เจลล้างหน้า คืออะไร
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาผิวหน้าหรือผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้าอยู่มากมายหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น โฟมล้างหน้าทั่วไป , โฟมล้างหน้าเกาหลี , โฟมล้างหน้าลดสิว , โฟมล้างหน้าอ่อนโยน , โฟมล้างหน้าผิวแพ้ง่าย , สบู่ล้างหน้า , ครีมล้างหน้า และสครับล้างหน้า
ซึ่งคุณสมบัติหลักๆ ของโฟมล้างหน้าทั้งหมดนี้ก็คือการขจัดคราบสกปรกและความมันบนผิวหน้าให้สะอาดหมดจด แต่การเลือกใช้โฟมล้างหน้าแต่ละประเภทนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละคนเป็นหลักด้วย รวมไปถึงครีมหรือสกินแคร์ต่างๆ ที่ช่วยถนอมและดูแลรักษาผิวหน้า ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปอีกมากมาย อาทิเช่น มาร์คหน้าเกาหลี , เจลแต้มสิว , วิตามินซีทาหน้า , ครีมลดรอยสิว เป็นต้น
เมื่อการดูแลผิวหน้าให้ใส ไร้สิวนั้นต้องเริ่มจากการล้างหน้าให้มีความสะอาดอยู่สม่ำเสมอ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการบำรุงผิวหน้าและดูแลรักษาผิวหน้าของเราให้มีความสะอาดชุ่มชื้น จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าจึงกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำความสะอาดใบหน้า ซึ่งในปัจจุบันได้ถูกพัฒนามาในรูปแบบของ เจลล้างหน้า ที่สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยนมากกว่า
เจลล้างหน้า จะมีลักษณะเป็นเนื้อเจลใสๆ บ้างก็มีสีสันที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์ โดยคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ล้างหน้าประเภทเจลนี้ มักมีส่วนผสมที่อ่อนโยนเป็นพิเศษและช่วยเก็บความชุ่มชื้นได้ดีกว่าการใช้โฟมล้างหน้าทั่วไป ที่สำคัญส่วนมากมักไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม และพาราเบน จึงสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวหน้าเลย
เจลล้างหน้าเหมาะกับใคร
สำหรับใครที่มีผิวหน้ามัน เป็นสิว และผิวบอบบางแพ้ง่าย เจลล้างหน้า ก็จัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก รวมทั้งยังช่วยถนอมผิว กักเก็บความชุ่มชื้น และรักษาสมดุลของน้ำมันบนใบหน้าได้ดีกว่าการใช้โฟมล้างหน้าหรือสบู่ล้างหน้าโดยทั่วไป
ยิ่งถ้าใครเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องสิวหรือผิวมันด้วยแล้ว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบเจลที่มีส่วนผสมของน้ำมันทีทรี หรือกรดซาลิไซลิก จะมีส่วนช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดสิวได้ดี รวมทั้งยังช่วยลดอาการอักเสบของชั้นผิวหนัง และละลายซึมเข้าใต้ชั้นผิวได้เป็นอย่างดี
โฟมล้างหน้า VS เจลล้างหน้า แตกต่างกันอย่างไร
โฟมล้างหน้าจะมีลักษณะเป็นเนื้อโฟมและมีฟองจำนวนมากเมื่อนำไปผสมกับน้ำสะอาด โดยส่วนผสมหลักๆ ในโฟมล้างหน้าจะมีสารโซเดียมลอริลซัลเฟต ซึ่งเป็นสารที่ช่วยขจัดคราบสกปรกและความมันบนใบหน้าได้ดี และโฟมล้างหน้าบางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิว จึงช่วยลดการระคายเคืองหลังจากล้างหน้าได้ดี แต่ด้วยความที่โฟมล้างหน้านั้นเป็นเนื้อโฟม จึงอาจจะทำให้เกิดการตกค้างและอุดต้นบริเวณรูขุมขนได้ง่าย
ในส่วนของเจลล้างหน้านั้นจะมีเนื้อสัมผัสเป็นเจล ไม่มีฟอง และไม่ใส่สารลดแรงตึงผิวลงไปในผลิตภัณฑ์ จึงช่วยปลอบประโลมผิวและทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก ด้วยเหตุนี้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบเจลจึงสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวและไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองหลังจากที่ใช้ และยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าแพ้ง่ายเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบเจลจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด
