อย่างที่เราได้เห็นกันสำหรับในยุคปัจจุบันนี้ กับภาวะโรคระบาดที่เราทั้งโลกต้องเผชิญร่วมกัน ทำให้คนทั้งโลกรวมถึงในประเทศไทยเราด้วย กับการหันมาใส่ใจในสุขภาพ และการรักษาความสะอาดกันมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากอนามัย การพกเจลแอลกอฮอล์ หรือล้างมือทุกครั้งที่ต้องหยิบจับอาหาร เพราะนอกจากจะเป็นการป้องกันไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น pm 2.5 แล้วนั้น ยังเป็นการป้องกันเชื้อโรคทุกชนิด ที่อยู่รอบตัวเรา
และเราจะสังเกตได้ว่า เครื่องใช้ต่างๆ ที่หันมาเน้นเรื่อง การฆ่าเชื้อโรคร่วมไปกับการทำงานของตัวเครื่องด้วย อย่างเช่น เครื่องซักผ้า หรือ เครื่องซักผ้าฝาหน้า ที่มีการเพิ่มคุณสมบัติของตัวเครื่อง ที่สามารถตั้งค่าอุณหภูมิน้ำที่ซัก ให้เอื้อต่อการฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับเสื้อผ้าได้
แต่สำหรับสินค้าไอเทมนี้ ที่นอกจากผลิตออกมาได้ตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันแล้วนั้น ยังครอบคลุมในเรื่องประโยชน์หลายอย่างให้กับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดกลิ่น โดยเฉพาะกับที่อยู่อาศัย ที่เน้นเรื่องการทำอาหารกินกันในบ้านเป็นประจำ
เป็นอาหารที่เน้นในการใช้ หม้อสุกี้ , เตาแก๊สปิ้งย่าง , เตาอบไฟฟ้า และคิดว่ากลิ่นที่คลุ้งภายในบ้านนั้น จะสามารถเอาออกไปได้หมดด้วยวิธีการเปิด พัดลมแอร์ หรือ พัดลมดูดอากาศ ก็ตาม แต่ในความจริงแล้ว ยิ่งกลับทำให้กลิ่นติดห้องนานมากยิ่งขึ้น
ในกรณีที่เป็นคนทำงาน หรือนักศึกษา อาศัยอยู่ในคอนโดที่คิดว่า การทำอาหารง่ายๆ อร่อยตามแทรนด์ที่นิยมกันสมัยนี้คือ การต้ม มาม่าเกาหลี โดยการใช้ ไมโครเวฟ นั้น จะเป็นเรื่องที่สะดวก และไม่เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ใดๆ แต่ความจริงแล้ว เครื่องปรุงต่างๆ ในซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้น เมื่อโดนความร้อน สามารถทำให้กลิ่นออกมาอบอวลภายในห้อง ที่มีพื้นจำกัดอย่างคอนโด อีกทั้งยังทำให้เครื่องใช้ต่างๆ ภายในห้องมีกลิ่นตามไปอีกด้วย
เครื่องฟอกอากาศ คืออะไร
คือ เครื่องที่มีคุณสมบัติในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่ลอยอยู่บนอากาศ ซึ่งอาจมีทั้งอณูที่เล็กมาก อย่างเชื้อโรคต่างๆ หรือสารก่อภูมิแพ้ ตั้งแต่ละอองฝุ่น ไปถึงฝุ่นผงขนาดใหญ่ เกสรดอกไม้ รวมทั้งกลิ่นอบอวลต่างๆ ที่อยู่ภายในห้อง
หรือภายในบริเวณบ้าน สำนักงาน หรือในพื้นที่จำกัดอย่างภายในรถยนต์ หรือห้องน้ำก็ตาม ด้วยการดักจับสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ ผ่านตัวแผ่นฟิลเตอร์ ตัวกรองอากาศ (Hepa filter) หรือด้วยวิธีอื่นๆ ในแต่ละประเภทของเครื่องฟอกอากาศ
ประโยชน์ของ เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศมีประโยชน์ต่อผู้ที่เป็นภูมิแพ้หรือผู้ที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับการโรคทางเดินหายใจพอจะช่วยฟอกอากาศให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น โดยการดูดเข้าผ่านไส้กรอกที่เรียกว่าฟิวเตอร์ แล้วปล่อยอากาศที่ดีๆออกมา
