ที่หนีบผม คืออะไร
คือ อุปกรณ์ที่เน้นช่วยให้ผมเรียบตรง ด้วยการทำงานของแผ่นความร้อนในตัวเครื่อง โดยใช้ความร้อนในการทำให้เส้นผมตรง ที่หนีบผมสามารถปรับแต่งทรงผม ให้ดูมีวอลุ่ม รวมถึงวัสดุที่นำมาผลิตเป็นแผ่นความร้อน ยังช่วยเป็นตัวถนอมและไม่ทำร้ายเส้นผม และก่อนการใช้เครื่องหนีบผมนี้ ไม่ควรลืมที่จะใช้ร่วมกับทรีทเม้นท์ผม ที่มีส่วนประกอบป้องกันความร้อน เพื่อช่วยดูแลเส้นผมให้นุ่มลื่น และเรียบตรงได้เงางาม
ที่หนีบผม วิธีใช้ให้ผมตรงนาน
เครื่องหนีบผมนอกจากที่เรามักจะมองเห็นประโยชน์ ในเรื่องการช่วยให้เส้นผมมีความตรง และไม่ชี้ฟูแล้ว ในอีกทางหนี่งยังถือว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับทำผมที่ขาดไม่ได้ สำหร้บร้านเสริมสวย สำหรับขั้นตอนการยืดผมด้วยอีกส่วนหนี่ง และที่สำคัญคือ ก่อนที่เราจะมาถึงวิธีการใช้ หรือขั้นตอนการใช้เครื่องหนีบผมนี้นั้น ตัวอุปกรณ์ก็มีความสำคัญ เพราะเครื่องหนีบผมที่ดีนั้น จะช่วยให้ผมมีน้ำหนัก และวอลุ่มหลังการใช้
อีกทั้งยังถือว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับทำผมที่ถูกและดี ที่แนะนำคือ ต้องมีคุณสมบัติในการถนอมเส้นผม และไม่ทำให้ผมเสีย นอกเหนือจากนี้แล้ว เราก็ควรที่จะมีอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับผม อย่างเช่น โรลม้วนผม , หวีไฟฟ้า , ที่ม้วนผม , กรรไกรซอยผม , หมวกอบไอน้ำ , มูสใส่ผม , ทรีทเม้นท์ผม , ครีมจับลอน , ครีมยืดผม , ครีมเปลี่ยนสีผมชั่วคราว เพื่อใช้ในการปรับแต่งทรงผม และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทรงผมของเรา
ขั้นตอนเตรียมผม
- หลังการสระผมเรียบร้อยแล้ว หรือสระผมไว้ตั้งแต่ก่อนนอนเมื่อคืนแล้ว เน้นให้สภาพผมมีความแห้งเท่านั้น สามารถไดร์ผมเพื่อให้แห้ง ด้วยลมร้อน หรือลมเย็น
- หวีผมเพื่อให้ผมไม่พันกัน
- ใช้ทรีทเม้นท์ผม ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเซรั่ม, เจล หรือสเปรย์ก็ตาม เน้นต้องมีส่วนประกอบของ สารป้องกันความร้อนร่วมด้วย
- การชโลม หรือฉีดสเปรย์ เน้นไปที่ส่วนกลางและปลายเส้นผม เว้นช่วงโคนผมไว้
- จัดแบ่งช่อผม เน้นในแต่ละช่อผม ต้องไม่มีความหนามาก
- การจัดแบ่งช่อผม อาจเริ่มที่แบ่งครึ่งเส้นผมกลางศีรษะก่อน
- ในแต่ละข้างแบ่งเป็นส่วนใหญ่ๆ เป็น 3 ส่วน และแบ่งเป็นส่วนใหญ่ลงไปอีกเป็น 6 ช่อผม
- ให้ดูว่าแต่ละช่อยังมีความหนาของเส้นผมหรือไม่ ถ้ามีอยู่ให้แบ่งย่อยลงไปได้อีก
- แบ่งช่อผมให้เหมือนกันทั้งข้างซ้าย และข้างขวาของศีรษะ
- จากนั้นเตรียมตัวเริ่มการหนีบผมในขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนการหนีบผม
