10 รองพื้น ยี่ห้อไหนดี 2024 กันน้ำ กันเหงื่อ ปกปิดดี คุมมัน ใช้ดีมาก

รองพื้น คืออะไร

คือ หนึ่งในเครื่องสำอางที่มีหลากหลายไอเท็ม ที่นอกจากจะมีประโยชน์ในการเติมแต่งความสวยให้กับผู้หญิงแล้วนั้น ยังมีคุณสมบัติในการปกปิดริ้วรอย, หรือจุดตำหนิต่างๆ บนใบหน้า จริงๆ แล้วรองพื้น หรือ Foundation ถือว่า เป็นหมวดในเครื่องสำอางที่ใช้ในการปกปิด ริ้วรอย หรือจุดตำหนิบนใบหน้าตัวแรก จากนั้นถึงมีไอเท็มในแบบคล้ายกัน แต่มีการใช้งานที่เป็นขั้นตอนการแต่งหน้ามากขึ้น อย่างเช่น เบส และคุชชั่น เป็นต้น

การใช้ Foundation นั้นถือว่าเป็นเหมือนการรากฐาน ของการแต่งหน้าในเรื่องเฉดสีให้เข้ากับสีผิวหน้าจริง, การปกปิดริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นรอยเหี่ยวย่น, รอยด่างดำ, รอยแผลเป็นจากสิว หรือรอยฝ้าและกระต่างๆ บนใบหน้า อย่างที่เราหลายคนเคยเปรียบว่า นักแต่งหน้ามืออาชีพ หรือ Make Up Stylist นั้นเหมือนกับจิตกร ที่เปลี่ยนจากผ้าใบเป็นใบหน้าของผู้หญิงแทน

การแต่งหน้าจึงอาจไม่ใช่เพียงแค่การลงเฉดสี ที่มีแสงและเงา และการใช้เครื่องสำอางที่ดีเท่านั้น แต่ต้องทำให้ผู้ที่แต่งหน้ามีความสวย ในแบบของแต่ละคน และมีผิวหน้าที่เรียบเนียน รวมถึงเราจะรู้กันเลยว่า การแต่งหน้าจะสวยและดูดีในขั้นตอนสุดท้ายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัว Foundation ที่ต้องมีคุณสมบัติในการปกปิดดี, ช่วยคุมมัน, มีเนื้อบางเบา ที่สำคัญคือคนเป็นสิว และผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ดี โดยมีคุณสมบัติร่วมด้วยคือ กันน้ำ และกันเหงื่อได้

ซึ่งนอกจากการแต่งหน้าในแบบที่เน้นในความสะดุดตา เพื่อให้เหมาะสมกับงานที่ต้องไปอย่างเช่น งานเลี้ยงฉลอง หรืองานกลางคืน สำหรับการแต่งหน้าในแต่ละวัน รวมถึงเทรนด์การแต่งหน้าที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นในฝั่งตะวันตก หรือในโซนเอเชียอย่างเทรนด์เกาหลีนั้น ทั้งผู้หญิง ผู้ชายที่หากมีการแต่งหน้าแล้ว จะเน้นให้หน้าดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด และใครจะเชื่อว่า การลงรองพื้นนั้น ที่ใครหลายคนมองว่าดูหนักหน้า เราสามารถแต่งให้ดูบางเบาได้

แรกเริ่มเราได้พูดถึงว่า Foundation นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในไอเท็มสำคัญของเครื่องสำอาง ที่ใช้ในการแต่งหน้า และต้องบอกว่าเป็นหนึ่งตัวหลัก ที่หากขาดไปสำหรับการแต่งหน้าแล้ว อาจจะทำให้ผู้หญิงหลายคนรู้สึกว่า การแต่งหน้าในครั้งนั้นไม่สมบูรณ์แบบสักเท่าไหร่ เราลองมาดูกันว่า เครื่องสำอางตัวหลักๆ ที่ผู้หญิงทุกคนควรจะมีไว้สำหรับการแต่งหน้านั้น มีอะไรกันบ้าง