ซึ่งเครื่องฟอกอากาศจะมีสิ่งที่สามารถกรองได้ และกรองไม่ได้ตามลำดับ เช่น
1.ฝุ่นละออง
เป็นขั้นพื้นฐานของสิ่งที่ต้องการกรอง โดยเครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่แล้วสามารถกรองได้ โดยผ่านฟิวเตอร์ ที่เรียกว่า EPA ย่อมาจาก Efficiency Particulate Air Filter ซึ่งโดยปกติไส้กรองแบบนี้จะเป็นสีฟ้า
2.หมอกควัน และเกสรดอกไม้
เป็นอีกขั้นสำหรับเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งจะมีราคาแพงกว่าแบบแรกอย่างเดียว แต่ว่าเป็นผลดีสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ซึ่งแน่นอนว่าสามารถกรองเกสรดอกไม้ได้
ส่วนหมอกควัน จากการเผาไหม้ เผาขยะ มาจากโรงงานจะสามารถกรองได้ส่วนหนึ่ง โดยผ่านฟิวเตอร์ที่เรียกว่า HEPA ย่อมาจาก High Efficiency Particulate Air Filter ซึ่งจะมีไส้กรองเป็นสีเขียว H13
3.ควันบุหรี่
ไม่สามารถกรองได้ทั้งหมด แต่จะสามารถกรองได้บางส่วน ประมาณ 30%
ช่วยฆ่าเชื้อโรค
อาจถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก สำหรับในช่วงสถานการณ์แบบนี้ และการดูแลในเรื่องความสะอาด ปลอดจากเชื้อโรคจะเป็นสิ่งที่จากวันนี้จะกลายเป็น วิถีชีวิตประจำวันที่เป็นเรื่องปกติสำหรับเราทุกคนกันไปแล้ว ซึ่งในการฆ่าเชื้อโรคในอากาศ
สำหรับเครื่อง Air Purifier นี้ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการใช้แผ่นกรองที่ดักจับฝุ่นละออง การใช้ไฟฟ้าสถิตดักจับ รวมถึงการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ที่จะเข้ามา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ อาจมีเชื้อโรคติดมาด้วย อากาศที่ได้จากการกรองแล้ว จะได้เป็นกลิ่นของอากาศบริสุทธิ์ที่ปราศจากกลิ่นหอมใดๆ แต่เป็นความรู้สึกของกลิ่นอากาศที่สะอาดแทน
กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
อีกสิ่งที่คิดว่าเป็นสิ่งสำคัญรองๆ ลงมาจาก ความสามารถที่ตัวเครื่องฆ่าเชื้อโรคได้คือ การดูดซับ และกำจัดกลิ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอาหาร กลิ่นสัตว์เลี้ยง กลิ่นอับ หรือกลิ่นจากอากาศชื้น เป็นต้น ให้หายไปจากทั้งในห้องที่มีพื้นที่จำกัด อย่างห้องน้ำ ห้องเลี้ยงเด็ก หรือภายในรถยนต์ มากกว่ายังสามารถเปลี่ยนกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ให้กลายเป็นกลิ่นของอากาศบริสุทธิ์ได้
ลดปัญหาของอาการภูมิแพ้
ปัญหานี้ถ้าจะมองว่า เป็นปัญหาที่ไม่สำคัญก็อาจจะไม่ใช่อีกต่อไป เพราะเพียงแต่ละอองจากฝุ่นภายนอก หรือเกสรดอกไม้ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมเมืองสมัยนี้ มักจะมีอาการภูมิแพ้กันมากขึ้นแล้ว การลามของอาการภูมิแพ้จากทางเดินหายใจ มาถึงทางผิวหนังก็สามารถเป็นได้ ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยง และเอื้อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ทั้งสิ้น
ช่วยเปลี่ยนอากาศให้บริสุทธิ์
ข้อดีหรือประโยชน์ในจุดเด่นหนึ่ง ที่ทำให้หลายคนใช้งานเครื่องฟอกอากาศนี้อย่างต่อเนื่องคือ กลิ่นของอากาศบริสุทธิ์ ที่ไม่มีอะไรมาเจือปน และในวันนี้ก็คิดว่าเราทุกคน มีความต้องการทั้งอากาศที่หายใจเข้าปอดได้อย่างลึกๆ และไม่มีอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของเราทุกคน
กรองอากาศที่เข้ามาจากภายนอก
ใครหลายคนอาจมองว่าการฟอกอากาศ เป็นการจัดการกับอากาศที่อยู่ในพื้นที่ หรือบริเวณนั้น ให้สะอาดเพียงเท่านั้น แต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือ การที่ระบบของ Air Purifier นั้นสามารถที่จะจัดการ ฆ่าเชื้อโรค กำจัดกลิ่น ดักจับละอองต่างๆ จากอากาศภายนอก ที่เข้ามาสู่ภายในบ้าน
หรือภายในห้องพักอาศัยได้ ประโยชน์ในข้อนี้อาจเป็นสิ่งที่ดีมาก สำหรับผู้ที่มีบ้านพักอาศัย หรือที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ หรือพื้นที่มีควัน และฝุ่นละอองเป็นจำนวนมาก
เครื่องฟอกอากาศ ช่วยในเรื่องสุขภาพได้อย่างไร
พื้นฐานของการมีสุขภาพที่ดี ที่เราอาจเคยได้ยินกันว่า จะเป็นที่จะต้องมี 5 อ ที่ได้แก่ อาหาร อากาศบริสุทธิ์ อารมณ์ ออกกำลังกาย และอดิเรก ซึ่ง อากาศที่ดี หรืออากาศที่ไร้การเจือปนทั้งกลิ่น และฝุ่นละอองต่างๆ ถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยเสริม ให้เราทุกคนมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง และห่างไกลโรคภัยได้ อากาศที่ได้จากการกรอง และฆ่าเชื้อโรคจากเครื่องฟอกอากาศแล้วนั้น ถือว่าเป็นอากาศที่เป็นผลดีต่อทั้งร่างกาย และปอดของเราอีกด้วย
ส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่องฟอกอากาศ
เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ตัวดักจับฝุ่นละออง แผ่นกรอง หรือเรียกว่า แผ่นฟิลเตอร์นั้น เป็นส่วนประกอบหลัก ที่สำคัญสำหรับเครื่อง Air Purifier เพราะถือว่าเป็นตัวสำคัญ ในการนำเอาฝุ่นละอองต่างๆ ที่มาพร้อมกับเชื้อโรค ติดอยู่กับตัวแผ่นกรอง และฝุ่นละอองบางส่วนที่ตกลงบนพื้น ในระบบการกรองอากาศแบบไฟฟ้าสถิต ดังนั้นเรามาดูกันว่า แผ่นกรอง หรือตัวฟิลเตอร์นั้นมีการแบ่งออกได้กี่ชนิด
ชนิดแผ่นกรองอากาศในเครื่องฟอกอากาศ
1.แผ่นกรอง Pre Filter
ถือว่าเป็นด่านหน้าของเครื่อง ที่เป็นการดักจับสำหรับฝุ่นละอองที่มีขนาดใหญ่ อย่างเช่นฝุ่นตามซอกห้อง หรือเศษผง เศษผมในห้อง ที่ส่วนใหญ่เราจะมองเห็น หรืออาจมองไม่เห็น แต่มีขนาดใหญ่กว่า 0.3 ไมครอน ซึ่งหากมีฝุ่นลักษณะนี้มากๆ ในห้อง หรือในบ้านพักอาศัยก็ตาม อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เป็นโรคภูมิแพ้ หวัด หรือเป็นตัวเสริมให้เกิดโรคภูมิแพ้ที่รุนแรงมากขึ้น
2.แผ่นกรอง Hepa Filter
เป็นส่วนของการกรองฝุ่นละอองชั้นที่สอง รองมาจาก Pre Filter ที่เน้นการดักจับฝุ่นในอณูที่มีขนาดเล็กมากกว่า โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 และฝุ่นละอองที่เราไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ด้วยตามอง ที่มีขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน รวมถึงละอองเกสรดอกไม้ หรือจากอากาศภายนอกบ้านเข้ามาด้านในตัวบ้านร่วมด้วย
3.แผ่นกรอง Carbon Filter หรือ Gas Phase Air Filters
ถือว่าเป็นอีกส่วนในคุณสมบัติของเครื่องฟอกอากาศที่นอกจากจะฆ่าเชื้อโรค ที่ติดมาพร้อมกับฝุ่นละอองแล้วนั้น ยังเป็นการกำจัดกลิ่นรบกวนต่างๆ ให้เป็นกลิ่นของอากาศบริสุทธิ์มาแทนที่อีกด้วย
การเลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะกับแต่ละขนาดของห้อง
ควรที่จะเลือกให้ตัวเครื่องมีการรองรับได้มากกว่า พื้นที่จริงของห้องที่ต้องการใช้งาน อย่างเช่น ห้องมีขนาด 36 ตารางเมตร ควรเลือกตัวเครื่อง ที่สามารถรองรับการกรองอากาศ สำหรับพื้นที่ได้ตั้งแต่ 37-40 ตารางเมตร
เครื่องฟอกอากาศ ควรตั้งจุดไหนของห้อง
จุดหรือตำแหน่งที่แนะนำมาที่สุดคือ จุดกลางของห้อง เพื่อที่จะให้เครื่องสามารถ ที่จะหมุนเวียนการกรองอากาศได้ทั่วทั้งห้อง แต่หากไม่สามารถวางกลางห้องได้ แนะนำให้วางเครื่องให้มีความห่างจากด้านข้าง 20 เซนติเมตร และด้านหลังมีห่างอยู่ที่ 10 เซนติเมตร โดยที่สามารถใช้รางปลั๊กไฟเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย หรือวางตัวเครื่องไปในห้องต่างๆ ได้
ขั้นตอนการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ
1.การกรองอากาศ
หรือเรียกอีกอย่างว่า Air Filter ซึ่งจะมีตัวแผ่นกรองที่เป็นอุปกรณ์หลัก ในการดักจับฝุ่นละออง สารก่อภูมิแพ้ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นต่างๆ ในที่นอน ผ้าห่ม ผ้าปูเตียง หรือแม้แต่เกสรดอกไม้ เป็นต้น ถือว่าเป็นด่านหน้าในการกรองเอาฝุ่นละออง หรือสิ่งแปลกปลอมในอากาศ
เราอาจจะไม่สามารถสูดฝุ่นละอองที่มีอณูขนาดใหญ่เข้าทางจมูกได้ แต่จะมีสารก่อภูมิแพ้ และทำให้เราเกิดอาการหายใจไม่สะดวก เป็นหวัด หรือจามได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะตัวแผ่นกรอง Hepa Filter หรือมาจากคำว่า High Efficiency Particulate ที่ใช้ในการดักจับฝุ่นละออง ตั้งแต่อณูใหญ่ จนถึงอณูเล็กได้มากถึง 0.3 ไมครอน แผ่นกรอง Hepa Filter นี้เป็นแผ่นใยไฟเบอร์กลาส ที่ไม่เพียงแต่มีอายุการใช้งานได้นานมากถึง 3-5 ปีแล้ว ยังมีประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่นละออง ได้มากถึง 99.97 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว
2.ดักจับฝุ่นละอองด้วยไฟฟ้าสถิต
หรือสามารถเรียกได้อีกชื่อว่า Electrostatic Precipitator นั่นเอง ข้อดีและคุณสมบัติเด่น ของการทำงานในขั้นตอนนี้ก็คือ การที่ตัวเครื่องฟอกอากาศปล่อยตัวกระแสประจุไฟฟ้าลบ ที่มีความสามารถทั้งดักจับ และรวมฝุ่นละอองที่เป็นประจุไฟฟ้าบวกให้เป็นกลุ่มก้อน จนมีน้ำหนักที่มากพอ แล้วฝุ่นละอองเหล่านั้นจะตกลงพื้น รวมถึงการใช้งานที่เหมาะอย่างมาก ในการนำไปไว้ในห้องที่มีพื้นที่เฉพาะ หรือห้องที่ต้องการๆ เก็บเสียง อย่างเช่น ห้องนอน ห้องที่มีเด็กเล็กอยู่ หรือภายในรถยนต์ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และความสะอาด
3.กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
เราสามารถเรียกขั้นตอนนี้ว่า Gas Phase Air Filters สิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่ต้องการมีเครื่องฟอกอากาศนี้มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นในบ้านที่มีบริเวรที่กว้างขวาง หรือแม้แต่ในห้องพักคอนโดก็ตาม คือความสามารถที่จะดูดเอากลิ่นต่างๆ ที่เป็นกลิ่นแรงจากอาหาร จากการประกอบอาหาร จากความชื้นในอากาศทั้งภายในห้องเอง และภายนอกห้อง