- เสียบปลั๊กไฟและเปิดปุ่มทำงานของเครื่อง
- ปรับระดับความร้อน หรือุณหภูมิของที่หนีบผม เพื่อวอร์มเครื่อง
- เมื่อเครื่องหนีบผมร้อนแล้ว ให้เริ่มต้นจากด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะก่อน
- ทำการหนีบทีละช่อผม โดยเน้นให้ห่างจากโคนผม 1 นิ้ว
- การหนีบผมไม่ควรช้า หรือเร็วจนเกินไป
- สังเกตดูว่า ช่อผมที่เราแบ่งไว้ พอดีกับแผ่นความร้อนของเครื่องหนีบผมหรือไม่
- ค่อยๆ ไล่ทำทีละช่อผมทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของศีรษะจนครบ
ที่หนีบผม ข้อควรระวัง และเทคนิคการใช้
- ไม่ควรหนีบผมในขณะที่ผมเปียก หรือแม้แต่ผมหมาดก็ตาม เพราะเป็นช่วงที่เส้นผมอยู่ในสถานะที่เกล็ดผมเปิดอยู่ จะเป็นการทำลายเส้นผมโดยตรง
- เมื่อผมแห้งแล้ว ให้ใช้สเปรย์กันความร้อน หรือทรีทเม้นท์ผม ที่สามารถกันความร้อนได้ เพื่อที่จะป้องกันเส้นผมจากความร้อน ในขณะที่ทำการหนีบผม
- ระดับอุณหภูมิความร้อนที่แนะนำ สำหรับการใช้เครื่องหนีบผมนั้น คือ ระดับที่ไม่ควรเกิน 200 องศาเซลเซียส หรือในระดับที่สูงสุดไม่ควรเกิน 170 องศาเซลเซียสเท่านั้น
- ควรใช้หวีๆ ผมให้ไม่พันกัน ก่อนลงทรีทเม้นท์ผมกันความร้อน เพื่อที่จะช่วยให้ผมตรงมากยิ่งขึ้น ในขณะที่หนีบผม
- อุปกรณ์ที่ใช้ในขั้นตอนการแบ่งผมที่ควรมีคือ กิ๊บยาว
- โคนผมคือบริเวณที่มีความบอบบางมาก ไม่ว่าจะเป็นการลงทรีทเม้นท์ผม หรือการหนีบผม ควรห่างอย่างน้อย 1 นิ้ว
ปัญหาที่มักพบในขั้นตอนการหนีบผม
การหนีบผมซ้ำย้ำที่เดิม
ส่วนหนึ่งมากจาก ความต้องการของผู้ทำการหนีบผม ที่เน้นให้ผมมีความตรงมากๆ จึงทำให้หลายต่อหลายคน ทำการหนีบผมซ้ำๆ และย้ำที่ช่อผมเดิม รวมถึงสาเหตุที่เกิดจาก ช่อผมที่เราแบ่งไว้มีช่อใหญ่ และปริมาณผมหนาจนเกินไป ทำให้การหนีบครั้งแรก ไม่สามารถทำให้ผมตรงได้ทั่วช่อที่เราจัดแบ่งไว้ โดยเฉพาะร่วมกับอุณหภูมิควาร้อนที่ตั้งไว้ในระดับที่สูง สามารถทำให้ผมมีปัญหาแห้งกรอบ และแตกปลายได้ง่ายๆ เลยทีเดียว
เน้นใช้ความร้อนที่มากจนเกินไป
ส่วนใหญ่แล้วเครื่องหนีบผม ก็จะมีลักษณะและโครงสร้างการใช้งาน ที่ผลิตและออกมาแบบในบางส่วน ที่มีความคล้ายกับเครื่องม้วนผม หรือที่ม้วนผม อย่างเช่น ปุ่มเปิดปิดเครื่อง หรือปุ่มปรับระดับอุณหภูมิความร้อนสำหรับตัวเครื่อง และมีจุดความร้อนสูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 200-230 องศาเซลเซียส ซึ่งระดับความร้อนสูงสุดนี้ เป็นส่วนที่เราควรระวัง และควรหลีกเลี่ยงการปรับระดับความร้อนดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ผมหลุดร่วง, แห้งเสีย, ผมกรอบแห้งชี้ฟู เป็นต้น
