แป้งฝุ่น คืออะไร
คือแป้งที่ใช้ทาหน้า มีลักษณะเป็นผง มีการแบ่งเป็นเฉดสีตามสีผิวหน้าของผู้หญิง ในความหมายของ Loose Powder ก็คือ เป็นลักษณะรูปแบบของแป้ง ที่เน้นในเรื่องของการควบคุมความมันบนใบหน้าร่วมด้วย โดยมีคุณสมบัติที่คิดว่า ผู้หญิงหลายๆ คนติดใจ และใช้มาตลอดก็คือ ประสิทธิภาพในการคุมมันบนใบหน้า ช่วยให้สภาพผิวหน้าไม่เยิ้มระหว่างวัน
รวมถึงมีคุณสมบัติที่เทียบเท่ากับ แป้งพัฟ หรือแป้งอัดแข็ง (Pressed Powder) ที่ช่วยในการกันน้ำ, กันเหงื่อเหมาะกับอากาศบ้านเรา ที่มีลักษณะร้อนชื้น รวมถึงผู้ที่เคยเจอกับปัญหาในการใช้ แป้งพัฟ หรือแป้งแข็งมาแล้ว ในเรื่องของการเป็นสิว หรือผิวแพ้ง่าย เพราะเกิดจาการผสมรองพื้นร่วมกับตัวแป้งพัฟ แต่สำหรับแป้งฝุ่นแล้วกลับให้เนื้อแป้งที่บางเบากว่า, ไม่อุดตันที่รูขุมขน และไม่สร้างปัญหาเรื่องของการเป็นสิว
ในช่วงที่เด็กผู้หญิงเป็นวัยรุ่นนั้น เราคงเคยชินกับการนำเอาแป้งเด็กมาทาหน้า และรู้สึกว่านอกจากช่วยให้ผิวหน้าขาวใสในแบบเด็กๆ แล้วนั้น ยังช่วยให้ผิวหน้าเกิดความเบาสบาย และดูสวยแบบธรรมชาติ
ในทางกลับกันนั้น แป้งในแบบ Loose Powder ก็มีความคล้ายกันในเรื่องของคุณสมบัติที่ช่วยคุมมัน, เมื่อผิวหน้าโดนแดด หรือมีเหงื่อออก ก็ไม่เยิ้มระหว่างวัน อีกทั้งยังสามารถกันน้ำ และกันเหงื่อได้ในแป้งตัวเดียวกัน
การเป็นไอเท็มแป้งตัวโปรดสำหรับผู้หญิงอีกหลายคน ที่ไม่เน้นการแต่งหน้าที่หนัก หรือไม่ชอบการลงรองพื้นก่อนการทาแป้ง และรวมถึงผู้หญิงที่มีผิวแพ้ง่าย การใช้แป้งรูปแบบนี้ ก็จะช่วยให้หลังการทาแป้ง จะดูเป็นธรรมชาติ แต่มีผิวหน้าที่โปร่งใสกว่าการไม่ทาแป้ง รวมถึงไม่อุดตันที่รูขุมขนบนใบหน้า ที่ทำให้เกิดเป็นสิวได้อีกด้วย
ความพิเศษในการคิดค้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของแป้ง Loose Powder นั้น อาจไม่ได้มีเพียงแค่เนื้อสีแป้งแค่สีขาว, สีเนื้อ หรือสีชมพูเท่านั้น แต่การเพิ่มความน่าสนใจให้กับเนื้อแป้ง โดยสาวๆ ที่ต้องการให้ผิวหน้าดูมีมิติ หรือเกิดความสว่างมากขึ้น มีความออร่าขึ้นอย่างเป็นธรรมชาตินั้น สามารถที่จะเลือกแป้งฝุ่นที่มีลักษณะเป็นชิมเมอร์ หรือมีประกายการเคลือบมุกที่เนื้อของแป้ง
Loose Powder ที่มีส่วนผสมเนื้อแป้งที่เป็นชิมเมอร์นั้น เริ่มได้รับความสนใจในการใช้มากขึ้น เพราะนอกจากจะสามารถเน้นการทาได้เฉพาะจุดบนใบหน้า เพื่อให้เกิดความสว่างกระจ่างแล้วนั้น ยังสามารถคงคุณสมบัติในเรื่องของการคุมมัน, ช่วยในการกันเหงื่อ และกันน้ำ อีกทั้งยังช่วยให้ไม่เยิ้มระหว่างวันได้อีกด้วย