คุณสมบัติของรองพื้นที่ดี

กันน้ำ กันเหงื่อ

ซึ่งคุณสมบัติในเรื่องของการกันเหงื่อ และกันน้ำได้ดีนี้ มีผลดีต่อผู้ที่มีปัญหาผิวมัน และคนเป็นสิวได้ง่าย ซึ่งช่วยในเรื่องคุมมัน และไม่ก่อให้เกิดการสะสมของไขมัน และสิ่งสกปรกที่มาพร้อมกับเหงื่อที่รูขุมขน อีกทั้งยังช่วยให้เครื่องสำอางไม่ติดแมสอีกทางหนี่ง

ปกปิดดี รอยสิว รอยดำ รอยแดง

คุณสมบัติของเครื่องสำอาง Foundation ในเรื่องการปกปิดรอยต่างๆ บนใบหน้านี้ เป็นที่ยอมรับสำหรับผู้ที่แต่งหน้าอยู่เป็นประจำ และถือว่าเป็นเครื่องสำอางชิ้นสำคัญหนึ่ง ที่ขาดไมได้ทั้งบนโต๊ะเครื่องแป้ง เพราะนอกจากจะช่วยให้ปกปิดรอยต่างๆ ได้ดีแล้ว ยังช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติไปพร้อมๆ กันอีกด้วย

คุมมัน

รองพื้นที่ใครๆ เคยคิดว่าการปกปิดริ้วรอยต่างๆ ได้ดีนั้น ต้องมาพร้อมกับความมันเยิ้ม แต่ในความเป็นจริงนั้นเป็นความเข้าใจผิด เพราะเราสามารถเลือกให้ตรงกับผิวหน้า และปัญหาผิวหน้าของเราได้เฉพาะมากกว่านั้น

โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวหน้ามัน การเลือก Foundation ให้มีการคุมมันเอาอยู่นั้น สามารถเลือกได้แบบ Matte Foundation ที่มีเนื้อแห้งเร็ว ไม่มันเยิ้ม หรือ For Oily Skin เน้นเฉพาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้ามัน เป็นต้น

บางเบา ไม่หนักหน้า

Foundation ที่มีคุณสมบัติที่ดีในรูปแบบนี้นั้น เราจะสังเกตได้ทันทีตั้งแต่การเกลี่ยลงบนผิวหน้า นั่นก็คือ จะมีการเกลี่ยที่ง่าย ไม่มีการจับติดกับเป็นกลุ่มก้อนจุดใดจุดหนี่งบนใบหน้า และไม่รู้สึกว่าหน้าดูหนา

เราสามารถสังเกตได้ว่า จะมีการเน้นที่ตัวรุ่นผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น Natural Grow Foundation หรือ Silk Grow Foundation รวมถึงส่วนประกอบที่มีทั้งกลีเซอรีน, วิตามินอี และไฮยาลูโรนิค เป็นต้น

บีบี กับ รองพื้น ต่างกันยังไง

บีบี คือผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่เปิดตัวแตกไลน์หลังจากที่มี Foundation ไปแล้วคือ เป็นการเน้นให้ผู้แต่งหน้ามีความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น มีส่วนประกอบเครื่องสำอางในการแต่งหน้าภายในตัวบีบี หรือ Beauty Balm ที่สามารถเรียกได้อีกชื่อคือ Blemish Balm ความหมายที่แปลได้ตรงตัวคือ ไอเท็มเครื่องสำอางที่เน้นในการปกปิดได้ทุกริ้วรอย แม้กระทั่งฝ้านั่นเอง

ส่วนประกอบของบีบีนั้น เรียกได้ว่ามีครบจบทุกอย่างที่ตัวเดียวนี้คือ เบส, ครีมกันแดด, และรองพื้น ซึ่งบางยี่ห้อนั้นจะมีการเสริมคุณสมบัติที่น่าสนใจ ในส่วนประกอบเพิ่มเติมคือ การใส่มอยส์เจอร์ไรเซอร์ลงไปด้วย เพิ่มช่วยในการบำรุงผิวหน้าไปพร้อมกัน ซึ่ง บีบี ครีม กับ บีบี คุชชั่นก็มีความหมาย และการใช้งานแบบเดียวกันนั่นเอง

