
น้ำตบใช้ตอนไหน
ควรที่จะใช้หลังจากการล้างหน้า หรือทำความสะอาดหน้าเรียบร้อยแล้ว และเช็ดหน้าให้แห้ง เพราะเป็นช่วงเวลาที่รูขุมขนบนผิวหน้าเปิดอยู่ ประโยชน์ต่างๆ ที่มีอยู่ในส่วนประกอบของเอสเซ้นต์ หรือน้ำตบก็จะสามารถเข้าถึงชั้นในของผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก และเป็นประโยชน์ต่อการปรับสภาพผิวหน้า ให้มีความนุ่มฟูเด้ง รวมถึงผิวจะขาวกระจ่างใส หากมีการใช้อย่างต่อเนื่อง และเป็นประจำ
วิธีใช้น้ำตบ
เมื่อเรารู้คุณสมบัติ หรือประโยชน์ของเอสเซ้นต์นี้แล้ว การเลือกใช้วิธี และขั้นตอนในการใช้ก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อที่จะได้ประโยชน์ในการใช้สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้หน้าขาวกระจ่างใส, ผิวนุ่มฟูเด้งแล้วนั้น ยังเหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย รวมถึงการช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้สมดุล ซึ่งในการใช้นั้นจะแบ่งออกได้เป็น 2 แบบคือ
ใช้แบบสำลีชุบ
1.นำสำลีที่มีลักษณะเป็นแผ่น เพื่อที่จะได้ไม่เปลืองน้ำตบในการเทลงบนสำลี
2.เมื่อหยดเอสเซ้นต์ลงบนสำลีแล้ว ให้เริ่มต้นแบ่งเป็น 3 ส่วนของใบหน้า คือ ส่วนหน้าผาก, ส่วนกลางหน้า คือตั้งแต่คิ้วลงมาถึงจมูก และส่วนคาง คือจมูกถึงคาง
3.การเช็ดควรเป็นในรูปแบบที่ไปด้านข้าง แบ่งเป็นการเช็ดด้านซ้าย และด้านขวา
4.เน้นการเช็ดที่เฉียงขึ้นเล็กน้อย เพื่อช่วยลดความเหี่ยวย่นของผิวหน้าไปในตัว
5.ในส่วนของรอบดวงตา ทั้งหลังตา, หางตา และใต้ตา ควรมีความอ่อนโยนเป็นพิเศษ
6.เมื่อเช็ดจนถึงส่วนสุดท้ายของใบหน้าคือ ส่วนคางแล้วนั้น ลำดับต่อไปคือ การเช็ดที่ลำคอ เป็นไปในแนวด้านข้าง เน้นเฉียงขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน เพราะบริเวณส่วนคอด้านหน้า ก็เป็นอีกตำแหน่งหนึ่ง ที่ควรมีการใส่ใจ และบำรุงไม่แพ้ส่วนของใบหน้า
ใช้แบบหยดลงบนฝ่ามือ
1.ก่อนที่จะหยดเอสเซ้นต์ หรือน้ำตบลงบนฝ่ามือนั้น ควรที่จะมีการอุ่นมือก่อน เพื่อที่ช่วยในการซึมเข้าสู่ผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้นในขณะที่ลูบลงบนผิวหน้า
2.การอุ่นมือทำได้ด้วยการ ถูฝ่ามือให้เกิดความอุ่นที่ฝ่ามือ
3.หยดเอสเซ้นต์ครั้งละน้อยๆ ลงบนฝ่ามือ และลูบลงบนใบหน้า
4.การลูบควรลูบในแนวเฉียงขึ้นเล็กน้อย
5.ลูบเอสเซ้นต์ให้ทั่วบนใบหน้า รวมถึงคอด้านหน้า
6.จากนั้นตบเบาๆ เพื่อให้ส่วนประกอบที่สำคัญต่างๆ ในตัวเอสเซ้นต์ซึมลึกเข้าสู่ชั้นในของผิวหน้า
วิธีเลือกซื้อ น้ำตบ
1.เลือกตามสภาพผิว
โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวที่แพ้ง่ายนั้น ควรที่จะเน้นการพิจารณาเลือกที่เรื่องนี้มาอันดับแรก และมีเอสเซ้นต์หลายตัว ที่มีหลายสูตร แบ่งสีผลิตภัณฑ์ตามลักษณะผิวของแต่ละบุคคล
2.เลือกตามส่วนประกอบที่ช่วยบำรุงผิวหน้า
ซึ่งมีทั้งส่วนประกอบที่เป็นสารสกัด ช่วยในการให้ความชุ่มชื่นผิวหน้า อย่างเช่น ไฮยาลูโรนิค, กลีเซอรีน หรือสารสกัดจากน้ำมันเมล็ดองุ่น ที่นอกเหนือจากการบำรุงผิวให้มีความกระจ่างใส และปรับสภาพผิวหน้าให้สมดุล