ประเภทของแป้งฝุ่น มีอะไรบ้าง
นอกจากแป้งที่เราเรียกกันว่า Loose Powder นั้นมีคุณสมบัติที่ดีเทียบได้กับ แป้งแข็ง หรือแป้งพัฟ ในเรื่องของการกันน้ำ, กันเหงื่อ แต่มีจุดได้เปรียบอยู่ที่เรื่องของการไม่อุดตัน และผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้นั้น ยังสามารถแบ่งประเภทของแป้งชนิดได้อีกเป็น 2 ประเภทคือ
ประเภทโปร่งแสง
คือ แป้งที่ไม่มีสี แต่ให้ความสว่าง และกระจ่างกับผิวหน้า ลักษณะที่โปร่งแสงนั้น เกิดจากการทาบนใบหน้าแล้ว ทำให้หน้าสว่าง แต่มีความแตกต่างจากแป้งที่ผสมเนื้อแบบชิมเมอร์ เพราะความโปร่งแสงจากแป้งในรูปแบบนี้นั้น จะมีความสว่าง และกระจ่างทั่วใบหน้า ไม่มีการเคลือบมุกเหมือนกับชิมเมอร์
ส่วนที่ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบ ของแป้งโปร่งแสงชนิดนี้ก็คือ นอกจากจะใช้เติมแป้งได้ในระหว่างวันแล้ว ยังช่วยคงความสดใส เหมือนการแต่งหน้าครั้งแรกของวันนั้นได้อีกด้วย แป้งแบบโปร่งแสง หรือที่เรียกว่าTranslucent นั้น ยังสามารถนำมาประยุกต์ในการใช้แต่งหน้า ไม่เพียงแต่การทาโดยไม่ต้องลงรองพื้นเพียงอย่างเดียเท่านั้น แต่ยังสามารถที่จะใช้ร่วมกับคอนซีลเลอร์ได้เป็นอย่างดี
โดยสำหรับสาวๆ ที่ต้องการปกปิดริ้วรอย หรือต้องการให้หน้าเนียนเรียบ เราสามารถที่จะลงคอนซีลเลอร์ไว้ก่อน จากนั้นแล้วจึงค่อยทาแป้งโปร่งแสงนี้ทับ การแต่งหน้าในรูปแบบนี้ จะช่วยให้เนื้อแป้งมีความติดทนนานกว่า ทำให้หน้าดูเนียเรียบ และมีความขาวกระจ่างใสในแบบเกาหลีได้อีกด้วย
ประเภทรองพื้น
เป็นแป้ง Loose Powder ที่มีหลายสี ตรงข้ามกับแป้งในแบบโปร่งแสง ไม่มีสี แต่ให้ความสว่าง แป้งในประเภทรองพื้นนี้นั้น มีความจำเป็นที่จะต้องลงรองพื้น, เบส หรือคุชชั่น (Cushion) ร่วมด้วย แต่ก็สามารถที่จะทาแป้งในแบบที่ไม่ต้องลงรองพื้น หรือคุชชั่นก็ได้ จะให้ความบางเบาก และดูไม่หนักหน้าเท่ากับการลงคุชชั่น
หากสาวๆ คนไหนที่ต้องการใช้แป้งฝุ่นประเภทนี้ ในแบบที่ต้องการลงรองพื้น หรือคุชชั่นนั้น แต่มีความสงสัยว่า ควรที่จะใช้รองพื้นหรือคุชชั่นดี เพราะดูเหมือนมีความคล้ายกันอยู่มาก เราจะแยกการใช้งาน เพื่อให้เหมาะกับลักษณะการแต่งหน้า และชนิดของผิวหน้าคือ
ประเภทของรองพื้นที่ใช้ร่วมกับแป้งฝุ่นธรรมดา
แบบคุชชั่น (Cushion)
