แปรงสีฟันไฟฟ้า คืออะไร
คือ อุปกรณ์ที่ช่วยในการแปรงฟัน หรือเรียกว่าเป็นแปรงสีฟันที่ใช้ระบบไฟฟ้า หรือ แบตเตอรี่ หรือที่เรียกว่า Electric Toothbrushes ในการทำงาน ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้มือหรือข้อมือขยับแปรงเอง เหมือนแปรงสีฟันธรรมดาที่เราอาจจะคุ้นเคยในการใช้กันมาก่อน ด้วยความสะดวกสบายในการใช้งานทำความสะอาดฟันทุกซี่ในช่องปากของเรานั้น แปรงสีฟันที่ใช้ไฟฟ้านี้ยังสามารถช่วย ในเรื่องการขจัดคราบต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง และครบถ้วนอีกด้วย
แปรงสีฟันไฟฟ้า มีกี่แบบ
หากเป็นผู้ที่ไม่เคยใช้งานแปรงสีฟันในรูปแบบนี้มาก่อน ได้เพียงแต่เห็นลักษณะภายนอก และการทำงานของตัวแปรงสีฟันเท่านั้น ก็อาจจะมองว่ามีแบบเดียวและเหมือนกันทุกยี่ห้อ แต่แท้ที่จริงแล้วก็เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราใช้กันไม่ว่าจะเป็น เครื่องรีดผ้าไอน้ำ , เครื่องฟอกอากาศ , รางปลั๊กไฟ , เครื่องซักผ้า , เครื่องซักผ้าฝาหน้า , เครื่องซักผ้าอบผ้าในตัว , แอร์เคลื่อนที่ , ตู้เย็น 5 คิว , ไมโครเวฟ , ไฟฉุกเฉิน ที่มีรุ่นและแบบที่แตกต่างกันไป
1.แบ่งตามการทำงาน
หลักๆ แล้วนั้นตัวแปรงสีฟันในรูปแบบไฟฟ้านี้ จะมีการทำงานด้วยตัวเอง โดยผ่านการจ่ายไฟที่มีในตัวเครื่อง แต่สิ่งที่แตกต่างกันของแปรงสีฟันในแต่ละรุ่น และแต่ละยี่ห้อก็คือ มีการทำตัวเลือกให้เราสามารถพิจารณาตามความชอบส่วนตัว และลักษณะซี่ฟัน รวมถึงปัญหาของตัวฟันว่าสามารถใช้งานได้ดีกับแปรงสีฟันในรูปแบบไหน ซึ่งสามารถแบ่งได้ คือ
แบบหมุน (Oscillating Rotating)
คุณลักษณะที่สำคัญในแบบหมุน และเราสามารถสังเกตความแตกต่างได้ง่ายๆ คือ รูปทรงของหัวแปรง และตัวขนแปรงที่มีขนาดที่เล็ก, รูปทรงเป็นวงกลมทั้งตัวขนแปรงและตัวฐานแปรงสีฟัน การทำงานจะเป็นการหมุนวนขนแปรงไปตามซี่ฟัน ดังนั้นแค่เพียงเราวางตำแหน่งหัวแปรงสีฟัน ให้เอียง 45 องศาเข้าหาเหงือก หรือคอฟัน โดยที่ไม่ต้องใช้แรงกดใดๆ เลย แปรงสีฟันลักษณะนี้ ก็จะทำความสะอาดซี่ฟันให้กับเราในแบบที่ง่ายและประหยัดเวลา
ด้วยลักษณะรูปทรงของหัวแปรงสีฟันในแบบหมุนนี้นั้น จะช่วยให้นอกจากจะแปรงฟันซี่ด้านนอกได้อย่างสะดวกสบาย และทั่วถึงแล้ว ฟันซี่ด้านในที่มักจะเป็นปัญหาต่อผู้ที่ใช้แปรงสีฟันแบบธรรมดา ที่นอกจากจะมีหัวแปรงที่ใหญ่แล้ว ยังไม่สามารถซอกซอนได้ทุกซี่ฟันอีกด้วย แต่ในทางกลับกันหากเป็นหัวแปรงสีฟันแบบกลม ในรูปแบบการทำงานหมุนนี้ สามารถเข้าถึงได้ทุกซี่ของฟันด้านใน อีกทั้งยังช่วยขจัดคราบหินปูนที่เกิดขึ้นกับฟันซี่ด้านใน ได้อย่างสะอาดทั่วถึง
แบบสั่น (Sonic Toothbrushes)
