ขนาดที่นอน
ขนาดที่นอน | ความกว้าง (เซนติเมตร) | ความยาว (เซนติเมตร) |
3.5 ฟุต | 106 | 198 |
5 ฟุต | 152 | 198 |
6 ฟุต | 182 | 198 |
ที่นอน หรือ Matress นั้นมีขนาดความกว้างที่แตกต่างกัน โดยมีขนาดที่เรียกว่า Sigle Size หรือ 3 ฟุต แต่สำหรับในแต่ละประเทศนั้น ก็มีการจำกัดขอบเขตการวัดขนาด ในแบบที่เรียกว่า ขนาดของที่นอนมาตรฐานในแต่ละไซส์ที่แตกต่างกัน รวมถึงความสูง และหนาของที่นอนนั้น ในแต่ละที่ หรือแต่ละประเทศจะมีรูปแบบในการผลิตที่นอน ที่แตกต่างกัน
สำหรับการวัดขนาดเตียงที่เป็นมาตรฐานสากล หรือที่ใช้ในเมืองไทยร่วมด้วย เราแบ่งหลักๆ ออกเป็น 3 ขนาด ได้แก่
ขนาด 3.5 ฟุต
โดยมีความกว้าง 106 เซนติเมตร x ความยาว 198 เซนติเมตร ซึ่งในการยึดในแบบสากล จะเรียกขนาดที่นอนนี้ว่า Twin Bed หรือว่า Twin Size
ขนาด 5 ฟุต
ความกว้างของที่นอนขนาดนี้คือ 152 เซนติเมตร x ความยาว 198 เซนติเมตร เราสามารถเรียกขนาดที่นอนนี้อีกชื่อว่า Queen Size
ขนาด 6 ฟุต
ถือว่าเป็นเตียงขนาดที่ใหญ่สุด โดยมีความกว้างอยู่ที่ 182 เซนติเมตร x ความยาว 198 เซนติเมตร หรือเรียกได้อีกชื่อว่า King Size
ประเภทที่นอน 3.5 ฟุต
ข้อมูลข้างต้นนั้น เราจะได้เห็นว่าจริงๆ แล้วในฝั่งประเทศตะวันตก หรือคนที่มีโครงสร้างร่างกายที่สูงใหญ่นั้น มักจะคุ้นชินกับที่นอน หรือ Mattress ที่มีขนาดตั้งแต่ 3.5 ฟุต ขึ้นไป หรือเรียกว่า Twin Size นั่นเอง ตามมาด้วยขนาด Queen Size และ King Size ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่นอนที่ใหญ่สุด
แต่สำหรับที่นอนที่มีขนาดเตียงคู่นี้นั้น ที่เราอาจจะใช้งานในแบบนอนคนเดียว หรือ Single Bed รวมถึงสามารถใช้งานนอนได้ 2 คน หรือเรียกว่าTwin Bed ก็ยังมีส่วนที่แยกประเภทออกได้เป็นดังนี้ คือ
ที่นอนยางพารา
เราคงจะรู้คุณสมบัติหลักๆ ของตัวเนื้อยางพารา 100% กันว่า มีความแน่น และมีความยืดหยุ่นได้ดี ซึ่งจะเน้นในเรื่องช่วยในการแก้อาการปวดหลัง และผู้ที่มีน้ำหนักที่มาก จะสามารถใช้งานกับวัสดุชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่วัสดุยางพารา ซึ่งในบางคนจะรู้สึกว่า เมื่อสัมผัสลงนอนนั้น จะมีความแข็ง และไม่สบายในเวลาที่นอนตะแคงร่วมด้วยนั้น
ทำให้หลายต่อหลายคน อาจจะต้องใช้เครื่องนอนเสริมกับ ที่นอนยางพาราร่วมด้วย อย่างเช่น ตัวเบาะรองนอน หรือ ท็อปเปอร์ (Topper) เพื่อช่วยเสริมความหนานุ่มให้กับตัวที่นอนยางพารา หรือสำหรับบางผู้ใช้งาน ที่เปลี่ยนไปใช้งานที่นอนวัสดุอื่น ด้วยเหตุผลเรื่องกลิ่นของที่นอนยางพาราที่มีกลิ่นแรงนั่นเอง ตรงนี้ก็อาจจะเป็นส่วนผู้เลือกซื้อ อาจจะต้องพิจารณาดูทั้งส่วนที่ดี และเหมาะสมกับการใช้งานส่วนตัวร่วมด้วย
