10 แชมพูย้อมผม ยี่ห้อไหนดี 2024 แบบสระ อ่อนโยน ดูธรรมชาติ

แชมพูย้อมผม คืออะไร

คือผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม เพื่อใช้ในการเปลี่ยนสีผม ทั้งในแบบสีเฉดต่างๆ ตามแฟชั่น หรือเป็นการปกปิดผมขาว ที่ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรในการช่วยย้อมสีผม เพียงแต่ชโลมแชมพูเปลี่ยนสีผม ลงบนเส้นผม แล้วใช้มือที่สวมถุงมือเท่านั้นในการนวด ตัวสีย้อมให้เข้ากันกับเส้นผมทั่วทั้งศีรษะ คล้ายกับการสระผมด้วยแชมพู

เฉดสีของแชมพูย้อมผมที่กำลังได้รับความนิยม

1.น้ำตาลคาราเมล (Caramel Brown)

ให้ความดูมีมิติมากขึ้น สำหรับผู้หญิงที่ทำสีผมนี้ เสริมความมีเสน่ห์ และความน่าดึงดูดต่อผู้ที่พบเห็น เฉดสีนี้สามารถใช้ย้อมได้ตลอด มีการเข้าสีได้ง่ายกับชุดเสื้อผ้า และการแต่งหน้า โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่มีผิวสี โดยที่เฉดสีน้ำตาลคาราเมลนี้ จะช่วยขับผิวให้ดูสว่างตามสีผมไปด้วย

2.สีแอชบลอนด์ (Ash Blonde)

เป็นเฉดสีผสมระหว่างโทนสีแอช หรือ Ash ที่เป็นโทนสีเทาหม่น กับสีบลอนด์ ที่มีความสว่าง และทั้งสำหรับผู้หญิงที่มีผิวสี และผิวขาว หากเป็นผู้หญิงผิวสี ย้อมผมสีนี้ จะช่วยเพิ่มความน่าหลงใหลมากขึ้น เพิ่มความน่าสนใจ และมีความนุ่มลึกในบุคลิกภาพ และหากเป็นผู้หญิงผิวขาว ย้อมผมสีนี้ จะยิ่งเสริมให้ผิวมีความสว่าง และดูเด่นมากกว่าเดิม

การทำผมสีนี้นั้น สามารรถที่จะคุมโทนการแต่งตัว ในสีเข้ม หรือสีเอิร์ธโทนในการทำงาน หรือในวันปาร์ตี้, ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เราก็ยังสามารถใส่ชุดสีแดงเลือดนก หรือ สี Carmine ที่เฉดผมสีนี้ไปได้ดีกับสีแดงเป็นที่สุด ดังนั้นสีนี้ถือว่า เป็นสีในการย้อมผมสีโปรดของสาวๆ ได้เลย ด้วยความที่ สามารถเข้าได้กับชุดแต่งตัว, การแต่งหน้าในเฉดไหนก็ได้ อีกทั้งยังช่วยเสริมให้เด่น ในชุดที่เป็นสีเข้มอีก

3.สีเชสนัท บราวน์ (Chestnut Brown)

หากใครนึกภาพไม่ออก ให้นึกภาพของเม็ดเกาลัค ที่ยังไม่แกะเปลือก และนี่คือเฉดสีของ เปลือกด้านนอกของตัวเม็ดเกาลัค ที่ใครหลายคนอาจจะบอกว่า น่าเบื่อ และเหมือนกับเฉดสีน้ำตาลธรรมดาทั่วไปก็ตาม แต่ถ้าจะบอกว่า เป็นสีปลอดภัยในเวลาที่เรายังไม่รู้ว่า จะเลือกย้อมผมสีอะไรดี ก็อาจจะไม่ถูกนัก

แต่จะบอกว่ามีสาวๆ หลายคนที่ขี้เบื่อ และต้องการจะเปลี่ยนสีผม ซึ่งไปๆ มาๆ ก็ต้องกลับมาย้อมสีผมในแบบเดิม คือสีเชสนัท บราวน์นี้ เพราะนอกจากจะช่วยปรับโทนทั้งสีการแต่งหน้า และการแต่งตัวให้ดูอบอุ่นไปพร้อมกับสีผมนี้แล้ว เรายังสามารถที่จะเลือกโทนสีนี้ในแบบ อ่อน (soft) หรือแบบสีเข้ม (dark) ได้อีกด้วย