หรือแม้แต่ที่กำลังเป็นที่นิยมในทุกวันนี้คือ สำหรับการนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงไว้ในบริเวณบ้าน หรือแม้แต่ในห้องคอนโดก็ตาม ความกังวลเรื่องกลิ่นอับต่างๆ ที่เกิดจากการเลี้ยงสัตว์จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ตัวถ่านกัมมันต์ หรือ Activated Carbon เป็นตัวหลักที่ช่วยในการดูดซับกลิ่นเหล่านี้ให้จางหายได้ ด้วยคุณสมบัติของ Gas Phase Air Filters และไม่เพียงแต่การดูดซับกลิ่นต่างๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังสามารถกำจัดกลิ่นของสารเคมี กลิ่นแรงจากน้ำยาต่างๆ รวมถึงกลิ่นจากแก๊สพิษได้อีกด้วย
4.ฆ่าเชื้อโรคโดยใช้โอโซน
เป็นการปล่อยแสงยูวี หรือขั้นตอนที่เรียกว่า Ozone Generator ที่จะให้ตัวแสงยูวีนั้นสร้างอากาศในพื้นที่ หรือห้องนั้นๆ ให้มีโอโซน เพื่อช่วยในการฆ่าเชื้อโรคทั้ง แบคทีเรีย เชื้อรา หรือความชื้นต่างๆ ในอากาศ
5.ฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสี
เป็นการปล่อยรังสีอัลตราไวโอเลตออกมา เพื่อเน้นในเรื่องการฆ่าเชื้อโรคโดยเฉพาะอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นคุณสมบัติเด่นของเครื่องฟอกอากาศ หรือ เครื่อง Air Purifier
ฟังก์ชั่นเสริมของเครื่องฟอกอากาศ
1.การควบคุมการทำงานผ่านมือถือ
ในทุกวันนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทุกอย่าง ต้องมีระบบการใช้งานที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง wifi แอปพลิเคชั่น และบลูทูธ รวมถึงการสามารถสั่งการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือได้ รวมถึงการทำงานที่สามารถควบคุม และตั้งค่าของเครื่อง Air Purifier โดยใช้โทรศัพท์มือถือ แทนรีโมทของเครื่องก็ถือว่า อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
2.เซ็นเซอร์การตรวจจับกลิ่น และฝุ่นละอองอัตโนมัติ
ในขณะที่เราเปิดให้เครื่องทำงานโดยเสียบเชื่อมต่อกับ รางปลั๊กไฟ อยู่นั้น ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่า บ้านได้มีการเปิดประตูหน้าบ้าน และมีการใช้เครื่องตักหญ้านอกบ้าน หรือแม้แต่ภายในบ้าน มีการใช้งานเตาอบ หรือทอดอาหาร ที่มีทั้งกลิ่น ละอองเกสร ละอองหญ้า ฝุ่นต่างๆ จากภายนอกที่จะเข้ามาภายในบ้าน และห้องที่สมาชิกในครอบครัวอาศัยกันอยู่ ซึ่งเครื่องฟอกอากาศจะมีการทำงาน ดักจับฝุ่นละอองต่างๆ รวมถึงการกำจัดกลิ่นจากการทำอาหารไปในตัว
3.การปรับการทำงานอัตโนมัติตามสภาพอากาศ
ฟังค์ชั่นการทำงานเสริมในข้อดี เหมาะสำหรับในประเทศบ้านเราเป็นพิเศษ ที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงตลอด ไม่ว่าจะเป็นฝนตก ที่อาจทำให้อากาศมีความชื้นมาก หรือในช่วงที่มีแดดออกตลอดทั้งวัน ก็อาจทำให้อากาศในบ้านอบอ้าว และมีความแห้ง
ซึ่งอาจส่งผลให้เรามีสภาพผิวที่แห้ง ดังนั้นการที่เครื่องจะสามารถที่จะ ลดความชื้นเพื่อเป็นการป้องกันเชื้อราในอากาศไปในตัว หรือการเพิ่มความชื้นในเวลาที่อากาศร้อนจัดๆ เพื่อไมให้ผิวหนังเราแห้งจนเกินไป ก็ถือว่าเป็นการตอบความต้องการในใจของผู้ใช้ได้เพิ่มมากขึ้น
4.การตรวจจับแมลง