แต่ไม่ว่าเราจะใช้เครื่องสำอางในแต่ละวัน สำหรับการแต่งหน้าแบบไหนก็ตาม ควรที่จะมีการเน้นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าร่วมด้วย ตัวอย่างเช่น เซรั่มเกาหลี , ฮาดะลาโบะ , ครีมกระชับรูขุมขน , เซรั่มหน้าใส , ครีมลดริ้วรอย , น้ำตบ , ครีมรกแกะ , วิตามินบำรุงผิว , ครีมบำรุงผิวหน้า , โคลนพอกหน้า เพื่อเหมือนเป็นการทำสปาผิวหน้า และเติมความชุ่มชื่นเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหน้าอยู่ตลอด

รองพื้น คือส่วนหนึ่งในเครื่องสำอางแบบเดียวกับ บีบี หรือ บีบี ครีมนั่นเอง มีคุณสมบัติในการใช้ปกปิดริ้วรอยทั้งจุดด่างดำ, รอยแดงจากสิว, ริ้วรอยความเหี่ยวย่น, รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว หรือแม้แต่กระฝ้าต่างๆ ที่มีกระจายทั่วใบหน้า เราก็สามารถใช้ได้ทั้ง Foundation และบีบี แต่ตัว Fondation นั้นจะต้องมีการทาครีมกันแดด, ครีมบำรุงต่างๆ แยกต่างหาก ซึ่งไม่มีผสมลงในตัวรองพื้น

แต่หากเราจะเลือกรองพื้น ที่มีส่วนประกอบของครีมกันแดดนั้น เราอาจจะต้องไปเลือกในหมวดของครีมกันแดดที่เป็นตัวหลัก และมีการใส่ส่วนผสมของรองพื้นเข้าไป โดยหลักๆ แล้วผู้ที่ยังนิยมในการใช้ Foundation อยู่นั้น จะเป็นผู้ที่ต้องการเน้นการใช้ตัวบำรุงผิวแยกต่างหาก หรือเป็นผู้ที่ต้องการเลือกไอเท็มบำรุงผิวด้วยตัวเอง อย่างเช่น เลือกใช้เซรั่มมากกว่า ครีมบำรุงผิวที่อยู่ในเนื้อครีม บีบี เป็นต้น

ทั้งหมดก็สรุปตรงที่ว่า ความแตกต่างระหว่างบีบี และ ตัว Foundation นั้นก็ขึ้นอยู่ที่ความเหมาะสมของผิวหน้าแต่ละคน, ความสะดวกในการใช้งาน และความคุ้นเคยในการใช้แต่งหน้าของสาวๆ แต่ละคนร่วมด้วย ซึ่งบางคนสามารถมีทั้งแบบ บีบี ครีม และตัว Foundation ในการเลือกใช้ที่ต่างโอกาส และการแต่งหน้าที่แตกต่างกันไปในแต่ละวันอีกด้วย

วิธีเลือกซื้อรองพื้น

1.แยกตามลักษณะผิวหน้า

ผิวแพ้ง่าย

เราสามารถสังเกตในการเลือกพิจารณาซื้อได้ง่ายๆ คือ การมีคำระบุไว้ว่า Pornless คือไม่อุดตันรูขุมขน, Oil Free คือไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ต่อผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย, มีส่วนประกอบของ Sodium Hyaluronate ที่เน้นให้ความชุ่มชื่นกับผิวหน้า เป็นตัวช่วยหนึ่งที่ไม่ทำให้ผิวหน้าเกิดการแพ้ได้

ผิวแห้ง

ควรที่จะเลือกลักษณะ Foundation ที่มีความเป็นน้ำ หรือของเหลวที่เป็นแบบขวด หรือเป็นแบบครีม ที่เน้นในเรื่องความชุ่มชื่นเมื่อลงเรียบร้อยแล้ว และหลีกเลี่ยงการใช้ในรูปแบบที่เป็นเนื้อแมตต์ หรือ Matte Foundation