เชื่อว่าหลายคนคงมีความสงสัยกันอยู่ว่า แล้วจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าอันไหนดี เราจะขอสรุปให้เข้าใจกันง่ายๆ ซึ่งความแตกต่างของโฟมล้างหน้าและเจลล้างหน้านั้นก็คือ ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบเจลจะเป็นสูตรที่มีความอ่อนโยนและสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว
จะมีความแตกต่างจากโฟมล้างหน้าที่เนื้อเป็นโฟม ถึงแม้ว่าจะมีคุณสมบัติในการช่วยลำระล้างสิ่งสกปรกที่อยู่บนใบหน้าออกไป แต่โฟมที่เกิดขึ้นจากโฟมล้างหน้านั้นก็จะมีคุณสมบัติทางเคมีที่สูงกว่า ใช้แล้วอาจทำให้หน้าแห้ง เกิดการอุดตันได้ง่าย และอาจทำให้ระคายเคืองผิวได้ง่ายกว่าผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบเจล
คุณสมบัติของเจลล้างหน้าที่ดี
1. กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องผิวหน้ามัน ผิวผสม และผิวแพ้ง่าย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบเจลจะมีส่วนช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี และยังช่วยรักษาสมดุลน้ำมันบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผิวหน้าของเราไม่แห้งตึง ไม่แห้งกร้าน และผิวดูเนียนนุ่มขึ้นด้วย
2. ไม่อุดตันผิว
สำหรับเจลล้างหน้าที่ดีนั้น หากใช้แล้วเกิดอาการระคายเคืองผิวหรือมีผื่นขึ้น อาจส่งผลให้ผิวหน้าเกิดการอุดตันและเป็นสิวในภายหลังได้ ดังนั้นแล้วก่อนที่จะเริ่มใช้ก็อย่าลืมทดสอบอาการแพ้กันเอาไว้ให้ดี และควรตรวจสอบฉลากดูให้ดีว่าผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาใช้มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือพาราเบนหรือไม่
3. สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว
แน่นอนว่าการล้างหน้าด้วยเจลนั้น ถือเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีความอ่อนโยนที่สุดในบรรดาประเภทโฟมล้างหน้าทั้งหมด ต่อให้ผู้ใช้จะมีผิวมัน ผิวผสม ผิวปกติ ผิวแพ้ง่าย หรือผิวแห้ง ก็สามารถใช้เจลล้างหน้าได้กับทุกสภาพผิวเลย เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวหน้าควบคู่ไปกับการทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างอ่อนโยนแต่ล้ำลึก
4. ไม่ทิ้งความมันเยิ้มไว้บนใบหน้า
แม้ว่าผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบเจลจะมีความอ่อนโยน ก็ไม่ควรทิ้งความมันเยิ้มไว้บนใบหน้า เพราะนอกจากจะไม่ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกแล้ว ทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาเรื่องสิวตามมาได้อีกด้วยควรมีค่า pH ไม่เกิน 7 จะเป็นค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนที่มีผิวมันและผิวผสม
การเลือกซื้อเจลล้างหน้า
1. เลือกซื้อตามสภาพผิว
- สำหรับผิวแพ้ง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบเจลที่ไม่มีฟองสูตรอ่อนโยนจะดีที่สุด รวมถึงหลีกเลี่ยงที่มีส่วนผสมของน้ำหอม พาราเบน และแอลกอฮอล์ เนื่องจากสารเหล่านี้จะกระตุ้นให้ผิวเกิดการระคายเคืองและอักเสบได้
- สำหรับคนทั่วไป ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับสมดุลให้กับผิวหน้า รวมถึงหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน กรดซาลิไซลิก เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ และแอลกอฮอล์จะดีที่สุด เพราะสารเหล่านี้อาจกระตุ้นให้ผิวหน้าเกิดความแห้งตึงและลอกเป็นขุยได้
- สำหรับผิวมันและรูขุมขนกว้าง การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเบต้าไฮดรอกซีและกรดอัลฟา จะมีส่วนช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าและทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิค เพราะอาจทำให้ผิวหน้ามีความมันขึ้นจากเดิมได้
- สำหรับคนที่มีผิวแห้งและชอบใช้โฟมล้างหน้าที่มีฟองโฟมนุ่มๆ อาจเป็นตัวเลือกที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก เนื่องจากฟองโฟมเหล่านั้นจะดึงความชุ่มชื้นบนผิวหน้าของเราออกไป ซึ่งอาจส่งผลให้ผิวหน้าลอกเป็นขุยและแห้งตึงได้ ดังนั้นแล้วการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิคและใช้เจลล้างหน้าที่มีเนื้อเหลวคล้ายนมจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
