10 ครีมหมักผม ยี่ห้อไหนดี 2024 ใช้ดี บำรุงผมแห้งเสีย ไม่มีน้ำหนัก

ดังนั้น การดูแลเส้นผมจึงเป็นสิ่งสำคัญเสมอ ไม่ว่าจะการใช้ แชมพูลดผมร่วง สำหรับคนผมร่วงบ่อย แชมพูลดผมมัน สำหรับคนที่มีผมมัน หรือแม้แต่การใช้ครีมหมักผมที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการบำรุงรักษาเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง

ครีมหมักผมคืออะไร

ครีมหมักผม (Hair Mask) ที่มีเนื้อครีมข้นเหนียวสุด และมีความเข้มข้นระดับเข้มสุด จะช่วยบำรุงเส้นผมได้ดีที่สุด แต่ครีมหมักผมจะไม่เหมาะสำหรับใช้ทุกวัน ไม่เหมือน ครีมนวดผม ที่สามารถใช้ได้บ่อยหลังใช้แชมพูสระผม

การใช้งานค่อนข้างยากกว่า โดยจะเหมาะสำหรับคนที่สภาพเส้นผมแห้งเสียมาก ๆ หรือคนที่ชอบทำสีผม ทำเคมีบ่อย หรือใช้ น้ำยายืดผม บ่อย ทำให้ต้องดูแลบำรุงอย่างจริงจัง โดยการใช้งานเพียงละสัปดาห์ต่อครั้ง หรือหากผมเสียมากสามารถเพิ่มเป็นสองครั้งต่อสัปดาห์ก็ทำได้

เคราตินคืออะไร

เคราตินเป็นธาตุอาหารที่สำคัญของเส้นผม ช่วยปกป้องแกนด้านในจากมลพิษ มลภาวะ แสงแดด ความร้อน จึงช่วยบำรุงให้ผมแข็งแรงขึ้น หลุดร่วงน้อยลง ซึ่งการผลิตโปรตีนร่างกายคนเราจะผลิตโปรตีนเคราตินได้ แต่ก็มีบางคนสร้างได้น้อยกว่าปกติ หรือเคราตินธรรมชาติอาจถูกทำลายได้เช่นกัน ซึ่งเราจะพบเคราตินได้จากครีมหมักผมเคราติน ที่นิยมใช้กันเป็นอย่างมาก

ครีมหมักผมเคราตินคืออะไร

ไอเท็มที่เป็นตัวช่วยหลักในการทำให้เส้นผมสวยงามได้อย่างเร่งด่วน ด้วยคุณสมบัติของครีมหมักผมเคราตินจะช่วยให้โปรตีนบนเส้นผมได้รับการดูแล ปกป้อง และตัวเคราตินจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้เส้นผม ให้เงางาม ดูสุขภาพดี แถมช่วยลดการชี้ฟูของเส้นผมได้อย่างชัดเจน

โดยตัวครีมหมักผมเคราตินจะมาในรูปแบบของเหลว ครีมหรือเจล ซึ่งการใช้เพียงแค่ชโลมครีมหมักผม ตัวครีมหมักผมเคราตินจะทำงานโดยผ่านเส้นผมตั้งแต่โคนจรดปลายเพื่อทำให้เส้นผมแข็งแรง สวยงดงาม ลดปัญหาผมชี้ฟูได้อย่างดี

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์การดูแลเส้นผมมี 3 ชนิด ซึ่งมีหน้าที่หลัก ๆ ในการดูแลเส้นผมให้สวยงาม เพียงแต่มีความแตกต่างทางด้านเนื้อสัมผัส การบำรุง โดยมีรายละเอียดดังนี้

ครีมนวดผม (Conditioner)  

ตัวเนื้อครีมมีความเข้มข้นน้อยที่สุด แต่ใช้งานง่ายเหมาะสำหรับใช้ทุกครั้งหลังสระผม เพื่อเป็นการบำรุงเส้นผมที่อ่อนแอให้แข็งแรงอยู่เสมอ

ทรีตเมนต์ (Hair Treatment)

ตัวเนื้อครีมจะมีความเข้มข้นระดับปานกลาง สามารถบำรุงได้อย่างลึกซึ้งถึงชั้นในเนื้อผม ช่วยฟื้นฟูสภาพเส้นผมได้ดีกว่าการใช้ครีมนวดทั่วไป สามารถใช้ได้บ่อยแค่ไหนขึ้นกับสภาพความเสียหายของเส้นผม

ครีมหมักผม (Hair Mask)