สิ่งหนึ่งที่ในประเทศเขตร้อนชื้นอย่างประเทศไทย ที่มักจะมีปัญหาก็คือ เรื่องของแมลงต่างๆ ที่สำคัญคือยุง ที่อาจนำเอาโรคไข้เลือดออกมาแพร่กระจายให้กับคนในบ้านได้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก
เพราะแม้แต่ในห้องที่ปิดมิดชิด หรือห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศเกือบทั้งวันก็ตาม ก็ยังสามารถมีแมลง หรือยุงเล็ดลอดเข้ามาได้ การที่เครื่อง Air Purifier เพิ่มคุณสมบัติการทำงานในส่วนนี้เพิ่มขึ้น ก็จะช่วยเพิ่มกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้ ที่นอกจากจะเป็นกลุ่มที่ต้องการกำจัดเชื้อโรคแล้ว ยังเพิ่มกลุ่มผู้ใช้ที่เน้น เรื่องการให้กำจัดแมลงได้อีกทางหนึ่ง
5.ระบบตั้งเวลาเปิดปิด
ที่จริงแล้วการใช้งานในเรื่องของ การตั้งเวลาเปิดปิดของเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่เน้นการใช้งานใกล้กับตัวผู้ใช้ อย่างเช่น เครื่องปรับอากาศ พัดลม หรือแม้กระทั่งอย่างเครื่องฟอกอากาศนี้ ถือว่าเป็นของคู่กัน เพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีการเปิดใช้งานอยู่ตลอดเวลา การมีฟังค์ชั่นการใช้งานนี้พื้นฐาน ก็ถือว่าเป็นการช่วยในเรื่องการประหยัดไฟ และเน้นความปลอดภัยเรื่องไฟฟ้าไปในตัว
การเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ
1.ขนาดของห้อง
โดยส่วนใหญ่ที่แนะนำคือ การวัดพื้นที่ห้อง และนำไปเทียบกับคุณสมบัติของเครื่อง Air Purifier นั้นๆ ในแต่ละรุ่น และยี่ห้อ การเลือกให้มีขนาดการรองรับได้มากกว่าห้องจริง ซึ่งในตัวเครื่องนั้น จะมีการระบุไว้แล้วว่า สามารถรองรับการใช้งานได้กับ ห้องที่มีพื้นที่เท่าไหร่ อย่างเช่น 16-27 ตารางเมตร, 37 ตารางเมตร, 40-65 ตารางเมตร เป็นต้น
2.ค่าของ Air Flow หรือ Air Volume
เป็นตัวแสดงให้เห็นถึง ประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่มีความสามารถ ในการกรองอากาศได้เร็วแค่ไหน ยิ่งมีค่าตัวเลขสูง ยิ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึง ความมีประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่มีการทำงานที่ดี และทำให้อากาศบริสุทธิ์ได้เร็ว
3.ค่าของ CADR
เป็นหน่วยค่าวัดให้เราได้เห็นถึง ค่าการทำความสะอาดของอากาศ หรืออากาศที่เครื่องฟอกเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ละเครื่องจะมีการบอกให้เห็น จะมีหน่วยในการวัดเป็นชั่วโมงต่อท้าย
4.ตัวกรอง
โดยหลักๆ แล้วอยากให้เน้นไปที่ตัวเครื่อง ต้องมีตัวกรอง หรือฟิลเตอร์แบบ Hepa Filter ที่เป็นตัวกรองอณูขนาดเล็ก หรือขนาด 0.3 ไมครอนได้ เพราะจะช่วยในเรื่องของค่าฝุ่น PM 2.5 ไปด้วยในตัว รวมถึงฝุ่นละอองอื่นๆ ที่ยิ่งมีอณูเล็กเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถนำพาเชื้อโรคมาได้มากเท่านั้น
5.คุณสมบัติเสริมเรื่องอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องที่ควรจะมีอย่างเช่น การตั้งเวลาเปิด และปิดได้, ตัวเครื่องมีเซ็นเซอร์ในการกรองอากาศได้อย่างอัตโนมัติ เมื่อมีฝุ่นละอองเข้ามาในห้อง, หรือความสามารถเชื่อมต่อทั้งในส่วนของ wifi หรือการควบคุมการทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
การดูแลรักษา เครื่องฟอกอากาศให้ใช้งานได้นาน