- สำหรับคนเป็นสิว หากใครที่มีปัญหาเรื่องสิวกวนใจ การใช้ครีมรักษาสิวเพียงอย่างเดียวอาจยังบำรุงได้อย่างไม่ล้ำลึกมากเท่าที่ควร ดังนั้นแล้วการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบเจลที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกและกรดไลโปไฮดรอกซี ก็จะช่วยลดความมันส่วนเกินใบหน้าพร้อมกับขจัดสิ่งสกปรกและสิวอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เลือกที่มีส่วนผสมสารให้ความชุ่มชื้น
สำหรับการเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบเจลที่ดีนั้น ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของทีทรีออยล์และกรดซาลิไซลิกจะดีที่สุด เพราะสารเหล่านี้นอกจากจะช่วยรักษาสิวอุดตันและความมันบนใบหน้าได้ดีแล้ว อีกทั้งยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าของเราได้อย่างล้ำลึกอีกด้วย
3. เลือกซื้อจากส่วนผสมในผลิตภัณฑ์
ข้อดีของการล้างหน้าด้วยเจลนั้น นอกจากจะช่วยทำความสะอาดสิ่งปรกบนผิวหน้าได้อย่างหมดจดแล้ว หากมีส่วนผสมของวิตามินอี , วิตามินบี , LHA , BHA , AHA , Zinc และมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ก็จะช่วยฟื้นบำรุงผิวหน้าของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นด้วย
4. เลือกจากค่า pH ของผลิตภัณฑ์
สำหรับการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ไม่เกิน 7 ถือเป็นค่าที่อยู่ในระดับมาตรฐานและไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหน้า เนื่องจากค่าความเป็นกรดและด่างของผิวหน้าคนเรานั้นจะอยู่ที่ 4.7 – 5.75 ขึ้นอยู่กับอายุและพันธุกรรมของแต่ละคน ดังนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อก็อย่าลืมพิจารณาค่า pH ให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับผิวหน้าของเราจะดีที่สุด
5. เลือกที่ปราศจากแอลกอฮออล์และพาราเบน
ถึงแม้ว่าเจลล้างหน้าจะมีส่วนช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้ดี แต่หากมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และพาราเบน อาจส่งผลให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคือง แพ้ง่าย และอาจทำให้ผิวหน้าไวต่อแสงแดดได้ในที่สุด ดังนั้นแล้วการเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบเจลที่ดีควรหลีกเลี่ยงสารจำพวกนี้จะดีที่สุด
6. เลือกที่ทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างหมดจด
ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบเจลที่ดีควรขจัดความมันและสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ตามรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก และควรมีค่า pH อยู่ที่ 6.5-7 จะเป็นค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนผิวมันและผิวเป็นสิวง่าย เพราะหากเลือกที่มีค่าสูงกว่านี้อาจทำให้ผิวหน้าแห้งเอี๊ยดและส่งผลให้ผิวหน้าลอกเป็นขุยได้
7. เลือกที่มีส่วนผสมของน้ำมันทีทรีและว่านหางจระเข้
สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องผิวมันหรือผิวผสม แนะนำว่าควรเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบเจลที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้และน้ำมันทีทรีจะอ่อนโยนกับผิวที่สุด เพราะจะช่วยกักเก็บน้ำมันใบหน้าได้ดี และหากใครที่มีปัญหาเรื่องสิวอุดตันก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกและเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์มาด้วย ก็จะช่วยลดการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี
8. เลือกซื้อที่ปราศจากน้ำหอม
บางคนอาจจะมองว่าผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ดีควรมีกลิ่นหอม แต่ในความจริงแล้วหากเลือกที่มีส่วนผสมของน้ำหอมอยู่นั้น อาจทำให้ร่างกายของเราได้รับสารเคมีมากจนเกินไป ซึ่งหากใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบเจลที่มีส่วนผสมของน้ำหอมเป็นเวลานานๆ อาจส่งผลให้เกิดการแพ้ อักเสบ และมีผิวหน้าที่บางลงได้
ส่วนผสมในเจลล้างหน้าที่ควรหลีกเลี่ยง
1. ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสาร SLS
SLSเป็นสารชนิดหนึ่งที่ช่วยลดแรงตึงผิวของน้ำ และช่วยขจัดคราบไขมันบนผิวได้ แต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ SLS อาจส่งผลให้เกิดความรุนแรงต่อดวงตาและผิวหนังได้ และยิ่งถ้าฟอกสารชนิดนี้อยู่บนผิวหนังเป็นเวลานานๆ อาจส่งผลให้ผิวหนังเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้
2. ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม
เจลล้างหน้าที่ดีควรเป็นเจลที่ปราศจากน้ำหอม เพราะหากใช้สารเหล่านี้เป็นระยะเวลานานๆ นอกจากจะส่งผลให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง เป็นผื่นแดง และมีอาการคันแล้ว ทั้งยังส่งผลให้เกิดสิวอุดตันและเป็นผิวอักเสบได้อีกด้วย ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอมจึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างมาก
3. ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสบู่
ถึงแม้ว่าสบู่จะมีส่วนช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ แต่รู้ไหมว่าในสบู่มีค่า pH ที่มากกว่า 7 ซึ่งอาจส่งผลให้ผิวหน้าของเราเกิดการระคายเคืองและผิวสูญเสียน้ำมันลงได้อีกด้วย หากใช้เป็นเวลานานๆ สารที่มีอยู่ในสบู่ก็จะค่อยๆ ทำร้ายผิวให้เกิดความแห้งกร้านและผิวลอกเป็นขุยได้ในที่สุด
4. ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารพาราเบน
สำหรับใครที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวบอบบาง หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารพาราเบน นอกจากจะทำให้เกิดอาการคัน ผื่นแดง และระคายเคืองผิวหนังได้แล้ว ซ้ำยังส่งผลให้ผิวของเราอ่อนแอลงได้ด้วย ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงสารที่มีพาราเบนอย่าง Isobutylparaben , Butylparaben และ Propylparaben ไว้จะดีกว่า
5. ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ก็เป็นอีกหนึ่งสารที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะสารชนิดนี้นอกจากจะไม่ช่วยให้ผิวหน้าของเราดูเนียนนุ่มและชุ่มชื้นขึ้นแล้ว ทั้งยังทำให้ผิวแห้งหนักขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งหากใช้เจลล้างหน้าที่มีส่วนผสมของสารชนิดนี้เป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้เช่นกัน
วิธีใช้เจลล้างหน้า
1. เช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่งให้สะอาด
แน่นอนว่าหลังจากที่เราทำกิจกรรมข้างนอกบ้านเสร็จ ใบหน้าของเราก็อาจจะมีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่บนใบหน้าได้ และต่อให้เราจะไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมข้างนอกเลย แต่หากเราทาครีมกันแดดหรือทาแป้ง สิ่งเหล่านี้ก็อาจก่อให้เกิดการอุดตันได้ทั้งสิ้น ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องใช้เจลล้างหน้าให้สะอาด เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดสิวอุดตันบนใบหน้า
2. เปิดรูขุมขนด้วยการล้างน้ำอุ่น
ก่อนจะเริ่มล้างหน้าทุกครั้ง ควรล้างมือให้สะอาดก่อนจากนั้นจึงค่อยใช้น้ำอุ่นล้างหน้าเพื่อเป็นการเปิดรูขุมขนให้ขยายออก ทำให้การทำความสะอาดรูขุมขนเป็นไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และพยายามหลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนจะดีที่สุด เพราะอาจทำให้ผิวหนังเกิดการแสบร้อนและระคายเคืองได้
3. ปิดรูขุมขนด้วยน้ำเย็น
หลังจากที่เราใช้น้ำอุ่นล้างหน้าเสร็จแล้ว ให้นำเจลล้างหน้านวดลงไปบนผิวหน้าตามแนวรูขุมขนเป็นเวลา 1-2 นาที แล้วค่อยๆ ใช้น้ำเย็นล้างเจลออกให้สะอาด โดยน้ำเย็นจะช่วยปิดรูขุมขนและป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกเข้ามาในรูขุมขนได้ และหลังจากที่ล้างหน้าเสร็จแล้วให้นำกระดาษทิชชู่หรือผ้าขนหนูนุ่มๆ ซับหน้าให้แห้งก็เป็นอันเสร็จสิ้น
วิธีบำรุงผิวหน้าให้ใสแบบธรรมชาติ
- บำรุงผิวหน้าด้วย น้ำมันมะพร้าว ซึ่งจะช่วยในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ บำรุงผิวหน้าให้มีความแข็งแรง เพียงนำมานวดบนใบหน้าเบาๆ สัก 20 วินาที แล้วล้างออกด้วยเจลล้างหน้า จะช่วยบำรุงให้ดูมีสุขภาพดีอย่างล้ำลึก