ที่จะให้เนื้อสัมผัสหลังจากการลงรองพื้นเรียบร้อยแล้ว ที่มีความแห้งมากจนเกินไป สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง และอาจเกิดปัญหาที่ตามมา สำหรับในเรื่องรองพื้นเป็นขุย และไม่มีสีไม่เสมอกัน รวมถึงผิวหน้าไม่เนียบเรียบร่วมด้วย

ผิวเป็นสิวง่าย

เน้นพิจารณาผลิตภัณฑ์ Foundation ที่มีระบุสำหรับ  Acne Skin คือเหมาะกับคนเป็นสิว หรือผิวแพ้ง่าย, Matte Foundation เนื้อบางเบาใช้ได้ ช่วยให้หน้าไม่หนัก ดูเป็นธรรมชาติ และไม่ก่อให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขน รวมถึงสารสกัดจาก Tea Tree ที่เน้นในเรื่องการดูแลไม่ให้เกิดสิวโดยเฉพาะ

2.แยกตามเฉดสีผิว

เราสามารถเรียกการแยกตามเฉดสีผิวนี้ได้อีกแบบคือ การดูที่ Undertone สีผิวของเราเอง ที่สังเกตได้จากเส้นเลือกที่ข้อมือในขณะที่หงายได้ชัดเจนที่สุด ซึ่งการแยกเฉดสีผิวตัวเองได้ชัดเจนจากรูปแบบนี้นั้นจะช่วยให้เราสามารถเลือกเฉดสีของ Foundation ได้ดียิ่งขึ้นไปด้วย

ซึ่งในแต่ละ Undertone นั้นไม่ว่าจะเป็น Cool, Neutral, และ Warm นั้นจะมีตั้งแต่สี Foundation ที่อ่อนไปจนถึงสีเข้ม ให้สามารถเลือกเหมาะสมกับการแต่งหน้าในแต่ละวันได้

เฉดสีม่วง

เราจะเรียกว่าอยู่ในโทน Undertone Cool ที่เน้นไปทางสาวๆ ที่มีผิวขาวในระดับที่มาก ซึ่งหากเป็นการเทียบลักษณะสีผิวสำหรับโทน Cool นี้แล้วนั้น สาวๆ จะมีสีผิว Undertone สีแดง, สีน้ำเงิน และสีชมพู ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มสาวๆ ในโซนประเทศเกาหลี หรือญี่ปุ่น ที่มีผิวขาวเป็นพิเศษ

เฉดสีฟ้า หรือสีเขียว

เป็นเฉดที่อยู่ใน Undertone Neutral โดยที่สาวๆ บ้านเราส่วนใหญ่จะอยู่ในโซนเฉดสีนี้กัน เป็นส่วนผสมของเฉดสี Undertone Cool กับ Undertone Warm ซึ่งเหมือนกันคือ จะมีเฉดสีของ Foundation ให้เลือกตั้งแต่เฉดสีอ่อนไปจนถึงเฉดสีเข้มกันเลยทีเดียว

เฉดสีเขียวเข้ม

จัดอยู่ในเฉดสีที่เรียกว่า Undertone Warm ซึ่งหากเปรียบเทียบกับ 2 เฉดสีข้างต้นแล้วนั้น เราจะสังเกตได้ว่า มีระดับเฉดสีของ Foundation ที่เข้มมากกว่า และใช้ได้อย่างเหมาะสมกับผู้ที่มีโทนสีผิว Undertone สีเหลือง, สีทอง และสีพีช