ถ้าหากเรามองเปรียบเทียบลักษณะรูปทรงหัวแปรงสีฟัน และขนแปรงในแบบหมุน เราจะสามารถเห็นความแตกต่างจากรูปแบบนี้ได้อย่างชัดเจน คือ หากเป็นหัวแปรงสีฟันในรูปแบบสั่นนั้น หัวแปรงสีฟันจะมีความคล้ายกับหัวแปรงสีฟันแบบธรรมดา ที่เราต้องใช้แรงในการแปรงฟัน มีรูปทรงที่ยาวทั้งฐานแปรง และขนแปรง
การทำงานเน้นในแบบการสั่นจะไปกันด้วยดี กับรูปทรงยาวของลักษณะแปรงสีฟันแบบนี้ การไล่ขนแปรงไปตามซี่ฟันแต่ละซี่ ด้วยการทำงานสั่นที่เป็นการช่วยขจัดคราบอาหาร และคราบฝังแน่นของหินปูนต่างๆ ที่เกาะทั้งฟันด้านนอกและด้านในได้เป็นอย่างดีทีเดียว อีกทั้งยังอ่อนโยนต่อเหงือกและฟัน ด้วยตัวเลือกที่มีทั้งขนแปรงแบบอ่อนโยนและนุ่ม
รอบในการทำงานของแปรงสีฟันในแบบสั่นนี้นั้น จะอยู่ที่ 12,000-24,000 รอบต่อนาที ในอีกทางหนึ่งคือ หากเป็นแปรงสีฟันแบบหมุน จะมีการทำงานอยู่ที่ 24,000-48,000 รอบต่อนาที ซึ่งว่าช่วยในการประหยัดเวลาในการแปรงฟันได้อย่างมาก ด้วยการทำงานที่เร็วและมีความถี่การทำงานต่อรอบที่สูงทั้ง 2 รูปแบบ คือแบบหมุน และแบบสั่น
แต่สำหรับแปรงสีฟันที่มีการทำงานแบบสั่นนั้น อย่างที่เรารู้จักกันว่าเป็นแบบ Sonic Toothbrushes ก็จะยังมีแบ่งย่อยออกมาเป็นคลื่นความถี่ในการทำความสะอาดซี่ฟันได้อีก 2 รูปแบบ
รูปแบบคลื่นความถี่ของแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบสั่น
คลื่นความถี่แบบโซนิค
จะมีคลื่นความถี่ในการทำงานอยู่ที่ 20-20,000 เฮิรตซ์ มีการทำความสะอาดซี่ฟันในแบบวงกว้าง ด้วยการสั่นซึ่งถือว่าเป็นคลื่นความถี่ที่สูงมากพอ ที่จะช่วยขจัดคราบสกปรกบนซี่ฟัน และขจัดคราบหินปูนได้อย่างสมบูรณ์
คลื่นความถี่แบบอัลตร้าโซนิค
ถือว่าเป็นรุ่นแปรงสีฟันในแบบสั่น ที่มีระดับคลื่นความถี่ 20,000-2,400,000 เฮิรตซ์ ความถี่สูงในระดับนี้นั้น จะช่วยในการขจัดได้ทั้งคราบหินปูน, คราบอาหาร และคราบพลัค คือคราบที่เป็นแผ่นฟิล์มเหนียวที่เป็นแบคทีเรีย หากมีคราบพลัคนี้เกาะติดฟันเรานานเกินไป ก็จะทำให้เกิดเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันผุ, เหงือกร่น และกลิ่นปากตามมาโดยที่เรามองข้ามไป
2.แบ่งตามจ่ายไฟ
ถึงแม้ว่าจะเป็นการเรียกว่า แปรงสีฟันไฟฟ้า แต่ยังสามารถแบ่งตามการจ่ายไฟ เพื่อนำไปใช้งานได้เป็นทั้งแบบชาร์ทไฟฟ้าตามชื่อคือ Electric Toothbrush และเป็นการใส่แบตเตอรี่ หรือถ่านก้อนนั่นเอง ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้ก็จะมีความแตกต่างในเรื่องของการใช้งานที่นานไม่เท่ากัน
ชาร์ทไฟฟ้า
รูปแบบแปรงสีฟันที่ใช้การชาร์ทไฟนั้น จะมีฐานที่วางสำหรับการเสียบตัวแปรงสีฟัน เพื่อให้สามารถเก็บสะสมไฟในการนำไปใช้งานได้ ซึ่งในแต่ละรุ่นนั้นก็จะมีความแตกต่างในเรื่องของ การใช้งานได้เป็นอาทิตย์ หรือบางรุ่นสามารถใช้งานได้มากถึงเดือนเลยทีเดียว
แบตเตอรี่