ตัวเนื้อครีมจะมีความเข้มข้นและเหนียวที่สุด ช่วยบำรุงเส้นผมได้ดีที่สุด ใช้งานค่อนข้างยากกว่าแบบอื่น ๆ  จะเหมาะสำหรับคนที่มีเส้นผมแห้งเสี่ยมาก ๆ สาวคนไหนชอบทำสีผม ทำเคมี จำเป็นต้องบำรุงด้วยครีมหมักผมเป็นประจำ

ผมแห้งเสีย ผมแตกปลาย ไม่มีน้ำหนัก สาเหตุจากอะไร

ปัญหาผมแห้งเสีย ผมแตกปลายเป็นปัญหาไม่รู้จักจบสิ้น ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุอะไร แต่ก่อนที่จะไปรู้ถึงสาเหตุเกิดจากอะไร เรามาทำความเข้าใจกับ ผม เส้นผม กันก่อนว่าคืออะไร

ผม – โครงสร้างที่มีการเปลี่ยนแปลงจากผิวหนัง แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่อยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งหมายถึง ปุ่มรากผม และส่วนที่อยู่เหนือผิวหนัง หมายถึง เส้นผม

เส้นผม – คือเซลล์ปุ่มรากผมที่ตายแล้วมีการงอกออกมาเรื่อย ๆ ทำให้เส้นผมยาวขึ้น เมื่อเส้นผมร่วงจะสร้างเส้นผมใหม่มาแทน

ปัญหาผมแห้งเสียเกิดจากสาเหตุอะไร

ผมแห้งเสีย

ส่วนใหญ่ผมแห้งเสียเกิดจากสาเหตุโครงสร้างตามธรรมชาติของเส้นผมได้รับความเสียหาย ถูกทำลาย ซึ่งมาจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นความร้อนจากไดร์เป่าผม ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับเส้นผมและหนังศีรษะ อาหารที่ทาน รวมถึง อายุที่มากขึ้น

ส่วนนอกของเส้นผมถูกทำลาย

ปกติชั้นนอกสุดของเส้นผมเป็นส่วนที่แข็งแรงที่สุด โดยทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันเส้นผมจากความร้อนที่สาว ๆ ชอบใช้ ที่หนีบผม ให้ผมตรง หรือ รงสียูวี ซึ่งผมที่เรียงตัวกันเป็นระเบียบจะมีสุขภาพดีในการกักเก็บความชุ่มชื้นภายในเส้นผม หากผมถูกทำลายอาจสูญเสียความชุ่มชื้นและแห้งเสียได้

ปัจจัยที่ทำให้ผมเสีย

การดูแลเส้นผมที่ผิดวิธี ความร้อนจากการเป่า การหนีบตรง การใช้ เครื่องม้วนผม การไดร์ผม ใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่รุนแรง การยืดและทำสีผม เป็นตัวร้ายกาจที่สุดในการทำลายเส้นผมและทำให้ผมแห้งเสียได้ในที่สุด

อายุที่มากขึ้น

ฮอร์โมนย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อคุณอายุมากขึ้น เป็ฯสาเหตุทำให้ผมหงอก ผมบาง ผมร่วง และส่งผลให้ผลิตไขมันที่บริเวณรากผมลดลง แห้งเสีย อากาศที่แห้ง อุณหภูมิสูง ก็เป็นสาเหตุหลักทำให้ผมแห้งเสีย

วิธีแก้ผมแห้งเสีย ไม่มีน้ำหนัก

เมื่อรู้สาเหตุที่ทำให้ผมเสียกันแล้ว ก็มาดูวิธีป้องกันกันต่อ เพราะสาว ๆ ทุกคนก็อยากมีเส้นผมสวยงามไปตลอด มองจากไกล ๆ ก็เห็นผมสลวยสวยเก๋ก่อน วันนี้เรามาดูวิธีการป้องกันแก้ปัญหาผมเสีย แตกปลายกัน

1.รู้จักผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อเส้นผม

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อเส้นผม เช่นสารเคมี Sodium Lauryl Sulphate (SLS) สารเคมีกลุ่มที่เป็น Silicone ควรใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติในการสระผมเสมอ เพื่อป้องกันการสูญเสียไขมันตามธรรมชาติ

และ หมั่นเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมเสมอ ด้วยการบำรุงคอนดิชันเนอร์หลังสระผม จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้เส้นผมให้ดูอิ่มสลวยสวยเก๋