การใช้คุชชั่นร่วมกับแป้ง Loose Powder ประเภทนี้นั้น ควรเน้นไปที่สาวผิวมัน หรือผิวผสม ด้วยความที่เนื้อของคุชชั่น เราอาจจะดูแล้วมีความคล้ายกับรองพื้นก็จริง แต่ในการทาแล้วนั้น มีความแห้ง ในแบบที่สามารถบอกได้เลยว่า เสมือนรองพื้นในแบบแห้ง การทาจะได้ความเรียบเนียบไปกับผิวหน้า พร้อมกับการยึดติดที่ดีเมื่อลงแป้ง
คุชชั่นไอเท็มที่ใช้ร่วมกับแป้ง Loose Powder นี้นั้นมีการนำเข้ามา และมีความนิยมมากในเทรนด์การแต่งหน้าแบบเกาหลี ที่เน้นความไม่เหนียวเหนอะหนะ ในเวลาที่เหงื่อออก แต่ในทางกลับกันอาจจะใช้ได้ไม่ดีนักกับผู้หญิงที่มีผิวแห้ง ปัญหาก็คือ อาจทำให้แป้งที่ลงไปติดได้ไม่ดีเท่ากับคนผิวมัน หรือผิวผสม
การใช้คุชชั่นเมื่อเทียบกับสีแป้งที่ต้องการทานั้น ควรมีระดับสีเข้มมากกว่า หรือไล่ระดับสีเข้มกว่าหนึ่งระดับ เพื่อที่จะเน้นเรื่องคุณสมบัติการปกปิดริ้วรอยได้ดี และเมื่อทาแป้งทับจะช่วยให้ผิวดูกระจ่าง และขาวเนียนเรียบสวยงาม ส่วนขั้นตอนการลงคุชชั่น มีความคล้ายกับรองพื้นก็คือ ใช้พัฟแตะคุชชั่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และแต้มเป็นจุดๆ ตามตำแหน่งโซนใบหน้า คือ หน้าผาก, จมูก, แก้ม 2 ข้าง และคาง
แบบรองพื้นที่ไม่ได้ผสมสกินแคร์ (Foundation)
ผู้ที่เหมาะสมกับการใช้รองพื้น ร่วมกับแป้งฝุ่นแบบรองพื้น หรือแบบธรรมดาก็คือ ผู้หญิงที่มีผิวแห้ง และต้องการปกปิดริ้วรอยร่วมด้วย ด้วยความที่เนื้อรองพื้นรูปแบบนี้ ส่วนใหญ่จะมาเป็นขวด มีเนื้อสัมผัสที่มีความมัน ถึงแม้ว่าในวันนี้ จะมีการผลิตออกมาแยกเฉพาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันก็ตาม
แต่ในการใช้งานจริงสำหรับรองพื้นนั้น ก็ยังมีความมันติดในรูขุมขนอยู่ เมื่อมีเหงื่อ หรือผ่านไประหว่างวันแล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกสำหรับสาวๆ ที่มีผิวมัน สามารถเลือกได้ระหว่างรองพื้นสำหรับผู้ที่มีผิวมัน หรือคุชชั่นร่วมด้วย ซึ่งหากเป็นการใช้รองพื้นรูปแบบนี้ เราอาจจะต้องมีการเติมแป้งระหว่างวัน ที่มีความถี่มากกว่าแบบคุชชั่น เพื่อให้ผิวหน้าดูเนียน และไม่มัน
คุณสมบัติแป้งฝุ่นที่ดี ช่วยอะไร
การแต่งหน้าสำหรับผู้หญิง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่สิ่งที่จะตามมาหลังจากที่แต่งหน้า และออกไปเจอสิ่งแวดล้อม ทั้งแสงแดดที่ร้อน, ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกต่างๆ รอบตัว อาจทำให้ผิวหน้าของเราทั้งมัน และดูหมอง แต่สิ่งเหล่านี้จะหายไปทันที เมื่อเราเลือกที่จะใช้แป้งแบบ Loose Powder