แต่เรามักจะเห็นว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตามที่นอนยางพารา ก็ยังครองใจผู้ที่มีทั้งปัญหาปวดหลัง, มีอาการของออฟฟิศซินโดรม รวมถึงผู้สูงอายุ ก็นิยมใช้ที่นอนจากวัสดุประเภทนี้กัน ด้วยคุณสมบัติหลักคือ การรองรับน้ำหนักของผู้นอนได้ดี และมีความยืดหยุ่น เมื่อมีการนอนพลิกบนเตียง ไม่ทำให้โครงสร้าง หรือสรีระของร่างกายเราเสียไป อีกทั้งยังมีการใช้งานที่ทนทาน ไม่ยุบง่ายอีกด้วย
ที่นอนสปริง
ปัญหาหรือในคุณสมบัติบางอย่างของ ที่นอนยางพารา ในข้อข้างต้นนั้น ซึ่งสำหรับบางคนอาจจะรู้สึกว่า ที่นอนยางพารานั้นมีความแข็งมากจนเกินไป และหันมาพิจารณาเลือกใช้ที่นอนแบบสปริง ที่ให้ความยืดหยุ่นที่มากกว่า ที่นอนยางพารา ซึ่งในคุณลักษณะเด่นเรื่องความยืดหยุ่น และคืนตัวเร็วทันทีที่เราทิ้งตัวลงนอนนั้น ก็จะมีการแบ่งแยกย่อยตามลักษณะตัวขดลวดสปริง ที่มีอยู่ด้านในของที่นอนสปริงดังนี้ คือ
บอนแนลล์สปริง (Bonnell Spring Mattress)
อาจจะไม่สามารถบอกว่า ในปัจจุบันนี้ไม่มีที่นอนที่เป็นรูปแบบนี้แล้ว แต่หากนึกภาพไม่ออก เราอาจจะนึกไปถึง ที่นอนสปริงในรูปแบบเดิมๆ ที่เมื่อใช้งานไปนานๆ จะเริ่มมีเสียงของขดลวดภายในที่เสียดสี และสะเทือนถึงกัน ซึ่งที่นอน 3.5 ฟุตที่เป็นขดลวดแบบ บอนแนลล์สปริงนั้น จะมีโครงสร้างภายใน ที่เป็นขดลวดเกี่ยวเชื่อมกันหมด
สำหรับปลายของขดลวดทั้ง 2 ด้านนั้นจะผูกยึดกันเป็นแผงกับตัวที่นอน ทั้งด้านบน และข้างใต้ที่นอน ทำให้ที่นอนสำหรับ 1 คนนี้ ถึงแม้จะมีข้อดีที่ มีความยืดหยุ่น และไม่แข็งเท่าที่นอนยางพาราก็ตาม
แต่หากเราจะสังเกตได้ว่า เมื่อทิ้งตัวลงนอน จะไม่มีการรองรับน้ำหนักเฉพาะจุด แต่จะกระจายน้ำหนัก ทำให้ทั้งเตียงสะเทือนทั่วถึงกัน ซึ่งอาจจะมีปัญหาสำหรับ ที่นอนที่มีขนาดใหญ่กว่า 3.5 ฟุต สำหรับการนอน 2 คน
แต่สำหรับที่นอนสปริงที่มีขนาดเตียง 3.5 ฟุต หรือที่นอนคนเดียวนั้น สิ่งที่เราอาจจะต้องรู้ไว้ เพื่อเป็นการพิจารณาเลือกซื้อคือ ในเรื่องของเสียงขดลวดภายในที่นอน ที่จะมีเสียงตลอดเมื่อเราพลิกตัวไปมา แต่สำหรับการหา ผ้าปูที่นอน , ชุดเครื่องนอน ที่จะใช้งานร่วมกัน ก็สามารถเลือกได้เหมือนกับ ที่นอนสปริง , ที่นอนเป่าลม
ออฟเซ็ทสปริง (Offset Spring Mattress)
การพัฒนาจากส่วนที่มีปัญหา ของที่นอนสปริงในรูปแบบบอนแนลล์สปริงนั้น ทำให้มีการปรับเปลี่ยนตัวขดลวดภายใน ให้มีรูปทรงเหมือนกับ นาฬิกาทราย ที่มีความเป็นอิสระในการรองรับน้ำหนักได้ดีขึ้น ถึงแม้ว่าที่นอนสปริงแบบ บอนแนลล์สปริง จะมีความยืดหยุ่น แต่เป็นในลักษณะที่ไม่รองรับการสะเทือนเฉพาะจุดของร่างกาย