2.หลังสระผม

ควรใช้ผ้าขนหนูซับน้ำอย่างเบามือ หลีกเลี่ยงการขยี้ผมแรง ๆ เพราะจะทำให้ผมหลุดร่วงมากขึ้น ที่สำคัญปล่อยให้ผมแห้งก่อนจึงค่อยหวีผม โดยหวีซี่ถี่ ๆ จะเหมาะกับผมเส้นเล็ก หรือ หวีซี่ห่างจะเหมาะกับผมยาว ผมหนา ผมเส้นใหญ่และหยิกฟู หวีแปรงไนล่อน เหมาะกับผมยาวมาก และหวีแปรงขนธรรมชาติเหมาะกับผมเด็ก ๆ ที่สวยตามธรรมชาติ

3.เลือกใช้หวีและหวีผมให้ถูกต้อง

ต้องรู้จักใช้หวีให้ถูกประเภทเดียวกับเส้นผม เพื่อให้เส้นผมแข็งแรง สลวยสวยเก๋อยู่เสมอ ไม่ให้ขาดหลุดร่วง ลดปัญหาผมแห่งเสียได้ และในการหวีผมแต่ละครั้งต้องสางผมเบา ๆ และค่อย ๆ หวีในขณะที่ผมแห้งสนิท

4.ดูแลเส้นผมเป็นประจำ

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมแห้งเสียคือความร้อนจากไดร์เป่าผม แต่บางครั้งก็เข้าใจได้ว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นแนะนำให้ใช้เซรั่มที่ปกป้องเส้นผมจากความร้อนก่อนไดร์ผมเสมอ และก่อนออกจากบ้านควรใช้สเปรย์ป้งอกันแสงแดดสำหรับเส้นผมด้วย

5.ทานอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผม

หมายถึง ธาตุเหล์ก สังกะสี Zinc วิตามินเอ วิตามินบี 12 วิตามินซี , วิตามินดี , ไบโอติน สารอาหารที่ทานแล้วจะช่วยบำรุงเส้นผมให้สุขภาพดี ผมจะแข็งแรงไม่หลุดร่วงหรือขาดง่าย

ครีมหมักผมมีกี่ประเภท

1.ครีมหมักผมประเภท Protein Hair Masks

เป็นครีมหมักผมที่เสริมโปรตีนให้แก่เส้นผมที่มีปัญหาขาดหลุดร่วงง่าย โครงสร้างผมอ่อนแอ โดยครีมหมักผมนี้จะมีโปรตีนที่ใช้ผสมในครีมประเภทนี้ หมายถึง โปรตีนจากไข่แดง เพราะไช่แดงอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินอี ไบโอติน ซึ่งจะช่วยให้การเจริญเติบโตของเส้นผมให้แข็งแรงได้

2.ครีมหมักผมประเภท Hydrating Hair Masks

เป็นครีมหมักผมที่เน้นส่วนผสมอย่างน้ำผึ้ง นำมันมะพร้าว น้ำมันอโวคาโด ที่เน้นให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผม ลดปัญหาผมแตกปลาย

3.ครีมหมักผมประเภท Bond-Building Hair Masks

เป็นครีมหมักผมที่มีสารสกัดที่เข้มข้น มีคุณสมบัติในการซ่อมแซม และฟื้นฟูโปรตีนภายในเส้นผมให้เส้นผมกลับมาสุขภาพแข็งแรง นุ่มสลวย เงางาม เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทำสีผม ดัดผม และยืดผมเป็นประจำ

4.ครีมหมักผมประเภท Oil-Based Hair Masks

ครีมหมักผมประเภทนี้เหมาะกับคนที่มีผมแห้งเป็นพิเศษ หรือ ผมเสียระดับขั้นร้ายแรง จะช่วยให้กักเก็บความชุ่มชื้นให้อยู่ยาวนาน และเหมาะกับการหมักผมในช่วงหน้าหนาวที่อากาศแห้ง

วิธีหมักผม

เราจะมาแนะนำการหมักผมด้วยสมุนไพรธรรมชาติอย่าง น้ำมันมะพร้าว น้ำผึ้งแท้ น้ำมันมะกอก มายองเนส เบียร์ ซึ่งสามารถนำมาหมักผมให้สวยตามธรรมชาติได้ ปราศจากสารเคมีก็จะช่วยให้ผมแข็งแรง สลวยสวยเก๋ได้

เพียงใช้สมุนไพรที่ต้องการจะนำมาหมัก ตัวอย่างน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ให้ผสมกับไข่แดง 2ฟอง โดยใช้น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาชโลมให้ทั่วเส้นผม หมักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที

จากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ตามด้วยการสระผมด้วยแชมพูที่สูตรอ่อนโยน การหมักผมทำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะช่วยทำให้เส้นผมของคุณเงางาม ดูแข็งแรง ไม่พันกัน สวยได้ดั่งใจที่ต้องการ