แต่อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าคุณสมบัติของแป้งชนิดนี้ จะมีข้อดีในการใช้ทางด้านไหน รวมถึงเครื่องสำอางทุกไอเท็มร่วมด้วย เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วนั้น ควรมีการทำความสะอาด และปิดท้ายด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า อย่างเช่น ครีมกระชับรูขุมขน , เซรั่มหน้าใส , โคลนพอกหน้า , ครีมรกแกะ , ครีมบำรุงผิวหน้า , ครีมลดริ้วรอย , วิตามินบำรุงผิว , เซรั่มเกาหลี , ฮาดะลาโบะ , น้ำตบ เพื่อเป็นการนำความชุ่มชื่นสู่ผิวหน้า และปรับสภาพผิวหน้าให้สมดุล
1.คุมมันบนใบหน้า
ด้วยความที่เนื้อแป้งไม่มีผสมตัวรองพื้น เหมือนกับแป้งพัฟ หรือแป้งตลับนั่นเอง อีกทั้งยังสามารถดูดซับความมันระหว่างวัน และสามารถทาเติมได้โดยที่ดูหน้าไม่หนักจนเกินไป
2.เพิ่มความเป็นธรรมชาติ
เราต่างมองเห็นกันว่า การทาแป้งชนิดนี้ จะช่วยให้ผิวหน้าดูบางเบา และช่วยให้ดูเป็นธรรมชาติได้ดีกว่า แป้งที่ผสมรองพื้นไว้ในตัวเดียวกัน หรือเรียกว่า แป้ง 2 เวย์ (2 Way Powder Cake)
3.ไม่อุดตัน และไม่เกิดสิวได้ง่าย
ด้วยเหตุผลที่ตัวเนื้อแป้งเป็นผง มีความบางเบา และไม่ได้มีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือเกิดสิ่งอุดตันที่รูขุมขน อย่างเช่น ส่วนผสมรองพื้นในเนื้อแป้งนั่นเอง
4.ไม่เยิ้มระหว่างวัน
ทำให้การทาแป้งสำหรับบางคนนั้น สามารถที่จะอยู่ได้ตลอดทั้งวัน หรือเพียงแค่เติมเล็กน้อยเท่านั้น หรือแม้แต่อยู่ในที่กลางแจ้ง หรือเจอแดดก็ไม่เกิดความมันเท่ากับการทาแป้งพัฟ หรือ แป้งตลับที่ผสมรองพื้น
5.กันเหงื่อ และกันน้ำได้ดี
คุณสมบัติที่เพิ่มมากขึ้น สำหรับตัวแป้งที่เป็น Loose Powder ที่สามารถกันได้ทั้งเหงื่อ และน้ำ ซึ่งทำให้แป้งจะไม่โดนชะล้างไป เพียงแต่อาจจะต้องเติมระหว่างวันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แป้งฝุ่นโปร่งแสง คืออะไร ต่างกับ แป้งฝุ่นธรรมดายังไง
แป้งฝุ่นโปร่งแสง คือ เป็นแป้งที่มีลักษณะเป็นผง ที่เหมือนกับแป้ง Loose Powder ในแบบธรรมดา แตกต่างกันตรงที่ความไม่มีสี และช่วยให้ผิวหน้ามีความขาวกระจ่าง หน้าดูผ่องเด้งออกมาแบบ 3 มิติ และดีกว่าการทาแป้งแบบผสมชิมเมอร์อีกด้วย ลดปัญหาในการทาแป้ง แล้วหลอกตา หรือผิวหน้าไม่ตรงกับผิวตัว
แป้งในแบบโปร่งแสงนั้น เราสามารถที่จะเน้นในการทาเป็นจุด หรือบางตำแหน่งเท่านั้น เพื่อสร้างความน่าสนใจบนใบหน้าร่วมได้ ในการใช้ร่วมกับแป้ง Loose Powder แบบธรรมดา โดยเน้นแป้งโปร่งแสงเฉพาะตำแหน่ง หน้าผาก, จมูก คาง สำหรับใครที่ไม่ต้องการให้ดูขาวทั้งใบหน้า หรือเรียกว่า เป็นการการแต่งหน้าแบบไฮไลท์เฉพาะจุด ที่สามารถนำมาปรับเปลี่ยนใช้แทน ตัวบรอนเซอร์ได้