4.สีบลอนด์ บาลายาจ (Blonde Balayage)

ช่วงหลังๆ  หากเราไม่ได้ตามเทรนด์แฟชั่น แต่เราจะสังเกตได้ว่ามีผู้หญิงหลายคน ที่หันมานิยมทำสีผมนี้กัน ซึ่งมีความผสมผสานระหว่างสีบลอนด์ และสีน้ำตาลทอง และเป็นสีที่มีความสว่าง และโดดเด่น หากใครที่ชอบแต่งหน้าในโทนสีจัดอยู่แล้ว การทำผมสีนี้จะช่วยเสริม ให้การแต่งหน้ามีความสว่าง และเข้ากับสีผมมากขึ้น

5.สีน้ำตาลช็อกโกแลต (Chocolate Brown)

ที่ยังคงมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังเป็นที่นิยมถึงแม้จะไม่มีกระแสตอบรับที่มากมาย แต่เราก็ยังคงเห็นว่า มีทั้งผู้หญิง และผู้ชายทำสีผมนี้กันอยู่ตลอด และถือว่าเป็นเฉดสีน้ำตาล ที่ปลอดภัยไว้ก่อน ในการแต่งหน้าแบบไหน, ทำผมทรงอะไร หรือการแต่งตัวในชุดไหนก็ตาม  

ประเภทของแชมพูย้อมผม

หากในวันนี้ที่เรามีความต้องการเลือกซื้อ แชมพูเปลี่ยนสีผมไม่ว่าจะเป็นการย้อมผมในแบบแฟชั่น  หรือความต้องการปิดผมขาว เราจะเห็นได้เลยว่า มีตัวเลือกทั้งหลากหลายยี่ห้อ และหลายรูปแบบการใช้งาน

อย่างเช่น หากเป็นวิธีในการย้อมผม ที่มาในแบบแชมพูย้อมผม ก็จะมีทั้งแบบหวีที่ติดอยู่บนขวดย้อมเลย ผู้ใช้สามารถบีบน้ำยาที่ผสมแล้ว ให้ออกมาทางหวีแปรงที่ทำติดบนขวดน้ำยาย้อม

อีกแบบที่เราคงคุ้นเคยกันอย่างดี ที่ใช้งานเหมือนเป็นการสระผมด้วยแชมพู เราสามารถบีบน้ำยาที่มีการผสมกันเรียบร้อยแล้วบนศีรษะ และใช้มือนวดให้แชมพูเปลี่ยนสีผมนั้น ซึมเข้าเส้นผมทั่วศีรษะได้แบบง่ายๆ ที่บ้าน รอไม่กี่นาทีก็สามารถล้างออก และเป่าผมให้แห้งด้วยสภาพสีผมใหม่ ในแบบที่ไม่ต้องรอนาน

แต่แชมพูเปลี่ยนสีผม ในแต่ละยี่ห้อ และในความหลากหลายของตัวสีย้อมผมให้เลือกนั้น ก็จะมีความแตกต่างกัน ที่เราสามารถมองเห็นได้คือ ส่วนประกอบภายในของตัวน้ำยาย้อมผม ที่มีทั้งแบบที่มีส่วนประกอบของสารเคมี

โดยเน้นในเรื่องของสีย้อม ที่ติดทนกับเส้นผมได้ดีกว่าในแบบธรรมชาติ แต่ในทางกลับกัน หากเป็นแชมพูเปลี่ยนสีผมรูปแบบธรรมชาตินั้น ก็จะมีความปลอดภัยในการใช้งานมากกว่า ซี่งขึ้นอยู่กับความต้องการ หรือความเหมาะสมในการใช้งาน

1.แบบธรรมชาติ

เราต่างรู้กันว่ามีการผลิตตัวแชมพูเปลี่ยนสีผม ในแบบธรรมชาติเพิ่มเป็นตัวเลือกขึ้นมามาก เพราะในผู้ใช้งาน ต่างมองเห็นในประโยชน์ หรือข้อดีในเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะในการใช้ย้อมผม มีความใกล้ชิดกับตัวเรามาก ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสของส่วนประกอบ ที่ช่วยย้อมสีผมกับหนังศีรษะ, การสูดดมกลิ่น หรือ การสัมผัสโดนที่ผิวหนังก็ตาม

