10 สายจูงสุนัข ยี่ห้อไหนดี 2024 สวย ทนทาน แข็งแรง จับถนัดมือ

ปัจจุบันอุปกรณ์เลี้ยงดูสุนัขนั้นได้ถูกผลิตออกมาให้คนที่รักสุนัข ได้เลือกซื้อติดบ้านกันไว้กันมากมาย ทั้งยังเพิ่มความสะดวกในการเลี้ยงดูของผู้รักสุนัขอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องให้อาหารสุนัข , แผ่นรองฉี่สุนัข , กรรไกรตัดเล็บสุนัข , คอกหมา , ขนมหมา , ยาสีฟันสุนัข , ยาหยอดหูสุนัข , อาหารเม็ดสุนัข , แชมพูสุนัข , ที่นอนสุนัข รวมไปถึง สายจูงสำหรับสุนัข

สายจูงสุนัขคืออะไร

สายจูงสุนัข คือ อุปกรณ์ที่ใช้สวมใส่ที่ส่วนคอของสุนัขเพื่อจูงสุนัขให้เดินตามเจ้าของได้อย่างปลอดภัย โดยการใช้สายจูงกับสุนัขนั้นก็ต้องมีการฝึกก่อนในช่วงแรก เพราะถ้าหากสุนัขยังไม่คุ้นเคยก็จะเกิดอาการต่อต้านและไม่รับฟังคำสั่งของเจ้าของ ซึ่งสุนัขแต่ละตัวก็จะมีปฏิกิริยาต่อการใช้สายจูงแตกต่างกันไป ผู้เลี้ยงหรือเจ้าของสุนัขจึงจำเป็นจะต้องฝึกให้สุนัขของตนเองเกิดความคุ้นเคยก่อน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาฝึกอยู่พอสมควร

ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ผู้เลี้ยงสุนัขส่วนใหญ่นิยมใช้กัน เพราะสามารถควบคุมสุนัขได้ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องพาสุนัขเดินไปตามสถานที่ต่างๆ นอกเหนือจากในบ้าน จะมีหลายประเภทด้วยกัน และแต่ละประเภทก็จะมีลักษณะและวิธีการใช้งานแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วสายจูงสำหรับสุนัขจะออกแบบมาเป็นเชือกที่มีตะขอสำหรับใช้เกาะกับปลอกคอของสุนัขหรือแบบรัดอก ทั้งนี้สายจูงของสุนัขแต่ละยี่ห้อหรือแต่ละรุ่นก็อาจจะออกแบบมาไม่เหมือนกัน เพราะสุนัขนั้นจะมีทั้งพันธุ์เล็ก พันธุ์กลาง และพันธุ์ใหญ่

ประเภทของสายจูงสุนัข

1. สายจูงทั่วไป

สายจูงทั่วไปจะมีตะขอแบบปกติที่ใช้ในการล็อคปลอกคอของสุนัข ตัวเชือกอาจผลิตจากวัสดุไนลอนหรือหนัง ซึ่งถือเป็นสายจูงของสุนัขที่ใช้งานง่าย แต่ข้อเสียคือถ้าสุนัขเดินตามสายจูงไม่เป็นหรือมีการต่อต้านการใช้สายจูง เมื่อสุนัขถอยหลังและส่ายหัวร่วมด้วยก็จะทำให้ปลอกคอที่มีสายจูงติดอยู่หลุดไปด้วย

2. สายจูงของสุนัขตัวเล็กหรือลูกสุนัข

สายจูงของสุนัขประเภทนี้จะออกแบบมาให้มีขนาดเล็กตามตัวของสุนัข โดยเฉพาะลูกสุนัขตัวเล็ก จำเป็นจะต้องใช้สายจูงที่มีน้ำหนักเบา เพื่อให้พอดีกับขนาดตัวและไม่ทำให้อึดอัดจนเกินไป โดยสายจูงประเภทนี้มักใช้วัสดุไนลอนที่มีความอ่อนโยนต่อผิวของสุนัข แต่ตัวเชือกก็ยังมีความแข็งแรงอยู่