การใช้แป้งโปร่งแสงนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้รองพื้น ไม่ว่าจะเป็นรองพื้นแบบขวด หรือคุชชั่นก็ตาม หากสาวๆ คนไหนที่ต้องการปกปิดริ้วรอย สามารถเลือกเพียงแค่คอนซีลเลอร์ในการลงเหมือนรองพื้นก่อน และตามด้วยแป้งโปรงแสงได้ทันที ซึ่งผลที่ได้ก็จะมีความสวย เนียน และเรียบกว่าการไม่ลงคอนซีลเลอร์
แต่สำหรับสาวๆ คนไหนที่มีผิวหน้าที่เฟิร์ม และสวยเนียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การเลือกใช้แป้งโปร่งแสงเพียงแค่ตัวเดียว ก็ช่วยให้สวยได้ในแบบง่ายๆ หรือในบางวัน อยากที่จะเปลี่ยนไปใช้แป้ง Loose Powder ในแบบธรรมดา ที่มีหลายสีก็สามารถทำได้ ซึ่งสามารถเลือกสีได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น สีชมพู, สีเนื้อ และสีขาว
แป้งฝุ่น vs แป้งตลับ ต่างกันยังไง
เราสามารถแยกความแตกต่างได้ง่ายๆ คือ แป้งที่เป็น Loose Powder นั้นจะมีลักษณะเป็นผง อีกทั้งยังไม่มีส่วนผสมของรองพื้น เมื่อทาบนใบหน้าจะมีลักษณะที่บางเบา และช่วยในการดูดซับความมันได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งยังเหมาะสมกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย และผู้ที่มีผิวมัน ด้วยความที่ตัวแป้งมีลักษณะบางเบานั้น จึงช่วยให้เมื่อทาแล้ว ผิวหน้าดูผ่องใส และไม่เกิดสิวง่าย รวมถึงไม่เกิดสิ่งอุดตันที่รูขุมขนได้เท่ากับ แป้งตลับอีกด้วย
แป้งในลักษณะเนื้อผงแบบ Loose Powder จะมีสีให้เลือกหลากหลาย ทั้งสีขาว, สีเนื้อ และสีชมพู ให้เหมาะกับการใช้คู่กับคุชเชอร์ หรือรองพื้น และยังมีที่ผสมชิมเมอร์ ที่ให้ความสว่างแบบเคลือบมุก ที่ให้ความสว่างกับผิวหน้าคล้ายกับแป้งประเภทโปร่งแสง เราสามารถที่จะใช้แป้งฝุ่นร่วมกับการใช้แป้งโปร่งไฮไลท์ในจุดที่เป็นโซนหน้าผาก, จมูก และคางเพื่อเน้นให้ดูกระจ่างใสได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องทาแป้งโปร่งแสงทั่วใบหน้า
ส่วนสำหรับแป้งตลับหรือ แป้งพัฟ นั้น มีลักษณะอัดแข็งเป็นตลับ หรือ Pressed Powder นั่นเอง โดยมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ส่วนในเรื่องส่วนประกอบของตัวแป้ง ก็มีความแตกต่างกัน หากเป็นแป้งตลับ จะมีการผสมตัวรองพื้นไว้ในตัวแป้งแล้ว เมื่อใช้ทาบนผิวหน้าอาจจะให้ความเนียนเรียบมากกว่า แต่ให้ความรู้สึกที่หนักหน้ามากกว่า แป้งในรูปแบบของ Loose Powder รวมถึงแป้งตลับ ก็อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคือง เมื่อมีเหงื่อออก หรือมีการเกิดสิ่งอุดตันได้มากกว่า