หากเป็นแชมพูย้อมผม แบบที่มีส่วนประกอบเป็นธรรมชาติแล้ว นอกจากเราจะใช้เปลี่ยนสีผมให้สวยงาม ตามที่แต่ละคนต้องการได้แล้ว ยังสามารถใช้งานได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการย้อมสีผมหลากหลาย หรือปกปิดผมขาว ได้แบบเนียนสนิท ทำได้ที่บ้านไม่กี่นาที รวมถึงปลอดภัยต่อผู้ใช้อีกด้วย

สารสกัดโสม

ตัวสารสกัดโสมนั้น มีส่วนในการทำหน้าที่ ในการดูแลเส้นผมหลังการทำสี หรือย้อมสีผมแล้ว ซึ่งต้องมีการปรับสภาพ นอกจากจะต้องบำรุงให้เส้นผมไม่เสียแล้ว ยังต้องเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นผม เพื่อไม่ให้หลุดร่วงง่ายอีกด้วย

เพราะหลังผ่านการย้อมสีแล้ว เส้นผมอาจมีความเปราะขาดร่วงง่ายกว่าเดิม การใช้สารสกัดโสมเข้ามาช่วยให้รากผมแข็งแรงมากขึ้น จึงมีความสำคัญเท่าๆ กับสีผมที่สวย และความนุ่มลื่นจากน้ำมันมะพร้าว

สารสกัดดอกอัญชัน

ในดอกอัญชันมีสารที่เรียกว่า แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่แชมพูเปลี่ยนสีผมส่วนใหญ่ แบบที่ไม่มีสารเคมี จะใช้เป็นส่วนประกอบร่วมในผลิตภัณฑ์ และด้วยตัวสารแอนโทไซยานิน หรือนำมาเป็นสารสกัดในแชมพูย้อมผมนั้น มีส่วนช่วยให้เส้นผมนอกจากจะมีความแข็งแรงแล้วนั้น ยังช่วยให้เส้นผมสีดำสนิท และมีความหนาเพิ่มมากขึ้น จึงนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบของ แชมพูย้อมผม หรือที่ช่วยในการปิดผมขาว

สารสกัดน้ำมันมะพร้าว

เป็นส่วนประกอบที่ช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผม โดยเฉพาะแชมพูเปลี่ยนสีผม ในแบบที่ไม่มีสารเคมี แบบสระผมทิ้งไม่กี่นาที เมื่อผ่านการย้อมสีผมแล้ว จะมีการเติมความชุ่มชื่นให้กับเส้นผม  ด้วยน้ำมันมะพร้าวที่เราต่างรู้ดีว่า ช่วยให้ผมมีความนุ่มลื่น แทนการใช้ซิลิโคน หรือ ลาโนลีน ที่มีคุณลักษณะให้ความนุ่มลื่นคล้ายกัน

ว่านหางจระเข้

ส่วนประกอบที่เป็นว่านหางจระเข้ มีความคล้ายกับน้ำมันมะพร้าว ตรงที่เป็นส่วนเสริมในการบำรุงเส้นผม หลังจากผ่านการย้อมผม ซี่งช่วยในการเติมความชุ่มชื่นให้กับเส้นผม และป้องกันไม่ให้ผมมีสภาพเสียจากการย้อมผม

มะกรูด

ส่วนใหญ่แชมพูเปลี่ยนสีผมจะเน้นในการสกัด ให้ได้น้ำมันจากผิวมะกรูด ช่วยในเรื่องให้ผมมีความดำ, หนานุ่ม และลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมได้อีกทาง ดังนั้นตัวมะกรูดนั้น จึงมีการนิยมนำมาใช้ในแชมพูเปลี่ยนสีผม ที่เน้นเรื่องการปกปิดผมขาว