ในส่วนของออฟเซ็ทสปริงนั้น เมื่อเราทิ้งตัวลงนอน ที่นอนสปริงนี้ จะมีการรับน้ำหนักเฉพาะแต่ละจุดของร่างกาย ทำให้เกิดการสะเทือนของที่นอนที่น้อยกว่า ในแบบแรก รวมถึงหากต้องการให้มีการนอนที่สบาย การนำเอาที่นอน 3.5 ฟุต หรือที่นอนคนเดียว วางบน เตียง 2 ชั้น และใช้งานร่วมกับ หมอนขนเป็ด , หมอนขนห่าน ก็จะยิ่งช่วยให้การนอนหลับได้ดียิ่งขึ้น
ด้วยตัวขดลวดแบบออฟเซ็ตสปริง มีการจัดวางในแบบแยกตัวอิสระ ไม่เหมือนที่นอนสปริงแบบบอนแนลล์สปริง ทำให้ในเวลานอน ไม่ว่าจะเป็นท่านอนหงาย หรือนอนตะแคงก็ตาม จะไม่มีเสียง หรือเกิดเสียงที่น้อยกว่า ที่นอนสปริงแบบบอนแนลล์สปริง รวมถึงการใช้งานที่ไม่จำเป็น ต้องมี Topper มาเสริมเหมือนกับ ที่นอนยางพารา หรือที่นอนสปริงแบบบอนแนลล์สปริงอีกด้วย
พ็อกเก็ตสปริง (Pocket Spring Mattress)
เป็นการพัฒนาที่นอนสปริง ที่ต่อยอดมาจากที่นอนสปริงในแบบออฟเซ็ท ที่ถึงแม้ว่าใครหลายคนที่เคยใช้ ที่นอนสปริงแบบออฟเซ็ทแล้ว จะมีความพอใจในระดับหนึ่ง ในความยืดหยุ่นของขดลวด และการสะเทือนที่ไม่กระจายไปทั่วที่นอนก็ตาม แต่สำหรับที่นอนสปริงในรูปแบบนี้ จะมีการจัดวางขดลวด ที่เป็นอิสระแยกออกจากกัน รวมถึงตัวขดลวดก็แตกต่างไปจากขดลวดนาฬิกาทราย ในแบบที่นอนแบบออฟเซ็ทสปริงอีกด้วย
นอกจากขดลวดที่มีรูปทรงแยกออกจากกัน การนำเอาห่อผ้ามาหุ้มในแต่ละขดลวด ช่วยในเรื่องของการเสียดสีระหว่างขดลวด, ป้องกันการเสื่อมสภาพของตัวขดลวดภายใน และเป็นการช่วยป้องกันการใช้งานในระยะยาว สำหรับปัญหาที่ขดลวดจะมีการยื่น หรือโผล่นูนขึ้นมา ทำให้ที่นอนมีความไม่เท่ากันอีกด้วย
ทำให้ทุกการลงน้ำหนักลงบนที่นอนนั้น นอกจากตัวขดลวดจะรับน้ำหนัก เฉพาะจุด และเฉพาะส่วนของอวัยวะที่ลงในแต่ละขดลวดแล้ว ยังช่วยให้เกิดการสมดุลของร่างกาย ในการกระจายการลงน้ำหนักตัวบนเตียง รองรับท่านอนได้ทุกท่า ไม่ว่าจะเป็นการนอนหงาย หรือนอนตะแคงก็ตาม อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาอาการปวดหลัง ได้ในแบบเดียวกับที่นอนยางพาราอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะมีเนื้อวัสดุที่มีความแน่นไม่เท่ากับยางพาราก็ตาม
ที่นอน 3.5 ฟุตที่มีวัสดุเป็นพ็อกเก็ตสปริงนี้ ให้ความสะดวกกับผู้ที่นอนคนเดียว, ที่นอนเดี่ยว 1 คน หรือเป็นขนาดของเตียงเดี่ยวก็ตาม จะให้ความสบายตัวในเวลาลงน้ำหนักบนที่นอน ซึ่งเราจะเห็นได้อย่างชัดเจน คือตอนที่เราลงน้ำหนักตัวนอนในทันที เราจะสามารถทดสอบ หรือเห็นความแตกต่างในเรื่องของความยืดหยุ่น ระหว่างที่นอนสปริงทั้ง 3 รูปแบบนี้ได้เป็นอย่างดี