ลงทรีทเม้นท์ผมกันความร้อนหลังหนีบผม
จริงๆ แล้วเหมือนจะเป็นทางที่ดี ในการบำรุงและป้องกันเส้นผม ในการออกไปเจอความร้อนจากแสงแดด และมลภาวะต่างๆ แต่แท้ที่จริงแล้ว ควรที่จะมีการลงทรีทเม้นท์ผม โดยเฉพาะเป็นผลิตภัณฑ์ ที่เน้นส่วนประกอบของสารป้องกันความร้อน ก่อนที่จะทำการหนีบผม เพราะความร้อนจากเครื่องหนีบผม เป็นความร้อนที่สัมผัสกับเส้นผมโดยตรง และส่งผลเสียมากกว่า ความร้อนที่เราเจอจากสิ่งแวดล้อมนอกบ้าน
ผลิตภัณฑ์เนื้อทรีทเม้นท์ผมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเซรั่ม, เนื้อเจล, เนื้อสเปรย์ที่เป็นน้ำ จะเป็นส่วนที่ช่วยเคลือบเส้นผมรอบนอก ให้สามารถป้องกันความร้อนได้ตลอดทั้งวัน ที่สำคัญคือเราต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่เน้นระบุว่า มีสารป้องกันความร้อน ซึ่งบางผลิตภัณฑ์จะมีส่วนประกอบอี่นๆ เสริมมาด้วย เช่น สารบำรุง อย่างเช่น วิตามินอี, โปรวิตามิน หรือวิตามินบี5 เป็นต้น
ปริมาณผมล้นเกินแผ่นความร้อน
จากขั้นตอนเตรียมผมข้างต้นที่ได้แนะนำ ในการแบ่งช่อผมออกเป็นช่อใหญ่ และแบ่งย่อยออกเป็นช่อเล็ก ไม่ว่าจะเป็น 6 ช่อหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับตามสภาพความหนาของเส้นผมแต่ละคน เพราะมีผลต่อการหนีบผม ทั้งการทำให้เส้นผมเรียบตรงยาวนานตลอดทั้งวัน และไม่ทำให้ผมเสียอันเนื่องมาจากการหนีบผมย้ำที่เดิมอีกด้วย
เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ช่อผมที่เราแบ่งไว้ถึงแม้จะดูว่าช่อเล็กแล้ว แต่หากในการหนีบผมจริง ปริมาณเส้นผมยังล้นออกจาก แผ่นทำความร้อนของเครื่องหนีบผมแล้วละก็ นั่นก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า เราควรแบ่งช่อผมให้น้อยกว่านี้อีก ซึ่งในบางคนนั้นในแต่ละซีกข้างซ้ายและข้างขวาของศีรษะ สามารถแบ่งช่อผมได้มากกว่า 10 ช่อก็ได้ เพื่อเน้นการค่อยๆ หนีบ แต่ได้คุณภาพเส้นผมที่เรียบตรง ไม่ชี้ฟูมากกว่า อีกทั้งยังเป็นวิธีปฏิบัติที่ร้านทำผมใช้กัน ที่ไม่กินผม และผมไม่เสีย
ผมขาดน้ำหนัก, ลีบและแบน
การหนีบผมไม่ได้มีจุดประสงค์เพียงแค่ ต้องการให้เส้นผมมีความเรียบตรงเท่านั้น แต่มากกว่านั้น เมื่อเวลาเราสะบัดผม, ลมพัด หรือการจัดเซ็ททรงผม ความต้องการให้ผมมีน้ำหนัก หรือที่เรียกว่า ผมมีวอลุ่มนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม แนะนำวิธีในการหนีบผม ที่ไม่เพียงแต่เน้นทิศทางการหนีบลงมาตามแนวเส้นผมเท่านั้น