แปรงสีฟันในรูปแบบใส่แบตเตอรี่ หรือใส่ถ่านก้อนนั้น อาจจะมีน้ำหนักที่เบาในส่วนของด้ามจับ แต่ตรงนี้ไม่ได้มีความต่างมากถ้าเทียบกับแบบชาร์ทไฟเข้า การใช้ถ่านจะมีทั้งแบบที่ใส่ถ่านขนาด AA จำนวน 2 ก้อน หรือ 1 ก้อนขึ้นอยู่กับรุ่น และยี่ห้อ
ประโยชน์ของแปรงสีฟันไฟฟ้า
1.ให้ความสะดวกสบาย
การหยิบใช้งานก็เหมือนกับแปรงสีฟันในรูปแบบธรรมดา เมื่อเราใส่แบตเตอรี่ในรูปแบบแปรงสีฟันที่ใช้ถ่านแบตเตอรี่ หรือชาร์ทไฟไว้แล้วในรูปแบบแปรงสีฟันไฟฟ้า เพียงแค่กดปุ่มเริ่มทำงาน ตัวแปรงสีฟันก็จะทำความสะอาดให้กับทุกซี่ฟัน ได้ละเอียดไปจนถึงซี่ฟันด้านในเลยทีเดียว ในเมืองไทยเริ่มมีคนหันมาใช้แปรงสีฟันในรูปแบบนี้กันมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานและกลุ่มวัยรุ่น ที่นิยมความทันสมัย และเน้นการใช้งานที่ง่ายและรวดเร็ว
2.ช่วยผ่อนแรงสำหรับผู้ที่มีอาการบาดเจ็บ
อย่างที่เราเห็นจากรูปแบบของแปรงสีฟันทั้งแบบหมุน และแบบสั่นนั้น จะมีเพียงแค่มือที่ใช้ในการจับด้ามแปรงสีฟันเพียงเท่านั้น การแปรงทำความสะอาดซี่ฟัน เป็นการทำงานแบบอัตโนมัติโดยทั้งสิ้น และที่สำคัญคือ มีทั้งคลื่นความถี่สูง ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาด และรอบการแปรงที่มีมากกว่าการแปรงฟันเอง
รวมถึงสำหรับผู้ที่มีอาการบาดเจ็บทั้งตัวมือ, ข้อมือ หรือนิ้วมือก็ตาม สามารถที่จะเลือกใช้แปรงสีฟันใช้ไฟฟ้านี้ เพื่อตอบโจทย์การทำความสะอาดซี่ฟันได้อย่างสมบูรณ์และล้ำลึก วัสดุขนแปรงที่มีความนุ่มและอ่อนโยนต่อเหงือกและซี่ฟัน อีกทั้งการแปรงขจัดคราบต่างๆ ด้วยคลื่นความถี่ที่สูง สำหรับแปรงสีฟันในแบบสั่นนั้น ทั้งคลื่นแบบโซนิค และอัลตร้าโซนิคนั้น สามารถที่จะขจัดเอาคราบต่างๆ ที่เป็นสาเหตุของหินปูนออกได้เป็นอย่างดี
3.ความถี่สูงในการทำความสะอาด
การทำความสะอาดซี่ฟันได้สะอาดดีเพียงพอหรือไม่นั้น อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับแรงของการแปรงเพียงเท่านั้น เพราะยิ่งเราใช้แรงในการแปรงมากเท่าไหร่ ยิ่งสามารถก่อให้เกิด ปัญหาของเหงือกร่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่หากเป็นคลื่นความถี่ที่สูง จะมีพลังในการขจัดคราบสิ่งสกปรกต่างๆ บนร่องเหงือก และซี่ฟันได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นแบบสั่นที่ใช้คลื่นโซนิค ในความถี่ 20-20,000 เฮิรตซ์
สำหรับแปรงสีฟันรูปแบบสั่น ที่ใช้คลื่นอัลตร้าโซนิค ในความถี่ 20,000-2,400,000 เฮิรตซ์ ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบนี้ สามารถขจัดได้ทั้งคราบหินปูน, คราบเศษอาหารต่างๆ ที่ติดในมื้ออาหารนั้นๆ แบบมื้อต่อมื้อ และคราบพลัค ที่หลายคนมองข้าม และสะสมไว้เป็นระยะเวลานาน จนกลายเป็นคราบฟิล์มเหนียว ที่มีส่วนประกอบของเชื้อเบคทีเรียร่วมด้วย และคราบตัวนี้ที่ถือว่าเป็นสาเหตุสำคัญเลยทีเดียว ในการทำให้เกิดปัญหาฟันผุ, กลิ่นปาก และคราบหินปูนสะสมที่แข็ง