3. สายจูงของสุนัขพันธุ์กลาง

สายจูงของสุนัขประเภทนี้จะออกแบบมาสำหรับสุนัขพันธุ์กลาง หรือขนาดกลาง โดยจะมีลักษณะคล้ายกับสายจูงของสุนัขทั่วไปที่มีตะขอเพื่อใช้เกาะกับส่วนที่เป็นปลอกคอหรือเสื้อของสุนัข ซึ่งความยาวของเชือกนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 เมตร ออกแบบมาให้มีความแข็งแรง น้ำหนักไม่เบามากและไม่ชำรุดง่าย

4. สายจูงของสุนัขพันธุ์ใหญ่

สายจูงสุนัขพันธุ์ใหญ่จะเน้นวัสดุที่มีความทนทานเป็นพิเศษ เนื่องจากสุนัขพันธุ์ใหญ่นั้นจะมีพลังเยอะพอสมควร จึงต้องออกแบบสายจูงให้มีความแข็งแรงและทนต่อแรงกระชาก ซึ่งวัสดุที่ใช้นั้นอาจเป็นไนลอนประสิทธิภาพสูง มาพร้อมกับตะขอโลหะและสปริงที่ยืดหยุ่น ความยาวของสายจูงจะอยู่ที่ 1.5 เมตร

5. สายจูงแบบปรับได้

สายจูงสุนัขแบบปรับได้ก็จะช่วยให้ผู้เลี้ยงสุนัขสามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น เนื่องจากสายจูงนี้จะออกแบบมาให้สามารถปรับระดับความยาวของเชือกได้ ซึ่งจะทำให้สามารถกำหนดระยะห่างได้ง่ายขึ้น โดยจะมีห่วงตรงสายที่ใช้ปรับระดับความยาวของเชือก เหมาะกับการนำไปฝึกกับสุนัขทุกสายพันธุ์

6. สายจูงสปริง

สายจูงของสุนัขประเภทนี้จะมาพร้อมกับที่จับและโช้คสปริงที่เป็นชิ้นส่วนของอะไหล่ที่ทำจากเหล็กขนาดยาวและบิดให้เป็นวงกลม สายจูงแบบสปริงจะมีความยืดหยุ่นอยู่ในตัว ซึ่งสามารถป้องกันแรงกระแทกและลดการสั่นสะเทือนในระหว่างการใช้งานได้

7. สายจูงครอบหัว

สายจูงของสุนัขแบบครอบหัวจะออกแบบมาให้มีสายที่สามารถครอบหัวสุนัขทีเดียวได้ โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องยึดเกี่ยวกับอุปกรณ์ใดๆ เพียงแค่ใช้สายจูงมาครอบหัวของสุนัขและปรับขนาดให้อยู่ในความเหมาะสม โดยจะใส่ให้หลวมแบบที่คนสามารถสอด 2 นิ้วมือเข้าไปได้

8. สายจูงแบบรัดอก

สายจูงแบบรัดอกถือเป็นที่ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่นิยมเลือกซื้อมาใช้กันมากที่สุด เพราะสามารถปรับขนาดให้พอดีกับตัวของสุนัขได้ ซึ่งวิธีการใช้จะมีลักษณะคล้ายกับการใส่เสื้อให้สุนัข เนื่องจากสายจูงนั้นจะมีสายที่เชื่อมต่อกับวัสดุที่ต้องสวมใส่บริเวณหน้าอกของสุนัข

9. สายจูงแบบตลับม้วนเก็บ

จะมีลักษณะคล้ายตลับเมตร เหมาะกับสุนัขที่รู้คำสั่งเรียกกลับมายังไม่ถึง 100% แต่ต้องการสร้างระยะห่างเพื่อให้อิสระในการเดินไปมาของสุนัข โดยจะใช้สายจูงเกี่ยวไว้กับปลอกคอ จากนั้นฝึกให้สุนัขเดินมาหาตามคำสั่งที่แสดงให้สุนัขได้รับรู้ แต่ในการฝึกสุนัขจำเป็นต้องล็อคระยะของสายจูงด้วย เพราะจะทำให้สามารถควบคุมสุนัขในระยะที่สายจูงกำหนดได้