ถึงแม้ว่าแป้งทั้ง 2 รูปแบบไม่ว่าจะเป็น แป้ง Loose Powder และแป้งตลับนั้น จะมีคุณสมบัติในแบบเดียวกันคือ เรื่องของการกันน้ำ และกันเหงื่อได้ก็จริง แต่หากเราเป็นคนผิวมันง่าย, ผิวแพ้ง่าย ควรที่จะเลือกใช้แป้งฝุ่น หรือ Loose Powder มากกว่า อีกทั้งรุ่นใหม่ที่ออกมา ในแบบโปร่งแสงนั้น ก็เสริมให้การแต่งหน้าในแบบเกาหลี และช่วยให้หน้าดูผ่องเด้ง มีออร่าได้แบบธรรมชาติอีกด้วย
แป้งฝุ่นสำหรับคนเป็นสิว
สำหรับผู้ที่มีผิวมัน หรือเป็นสิวได้ง่ายนั้น การเลือกควรเลือกที่มีการระบุเฉพาะว่า Acne และมีส่วนประกอบที่มาจากสารสกัดอย่างTea Tree Oil และหลีกเลี่ยงการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ น้ำหอม, พาราเบน และสารแต่งกลิ่นต่างๆ ซี่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดการระคายเคืองบนผิวหน้า และการเกิดสิวได้
แป้งฝุ่นสำหรับคนผิวแพ้ง่าย
หลีกเลี่ยงสารเคมี หรือสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว ไม่ว่าจะเป็น น้ำหอมหรือสารแต่งกลิ่น, ทัลคัม (Talc), พาราเบน ที่ใส่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เพื่อช่วยให้สามารถมีอายุใช้งานได้นาน, แอลกอฮอล์ ที่อาจสร้างความระคายเคืองให้กับผิวหน้าได้, กรดซอร์บิก (Sorbic Acid) ที่ไม่ควรใส่ในผลิตภัณฑ์เกิน 0.6%
วิธีเลือกซื้อแป้งฝุ่น
1.เลือกตามประเภทผิว
ซึ่งหากเรามีผิวหน้าที่มันแล้วนั้น เราสามารถที่จะใช้เนื้อแป้ง Loose Powder แบบธรรมดา แต่ไม่จำเป็นต้องลงรองพื้น หรือคุชชั่นเพิ่ม อีกทางเลือกหนี่งก็คือ การเลือกใช้แป้งโปร่งแสง ซี่งหากเรามีผิวหน้าที่เนียนเรียบอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้คอนซีลเลอร์เพิ่ม ผิวหน้าของเราก็จะสวยเนียนเด้งในแบบสาวเกาหลีได้ง่ายๆ
2.เลือกตามการแต่งหน้า และเฉดสีของแป้ง
ซึ่งถ้าเป็นแป้ง Loose Powder นั้นจะมีสีให้เลือกได้หลากหลาย ทั้งสีขาว, สีเนื้อ และสีชมพูที่ช่วยให้ผิวหน้าดูมีสุขภาพผิวที่ดี รวมถึงรุ่นใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมคือ แป้งโปร่งแสง ไม่มีสี แต่สามารถช่วยสร้างผิวให้ขาว และกระจ่างใสในแบบมีออร่า
3.หลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดการแพ้