1.จัดเวลาในการใช้งาน
เราควรที่จะมีการวางเวลาในการเปิดใช้เครื่อง ในช่วงเวลาที่มีความจำเป็นในแต่ละวัน อย่างเช่น ช่วงเวลานอน และช่วงเวลาเย็น ที่ทุกคนมานั่งรวมตัวกันในห้องกินข้าว หรือห้องนั่งเล่น ควรมีเวลาให้เครื่องปิดพักการใช้งาน เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน
2.เปลี่ยนแผ่นกรองตามอายุการใช้งาน
การเน้นในเรื่องของการเปลี่ยนของแผ่นฟิลเตอร์ ให้ตามช่วงอายุการใช้งาน อย่างเช่น ในตัวของ Hepa Filter จะมีอายุอยู่ที่ 4-5 ปี แต่ในช่วงเวลาระหว่างนั้น ควรมีการนำมาล้าง ทำความสะอาด และเช็ดให้แห้ง ก่อนนำไปประกอบเข้าที่เดิม
3.เลือกเครื่องที่มีการรองรับพอดีกับพื้นที่ห้อง
ตรงนี้อาจมีบางคนคิดว่า การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีการรองรับ พื้นที่ห้องที่น้อยกว่าห้องจริงอาจไม่มีผลอะไร รวมถึงบางคนอาจมองว่า มีจุดต่างกันเล็กน้อย อย่างเช่น เครื่องที่มีความสามารถในการฟอกอากาศ ได้กับพื้นที่ห้อง 37 ตารางเมตร
แต่เรากลับซื้อเครื่องนี้ เพื่อนำไปใช้ในห้องคอนโด ที่มีพื้นที่ 40 ตารางเมตร และมองว่ามีความต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น แต่ในความจริงแล้ว เสมือนกับเรานำเสื้อผ้าไปซัก ในเครื่องซักผ้าที่รับจำนวนชิ้นผ้าได้น้อย ความสะอาดในการซักที่ได้อาจจะไม่เพียงพอ
ดังนั้นข้อแนะนำคือ ควรเลือกเครื่องที่มีการรองรับ ในพื้นที่ห้องที่มากกว่า ห้องจริงเล็กน้อย จะได้ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น และฟอกอากาศได้บริสุทธิ์กว่า
ข้อควรรู้ก่อนซื้อ เครื่องฟอกอากาศ
สรุป
เราอาจไม่สามารถบอกได้ว่า การเกิดสถานการณ์โรคระบาด ที่ยังมีผลต่อเนื่องมาถึงในทุกวันนี้ กับทุกประเทศทั่วโลกนั้น ส่งผลเสียในด้านเดียว เพราะอีกด้านหนึ่งก็ทำให้เราทุกคน ได้มองเห็นถึงการใส่ใจในสุขภาพของตัวเองให้มากขึ้น และรวมถึงผู้ผลิตสินค้าในทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน อาหารการกิน หรือแม้แต่เครื่องสำอางก็ตาม
การเน้น และใส่ใจในเรื่องของการกลับไปสู่ธรรมชาติ หรือ Comes To Nature First อย่างเช่นในกรณีของเครื่องฟอกอากาศ ไอเทมสินค้าที่ในวันนี้ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า ทุกคนเริ่มให้ความสำคัญของสิ่งที่เป็นธรรมชาติ ไม่เจือปนสิ่งแปลกปลอม และรวมถึงอากาศที่บริสุทธิ์เป็นสิ่งที่เราทุกคน ต้องการกันมากในทุกวันนี้
อ้างอิง
เจ้าของร้านขายยาโดยเภสัชกรชั้นนำหลายสาขา ขายดีจ่ายยาแล้วคนไข้หายจนเป็นที่ยอมรับ การศึกษาปริญญาตรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทจากประเทศออสเตรเลีย มีความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับ สุขภาพ อาหารเสริม ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 4 Lite
– ใช้งานได้กับห้องนอน, ห้องนั่งเล่น, ห้องรับแขก
– ขนาดห้องตั้งแต่ 26 ตารางเมตร ไปจนถึง 45 ตารางเมตร
– ขนาดเล็กไม่เกะกะ ใช้พื้นที่ในการตั้งอุปกรณ์เทียบเท่ากับแผ่นกระดาษ A4
– หน้าจอ : LED (ค่าปริมาณฝุ่น หรือมลพิษในอากาศ, อุณหภูมิ, และความชื้นในห้อง)
เครื่องฟอกอากาศ Worldtech รุ่น WT-P40
– ขนาดพื้นที่ห้อง 40 ตร.ม.