10. สายจูงแบบโซ่กระตุก

สายจูงแบบโซ่กระตุก จะมีลักษณะคล้ายกับสายจูงทั่วไปทำด้วยโซ่ขนาดใหญ่ที่เอาไว้คล้องหลังกกหูของสุนัข โดยจะเน้นที่ความแข็งแรงเป็นหลัก ออกแบบมาเพื่อใช้กับสุนัขพันธุ์ใหญ่หรือสุนัขที่มีเรี่ยวแรงมากเป็นพิเศษ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสายจูงขาดได้ ผู้ใช้สามารถกระตุกสายจูงเมื่อสุนัขไม่ฟังคำสั่งได้

ทำไมต้องใช้สายจูงสุนัข ประโยชน์

1. เจ้าของสามารถควบคุมการเดินของสุนัขได้

เมื่อผู้เลี้ยงสุนัขพาสุนัขเดินออกไปข้างนอก การใช้สายจูงสำหรับสุนัขก็จะทำให้ผู้เลี้ยงสามารถควบคุมการเดินของสุนัขได้ หรือจะเรียกว่าเป็นกำหนดทิศทางการเดินของสุนัขก็ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขเดินไปที่อื่นจนหลงทางและพลัดพรากจากเจ้าของ

2. ช่วยให้สุนัขปลอดภัยมากขึ้น

อย่างที่ทราบกันว่าสุนัขเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างซนไม่ใช่น้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนิสัยของสุนัขแต่ละตัวด้วย ในกรณีที่สุนัขดื้อมากๆ ก็อาจทำให้ผู้เลี้ยงควบคุมได้ยาก การใช้สายจูงจะช่วยป้องกันไม่ให้สุนัขเดินหรือวิ่งไปในที่ที่ไม่เหมาะสม เช่น ถนนที่มีรถสัญจรไปมา หากสุนัขวิ่งตัดหน้าก็อาจทำให้ถูกรถชนได้

3. ลดโอกาสที่สุนัขจะเข้าจู่โจม

ถึงแม้ว่าสุนัขจะเป็นมิตรและเข้ากับคนได้ดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเข้ากับคนทุกคนได้ หรือแม้กระทั่งสุนัขด้วยกันเอง มีโอกาสที่พวกเขาจะจู่โจมฝ่ายตรงข้ามมากพอสมควร อาจทำให้เจ้าของสุนัขต้องจ่ายค่าเสียหาย ในกรณีที่สุนัขของตนไปสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น แต่ทว่าการใช้สายจูงจะช่วยลดปัญหานี้ได้

4. ป้องกันสุนัขกินของสกปรก

สุนัขถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่ค่อนข้างกินง่าย ส่วนใหญ่แล้วเมื่อสุนัขได้กลิ่นอะไรก็มักจะเข้าไปสูดดม และถ้ารู้สึกว่าสิ่งนั้นสามารถกินได้ พวกเขาก็จะพยายามกินเข้าไปอย่างไม่ลังเล การใช้สายจูงสุนัขจะช่วยควบคุมไม่ให้สุนัขมีความอิสระมากเกินไป โดยเฉพาะเวลาที่ผู้เลี้ยงต้องพาสุนัขออกไปข้างนอก มีโอกาสสูงที่สุนัขจะไปกินซากสัตว์ที่ตายแล้วตามถนนได้