คล้ายกับดอกอัญชัน ที่ถึงแม้ว่าจะมีน้ำยาที่ใช้ในการย้อมผม แต่ก็จะมีสารสกัดธรรมชาติเหล่านี้ มาช่วยในการบำรุงรักษาเส้นผมร่วมด้วย ที่ถึงแม้ว่าสีผมอาจจะจางเร็วกว่าแบบมีสารเคมี แต่ก็มีความปลอดภัยมากกว่า

2.แชมพูย้อมผมแบบมีสารเคมี

สารโซเดียม ลอริล ซัลเฟต (Sodium Laurly Sulfate)

เป็นสารชะล้างที่มีความรุนแรง ใช้ในการฟอกสี หรือย้อมสีผม

สารกลุ่มซิลิโคน (Dimethicone)

คุณสมบัติคล้ายกับลาโนลีน เน้นในเรื่องให้เส้นผม มีความนุ่มลื่น และหวีได้ง่าย โดยสารตัวนี้จะไปเคลือบที่เส้นผม ซึ่งก็จะมีประเภทที่สามารถชำระล้างได้ด้วยน้ำแบบง่ายๆ หรือแบบที่สามารถล้างออกได้ด้วย การสระผมด้วยแชมพูเท่านั้น

ซึ่งตลอดทั้งวันที่มีสารซิลิโคนนนี้ เคลือบอยู่ที่เส้นผมของเรา ถึงแม้จะช่วยในการปกป้อง แสงแดด หรือฝุ่นต่างๆ ที่จะเข้ามาในเนื้อในผมได้ แต่ก็เป็นการปิดกั้นเนื้อผม ไม่ให้มีการระบายของเสีย หรือการรับอาหารเส้นผมเข้าไปได้

อีกทั้งหากมีการใช้ไปในระยะเวลาที่นานเข้า เป็นอีกสาเหตุ หรือปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาของ ผมหลุดร่วงเป็นการชั่วคราว หรือถาวรร่วมด้วย ซึ่งหากเราเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อย่าง แชมพูเปลี่ยนสีผม ที่ใช้ปกปิดผมขาวได้เนียนสนิท ใช้สระผมได้ง่ายๆ ไม่กี่นาที ควรมีการบำรุงเส้นผมหลังการย้อมผม และควรเลี่ยงการใช้สารซิลิโคน หรือเน้นไปใช้ส่วนประกอบที่เป็นธรรมชาติแทน

สารกลุ่มไดเอทธานอลาไมด์ (Diethanolamide)

เราสามารถสังเกตได้ง่ายๆ เมื่อเราย้อมผม และมีสารที่ทำให้เกิดฟองขึ้นมา มีความเข้มข้นของตัวสีที่ใช้ในการย้อมผม ซี่งทั้งหมดนี้อาจจะก่อให้เกิดการแพ้ให้กับผู้ใช้ ทั้งกลิ่น, การสัมผัสของหนังศีรษะ รวมถึงการโดนผิวหนัง ที่อาจทำให้เกิดผื่นแดงขึ้นมาได้

สารกลุ่มลาโนลีน (Lanoline)

เป็นสารสังเคราะห์ ที่มีการทดแทนลาโนลีน ที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตทั้ง ครีมให้ความชุ่มชื่น , ครีมทาผิว เพื่อเพิ่มความนุ่มนวลให้กับผิว หรือหากเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ สำหรับเส้นผม ก็จะช่วยให้เส้นผมนั้น มีความนุ่มลื่น มีการยึดเกาะเส้นผมได้เป็นอย่างดี ในการคลุมเนื้อผม เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมโดนควาร้อน หรือโดนสิ่งที่จะมาทำลายเส้นผม มีลักษณะคล้ายกับซิลิโคน

ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสารตัวลาโนลีนนี้ หรือกลุ่มสารเคมีข้างต้นก็ตาม ส่วนใหญ่จะใช้เป็นส่วนประกอบในแชมพูเปลี่ยนสีผม แบบใช้สารเคมี ที่มีการใช้งานง่ายๆ ในแบบสระ ที่มีลักษณะทำลายเส้นผมไม่ต่างจาก ครีมกัดสีผม ,น้ำยาโกรกผม , สีย้อมผม , น้ำยาดัดผม , น้ำยายืดผม ที่มีส่วนทำให้ผมเสีย