ใช้ครีมหมักผมอย่างไรให้สวยแข็งแรง

ครีมหมักผมใช้อย่างไรให้ผมสวยแข็งแรง หากใช้ไม่ดีอาจกลายเป็นผมเสียได้ไปตาม ๆกัน เราไปดูวิธีการใช้ครีมหมักผมที่ถูกต้องกัน

1.ใช้ครีมหมักผมอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง

หากสาว ๆ ที่ชอบใช้เครื่องหนีบผม หรือไดร์ผมเป่าร้อน ๆ บนหัวบ่อย ๆ รู้หรือไม่อาจทำให้ผมเสียได้ เราแนะนำให้ใช้ครีมหมักผมอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ใช้แบบสองวันเว้นวันก็ได้ หรือจนกว่าผมจะกลับมาแข็งแรง

2.ใช้สารสกัดที่ดี

ในการบำรุงหรือหมักผมจะช่วยให้สุขภาพดีได้นั้น ต้องใช้สารสกัดที่มีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติในการหมักผมด้วย เช่น อัลมอนด์ออยล์ น้ำมันมะกอก อะโวคาโด หรือ น้ำผึ้งแท้ กล้วย และโปรตีนจากไข่

3.ดูก่อนว่าเป็นครีมหมักผมประเภทไหน

ครีมหมักผมมีหลายประเภท ตั้งแต่หมักแล้วล้างออก และ มาส์กผมทิ้งไว้ข้ามคืน ดังนั้นก่อนหมักผมควรอ่านก่อนว่าเป็นครีมหมักผมประเภทใหน และอ่านละเอียดการใช้งานให้เหมาะกับเส้นผมของตัวเองก่อนใช้ทุกครั้ง

4.นวดเส้นผมด้วย

การนวดเส้นผมจะช่วยให้ครีมหมักผมได้ซึมเข้าไปกับเส้นผม วิธีการคือใช้หวีแปรงช่วยแล้วนวดเส้นผมเบา ๆ เน้นที่บริเวณโคนผมจรดปลายผม

5.ล้างน้ำให้สะอาดทุกครั้ง

เมื่อนวดเส้นผมเสร็จแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายคือ ล้างครีมหมักผมให้สะอาดด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ หรือ จะล้างด้วยน้ำอุ่นก็ได้ แล้วเช็ดผมให้แห้ง ไดร์เป่าผมด้วยลมเย็นเพื่อป้องกันการสะสมการอุดตันของหนังศีรษะ เชื้อรา และความชื้นได้

วิธีเลือกซื้อครีมหมักผม

1.เลือกสูตรสำหรับช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม

เลือกสูตรที่มีส่วนผสมของมะกรูด เพราะเป็นไอเทมหลักที่ขึ้นชื่อเรื่องการหลุดร่วงของเส้นผม โดยนำมะกรูดมาหมักผมมานาน เป็นสูตรบำรุงผมที่ช่วยในการขจัดรังแค ลดผมมัน ผมนุ่มสวย ลดผมร่วงได้อีก

โดยนำส่วนผสมของมะกรูด 4-5 ผล กับน้ำเดือด 1 หม้อ นำมาต้มพอให้มะกรูดนิ่ม แล้วนำมาคั้นเอาแต่น้ำ นำมะกรูดมาหมักผมสัก 5 นาทีแล้วล้างออก ทำเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็จะช่วยหยุดอาการผมร่วงได้

2.เลือกสูตรสำหรับผมแห้งชี้ฟูจัดทรงยาก

เลือกสูตรที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะกอกผสมไข่แดง และ น้ำผึ้งแท้ หมักผมทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วคลุมผมด้วย หลังจากนั้นก็สระผมได้ตามปกติ เพราะในน้ำมันมะกอกจะทำให้ผมเงางาม มีน้ำหนัก และนำผึ้งช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม ส่วนไข่แดงมีโปรตีนลดปัญหาผมแห้งเสีย ผมนุ่มลื่นมากขึ้น

3.เลือกสูตรฟื้นบำรุงหนังศีรษะ ไม่เกิดรังแค

สูตรนี้เป็นการผสมผสานกันระหว่าง ขิงผง และใบย่านาง  โดยขิงมีคุณสมบัติในเรื่องช่วยลดการอักเสบ การระคายเคืองหนังศีรษะ ส่วนใบย่านางช่วยเรื่องฟื้นบำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรง เมื่อหนังศีรษะชุ่มชื้นเพียงพอ อาการอักเสบจะลดลง และยังช่วยให้ไม่เกิดรังแคได้อีกด้วย