การนอนที่สัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นการนอนหงายในท่านอนที่ธรรมดา หรือการพลิกไปมาบนเตียงนั้น เป็นการผสมผสานเหมือน ที่นอนยางพารา ที่ให้ทั้งความแน่น และมีความยืดหยุ่น และเด้งกลับคืนตัวอย่างรวดเร็วในแบบที่นอนพ็อกเก็ตสปริง ซึ่งหากใครมองในเรื่องของที่นอนเพื่อสุขภาพ ที่ให้ความแข็ง และทรงตัวของที่นอนด้วยแล้ว ทั้งในส่วนของที่นอนยางพารา และที่นอนพ็อกเก็ตสปริง ถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
ซึ่งหากผู้เลือกซื้อ ต้องการพิจารณาเรื่องของอายุการใช้งานร่วมด้วยนั้น ที่นอนในแบบพ็อกเก็ตสปริง จะมีอายุการใช้งานที่สั้นมากกว่า ที่นอนยางพารา ซี่งมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 10-20 ปีเลยทีเดียว และจุดที่ควรระวัง ในการเลือกซื้อที่นอนในแบบพ็อกเก็ตสปริงนั้น ในบางการผลิตที่อาจจะมีการใช้ขดลวดภายในที่ไม่ได้คุณภาพ หรือมีการเสื่อมสภาพที่เร็วก่อนกำหนด รวมถึงมีเสียงดังของตัวขดลวด
ตรงนี้เราอาจจะต้องพิจารณาดูในส่วนของยี่ห้อ หรือแบรนด์ที่ผลิต รวมถึงผลการตอบรับของผู้ใช้ร่วมด้วย ถึงคุณภาพของวัสดุ และการผลิต เพื่อที่ในการซื้อที่นอนต่อครั้ง เราจะสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่ากับ ที่นอนเดี่ยว หรือใช้สำหรับนอน 1 คน ที่เรียกว่าTwin Size หรือขนาด 3.5 ฟุต
ที่นอนไฮบริด
เราอาจจะเรียกที่นอนในรูปแบบนี้ว่า เป็นที่นอนสมัยใหม่ที่มีการประยุกต์ โดยการนำเอาวัสดุที่มีคุณสมบัติเด่นๆ ทั้ง 3 ประเภท ไม่ว่าจะเป็น ยางพารา, Cool Gel เมมโมรี่โฟม และ โพลียูริเทน ที่มีคุณสมบัติในการหล่อเป็น ผ้า, ยาง หรือวัตถุในการเคลือบผิวเครื่องบิน ซึ่งคุณสมบัติหลักๆ ของวัสดุโพลียูริเทนนี้ มีความทนทานอย่างมาก รวมถึงสามารถป้องกันการกัดกร่อนของสารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรงได้อีกด้วย
ซึ่งในแต่ละชั้นของที่นอนไฮบริดประเภทนี้นั้น จะมีการดึงเอาคุณสมบัติเด่นของ วัสดุนั้นๆ เข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์กับผู้ที่นอน โดยในแต่ละชั้นมีการเรียงลำดับได้ดังนี้ คือ
ชั้นที่ 1 จะเป็นชั้นของวัสดุที่เป็น ยางพารา ที่เน้นในการรองรับน้ำหนักได้ดี, มีความยืดหยุ่น และมีความแน่นในตัวของวัสดุที่เป็นยางพารานั่นเอง
ชั้นที่ 2 ด้วยตัววัสดุที่ถัดต่อจากยางพารา เป็น Cool Gel ที่ให้ความเย็น และระบายความร้อน เมื่อเราทิ้งตัวลงนอน รวมถึงการรองรับน้ำหนักในแบบของ เมมโมรี่โฟม ที่มีทั้งความยืดหยุ่น และอุ้มน้ำหนักตัวของผู้นอนได้ทุกท่า ไม่ว่าจะเป็นท่านอนหงาย หรือท่านอนตะแคง ที่เหมาะสมกับที่นอนสำหรับ 1 คน หรือที่นอนเดี่ยวในแบบนี้เป็นอย่างมาก