โดยเฉพาะพาราเบน หรือ กรดซอร์บิก ที่ช่วยในการยืดอายุเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้า, การแต่งกลิ่นด้วยน้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ ซี่งสิ่งเหล่านี้ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการแพ้บนผิวหน้าได้
How to เลือกแป้งฝุ่น สำหรับผิวผู้ชายสายลุย
สรุป
การเลือกใช้แป้งฝุ่นให้เหมาะกับสภาพผิวของเรานั้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่แพ้กับการแต่งหน้าให้เข้ากับกับบุคลิกของตัวเอง เพราะหากเราเลือกแป้งทาหน้าได้อย่างเหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของเราแล้วนั้น นอกจากจะช่วยให้หน้าดูผ่องเด้ง คุมมันเอาอยู่แล้ว ยังเป็นการป้องกันผิวหน้าจากการระคายเคือง และการเกิดสิวได้อีกทางหนึ่งด้วย
เป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ผู้เชี่ยวชาญทดลอง และเป็นนักรีวิวเครื่องสำอางตัวยง ถนัด และชื่นชอบการแต่งหน้า และลองเครื่องสำอางใหม่ๆอยู่เสมอ
แป้งฝุ่น CUTE PRESS
-แป้งฝุ่นโปร่งแสง เนื้อเนียนละเอียด บางเบาเป็นพิเศษ
-สามารถเติมได้ระหว่างวัน ไม่เป็นคราบ คุมมันนาน 12 ชม.
แป้งฝุ่น IN2IT
-พัฟเนื้อสัมผัสนุ่ม กระจายแป้งได้ดี ตลับแยกชั้น
-แป้งฝุ่นเนื้อนุ่ม ช่วยเซ็ทรองพื้นให้ติดทนนาน
แป้งฝุ่น NICH
-ช่วยคุมความมันนาน 18 ชั่วโมง ไม่อุดตันรูขุมขน
-ผสมสารสกัดจากธรรมชาติ อ่อนโยน ช่วยบำรุงผิว
แป้งฝุ่น THREE
-ช่วยเบลอรูขุมขนและริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
-เนื้อแป้งอนุภาคขนาดเล็ก บางเบา ปรับให้ผิวเนียน
แป้งฝุ่น Maria
-เหมาะกับผิวใต้หน้ากาก ไม่ก่อการอุดตัน ระคายเคืองผิว
-ช่วยปกปิด เบลอรูขุมขน เบาสบายผิว ไม่รู้สึกหนักผิวหน้า
แป้งฝุ่น BK Acne
-เนื้อเนียนละเอียด ไม่อุดตันผิว เมคอัพติดทน
-เหมาะสำหรับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย ช่วยคุมมัน
แป้งฝุ่น SRICHAND
-เนื้อเนียน บางเบา คุมมันสนิท เมคอัพติดทนนาน
-เหมาะสำหรับทุกโทนสีผิว ปราศจากพาราเบนและน้ำหอม
แป้งฝุ่น KMA
-ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้า ให้เนียนเรียบ
-แป้งฝุ่นเนื้อละเอียด โปร่งแสง ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส
แป้งฝุ่น BSC
-ช่วยเติมเต็มผิวหน้าอย่างบางเบา เรียบเนียน
-เหมาะกับทุกสภาพผิว ช่วยให้รองพื้นติดทนนาน
แป้งฝุ่น Laura Mercier
-ช่วยเซทเมคอัพให้ยาวนาน 12 ชั่วโมง ไม่รูสึกหนักหน้า
-แป้งเนื้อละเอียดบางเบา ไม่อุดตันรูขุมขน ไม่เป็นคราบ