แต่เป็นการหนีบผมนอกจากห่างจากโคนผม 1 นิ้วแล้ว ให้มีการยกโคนผมขึ้น ด้วยการที่ในขณะที่เราทำการหนีบผม ให้งอข้อมือข้างที่จับเครื่องหนีบผมเป็นตัว C หรือเหมือนให้เส้นผมมีความงุ้ม และม้วนตัวเข้า ซี่งจริงๆ หลังจากการหนีบแล้ว ผมไม่ได้ม้วนเข้า แต่ลักษณะรูปแบบการหนีบนี้ จะเป็นการเพิ่มสปริงให้กับเส้นผม ดูมีน้ำหนัก และผมไม่เสีย โดยเฉพาะการใช้งานร่วมกับเครื่องหนีบผมไร้สาย จะใช้งานง่ายมากๆ เป็นเครื่องรูปแบบใช้ดี และราคาไม่แพง
ผมขาดง่ายหลังการใช้เครื่องหนีบผม
นอกจากที่เราจะต้องมีการเลือกวัสดุ ของเครื่องหนีบผมที่ผลิตจากเนื้อวัสดุอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น เซรามิก, ไทเทเนียม หรือ ทัวร์มาลีน ที่มีคุณสมบัติไม่กินผม รวมถึงหลังการใช้งานแล้ว ผมไม่เสีย และยังช่วยถนอมเส้นผมไปพร้อมกันอีกด้วย แต่เรายังต้องระมัดระวังในการใช้งาน ในขั้นตอนวิธีการหนีบผม เพราะเป็นสาเหตุของปัญหาของ ผมขาดและหลุดร่วงง่าย หลังการใช้งานตัวเครื่องหนีบผม
ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญมากจาก การที่ผมยังไม่แห้งดีพอ และทำการหนีบผมในทันที ถึงแม้ว่าจะมีการลงทรีทเม้นท์ผมก่อนที่จะทำการหนีบผมก็ตาม เพราะในขณะที่เส้นผมมีความเปียกอยู่ ส่วนของเกล็ดผมจะมีการเปิด ในกรณีนี้จะเป็นผลดีต่อ การชโลมหรือฉีดสเปรย์ทรีทเม้นท์ผม เพื่อเป็นการดูแลและซ่อมแซมเส้นผม แต่หากมีการใช้อุปกรณ์ที่มีความร้อนต่อเส้นผม จะเป็นส่วนสำคัญทีเดียว ที่จะทำให้ผมมีความอ่อนแอ และสุดท้ายเส้นผมก็จะขาดและหลุดร่วงง่าย
โดยจะเป็นข้อควรระวังอันดับแรกๆ เลยทีเดียวสำหรับการใช้อุปกรณ์สำหรับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็น เครื่องหนีบผม หรือที่ม้วนผมก็ตาม ควรใช้ในขณะที่เส้นผมมีความแห้ง และแนะนำว่าหากไม่ต้องการรอให้ผมแห้ง ในช่วงเวลารีบเร่งตอนเช้าๆ เราสามารถที่จะสระผม และเป่าผมให้แห้งก่อนนอนได้ เพื่อความสะดวกในการเซ็ทผม ไม่ว่าจะเป็นการม้วนผม หรือการหนีบผมให้ตรงก่อนที่จะออกนอกบ้านในตอนเช้า
รวมถึงปัจจัยหลักอีกอย่างคือ การรู้เท่าไม่ถึงกับการใช้เครื่องหนีบผม ในบริเวณโคนผม ที่เรียกว่าเป็นจุดอ่อนแอที่สุดของเส้นผม เมื่อมีการใช้เครื่องหนีบผมในบริเวณโคนผมเรื่อยๆ จะทำให้เมื่อโคนผมแห้งเสียแล้ว จะมีผลต่อเนื่องทำให้เกิดเส้นผมหลุดร่วงง่ายอีกด้วย ซึ่งในการหนีบผมนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องหนีบชิดกับโคนผม