ชั้นที่ 3 จุดดึงดูดในการเลือกใช้งาน สำหรับที่นอนไฮบริด ก็คือชั้นล่างสุด ที่เป็นวัสดุจากโพลียูรีเทน ที่มีทั้งความคงทน, แข็งแรง และแน่นอนในการรับน้ำหนักในชั้นสุดท้ายนี้ อีกทั้งยังเป็นส่วน
การเรียงตัวของชั้นที่นอนไฮบริด
สำหรับที่นอนสปริงที่ใช้ดีอยากแนะนำบอกต่อ คือ ที่นอนสปริง ashman
ที่นอนเมมโมรี่โฟม
ที่นอน 1 คน หรือที่นอนเดี่ยว ที่มีด้านในเป็นเนื้อวัสดุเมมโมรี่โฟมนั้น จะมีความยืดหยุ่น ที่เกือบจะเหมือนที่นอนยางพารา แต่ที่นอนเมมโมรี่โฟมนั้น จะมีความแตกต่างจากที่นอนยางพารา ที่เห็นเด่นชัดเลยคือ การรับแรงกระแทก หรือการรองรับน้ำหนัก เมื่อเราได้ลงนอนนั้น ตัววัสดุเมมโมรี่โฟม จะมีการโอบรัดร่างกายของผู้ที่นอนลง และมีการรองรับที่เข้ากับร่างกายของเรา
แต่ที่นอนเมมโมรี่โฟม จะมีการคืนตัว หรือความยืดหยุ่นที่น้อยกว่า ที่นอนยางพารา ดังนั้นจึงทำให้เกิด รอยยุบในการพลิกตัว และตัวที่นอนกลับคืนตัวที่ช้า ซึ่งด้วยคุณสมบัติที่มีไม่เท่ากับ ที่นอนยางพาราจุดนี้ ทำให้หลายคนที่ใช้งาน ที่นอนเมมโมรี่โฟม เป็นระยะเวลานานๆ นั้น มักจะมีอาการปวดหลัง หรือปวดตามร่างกายร่วมด้วย
รวมถึงหากเราดูในเรื่องของการระบายความร้อน และการถ่ายเทอากาศนั้น ที่นอนแบบเมมโมรี่โฟม ก็ยังมีความสามารถในการระบายความร้อน ได้ไม่ดีเท่ากับที่นอนยางพาราอีกด้วย แต่หากผู้ที่ใช้งานที่นอนขนาด 3.5 ฟุต ที่มีน้ำหนักตัวไม่มาก สามารถที่จะใช้เป็นตัวเลือกพิจารณาร่วมกับที่นอนสปริงได้ โดยดูให้ตรงตามความเหมาะสม ทั้งการใช้งาน และโครงสร้างร่างกาย
เลือกนอนที่นอน 3.5 ฟุตแบบไหนดี
เลือกจากคุณสมบัติพิเศษของที่นอน
ยืดหยุ่น และระบายความร้อนได้ดี
หากเป็นเรื่องของความยืดหยุ่น ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดคือ ที่นอนแบบยางพารา ที่มีความสามารถในการรับน้ำหนัก โดยเฉพาะกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก และที่นอนแบบสปริง โดยเฉพาะที่นอนพ็อกเก็ตสปริง
ส่วนหากใครที่ต้องการทั้ง ที่นอนที่มีความยืดหยุ่น และระบายความร้อนได้ดีควบคู่กัน ที่นอนยางพาราดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด หรือที่นอนไฮบริด ที่ให้ความเย็น และมีการระบายความร้อนด้วยชั้น Cool Gel Memory Form
คืนตัวได้ดี
เราจะสามารถรับรู้ได้ ในเวลาที่เราลงนอน และนอกจากจะมีการรองรับน้ำหนักตัวเราแล้ว ยังมีการเด้งคืนตัวของที่นอน ซึ่งหากเป็นที่นอนยางพารา จะมีความแน่น และมีการคืนตัว แต่ไม่ดีเท่ากับที่นอนปริง ดังนั้นหากไม่มีปัญหาอาการปวดหลังร่วมด้วย และต้องการที่นอนในแบบคืนตัวได้ดีนั้น ควรเลือกที่นอนแบบสปริง ไม่ว่าจะเป็นที่นอนบอนแนลล์สปริง, ที่นอนออฟเซ็ตสปริง หรือที่นอนแบบพ็อกเก็ตสปริง