3.เลือกประเภทเนื้อสัมผัส

ซึ่งในแต่ละประเภทก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันเล็กน้อย อย่างเช่น หากเป็นเนื้อครีม หรือแบบลิควิดนั้น จะมีความชุ่มชื่น และมีความฉ่ำในเนื้อของ Foundation ซึ่งเหมาะกับผิวแห้ง หรือผู้ที่มีผิวมัน, ผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่เป็นสิวง่ายนั้น เหมาะสมกับ เนื้อแมตต์ หรือ Matte Foundation มากกว่า เพราะจะให้ความแห้ง, เนียน และไม่เกิดการสะสมของเนื้อ Foundation ได้เท่ากับ เนื้อครีม หรือลิควิด เป็นต้น

• ประเภทน้ำหรือเนื้อลิควิด (Liquid Foundation)
• ประเภทเนื้อแมตต์ (Matte Foundation)
• ประเภทเนื้อมูส (Mousse Foundation)
• ประเภทเนื้อครีม (Cream Foundation)
• ประเภทเนื้อแป้ง (Powder Foundation)

4.ทดสอบกับสีผิวตัวเอง

เราสามารถที่จะมีวิธีในการทดสอบเฉดสีของ Foundation หลังจากที่เราเลือก Undertone ผิวเดิมของเราแล้ว และสามารถเลือกได้ว่า ประเภทของเนื้อ Foundation แบบไหนที่เหมาะกับสภาพผิวของเราเอง การพิจารณาเลือกในแบบนี้ ค่อนข้างจะช่วยให้การเลือกเฉดสีของ Foundation ได้ตรงกับสีผิวของเรา ตำแหน่งที่ใช้ทดสอบที่ดีที่สุดคือ หลังมือที่เราจะเห็นการเปรียบเทียบของสีผิวกับ เฉดสีของ Foundation ได้มากที่สุด

5.หลีกเลี่ยงส่วนประกอบที่เป็นสารอันตราย

ส่วนประกอบอย่างเช่น ซิลิโคน ที่นอกจากจะทำให้ผิวหน้าเราอุดตัน, เกิดสิว และเกิดอาการแพ้ที่ผิวหน้าได้อย่างไม่น่าเชื่อแล้ว สารที่ชื่อ ไมกา หรือ Mica นั้นถึงแม้จะเป็นสารที่มาจากแร่จากธรรมชาติก็ตาม แต่มีความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ใช้ เกิดมะเร็งโพรงจมูก และมะเร็งปอด รวมถึงหัวน้ำหอม, สารเติมแต่งกลิ่นต่างๆ และแอลกอฮอล์ร่วมด้วย ที่มีผลกระทบต่อผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย

วิธีลงรองพื้นให้เนียนและไม่ให้ติดแมส

ก่อนที่เราจะลงลึกถึงวิธีในการลง Foundation เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเครื่อสำอาง ที่เราแต่งหน้ามาทั้งหมดติดแมส หรือหน้ากากอนามัยที่เราสวมใส่ไว้ ซึ่งก็จะก่อให้เกิดปัญหาสิ่งสกปรกตามมาพร้อมกับเหงื่อ และความร้อน รวมถึงอาจส่งผลให้ดูไม่สวยงาม เมื่อต้องถอดแมสออกมา พร้อมกับมีคราบเครื่องสำอางติดที่ตัวแมสอีกด้วย

การเลือกใช้ Foundation นั้นมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่า วิธีและขั้นตอนการเกลี่ยลงบนใบหน้าเลย ควรที่จะเลือกผลิตภัณฑ์ Foundation ที่มีเนื้อแมตต์ หรือที่มีการระบุไว้ที่ตัวผลิตภัณฑ์ดังนี้คือ Matte Foundation, Lasting Foundation, Ultra Wear Foundation หรือ กันน้ำ, กันเหงื่อ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการยืนยันได้ว่า เมื่อเราใช้แล้วผลิตภัณฑ์ที่เป็นรองพื้นนี้ จะไม่ติดแมสอย่างแน่นอน

1.หยดรองพื้นที่มีการระบุตามข้างต้นนี้ เพียงปริมาณเม็ดถั่วเขียวเท่านั้น ลงบนจุดสำคัญบนใบหน้า อย่างเช่น หน้าผาก, จมูก, แก้ม และคาง