รวมถึงตอบโจทย์ผู้ที่มีผิวมัน และผิวแพ้ง่ายแล้วนั้น ยังสามารถใช้ได้ทุกวัน และทุกเวลาไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้าก่อนไปทำงาน หรือไปเรียน รวมถึงเวลาก่อนนอน
3.หลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้า
ก่อนที่จะตัดสินใจในการเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์เอสเซ้นต์ใดๆ มาเริ่มใช้กับผิวหน้าก็ตาม ควรพิจารณาดูส่วนประกอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน และควรหลีกเลี่ยงการใส่ส่วนประกอบของ พาราเบน ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง หรือไอเท็มที่ดูแลผิวหน้าให้สามารถอยู่ได้นาน รวมถึง แอลกอฮอล์ และกลิ่นแต่งเติมต่างๆ ที่มีโอกาสจะสร้างความระคายเคืองให้กับผิวหน้าได้
อีกส่วนที่สำคัญคือ ส่วนประกอบของ Mineral Oil ที่ดูเหมือนจะเป็นส่วนที่ดี ในการเคลือบน้ำมันให้ผิวหน้าดูไม่แห้ง แต่แท้ที่จริงแล้ว Mineral Oil หรือ Petroleum Oil นั้นคือ น้ำมันที่ได้ในอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียม เมื่อนำมาใช้กับผิวหน้า จะทำให้เกิดปัญหาการอุดตันรูขุมขน และล้างออกได้ยาก ทำให้สิ่งสกปรกต่างๆ สะสมจนเกิดปัญหาผิวมันมากขึ้น, การเกิดสิว และในบางคนอาจเกิดปัญหาผิวระคายเคืองขึ้นได้
เซรั่ม กับ น้ำตบ ต่างกันอย่างไร
เซรั่ม
โดยรวมนั้นมีความเหมือนกันในส่วนของอณูที่เล็ก และสามารถซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้เป็นอย่างดี แต่หากมองในรูปลักษณะแล้วนั้น เซรั่มจะมีเนื้อเซรั่มที่เข้มข้นกว่า และมีความเหนียวกว่าน้ำตบ แต่เซรั่มยังมีความบางเบากว่าเนื้อครีมบำรุงผิว ด้วยความที่เป็นเซรั่มมีความเป็น Oil Base นั้นจึงเน้นในเรื่องคุณสมบัติในการลดริ้วรอย และกระชับผิวหน้า ด้วยเนื้อเซรั่มที่มีความเข้มข้นกว่าน้ำตบร่วมด้วย จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งมากกว่า
น้ำตบ
ลักษณะความเป็นน้ำที่สูงกว่าเซรั่ม แต่ในการซึมซาบเข้าสู่ชั้นในของผิวหน้า มีความเหมือนกันเพราะมีอณูที่เล็ก แต่ด้วยความที่เอสเซ้นต์นั้น มีความเป็น Water Base จึงมีความอ่อนโยน และเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายมากกว่าเนื้อเซรั่ม รวมถึงการช่วยปรับสภาพผิวหน้ามัน ก็ทำได้ดีกว่าเซรั่ม
ดังนั้นผู้ที่เหมาะในการใช้เอสเซ้นต์ก็คือ ผู้ที่มีปัญหาผิวมัน และผิวผสม รวมถึงผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายร่วมด้วย เพราะนอกจากจะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองบนผิวหน้าแล้ว ยังช่วยให้ผิวหน้ามีความนุ่มฟูเด้ง และมีผิวขาวกระจ่างใส เมื่อมีการใช้อยู่เป็นประจำ ถือว่าเป็นไอเท็ม ที่สามารถตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาผิวมัน และผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