การรองรับน้ำหนักได้ดี
หากเป็นผู้ชายที่มีโครงสร้างตัวใหญ่, ผู้ที่มีน้ำหนักมาก หรือมีปัญหาพ่วงกับอาการปวดหลังตามมาด้วยนั้น ตัวเลือกที่นอนที่เหมาะสมคือ ที่นอนยางพารา และที่นอนไฮบริด ที่มีชั้นบนที่นอนเป็นยางพารา รองรับน้ำหนักของผู้นอนได้เป็นอย่างดี
การรักษาอาการเจ็บปวดตามร่างกาย
ควรเลือกใช้แบบที่นอนขนาด 3.5 ฟุต หรือที่นอนคนเดียว ที่มีวัสดุเป็นยางพารา จะสามารถช่วยในเรื่องการรองรับน้ำหนัก และมีพื้นผิวของที่นอนที่แข็ง และยืดหยุ่นได้ในขณะทิ้งตัวลงนอน เราสามารถเลือกท็อปเปอร์ มาเป็นอุปกรณ์เสริม เพื่อให้เกิดความนุ่มสบาย ในเวลานอนหลับได้มากขึ้น
ที่นอน 3.5 ฟุต ยี่ห้อที่แนะนำ
1.Zinus ที่นอน 3.5 ฟุต รุ่น Ada
ที่นอน 3.5 ฟุต ชนิด Topper ความหนา 4 cm ที่เหมาะสำหรับปูทับที่นอนเดิมที่อาจจะแข็งจนเกินไปหรือสปริงเสื่อมคุณภาพ โดยภายในที่นอนประกอบด้วยวัสดุ 2 ชั้น เริ่มจากชั้นแรกเป็นเมมโมรี่โฟมชาเขียว (Green Tea Memory Foam) ทำให้ที่นอนมีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา ส่วนที่นอนชั้นล่างเป็นโฟม BodyZense สำหรับเสริมประสิทธิภาพในการรองรับสรีระและน้ำหนักให้ดียิ่งขึ้น
2.Lotus ที่นอน 3.5 ฟุต รุ่น ARES
ยางพาราอัด รองรับสรีระได้ดี ลดอาการปวดหลัง ป้องกันไรฝุ่น เป็นที่นอน 3.5 ฟุต มีชื่อเรื่องการรองรับสรีระได้อย่างดี ทำให้สามารถลดอาการปวดหลังในขณะนอนหลับได้ เด่นในเรื่องของการระบายอากาศ ช่วยให้หลับสนิทขึ้น เสริมด้วยการเคลือบสารป้องกันไรฝุ่นและแบคทีเรีย เป็นสารที่ไม่อันตรายต่อร่างกาย
3.SleepHappy ที่นอน 3.5 ฟุต รุ่น Atlantis
รับน้ำหนักได้ดี เหมาะกับคนชอบที่นอนเนื้อแน่น ไม่นุ่มยวบยาบ นี่คือสุดยอดที่นอน 3.5 ฟุต แบบพ็กเก็ตสปริงที่ได้ชนิด Iso-Coil Technology แบบ 5 Zone ช่วยรองรับสรีระและกระจายแรงกดทับได้ดี มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้มาถึง 300 กิโลกรัม ยังประกอบด้วยที่นอนชั้นอื่น ๆ อีกมากมาย
รีวิวเตียง Deep sleaf นอนสบาย ไม่ปวดหลัง
สรุป
เราจะเห็นได้ว่าแม้ว่าจะเป็นที่นอนที่มีขนาด 3.5 ฟุต ที่มีความกว้างสามารถนอนคนเดียว หรือเป็นที่นอนสำหรับคน 2 คน หรือที่เรียกว่า Twin Size นั้น แต่ด้วยวัสดุภายใน ทำให้ในการเลือกพิจารณา เพื่อนำมาใช้งานให้เรามีการนอนหลับที่ดี และเพื่อรักษาสรีระร่างกายให้กับเรานั้น ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือก ที่นอนยางพารา, ที่นอนสปริง, ที่นอนไฮบริด หรือที่นอนเมมโมรี่โฟมนั้น สามารถที่จะช่วยให้เรา นอนหลับได้สบายตลอดทั้งคืน โดยที่ไม่มีการตื่นขึ้นมากลางดึกอีกเลย