- บำรุงผิวหน้าด้วยว่านหางจระเข้ ที่มีสรรพคุณในการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และลดการอักเสบของสิวได้ดี ทั้งยังช่วยผลัดเซลล์ผิวหน้าใหม่ ให้มีสุขภาพดี และไม่ทำให้ผิวเกิดการอุดตันง่ายอีกด้วย หากบำรุงผิวหน้าด้วยว่านหางจระเข้ทุกวัน ผิวหน้าที่หมองคล้ำกลายมาดูใสได้แน่นอน
- บำรุงผิวหน้าด้วยการทา ครีมกันแดดหน้า เป็นประจำ ทราบกันดีอยู่แล้วว่าแดดเมืองไทยนั้นร้อนแรงแค่ไหน ก่อนออกจากบ้านจึงต้องปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดกันด้วย และควรเลือกที่ป้องกันทั้ง UVA และ UVB เพราะจะช่วยไม่ให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร
- ดื่มน้ำสะอาดเยอะๆ น้ำถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ทั้งช่วยในการบำรุงผิวหน้าได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยระบบการทำงานของร่างกายต่างๆ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับการดื่มน้ำให้มากๆ แนะนำว่าให้ดื่มต่อวันให้ได้ 8-11 แก้วต่อวัน
เจลล้างหน้า กู้ผิวไม่เรียบเนียน แพ้ง่าย ผลัดเซลล์ ผิว ใสใน 3 วัน
สรุป
เจลล้างหน้า ผลิตภัณฑ์รักษาผิวหน้าที่เลือกใช้อย่างเหมาะสมต่อสภาพผิวและควรเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพราะการล้างหน้าเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้ผิวหน้ามีสุขภาพที่ดี ลดการเกิดสิวหรือจุดด่างดำต่าง ๆ และที่สำคัญก่อนจะเลือกซื้อก็อย่าลืมตรวจดูส่วนผสมในฉลากกันให้ดีว่ามีสารอันตรายที่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือไม่ และทุกครั้งที่ใช้ผลิตภัณฑ์อย่าลืมทดสอบอาการแพ้บริเวณหลังหูหรือท้องแขนกันเอาไว้ให้ดี หากมีอาการคันระคายเคือง หรือมีผื่นแดงขึ้นบริเวณผิวหนังให้รีบหยุดใช้ทันที
นามปากกา เถาองุ่น การศึกษาจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นนักรีวิวผลิตภัณฑ์ด้านการบำรุงผิวโดยเฉพาะ ทั้งผิวกาย ผิวหน้า ความงาม และเป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายมาแล้วหลายยี่ห้อ
เจลล้างหน้า Naturista
-สูตรอ่อนโยน เหมาะสำหรับคนเป็นสิวและผิวแพ้ง่าย
-ช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่และยังช่วยลดการอักเสบของผิว
เจลล้างหน้า Plantnery
-สูตรช่วยลดสิวและควบคุมความมันบนใบหน้า
-ช่วยทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก จากมลภาวะ สิ่งอุดตัน
เจลล้างหน้า Acne Aid
-ช่วยลดความมันส่วนเกิน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
-ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดภาวะรูขุมขนอุดตัน
เจลล้างหน้า Dr.Pong
-ช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า
-ช่วยลดการอักเสบ สิวแห้งเร็วขึ้น ลดผื่นคันตามผิวหนัง
เจลล้างหน้า CUTE PRESS
-ช่วยให้ผิวกระจ่างใส รูขุมขนกระชับ เรียบเนียน
-เหมาะกับทุกสภาพผิว ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น
เจลล้างหน้า Neutrogena
-สูตรไม่มีน้ำหอม เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
-เนื้อเจลโปร่งเบา ไม่ทิ้งสิ่งตกค้างที่จะอุดตันรูขุมขน
เจลล้างหน้า หมอมวลชน
-ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและป้องกันการเกิดสิว
-ช่วยทำความสะอาดหมดจด ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
เจลล้างหน้า Eucerin
-ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวและรอยสิวอย่างมีประสิทธิภาพ
-ช่วยทำความสะอาดความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกอุดตัน
เจลล้างหน้า MizuMi
-สามารถใช้ร่วมกับยารักษาสิวได้ ไม่ทําให้ผิวแห็งหรือลอก
-สูตรอ่อนโยน ช่วยรักษาสมดุลความเป็นกรด-ด่างของผิว
เจลล้างหน้า La Roche-Posay
-เหมาะสำหรับสำหรับผิวมันมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย
-ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน ไม่ระคายเคือง