4.เลือกสูตรสำหรับผมแห้งเสียหนักมาก

อะโวคาโด จะประกอบด้วยไขมันดี แร่ธาตุที่จำเป็น เช่น วิตามินซี วิตามินอี ที่เร่งการเจริญเติบโตของเส้นผม อโวคาโดช่วยเพิ่มความเงางาม ปกป้องเส้นผมจากความร้อน และPotassium และ Fotate ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ

5.เลือกสูตรสำหรับเส้นผมนุ่มชุ่มชื้น

เลือกสูตรที่มีส่วนผสมจากมายองเนส น้ำมะนาว เพียงใช้มายองเนสอุ่น ๆ ผสมน้ำมะนาว หมักผมทิ้งไว้ 30 นาที ผมจะนุ่มสลวย สวยเก๋ ลดปัญหาผมพันกัน เพราะมายองเนสมีทั้งโปรตีนที่บำรุงเส้นผม ให้ผมนุ่มเรียบลื่น หรือสูตรมะนาวทำให้ผมเงางาม ล้างสารเคมีตกค้างบนเส้นผม เพียงใช้เป็นประจำก็จะได้เส้นผมที่นุ่มชุ่มชื้นขึ้นมาทันที

6. เลือกจากสารสกัดในครีมหมักผม

ครีมหมักผมควรมีสารสกัดจากอะไรบ้าง

น้ำมันอาร์แกน – เป็นส่วนผสมในสกินแคร์ อุดมไปด้วยวิตามินอี ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวและเส้นผม มีกรดไขมันโอเมก้า 9 และโอเมก้า 6 ที่ช่วยลดการอักเสบของผิว รักษาสิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

เชียบัตเตอร์  — สกัดมาจากผลของต้นเชีย เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ นำมาใช้ในเรื่องของการดูแลผิวพรรณ จัดเป็นสกินแคร์ชั้นเลิศ ช่วยปกป้องผิวได้ดี ซ่อมแซมผิว ลดเลือนริ่วรอย ต่อต้านอนุมูลอิสระ

โอลีฟ ออยล์  — หรือน้ำมันมะกอก มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบล ชะลอวัย ต้านโรคเรื่อรัง ส่งผลดีต่อร่างกาย ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และ ผม และเส้นผมมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับกรดไขมันโอเมก้า 9 มากที่สุด

โกโก้บัตเตอร์ – ผลิตภัณฑ์ที่เติมความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมได้อย่างยอดเยี่ยม มีสารต้านอนุมูลอิสะเหมือนกับวิตามินอี กำจัดอนุมูลอิสระ ป้องกันการเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชัน

โคโคนัท ออยล์ – หรือน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ด้วยกระบวนการสกัดเย็น ปราศจากการใช้สารเคมี โคโคนัทออยล์จะช่วยคงคุณค่าสารที่เป็นประโยชน์ ในการฟื้นบำรุงเส้นผม เติมเต็มน้ำมันธรรมชาติพร้อมเคลือบบำรุงเส้นผม

7.เลือกคุณสมบัติของครีมหมักผม

เลือกครีมที่มีความเข้มข้น ใช้ได้สะดวก ไม่มีฟอง ไม่ทิ้งคราบมัน ล้างออกง่าย ช่วยให้เส้นผมมหวีง่าย ไม่ขาด ไม่พันกัน เส้นผมจะเป็นเงานิ่มสลวย สามารถตกแต่งทรงผมได้ง่าย เส้นผมจะไม่แห้งกร้าน และครีมหมักผมเองก็ไม่เป็นอันตรายต่อเส้นผมและหนังศีรษะ

 วิธีดูแลเส้นผม หนังศรีษะ ที่คิดว่าถูก บางอย่างอาจผิด

สรุป

ครีมหมักผม ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการปรับสภาพเส้นผมหลังการสระผม บำรุงรักษา หนังศีรษะ โดยจะปรับสภาพเส้นผมทึ่เสียให้คืนรูปกลับมาสวยดั่งใจ อาจต้องใช้เวลานานในการรักษาสักหน่อย แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีมาก ๆ

สำหรับการหมักผมที่ใช้สมุนไพรธรรมชาติ เพราะจะได้ผมสวยดั่งธรรมชาติให้มาตามใจต้องการ ไม่กัดผมให้เสียแต่อย่างใด แต่กลับจะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง สวยงดงามดุจแพรไหมกันเลย

อ้างอิง

• Home Remedies for Dry Hair
• How do I stop my hair from being dry?

• Facebook
• X
• Line