– หน้าจอ LED ระบบสัมผัส ทัชสกรีน มีค่าสถานะอากาศบอก
– โหมดการทำงานปรับได้ 3 แบบ: ออโต้ – เงียบ – กำหนดเอง
– ปรับความเร็วลมได้ 3 ระดับ: ต่ำ – กลาง – สูง
– ตั้งเวลาเปิดปิดได้สูงสุด 8 ชั่วโมง
เครื่องฟอกอากาศ Philips รุ่น AC0820
– กรอง PM2.5 และขจัดอนุภาคที่เล็กถึง 0.003ไมครอน ได้ถึง 99.5%
– ขนาดห้อง: 16-49 ตร.ม.
– โหมดอัตโนมัติและสลีป
เครื่องฟอกอากาศ SHARP รุ่น FP-J30TA
– สามารถลดจำนวนไวรัสในอากาศลงได้ 97.3%
– ตั้งเวลาปิดเครื่องได้ 4 หรือ 8 ชั่วโมง
– สามารถเลือกปรับความแรงในการทำงานของเครื่องได้ 3 ระดับ
เครื่องฟอกอากาศ Gmax รุ่น AP-902
– ขนาดพื้นที่ห้อง 35 ตร.ม.
– ฟอกอากาศ กรองฝุ่นPM2.5
– ฟอกอากาศ กรองฝุ่น ควัน กลิ่น กรอง3ชั้น HEPA ฟิลเตอร์
– ประหยัดพื้นที่ ประหยัดไฟ ประหยัดพลังงาน กินไฟแค่ 35 วัตต์
– ตั้งเวลาได้ 8 ชม. เครื่องฟอกทำงานต่อเนื่องได้ 16 ชั่วโมงและจะปิดการทำงานเอง
เครื่องฟอกอากาศ PHILIPS Air Purifier รุ่น AC1215-20
– ฟอกอากาศในห้องได้สูงสุด 63 ตร.ม.
– โหมดอัตโนมัติพิเศษช่วยขจัดมลพิษระดับค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)
– ช่วยให้คุณทราบได้ทันทีเมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองใหม่
– ล็อคกันเปิดป้องกันการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าโดยไม่ได้ตั้งใจ
เครื่องฟอกอากาศ DAIKIN รุ่น MC55UVM6
– สำหรับพื้นที่ 31 – 41 ตร.ม.
– แผ่นกรองใช้ได้ตลอดอายุการใช้งานมีระบบ ดูดซับ-สลาย หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่
– มีฟิลเตอร์ดับกลิ่น
– รีสตาร์ทเครื่องอัตโนมัติ กรณีไฟดับ
เครื่องฟอกอากาศ Smart Air รุ่น The Sqair
– สำหรับขนาดพื้นที่ห้อง 40 ตร.ม.
– ความเร็วในการฟอกอากาศ: 315m³/h
– ใช้นานถึง 6 เดือน (1,440 ชั่วโมง) เมื่อเปิดเครื่องติดต่อกัน 8 ชั่วโมงต่อวัน
เครื่องฟอกอากาศ Smarthome รุ่น AP-170
– ไส้กรอง HEPA พร้อมไส้กรองคาร์บอน ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
– ช่วยกรองฝุ่นผงที่มีขนาดเล็ก มลพิษ กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และเชื้อโรค
– สามารถกรองฝุ่นละออง PM 2.5 และมาพร้อมไฟแสดงสถานะการใช้งาน
เครื่องฟอกอากาศ M Horse
– เมนูฟังก์ชั่นเป็นภาษาไทย
– สำหรับขนาดพื้นที่ห้อง 40 ตร.ม.
– กำจัดฝุ่น PM2.5