4.รอบของการแปรงฟัน
ถือแม้เราอาจจะเคยชินกับการแปรงฟัน ด้วยการใช้มือแปรงด้วยตัวเอง และมั่นใจว่าจะสะอาดและทั่วถึงทุกส่วนของฟันแต่ละซี่แล้วนั้น แต่ด้วยรอบการทำความสะอาดของแปรงสีฟันไฟฟ้า มีรอบการทำงานที่ถือว่าอยู่ในระดับที่ สามารถแปรงฟันได้สะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นแปรงสีฟันในแบบหมุน ที่มีรอบการแปรงสูงถึง 24,000-48,000 รอบต่อนาที หรือแปรงสีฟันในแบบสั่น ที่ใช้คลื่นความถี่ในการทำงาน มีรอบการแปรงสูงถึง 12,000-24,000 รอบต่อนาที
5.ระดับความแรงที่สามารถปรับได้
ระดับความแรงในการแปรงฟันนั้น เราแต่ละคนอาจจะมีความชอบ และความต้องการที่ไม่เหมือนกันคือ ในบางคนมีความเคยชินที่จะต้องใช้แรงแปรงในส่วนของฟันซี่ในมากเป็นพิเศษ เพราะถือว่าเป็นฟันซี่ที่อยู่ในซอกลึก เพื่อนำเอาเศษอาหาร และคราบหินปูนออกมา แต่สำหรับบางคนที่ด้วยรูปทรงซี่ฟัน มีขนาดซี่เล็ก ก็จะมีความต้องการระดับความแรงที่น้อยที่สุด
ทั้งหมดนี้สามารถปรับได้ในระดับที่หลากหลาย สำหรับฟังค์ชั่นการใช้งานในส่วนขั้นตอนการแปรงฟัน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนการทำงานหลักเลยทีเดียว ที่จะมีผลต่อฟันทุกซี่ของเรา ทั้งเรื่องของความสะอาด, การลดกลิ่นปาก หรือขจัดคราบต่างๆ ออกจากร่องเหงือก และซี่ฟันได้ ที่สำคัญแล้วหากเราปรับระดับความแรงได้พอดี และเหมาะสมกับฟันของเรา ในการใช้งานเราไม่ควรที่จะเพิ่มแรงกดจากมือของเราเข้าไปอีก เพราะวิธีใช้งานนี้จะทำให้เกิดปัญหาเหงือกร่นได้
6.ปรับการใช้งานได้ตามตำแหน่งซี่ฟันที่ต้องการ
หากเราต้องการที่จะเน้นส่วนของฟันโซนด้านในช่องปาก หรือส่วนของฟันด้านใน เราก็สามารถกำหนดที่จะให้เน้นการแปรงนานขึ้นได้ แต่ในแปรงสีฟันใช้ไฟฟ้านี้ ก็จะมีการเตือนสำหรับในแต่ละจุดที่แปรง หากมีการจ่อแปรงนานไป หรือเกิน 2 วินาทีก็จะมีสัญญาณเตือน เพราะการเน้นแปรงเฉพาะฟันซี่ใดซี่หนึ่งนานจนเกินไป ก็ไม่ได้ส่งผลดีให้กับเนื้อฟันสักเท่าไหร่
7.พกพาสะดวก
สายท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัด หรือท่องเที่ยวเมืองนอกก็ตาม การพกพาเอาแปรงสีฟันรูปแบบนี้ติดตัวไปด้วย ไม่ได้ส่งผลให้เกิดความยุ่งยากใดๆ เลย เพราะทั้งน้ำหนักเบา และโดยเฉพาะหากเป็นรูปแบบใส่แบตเตอรี่ ที่ไม่ต้องมีฐานในการชาร์ทไฟ ก็จะยิ่งเพิ่มความสะดวกในการพกใส่กระเป๋าเดินทางแบบง่ายนิดเดียว
8.ใช้งานง่าย
สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้มาก่อน ถือว่าเป็นเป็นไอเท็มในการทำความสะอาดตัวฟัน ที่แนะนำว่าต้องลองใช้ดู ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดฟันได้อย่างล้ำลึกแล้ว ทั้งในส่วนของขนแปรง และการทำงานที่มีรอบการทำงานที่เร็วนั้น มีผลให้ยาสีฟันที่เราใช้ได้ผลดีต่อฟันของเราร่วมด้วย เพราะหลายครั้งที่เราแปรงฟันเอง ก็อาจจะมีการแปรงที่ไม่นาน หรือไม่ละเอียดในทุกครั้งไป แตกต่างจากแปรงสีฟันในแบบ Electric Toothbrushes ที่เพียงกดปุ่มก็สามารถใช้งานได้ทันที
9.ทำความสะอาดได้ทั่วถึงทุกซี่ฟัน
เพียงแค่เราเอียงตำแหน่งหัวแปรงสีฟัน ในทิศทาง 45 องศาเข้าหาคอฟัน หรือฐานเหงือก โดยที่ไม่ต้องใช้แรงกดใดๆ จากมือของเราเลย กับเวลาเพียงแค่จุดละ 2 วินาทีเท่านั้น แล้วค่อยๆ เลื่อนตำแหน่งไปด้านข้างเรื่อยๆ เราก็จะสามารถทำความสะอาดฟันได้ทั่วถึงทั้งช่องปาก
10.ช่วยขจัดคราบฝังแน่น
เราคงเคยเจอปัญหาว่า ทำไมเราก็แปรงฟันหลังอาหาร และก่อนนอนทุกวัน แต่ถึงมีปัญหาในเรื่องของคราบหินปูนเกาะแน่นอยู่ตลอด อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องกลิ่นปากที่ตามมา และแก้ไม่หายสักที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการแปรงฟันของเราที่สะอาดไม่ทั่วถึงทุกซี่ฟัน ถึงแม้ว่าจะมีการแปรงฟันตลอดก็ตาม ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะทั้งในส่วนของคลื่นความถี่ของตัวแปรงสีฟัน และระบบการแปรงฟันที่มีรอบการแปรงต่อนาทีที่สูง จะช่วยขจัดคราบต่างๆ ที่ฟันออกได้
แปรงสีฟันไฟฟ้า กับ แปรงสีฟันธรรมดา
การแปรงฟันในรูปแบบของแปรงสีฟันธรรมดานั้น เราอาจจะคุ้นเคยกันดีทุกคน สำหรับการใช้งาน รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับการใช้งานแปรงสีฟันแบบธรรมดานี้ ซึ่งสำหรับบางคนนั้น แปรงสีฟันในแบบที่ใช้ไฟฟ้า ก็ยังเป็นของใหม่ และการเลือกใช้ก็ยังต้องดูที่การยืนยัน และรับรองสำหรับในแต่ละยี่ห้อจากทันตแพทย์ร่วมด้วย
แปรงสีฟันไฟฟ้า
1.การแปรงฟันได้เร็ว และสะอาดทั่วถึง ด้วยจำนวนรอบการแปรงฟันต่อนาที และคลื่นความถี่
2.เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาการบาดเจ็บบริเวณมือ หรือผู้ป่วยที่มีอาการของโรคที่เกี่ยวกับการสั่น อย่างเช่น โรคพาร์กินสัน เป็นต้น
3.การชาร์ทไฟ หรือใส่ถ่านสามารถใช้งานได้นานในระดับอาทิตย์, เดือน หรือมากกว่านั้น
4.มีรอบการเปลี่ยนหัวแปรงสีฟันอยู่ที่3 เดือนเท่ากับแปรงสีฟันธรรมดา แตกต่างกันเพียงหากเป็นแปรงสีฟันในรูปแบบนี้ จะถอดเปลี่ยนเฉพาะตัวหัวแปรงเท่านั้น
แปรงสีฟันธรรมดา
1.เน้นการแปรงฟันเองทั้งการออกแรงแปรง และการกำหนดจุดในการแปรงฟัน
2.ราคาของตัวแปรงสีฟันที่ถูกกว่า มีรอบการเปลี่ยนเท่ากันคือ ทุก 3 เดือน
3.อาจมีการแปรงฟันที่ไม่สะอาดทุกซี่ฟัน โดยเฉพาะฟันซี่ด้านในสุดของช่องปาก และฟันซี่เหงือกด้านใน
วิธีใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า
1.ก่อนการใช้