ยุ้ย ปิยวรรณ เป็นนักวิเคราะห์ วิจารณ์ ชำนาญการเรื่องเครื่องนอน ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการนอน มีประสบการณ์การตลาดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ชุดเครื่องนอนยาวนานมากกว่า 10 ปี
ที่นอน 3.5 ฟุต DECOS รุ่น Champ
-สำหรับใช้นอนพักผ่อน เพื่อความผ่อนคลายในการนอน
-สปิง High Carbon 2.3 mm. มีความแข็งแรง ทนทาน
-สัมผัสนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่เก็บความร้อน
ที่นอน 3.5 ฟุต Morning Sleep รุ่น Cosmic
-ผ้าหุ้มทักถอลายพิเศษ ทำให้ไม่สะสมไรฝุ่นและไม่อับชื้น
-สัมผัส นุ่ม เด้ง กระจายแรงกดทับ ลดอาการปวดเมื่อย
-สามารถรองรับน้ำหนักและรองรับสรีระได้เป็นอย่างดี
ที่นอน 3.5 ฟุต Welcare
-น้ำหนักเบา ทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บเคลื่อนย้ายสะดวก
-ป้องกันการสะสมไรฝุ่น เชื้อแบคทีเรียและการเกิดเชื้อรา
-มีการผลิตที่ปลอดสารพิษไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว
ที่นอน 3.5 ฟุต Koncept รุ่น VENUS
-สปริงมีความหนา แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน
-ผิวสัมผัส นุ่ม เด้ง ลื่น นอนหลับสบายตลอดคืน
-ระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ไม่มีกลิ่นอับชื้น
ที่นอน 3.5 ฟุต Nooz รุ่น Eclipse
-กระบวนการผลิตปลอดสารที่เป็นอันตราต่อมนุษย์
-ผ้าหุ้มผิวสัมผัสนุ่ม ไม่ระคายเคืองผิว รองรับสรีระ
-ที่นอนมีความหนาถึง 6 นิ้ว รูปทรงเรียบง่าย
ที่นอน 3.5 ฟุต Emmas รุ่น Texas
-มีปุ่มกันลื่นด้านล่างที่นอน ป้องกันการเลื่อนไหล
-มีความยืดหยุ่นสูง กระจายน้ำหนักได้ดี ลดแรงกดทับ
-ชั้นโฟมทีความแน่น รองรับน้ำหนักได้ดี นอนแล้วไม่เมื่อย
ที่นอน 3.5 ฟุต Lunio รุ่น Electric Purple
-ที่นอนหนา 10 นิ้ว ขนาด 105 ซม. x 198 ซม. x 25 ซม.
-ชั้นเมมโมรี่โฟมผสมผสานสกัดลาเวนเดอร์ ช่วยผ่อนคลาย
-สปริงชนิดพิเศษแข็งแรงมากกว่าสปริงทั่วไปไม่ยุบง่าย
ที่นอน 3.5 ฟุต Dunlopillo รุ่น Walker
-เหมาะสำหรับคนน้ำหนักตัวมากและผู้สูงอายุ
-มีสารเคลือบป้องกันไรฝุ่นและเชื้อแบคทีเรีย ปลอดภัย
-สามารถกระชับหลังได้ดี ป้องกันอาการปวดหลังระยะยาว
ที่นอน 3.5 ฟุต Midas รุ่น Lamp
-ที่นอนทีความหนา 9 นิ้ว อายุการใช้งานนานถึง 10 ปี
-สามารถระบายอากาศอัตโนมัติ แบบต่อเนื่อง ไม่อับชื้น
-ป้องกันการเกิดภูมิแพ้และยับยั้งการเจริญเติบโตของไรฝุ่น
ที่นอน 3.5 ฟุต Sleepen รุ่น LATEX X5
-ที่นอนทีความหนา 10 นิ้ว อายุการใช้งานนานถึง 12 ปี
-ช่วยให้นอนหลับสนิทตลอดคิน ลดอาการปวดหลัง
-ให้ความนุ่มไม่ยวบ แข็งแรง คงทนต่อการใช้งาน