5. เจ้าของอุ่นใจมากขึ้นเมื่อฝากสุนัขไว้กับคนอื่น

ในกรณีที่เจ้าของสุนัขมีธุระและจำเป็นจะต้องฝากสุนัขให้คนอื่นเลี้ยงชั่วคราว หากสุนัขยังไม่คุ้นเคยกับคนคนนั้นก็อาจทำให้ควบคุมได้ยาก แต่การมีสายจูงจะทำให้ผู้ที่ถูกฝากเลี้ยงดูสุนัขสามารถควบคุมสุนัขได้ง่ายขึ้น เพราะสายจูงก็เปรียบเสมือนเป็นตัวกลางที่จะเชื่อมต่อระหว่างสุนัขและบุคคลที่รับเลี้ยงสุนัขให้เข้ากันได้ง่ายขึ้น

วิธีเลือกซื้อสายจูงสุนัข

1. ประเภทของสายจูงของสุนัข

สายจูงของสุนัขมีให้เลือกหลากหลายประเภทหากเป็นลูกสุนัข 4 เดือน อาจใช้สายจูงแบบปลอกคอก่อนใช้แบบรัดอก ปัจจุบันมีผู้คนเลี้ยงสุนัขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสุนัขก็มีหลายสายพันธุ์ มีทั้งพันธุ์เล็ก พันธุ์กลาง และพันธุ์ใหญ่ ซึ่งแต่ละตัวจะมีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน จึงมีการออกแบบสายจูงให้ตอบโจทย์กับสุนัขแต่ละตัวมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นผู้เลี้ยงจึงควรพิจารณาก่อนว่าสายจูงประเภทใดที่จะเหมาะกับสุนัขของตนเอง

2. ขนาดและความยาว

นอกจากประเภทแล้ว ขนาดและความยาวของสายจูงก็ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึง โดยแนะนำให้เลือกขนาดและความยาวที่เหมาะสมกับสุนัขที่เลี้ยง หากเป็นสุนัขพันธุ์เล็กก็ควรเลือกสายจูงที่มีขนาดเล็ก ส่วนสุนัขพันธุ์กลางไปจนถึงพันธุ์ใหญ่ หรือสุนัขที่มีพลังเยอะก็ควรเลือกสายจูงที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักขึ้นมาหน่อย เพื่อที่จะควบคุมสุนัขได้ง่ายขึ้น สำหรับความยาวควรอยู่ในระหว่าง 1-2 เมตร

3. วัสดุแข็งแรงและทนทาน

สุนัขเป็นสัตว์ที่มีพลังมากพอสมควร โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์ใหญ่ หากพวกเขากัดสายจูงและเคลื่อนตัวไปมาอย่างรุนแรงก็อาจทำให้สายจูงขาดได้ ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงควรเลือกสายจูงสุนัขที่มีความแข็งแรงและทนทาน จะช่วยลดปัญหาสายจูงขาดหรือเกิดความเสียหายได้ ซึ่งสามารถพิจารณาจากวัสดุที่ใช้ได้ว่ามีคุณภาพมากน้อยเพียงใด

4. ฟังก์ชันของสายจูง

สายจูงของสุนัขแต่ละประเภทจะมีฟังก์ชันหรือวิธีการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน บางประเภทอาจมีการออกแบบมาให้สามารถล็อคระยะห่างระหว่างคนกับสุนัขได้ หรือบางประเภทอาจออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้มากกว่าการใช้จูงสุนัขแบบธรรมดา ทั้งนี้ผู้เลี้ยงสุนัขทุกคนควรพิจารณาด้วยว่าสายจูงที่จะเลือกซื้อจะตอบโจทย์การใช้งานมากเพียงใด

5. สายจูงที่สะท้อนแสงตอนกลางคืน

กรณีที่ผู้เลี้ยงชอบพาสุนัขออกไปเดินเล่นข้างนอกในเวลากลางคืนอยู่บ่อยๆ จำเป็นมากที่จะต้องเลือกสายจูงที่ทำให้มองเห็นสุนัขได้ง่ายขึ้น เนื่องจากตอนกลางคืนจะมืด โดยเฉพาะบริเวณที่ไม่มีไฟส่องถึงก็จะทำให้มองเห็นสุนัขได้ยาก แนะนำให้เลือกสายจูงของสุนัขที่มีแถบสะท้อนแสงในยามกลางคืนได้จะดีที่สุด