2.ใช้นิ้วมือเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าในทางด้านข้าง คือจากส่วนกลางใบหน้า ไปด้านข้างซ้าย และด้านข้างขวาให้ทั่ว หรือสามารถใช้ฟองน้ำแทนได้

3.เมื่อเกลี่ยจนทั่วใบหน้าแล้ว ให้ใช้นิ้ว หรือฟองน้ำกดเบาๆ ทั่วบริเวณที่ลง Foundation ให้เนื้อเครื่องสำอางลงลึก และติดทนกับผิวหน้าของเรา

4.เมื่อแห้งดีแล้วเราสามารถที่จะทาแป้ง ได้ง่าย และได้ผิวหน้าที่เรียบเนียน, มีความบางเบา และช่วยในการปกปิดดีอีกด้วย ที่สำคัญคือ สาวๆ จะหมดห่วงเครื่องสำอางไม่ติดแมสอีกต่อไป

คำถามที่พบบ่อย

รองพื้นกับไพรเมอร์ลงตัวไหนก่อน

เราควรที่จะลงไพรเมอร์ก่อน เพื่อเป็นการปรับสภาพผิวหน้าให้เรียบเนียนเสียก่อน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้า อย่างเช่น รอยหลุมสิว หรือริ้วรอย และฝ้ากระ จากนั้นจึงค่อยลง Foundation ตามหลัง เพื่อช่วยในการปรับเฉดสีผิวหน้าให้เข้ากับผิวตัว และช่วยให้หน้าดูเป็นธรรมชาติ เมื่อทาแป้งอีกด้วย

ทารองพื้นแล้วต้องทาแป้งไหม

ส่วนใหญ่แล้วแนะนำให้ควรทาแป้ง หลังจากที่มีการลง Foundation แล้ว เพื่อที่จะช่วยให้ผิวหน้า ดูสวยใสแบบเป็นธรรมชาติ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ และโอกาสร่วมด้วย อย่างเช่น หากเราเพียงแค่วิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ หรือเข้าฟิตเนสเท่านั้น สำหรับสาวๆ บางคนก็นิยมที่จะทาแค่ Foundation เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะอย่างไรก็ดี หลังการออกกำลังกายก็ต้องอาบน้ำอีกรอบอยู่แล้ว

รองพื้น กับ กันแดด ทาอะไรก่อน

ลำดับที่ถูกต้องคือ เราควรที่จะทาครีมกันแดดก่อนที่จะลง Foundation และเมื่อทาครีมกันแดดแล้วนั้น ควรที่จะรออีก 1-2 นาทีแล้วจึงค่อยลง Foundation ต่อ เพื่อให้ครีมกันแดดมีความแห้ง และเซ็ตตัวติดกับผิวหน้าก่อนนั่นเอง

สอนลงรองพื้นให้ผิวสวยเนียน แชร์ทุกเทคนิคให้เหมาะกับแต่ละสภาพผิว มือใหม่ควรรู้

สรุป

เครื่องสำอางที่เรามักจะเรียกกันติดปากว่า Foundation หรือที่เน้นคุณสมบัติในเรื่องของการปกปิดริ้วรอยต่างๆ ได้ดีนั้น ที่ไม่ได้มีเพียงการช่วยให้ผิวหน้าของเรา ดูเรียบเนียนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผิวหน้าของเราดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ความรู้สึกบางเบา โดยที่มีหลายสูตรให้เลือกทั้ง คนผิวแพ้ง่าย และสูตรสำหรับคนเป็นสิว ที่สามารถคุมมันไปพร้อมๆ กับกันน้ำ และกันเหงื่อ รวมถึงเครื่องสำอางก็ไม่ติดแมสอีกต่างหาก

ดูแลบทความโดย ปรียานุช

เป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ผู้เชี่ยวชาญทดลอง และเป็นนักรีวิวเครื่องสำอางตัวยง ถนัด และชื่นชอบการแต่งหน้า และลองเครื่องสำอางใหม่ๆอยู่เสมอ

• Facebook
• X
• Line