เราควรที่จะดูให้แน่ใจว่า สำหรับแปรงสีฟันที่ต้องชาร์ทไฟนั้น มีกำลังไฟเต็มพอที่จะใช้งานหรือไม่ หรือสำรวจตัวหัวแปรงมีการประกอบแน่นกับตัวด้ามจับดีแล้ว รวมถึงตัวขนแปรงที่สะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกใดๆ ตามร่องขนแปรง
2.เปิดใช้งาน
การใช้งานที่ไม่มีขั้นตอนใดๆ ที่ยุ่งยากสำหรับแปรงสีฟันไฟฟ้า เพียงแค่เรากดปุ่มทำงาน แปรงสีฟันก็จะทำหน้าที่สั่น และหมุนตามรูปแบบการทำงานของหัวแปรง เพียงแต่ว่าเราต้องแน่ใจว่า ระดับความแรงที่เราตั้งไว้ เหมาะสมทั้งกับสภาพของฟัน และขนาดของฟันแต่ละซี่ของเราหรือไม่
3.การทำความสะอาดหลังการใช้งาน
อย่าลืมว่าทุกครั้งหลังจากเสร็จจากการใช้งาน หรือเสร็จจากการแปรงฟันแล้ว ควรที่จะล้างขนแปรงทุกครั้ง ในการนำเอาเศษสิ่งสกปรก, คราบต่างๆ รวมถึงเศษอาหารออกไปจากหัวแปรงและขนแปรง และสะบัดให้แห้ง ก่อนนำไปตั้งตรงฐานแปรงเพื่อให้ขนแปรงแห้งได้ง่าย
วิธีเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้า
1.รูปแบบแปรงสีฟัน
ซึ่งมีทั้งแบบหมุน และแบบสั่น ส่วนแบบสั่นเราอาจจะต้องมีการพิจารณาเลือกลงลึกไปอีกว่า จะเลือกแบบที่เป็นคลื่นความถี่โซนิค หรืออัลตร้าโซนิค ที่มีระดับคลื่นความถี่ที่สูงกว่าแบบโซนิค และยังช่วยให้มีประสิทธิภาพในการแปรงฟันที่ดีกว่าอีกด้วย
2.ขนาดและรูปแบบของด้ามจับ
เราสามารถเปรียบเทียบได้แต่ละยี่ห้อ และรุ่นของแปรงสีฟันว่า มีขนาดด้ามจับที่เหมาะสมกับฝ่ามือของเราหรือไม่ ที่มีทั้งแบบเรียวและแบบด้ามหนา
3.ขนแปรงและรูปทรงหัวแปรง
ขนแปรงที่นุ่มและอ่อนโยน ที่สามารถแปรงได้ทั้งตัวฟันทุกซี่ และสามารถใช้ในการแปรงเหงือกได้อีกด้วย และรูปทรงหัวแปรงที่สามารถบอกได้ว่า เป็นแปรงสีฟันใช้ไฟฟ้าในแบบหมุน ที่จะมีลักษณะหัวแปรงเป็นทรงกลม รวมถึงขนแปรงจะทำออกแบบเป็นวงกลม แต่หากเป็นแบบสั่นที่ใช้คลื่นความถี่ จะมีรูปทรงหัวแปรงที่เป็นทรงยาว คล้ายกับแปรงสีฟันธรรมดา
4.ฟังก์ชั่นการใช้งานเสริม
ซึ่งในแต่ละรุ่นและยี่ห้อของแปรงสีฟันที่ใช้ไฟฟ้านั้น ก็จะมีเทคโนโลยีในการทำออกมาที่แตกต่างกัน รวมถึงการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์ทไฟ ให้มีการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น
อย่างเช่น สามารถสแตนบายใช้งานได้หลังจากชาร์ทไฟเต็มแล้ว เป็นเวลา 180 วัน, มีการเตือนเมื่อถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนหัวแปรง หรือสัญญาณเตือนเมื่อมีการกดแปรงลงบนตัวฟันที่แรงจนเกินไป เป็นต้น
5.การยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากที่สินค้าในแต่ละประเภทจะมีตรารับรองถึงมาตรฐานและคุณภาพของตัวสินค้านั้นๆ แล้ว แต่การจะยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งานได้มากขึ้นคือ สินค้าที่ผ่านการรับรองจากผู้ที่น่าเชื่อถือ และเชี่ยวชาญในสินค้ากลุ่มนั้นๆ