โดยการหนีบผมนั้น ควรเว้นห่างจากโคนผมอย่างน้อยๆ คือ ระยะห่าง 1 นิ้วจากโคนผม วิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีปฏิบัติในการหนีบผมอย่างปลอดภัย ทั้งต่อโคนผม, หนังศีรษะ และยังเป็นวิธีที่ร้านเสริมสวย เน้นใช้เป็นหลักปฏิบัติที่ถูกต้อง สำหรับการถนอมเส้นผม และไม่ทำให้ผมเสีย ซึ่งเครื่องหนีบผมที่ดี โดยเฉพาะยี่ห้อที่ร้านทำผมใช้กันนั้น ราคาไม่แพง แต่ใช้ดี และในขณะที่ทำการหนีบผมนั้น ไม่กินผม หรือไม่ทำให้ผมเสีย
หนีบค้างนานเกินไป
หลายคนอาจมีการเข้าใจผิดว่า การหนีบผมค้างนาน หรือการไล่เครื่องหนีบลงมาช้าจนเกินพอดีนั้น จะช่วยให้ผมมีลักษณะตรง และเรียบนานตลอดทั้งวัน แต่จริงๆ แล้วการหนีบผมในลักษณะแบบนี้ มีผลเสียต่อเส้นผมไม่ต่างไปจาก การหนีบผมในขณะที่ผมเปียก ซึ่งนอกจากจะทำให้ผมแห้งขาดหลุดร่วงง่ายแล้ว ยังทำให้เกิดปัญหาเส้นผมแตกปลาย และผมช็อตอีกด้วย
ซึ่งหากเป็นวิธีที่ร้านเสริมสวย ใช้ในขั้นตอนการหนีบผม คือการหนีบและไล่ลงมาเรื่อยๆ ไม่ช้าและไม่เร็วจนเกินไป เพราะหากเราหนีบผมแต่ละช่อเร็วเกินไป ก็จะทำให้ช่อผมนั้นๆ ไม่เรียบตรงเท่าที่ควร หรือเรียบตรงแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังการหนีบผมเท่านั้น และเส้นผมจะค่อยๆ กลับสู่สภาพเดิมในเวลาไม่ถึงวัน
การค้างเครื่องหนีบผม เพื่อช่วยให้ผมตรงนั้น ไม่ได้หมายถึงการค้างแผ่นทำความร้อนกับตำแหน่งเส้นผมจุดเดิม เหมือนขั้นตอนการม้วนผม แต่เป็นการขยับเครื่องหนีบผมไล่ลงมาตลอดเวลาที่ทำการหนีบผม แต่เน้นการหนีบเลื่อนลงมาช้าๆ ไม่เร็วจนเกินไป และไม่หนีบค้างที่ตำแหน่งเส้นผม ซึ่งวิธีนี้จะเป็นวิธีที่ถูกต้องและดีที่สุด สำหรับร้านทำผมใช้กัน และแนะนำเพื่อที่ผมไม่เสียและมีวอลุ่มอีกด้วย
วิธีเลือกซื้อที่หนีบผม
ความกว้างของแผ่นทำความร้อน
ในแต่ละยี่ห้อและแต่ละรุ่นนั้น เราจะเห็นได้ว่า ส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่องหนีบผมนี้ หนีไม่พ้นแผ่นทำความร้อน ที่เป็นส่วนประกอบสัมผัสกับเส้นผมโดยตรง ในบางรุ่นจะมีความกว้างและความสั้นยาวที่ไม่เท่ากัน ซี่งความแตกต่างนี้ เป็นการแบ่งคุณลักษณะการใช้งาน ให้เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละคนอีกด้วย
ซึ่งระดับความกว้างของแผ่นทำความร้อนนี้นั้น หากเป็นสำหรับร้านทำผมแนะนำใช้กัน จะเป็นระดับความกว้าง 25-35 มม. หรือ ความกว้าง 40-45 มม. ซี่งสามารถใช้งานได้ง่าย และครอบคลุมมากกว่า ทั้งผู้ที่มีผมสั้นและผมยาวมาก เป็นอุปกรณ์ทำผมที่ถูกและดี และผมไม่เสียหลังการใช้งาน
- ความกว้าง 9-15 มม. ใช้สำหรับผมสั้น และมีการแบ่งช่อผมในปริมาณที่น้อยมากๆ ส่วนใหญ่เครื่องหนีบผมแบบไร้สาย หรือพกพา จะมีขนาดความกว้างเท่านี้
- ความกว้าง 25-35 มม. เน้นการใช้กับระดับผมที่ยาวกว่าแบบแรก หรือยาวระดับบ่าลงมา แต่ไม่ยาวมาก ใช้งานง่ายกว่า รวมถึงการแบ่งช่อผมได้ปริมาณมากกว่าความกว้างในแบบแรก