วิธีใส่สายจูงสุนัข และวิธีใช้

1. ทำบ่วงแล้วคล้องคอสุนัข

ในกรณีที่ใช้สายจูงแบบทั่วไปที่ไม่ใช่แบบรัดอก ขั้นตอนแรกให้เตรียมสายจูงให้พร้อม จากนั้นทำเป็นบ่วง ซึ่งสายจูงมักจะใส่ได้ทั้งสองด้าน ขึ้นอยู่กับความถนัดหรือต้องการจะจูงสุนัขข้างไหน เมื่อทำเป็นบ่วงแล้วก็นำไปคล้องคอสุนัข โดยทิศทางของสายพาดคอนั้นจะต้องเข้าหาคนจูงเสมอ ในกรณีที่ใช้สายจูงแบบรัดอกให้กางออกและสวมเข้ากับขาทั้งสองข้างของสุนัข

2. ปรับตำแหน่งสายที่คอสุนัขให้อยู่แนวกราม

หลังจากใช้สายคล้องคอสุนัขเสร็จแล้วก็ให้ปรับตำแหน่งสายที่คอสุนัขให้อยู่ที่แนวกราม เพื่อให้สายที่ใช้คล้องคอสุนัขนั้นอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้มีความมั่นคงและไม่หลุดง่าย ขณะที่จูงสุนัขก็จะทำให้ง่ายต่อการควบคุมด้วย

3. ปรับความแน่นให้หลวมแบบที่ใช้ 2 นิ้วมือสอดเข้าไปได้

เมื่อปรับตำแหน่งสายที่คล้องคอสุนัขให้อยู่ที่บริเวณกรามแล้ว หลังจากนั้นให้กะระยะความแน่นก่อนจะทำการล็อค โดยแนะนำให้สอดนิ้วมือ 2 นิ้วเข้าไป ความแน่นประมาณนี้ถือว่ากำลังดี ไม่แน่นจนเกินไป ซึ่งโดยปกติการใส่สายจูงของสุนัขก็จะไม่รัดแน่นอยู่แล้ว ความหลวมระดับนี้ถือว่าพอดีกับการเคลื่อนไหวของสุนัข

4. ปรับตัวล็อคให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

หลังจากปรับความแน่นของสายรัดที่คอของสุนัขแล้ว ในกรณีที่สายจูงบางรุ่นที่มีตัวล็อคมาด้วยก็ให้รูดลงอย่างพอดี ไม่แน่นจนเกินไป โดยปรับตัวล็อคให้อยู่ในระยะ 2 นิ้ว ซึ่งความหลวมระดับนี้จะไม่ทำให้สุนัขรู้สึกแน่นและอึดอัด

5. ใช้ข้อมือบังคับสายจูง

ในช่วงจังหวะการเดินต้องควบคุมให้สุนัขอยู่ในพื้นที่ที่เรากำหนดไว้ หากกำหนดให้สุนัขอยู่ข้างซ้ายหรือข้างขวา ต้องควบคุมให้สุนัขอยู่ข้างนั้นข้างเดียวไปตลอด ไม่ควรเปลี่ยนฝั่งไปมา โดยการบังคับนั้นจะต้องใช้ข้อมือในการบังคับให้สุนัขอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง แต่ไม่ควรกระชากแรงจนเกินไป