หากเรามีการใช้แชมพูย้อมผมในรูปแบบนี้นั้น ควรที่จะพิจารณาผลิตภัณฑ์ในการดูแลเส้นผมร่วมด้วย อย่างเช่น ครีมหมักผม , ครีมหมักผมเคราติน วิตามินบำรุงผม , ทรีทเม้นท์ผม , ครีมนวดผม ร่วมด้วย เพื่อปรับสภาพเส้นผมให้มีความนุ่มสวย และช่วยให้ผมไม่เสียจากการย้อมผม

แอมโมเนีย

หรือในชื่อแอมโมเนียไฮดรอกไซด์นั่นเอง ที่มีคุณสมบัติในการทำละลาย รวมถึงเป็นตัวทำให้ชั้นนอกของเส้นผมแยก เพื่อให้สีย้อมยึดติดเข้าไปด้านใน มีสีย้อมที่ติดแน่น ด้วยความแรงของกลิ่นนั้น ทำให้ผลิตภัณฑ์แชมพูเปลี่ยนสีผม แบบสระ ในปัจจุบันนี้ เห็นในผลเสีย และมีการออกมาแบบปราศจากแอมโนเนียกันเยอะมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้งาน ที่ไม่ต้องการสูดดมกลิ่นในขณะที่ย้อมผม

วิธีใช้แชมพูย้อมผม

1.สระผมด้วยแชมพู เพื่อล้างความมันออกไปจากเส้นผม เพราะหากเส้นผมมีความมัน จะทำให้สีย้อมไม่ติดผม หรือติดได้ไม่ดีพอ โดยเฉพาะการย้อมแบบปกปิดผมขาวด้วยแล้ว อาจจะมีหลงเหลือผมขาวให้เห็นอยู่

2.หลังสระผมเรียบร้อยแล้ว ให้เช็ดผมจนไม่มีน้ำหยด หรือเช็ดผมให้แห้งหมาดๆ

3.สวมถุงมือ และลงแชมพูที่บริเวณโคนผมก่อน

3.1หากเป็นผู้ที่ต้องการย้อมผมตามแฟชั่น ลงยาย้อมที่โคนผมให้ทั่วกันหมด ไม่ควรเน้นที่โคนมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ยาย้อมไม่พอสำหรับการย้อมทั้งศีรษะ

3.2 หากเป็นการย้อมเพื่อปกปิดผมขาว ควรเน้นที่โคนเช่นกัน แต่นอกจากนั้นก็ควรลงแชมพูเปลี่ยนสีผม ที่โคนผมด้านในร่วมด้วย ในกรณีที่มีผมหนา

4.จากนั้นนวดให้ตัวสียาย้อมทั่วทั้งศีรษะ รวมถึงปลายเส้นผม

5.ทิ้งไว้เป็นเวลาอย่างต่ำ 20 นาที แต่ไม่ควรทิ้งไว้นานจนเกิน 40 นาที เพราะไม่ว่าจะเป็นแชมพูเปลี่ยนสีผมแบบธรรมชาติ หรือแบบมีสารเคมี การให้สียาย้อมหมักที่ผมเป็นเวลานาน ก็จะส่งผลเสียให้กับเส้นผมได้เหมือนกัน

ข้อดีของการใช้แชมพูย้อมผม

1.ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน

การลดขั้นตอน และการประหยัดเวลา ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ใครหลายคน หันมาย้อมผมเองที่บ้าน โดยเฉพาะผู้ที่มีผมขาวด้วยแล้ว ซี่งต้องมีการย้อมผมตลอดทุกอาทิตย์ หรือทุก 2 อาทิตย์ ที่จะมีโคนผมงอกออกมาใหม่เป็นสีขาว ตรงไรผมด้านหน้า และกลางศีรษะที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน

2.กลิ่นไม่ฉุน

หากเราเลือกใช้แชมพูเปลี่ยนสีผม ในแบบธรรมชาติ ก็จะช่วยให้ไม่มีทั้งกลิ่นฉุนจากแอมโมเนีย และการเสี่ยงต่ออาการแสบคันที่หนังศีรษะร่วมด้วย