Essence & Serum ควรใช้อะไรก่อนกัน
หลังล้างหน้าจนสะอาดแล้วนั้น ควรที่จะเริ่มใช้ Essence ก่อนเป็นอันดับแรก ด้วยความที่เนื้อของเอสเซ้นต์มีความเป็นน้ำสูง หรือ Water Base ทำให้ซึมเข้าผิวหน้าได้เร็ว และดีกว่า แต่หากใครมีโทนเนอร์ ให้ใช้โทนเนอร์ก่อนเพื่อเป็นการทำความสะอาดผิวอีกรอบ หลังการล้างหน้า และหลังจากลงเอสเซ้นต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อไปถึงจะค่อยลงเซรั่ม เพื่อเป็นการบำรุงผิวไปด้วยในตัว
วิธีใช้น้ำตบยังไงให้ปัง
สรุป
ปัญหาของคนที่มีผิวมัน และผิวแพ้ง่าย ในการเลือกผลิตภัณฑ์ ที่เกี่ยวกับผิวหน้านั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ รวมถึงผู้ที่มีผิวหน้าผสมร่วมด้วย แต่ด้วยผลิตภัณฑ์น้ำตบที่มีการคิดค้นออกมาหลายสูตร ในบางยี่ห้อมีให้เลือกสี ที่แบ่งตามลักษณะของผิวหน้าโดยเฉพาะ
ซึ่งในวันนี้นอกจากจะเป็นสกินแคร์ที่เป็นหนี่งในใจของใครหลายคนแล้ว ยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีผิวมัน และผิวแพ้ง่าย พร้อมทั้งยังช่วยให้ผิวหน้านุ่มฟูเด้งอย่างเป็นธรรมชาติได้อีกด้วย
นามปากกา เถาองุ่น การศึกษาจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นนักรีวิวผลิตภัณฑ์ด้านการบำรุงผิวโดยเฉพาะ ทั้งผิวกาย ผิวหน้า ความงาม และเป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายมาแล้วหลายยี่ห้อ
น้ำตบ Plantnery
-สูตรลดสิวควบคุมความมัน เนื้อบางเบา ไม่เหนียวผิว
-ช่วยชะลอการเกิดสิวใหม่ กระชับรูขุมขน เผยผิวเนียนใส
น้ำตบ Neutrogena
-ช่วยปรับสมดุลผิวให้นุ่ม กระชับ เรียบเนียน
-น้ำตบบางเบาซึบซาบเข้าสู่ผิว ให้ผิวอิ่มน้ำตลอดวัน
น้ำตบ Naturista
-ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยและซ่อมแซมผิวจากรังสี UV
-สูตรบางเบา ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ ลดการระคายเคืองผิว
น้ำตบ Biotherm
-ช่วยผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใส
-ช่วยทำให้สิวยุบตัวได้เร็วขึ้น เติมเต็มน้ำเข้าสู่ผิว
น้ำตบ Vikka Skincare
-ช่วยลดสิว ผดผื่น ปรับสมดุลผิวหน้าทำให้แข็งแรงขึ้น
-ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน กระชับรูขุมขนให้เล็กลง
น้ำตบ Sewa
-สารสกัดจากโสมเกาหลีเข้มข้น หมดปัญหาเรื่องรูขุมขน
-ช่วยลดความหย่อนคล้อย ให้ผิวอิ่มเอิบ แน่นฟู เรียบเนียน
น้ำตบ Srichand
-ช่วยลดการอักเสบของผิว ลดการสูญเสียน้ำบนชั้นผิว
-ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและปรับผิวให้สว่างกระจ่างใส
น้ำตบ HADABIREI
-ช่วยให้รอยแดงดูจางลง ให้ผิวชุ่มชื่น สุขภาพดี
-สูตรเพื่อลดสาเหตุของการเกิดสิว ลดความมันบนใบหน้า
น้ำตบ Snail White
-ช่วยลดการเกิดสิวและรอยจุดด่างดำจางลง
-ช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
น้ำตบ Estee Lauder
-ช่วยลดเลือนริ้วรอยและรูขุมขนกระชับขึ้น
-ช่วยเสริมพื้นฐานที่ดีให้กับผิว เปล่งประกายสดใส