เคล็ดลับจูงสุนัขอย่างปลอดภัยและเชื่อง

• กรณีที่สุนัขลากสายจูง เจ้าของต้องยืนอยู่กับที่ เพราะถ้าหากสุนัขลากสายจูงแล้วปล่อยให้เขาไปตามอิสระ สุนัขของคุณก็จะเรียนรู้ว่าเขาสามารถลากสายจูงได้ ดังนั้นควรฝึกให้สุนัขเรียนรู้ว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่
• เมื่อสุนัขลากสายจูงให้เจ้าของสุนัขเปลี่ยนทิศทางในการเดินทันที ซึ่งควรทำในกรณีที่สุนัขพยายามเดินไปข้างหน้าโดยที่เรายังไม่อนุญาต หากสุนัขเดินไปทางซ้ายให้เจ้าของเดินไปทางขวา เพื่อสอนให้สุนัขรู้ว่าเราไม่ได้ต้องการที่จะไปในทางที่เขาต้องการ และทำให้สุนัขรู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้คุมการเดิน
• กรณีที่สุนัขกำลังจะเดินน้ำหน้าเจ้าของ ให้เจ้าของรีบเดินตัดหน้าสุนัขทันที โดยวิธีนี้จะสอนให้สุนัขรู้ว่าเจ้าของสามารถเปลี่ยนทิศทางการเดินได้ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยให้สุนัขได้เรียนรู้และพยายามสังเกตขาของเจ้าของเป็นหลัก แทนที่จะไปสนใจสิ่งแวดล้อมโดยรอบ
• กรณีที่เดินในบริเวณที่มีกำแพงอยู่ข้างๆ หากมีความรู้สึกว่าสุนัขเริ่มจะลากสายจูงสุนัข ให้เจ้าของรีบเดินตัดหน้าเพื่อให้สุนัขหยุด และหลังจากที่สุนัขหยุดแล้วก็ให้เดินต่อ ซึ่งถ้าหากสุนัขยังพยายามที่จะลากสายจูงไปด้านหน้าอีกครั้งก็ให้ใช้วิธีการเดินตัดหน้าเหมือนเดิมจนกว่าสุนัขจะเชื่อฟังและยอมเดินตาม
• กรณีที่สุนัขเลือกที่จะไม่เดิน ไม่แนะนำให้เจ้าของลากสายจูงเพื่อให้สุนัขเดินมาหา แต่ควรยืนอยู่เฉยๆ และกะระยะถือสายจูงให้ตึงๆ เมื่อสุนัขเรียนรู้ว่าถ้าเขาหยุดเดินแล้วไม่ได้ช่วยอะไร และอาจทำให้หายใจไม่ออกด้วย สุนัขก็จะเริ่มเดินมาหาเราเอง
• เมื่อฝึกจนสุนัขเริ่มเข้าใจแล้วว่าเขาต้องเดินข้างๆ ลำตัวเจ้าของอยู่ตลอด แนะนำให้เจ้าของมอบรางวัลแบบสุ่มกับสุนัข โดยที่รางวัลนั้นจะต้องยื่นให้ข้างๆ ตัวเจ้าของเท่านั้น เพื่อให้สุนัขรู้ว่าถ้าหากเขายิ่งเดินอยู่ในท่านี้ก็จะยิ่งได้รับรางวัลเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้สุนัขเชื่องมากขึ้นด้วย

สายจูงสุนัข วิธีเลือก บอกประเภทสายจูงต่างๆ

สรุป

จะเห็นว่าสายจูงสุนัขนั้นเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็น เพราะจะช่วยให้สุนัขปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่ต้องพาสุนัขออกไปนอกสถานที่ หากไม่มีสายจูงอาจทำให้สุนัขเดินเตร่ไปในที่ต่างๆ ได้ ดังนั้นผู้เลี้ยงสุนัขจึงควรใช้สายจูงและฝึกให้สุนัขรับฟังคำสั่งของคุณด้วย ทั้งนี้ผู้เลี้ยงสุนัขควรจะเลือกประเภทและลักษณะของสายจูงให้เหมาะกับตัวสุนัข ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์เล็ก พันธุ์กลาง หรือพันธุ์ใหญ่ สุนัขแต่ละตัวก็จะมีนิสัยที่ไม่เหมือนกัน เจ้าของสุนัขจึงต้องพิจารณาคุณสมบัติของสายจูงแต่ละประเภทก่อนจะเลือกนำมาใช้

ดูแลบทความโดย กองบรรณาธิการ BESTCHOICE

ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน

• Facebook
• X
• Line