3.ทำได้บ่อย และมีราคาถูก

เป็นส่วนดีที่เป็นจุดน่าดึงดูดมากๆ สำหรับผู้ที่ชอบเปลี่ยนสีผมบ่อยๆ ตามเทรนด์แฟชั่น หรือเมื่อผมเริ่มยาวมากขึ้น ก็สามารถเลือกสีย้อมใหม่ได้

วิธีเลือกซื้อแชมพูย้อมผม

1.เลือกเฉดสี

ในบางยี่ห้อสำหรับแชมพูย้อมผมนั้น จะมีการเน้นผลิตเพียงแค่สำหรับการปกปิดผมขาวแบบเนียนสนิทเท่านั้น แต่อีกหลายยี่ห้อ ที่ถึงแม้จะทำแชมพูเปลี่ยนสีผม ในหลากหลายสี ก็มีการแบ่งออกเป็น สีย้อมในแบบสีดำ, สีเฉดกลุ่มน้ำตาล, สีเฉดในกลุ่มเทา เป็นในแนวสีคุมโทน แต่ในบางยี่ห้อจะเน้นในการทำสีย้อม ที่ออกมาเป็นแนวแฟชั่น ที่เน้นความจัดจ้าน และความเข้มของสีย้อม เช่นเฉดสีแดง, เฉดสีชมพู หรือเฉดสีเขียว

2.เลือกแบบไม่มีสารเคมี

ไม่เพียงแต่ตัวผลิตภัณฑ์ในการเปลี่ยนสีผม อย่างแชมพูเปลี่ยนสีผมนี้เท่านั้น ที่มีผู้ใช้นิยมแบบไม่มีสารเคมีกันเพิ่มมากขึ้น แต่หมายถึงผลิตภัณฑ์เส้นผมไม่ว่าจะเป็น แชมพู หรือ ทรีทเม้นท์ก็ตาม ก็มีการหันมาใช้ส่วนประกอบที่ไม่มีสารเคมีเข้ามา อย่างเช่น ตัวผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม ที่เน้นว่า ปราศจากแอมโมเนีย, ปราศจากซิลิโคน หรือ Silicone Free เป็นต้น

3.เลือกแบบมีสารบำรุงผม

ไม่ว่าจะเป็นเคราติน ที่จะเป็นสารอาหารจำเป็นเข้าไปบำรุงเส้นผม, เปปไทด์, สารสกัดสาหร่ายทะเล, น้ำมันมะพร้าว หรือว่านหางจระเข้ เป็นต้น

เปลี่ยนสีผมด้วยยาย้อมแบบสระ ดีมั้ย

สรุป

แชมพูย้อมผม สำหรับผู้ที่ติดกับการย้อมผม หรือเปลี่ยนสีผมอยู่ตลอดเวลา และรวมถึงผู้ที่มีความจำเป็น ต้องใช้เพื่อปกปิดผมขาวให้เนียนสนิทด้วยแล้ว ถือว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้เป็นประโยชน์อย่างมาก สำหรับการใช้งานจริง ที่ไม่ต้องเสียเวลาในการย้อมผม หรือไม่ต้องมีขั้นตอนยุ่งยากอะไร เพียงแค่แกะห่อ หรือแกะกล่องออกมา และมีการใช้งานเหมือนกับแชมพูสระผมทั่วๆ ไป

ด้วยการสระผมทิ้งเอาไว้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ก็ทำให้เราสามารถเปลี่ยนสีผมได้แบบง่ายๆ ที่บ้านได้ อีกทั้งยังมีสีที่ดูเป็นธรรมชาติ เป็นสูตรที่ปลอดภัย และเป็นแชมพูเปลี่ยนสีผมในแบบสระ ที่ไม่มีสารเคมี ไม่ว่าเราจะย้อมผมบ่อยแค่ไหน ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีตกค้างอีกต่อไป

ดูแลบทความโดย พิมพ์ฉัตร

ยุ้ย พิมพ์ฉัตร การศึกษาปริญญาตรี บริหารทรัพยากรมนุษย์ มีประสบการณ์และเป็นนักค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เป็นนักทดสอบผลิตภัณฑ์ออกใหม่เพื่อดูแลเส้นผมแบรนด์ดังหลายแบรนด์

• Facebook
• X
• Line