- ความกว้าง 40-45 มม. สำหรับผู้ที่มีระดับเส้นผมยาวเลยบ่าลงมา หรือผู้ที่เน้นการแบ่งช่อผม ที่มีปริมาณมากกว่า ในความกว้างของแผ่นทำความร้อน 2 แบบแรก ที่สำคัญกว่านั้นคือ ในระดับความกว้างนี้ สามารถใช้หนีบผมได้ง่ายกว่า แต่ในการใช้งานที่กระชับมือ อาจจะน้อยกว่า 2 แบบแรก
วัสดุของแผ่นทำความร้อน
อย่างที่เราได้เกริ่นไปแล้วว่า ส่วนประกอบของที่หนีบผมที่สำคัญที่สุด และมีผลต่อการหนีบผมได้เรียบตรงยาวนานได้ตลอดทั้งวันนั้น นอกจากจะเป็นที่วิธีในการใช้งานแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับวัสดุที่นำมาผลิตเป็นแผ่นทำความร้อน ซึ่งเราอาจจะสังเกตได้ว่า มีลักษณะเหมือนเป็นการเคลือบสารให้มีความลื่นในผิวนอกวัสดุ ซึ่งนั่นเป็นอีกส่วนที่ป้องกันเครื่องไม่กินผม และเป็นการป้องกันเส้นผมในขณะหนีบผมอีกด้วย
- ไทเทเนียม ร้อนเร็ว มีน้ำหนักตัวเครื่องมาก เป็นวัสดุที่ออกมาตั้งแต่เริ่มแรก
- เซรามิก เน้นความสวยงามที่พื้นผิววัสดุ, ความเงางามที่เนื้อวัสดุ, ร้อนเร็วและช่วยกระจายความร้อนได้ดี ตัวเครื่องมีน้ำหนัก
- ทัวร์มาลีน เป็นเนื้อวัสดุล่าสุดที่นำมาผลิต เป็นส่วนแผ่นความร้อนของเครื่องหนีบผม โดยมีการผสมผสานในการใช้เคลือบแผ่นทำความร้อนที่เป็นเซรามิก และเคลือบด้านนอกด้วยทัวร์มาลีน คุณสมบัติโดดเด่นคือ นอกจากจะช่วยให้ผมยาวตรงแล้ว ยังเพิ่มความนุ่มลื่นให้เส้นผม และไม่ทำให้เส้นผมชี้ฟู ด้วยระบบไอออนิก หรือการลดไฟฟ้าสถิต
สีตัวเครื่อง
เราจะเห็นว่าสีหลักๆ ของเครื่องหนีบผม จะมีสีขาว, สีดำ หรือสีเทาเข้มเป็นส่วนใหญ่ เพื่อเน้นในการใช้งานจะเห็นได้ชัดเจน และช่วยป้องกันอันตรายในขณะที่ทำการหนีบผม หากเป็นสีอื่นๆ ก็จะมีการออกแบบสีในแบบเมทัลลิค ให้เกิดความสวยงามไปพร้อมกับวัสดุของตัวเครื่องอย่างเช่น วัสดุเซรามิก ที่มีราคาไม่แพงแต่ใช้ดี มีความเงางามในตัววัสดุ
รูปแบบสายไฟ
แบบไม่มีสายไฟ
หรือว่าเป็นเครื่องหนีบผมแบบไร้สาย ที่มีขนาดเล็ก และสามารถพกพาไปนอกสถานที่ได้สะดวก รวมถึงยังมีราคาถูกและดีร่วมด้วย ในการใช้งานแต่ละครั้ง จะเป็นการชาร์ทผ่าน USB Port เน้นความกะทัดรัด
สายไฟแบบหมุนได้อิสระ
ลักษณะสายไฟที่มีความหนา และมีส่วนเชื่อมต่อกับตัวเครื่อง ที่สามารถมีการใช้งานได้แบบอิสระ และยืดหยุ่น ตัวสายไฟหมุนได้ 360 องศา ช่วยให้เราสามารถหนีบผมได้ทุกทิศทาง ไม่เกิดปัญหาสายไฟงอหรือหักในอนาคต
ฟังก์ชั่นเสริมอื่นๆ