อย่างเช่น หากเป็นแปรงสีฟันไฟฟ้า ก็ควรได้รับคำรับรองจากทันตแพทย์ ว่ามีคุณสมบัติการใช้งานที่ปลอดภัย และมีการทำความสะอาดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพร่วมด้วย
อย่าพึ่งซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าถ้ายังไม่ได้ดูคลิปนี้
สรุป
การแปรงฟันให้สะอาดนอกจากจะเป็นสิ่งจำเป็นหลังกินอาหารเสร็จทุกมื้อแล้วนั้น ยังถือว่าเป็นการดูแลรักษาฟันของเราให้มีสุขภาพที่ดีอยู่เสมออีกด้วย เพราะฟันคือส่วนสำคัญทีเดียวที่ช่วยให้รอยยิ้มของเราช่วยสร้างความประทับให้กับผู้ที่พบเห็น และฟันยังถือว่าเป็นส่วนที่หากมีปัญหาขึ้นมาแล้ว จะมีค่ารักษาที่สูงมากเลยทีเดียว
ดังนั้นการเริ่มต้นดูแลฟันของเราให้ดีที่สุดในวันนี้ ด้วยการเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้า ที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟัน และยังช่วยในการขจัดคราบหินปูนที่ฝังแน่น รวมถึงคราบพลัคที่สะสมมานานตามซี่ฟันของเรา ซี่งสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาฟันผุ, และกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย
ควบคุมและดูแลการผลิตคอนเท้นส์ ชื่นชอบที่จะนำเสนอคอนเท้นส์ที่ดีๆ มีประโยชน์ให้กับท่านผู้อ่าน
แปรงสีฟันไฟฟ้า USMILE รุ่น Y1S
-วัสดุแข็งแรง ดีไซน์รูปทรงเสาโรมัน ระดับเสียง 60 เดซิเบล
-สามารถปรับโหมดได้3โหมดและใช้งานได้ยาวนาน180วัน
แปรงสีฟันไฟฟ้า Philips
-สามารถปรับโหมดได้ 3 โหมด ขนาดพกพาสะดวก
-ดีไซน์บางเบาจับถนัดมือ มีระบบแจ้งเตือนเปลี่ยนหัวแปรง
แปรงสีฟันไฟฟ้า Oclean
-ขนาดของสินค้า 30 ซม. x 13 ซม. x 3.5 ซม.
-หัวแปรงที่ยืดหยุ่นและมีความหนาแน่นสูง ขนแปรงโค้งมน
แปรงสีฟันไฟฟ้า Xiaomi รุ่น T100
-ชาร์จ 1 ครั้ง สามารถใช้งานได้ยาวนาน 30 วัน
-สามารถปรับโหมดแรงสั่นได้ 2 โหมดการใช้งาน
แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B รุ่น PRO 2
-สามารถปรับโหมดได้ 2 โหมดการใช้งาน
-เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้งาน ขนแปรงนุ่ม
แปรงสีฟันไฟฟ้า Sparkle
-เหมาะสำหรับผู้ที่จัดฟันและผู้ต้องการมีฟันขาว
-สามารถปรับโหมดการใช้งานได้ 2 โหมด
แปรงสีฟันไฟฟ้า Yangzi
-สามารถปรับโหมดการใช้งานได้ 5 โหมด
-สามารถตั้งเวลาได้และกันน้ำได้ทั้งตัว
แปรงสีฟันไฟฟ้า Dentiste
-แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน ด้วยความจุ 700 mAh
-สามารถปรับโหมดการใช้งานได้ 3 โหมด ด้ามจับกันน้ำ
แปรงสีฟันไฟฟ้า Colgate
-ช่วยทำความสะอาดด้วยระบบสั่นโซนิคหลายทิศทาง
-วัสดุแข็งแรง ทนทาน สามารถใช้กับถ่านอัลคาไลน์ AAA
แปรงสีฟันไฟฟ้า Real me M1
-สามารถปรับโหมดการใช้งานได้ 5 โหมด
-ขนแปรงโค้งมน 98% หัวแปรงขนาดเล็ก 3.5mm