ในส่วนของคุณสมบัติอื่นๆ สำหรับบางรุ่นของเครื่องหนีบผมนั้น จะช่วยให้การใช้งานง่าย และเป็นผลดีกับเส้นผม และไม่ทำให้ผมเสีย ซี่งหากเป็นการลดไฟฟ้าสถิต หรือระบบการทำงานแบบไอออนิก ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นที่มีแผ่นความร้อน ที่ทำมาจากวัสดุเซรามิกเคลือบด้วยทัวร์มาลีน เน้นป้องกันผมหลังการหนีบ ไม่ให้เกิดปัญหาผมชี้ฟู หลังจากที่ทำการหนีบผมแล้ว หรือหลังจากสระผม
- ลดไฟฟ้าสถิต
- เพิ่มละอองไอน้ำ
คำถามที่พบบ่อย
เราควรหนีบผมตอนไหน
ควรหนีบในช่วงที่ผมแห้งเท่านั้น ถึงแม้ผมหมาดก็ควรเป่าให้แห้ง ถึงทำการหนีบผมได้ ซี่งการเตรียมผมในวิธีการนี้นั้น จะเป็นการช่วยป้องกันเส้นผม ไม่ให้ผมเสีย, แตกปลาย หรือชี้ฟูในอนาคต
ที่หนีบผม แบบผู้ชาย วิธีใช้
สรุป
ที่หนีบผมมีประโยชน์ในการใช้งาน ทั้งในเรื่องของการช่วยให้เส้นผม มีความเรียบตรงแล้วนั้น ยังมีขั้นตอนวิธีการใช้งานที่เหมือนจะธรรมดา แต่มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ในอีกทางหนี่ง หากมีการใช้งานที่ไม่ถูกต้องนั้น ก็มีผลทำให้ผลเสียได้เหมือนกัน ถือว่าเป็นอุปกรณ์ทำผม ที่น่าใช้ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง วิธีการใช้ง่าย, ไม่กินผม, กินไฟน้อย รวมถึงราคาตัวเครื่องที่มีราคาไม่แพง สามารถหนีบผมได้ตรงนานตลอดทั้งวัน
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
ที่หนีบผม Vivid & Vogue
-สามารถปรับอุณหภูมิได้มากถึง 3 ระดับ
-แผ่นเซรามิคเคลือบด้วย Essential Oil
ที่หนีบผม Coolastyler
-ใช้งานง่าย ปลอดภัย หนีบแน่น ด้ามจับกระชับมือ
-แผ่นความร้อนถนอมเส้นผม สายหมุนได้ 360 องศา
ที่หนีบผม Kemei รุ่น KM-2219
-วัสดุมีความทนทานต่อการใช้งาน ใช่งานง่าย
-สามารถปรับระดับความร้อนได้ถึง 200 องศา
ที่หนีบผม CKL
-แผ่นเซรามิกเคลือบทัวร์มารีน ป้องกันผมแห้งเสีย
-มีปุ่มเปิดปิดเครื่องและปรับอุณหภูมิได้ 4 ระดับ
ที่หนีบผม Philips
-ทำความร้อนรวดเร็ว พร้อมใช้งานภายใน 60 วินาที
-ช่วยให้ผมเรียบตรงและนุ่มสลวยเงางามอย่างแน่นอน
ที่หนีบผม IWACHI รุ่น GY-3311
-สามารถปรับระดับอุณหภูมิได้มากถึง 4 ระดับ
-แผ่นเซรามิกเคลือบถนอมเส้นผมป้องกันไฟฟ้าสถิต
ที่หนีบผม Lesasha
-สามารถหนีบผมให้ตรงได้สวยตามต้องการ
-สามารถปรับความร้อนได้สูงสุด 200 องศา
ที่หนีบผม Super V
-สามารถปรับความร้อนได้สูงสุด 4 ระดับ
-วัสดุคุณภาพดี ทนความร้อนได้สูง พกพาสะดวก
ที่หนีบผม Haxon
-สามารถปรับอุณหภูมิเริ่มต้น 140 – 230 องศา
-ระบบความร้อนแบบเร็ว ประหยัดเวลาในการทำผมยิ่งขึ้น
ที่หนีบผม HAN RIVER
-สามารถทำความร้อนได้รวดเร็วใน 30 วินาที
-สามารถใช้ได้ทั้งผมตรงและผมหยิก ใช้งานง่าย