ประเภทของเตียงพับ
ก่อนที่เราจะมาดูกันว่า เตียงที่ใช้ในการพับเก็บได้นั้น มีการแบ่งออกเป็นประเภทอะไรกันบ้างนั้น เรามาดูกันว่า ทำไมถึงมีผู้คนนิยมที่จะเลือกใช้เตียงประเภทนี้กัน อย่างที่เรามองเห็นกันว่า เตียงพับได้นั้น มีคุณสมบัติหลัก ที่เด่นชัดก็คือ การช่วยให้เราสามารถประหยัดพื้นที่ได้เป็นอย่างดีทีเดียว รวมถึงผู้ที่มีห้องที่แคบ หรือเล็ก จำกัดกับพื้นที่ในการใช้สอย หรือแม้แต่บางบ้าน ที่จำเป็นต้องมีสมาชิกหลายคน
สำหรับห้องนอนที่จำเป็นต้องหาเตียงในแบบที่พับได้ ให้มีการใช้งาน ที่คุ้มค่ากับพื้นที่มากที่สุด อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยอย่างดี สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของห้องพัก หรือหอพัก ที่จำเป็นต้องคาดการณ์ หรือวางแผนสำหรับแต่ละห้อง ทั้งในเรื่องของแขกที่จะเข้าพัก และเตียงนอนที่สามารถรองรับได้กี่คน ต่อ 1 เตียง และการรองรับในความต้องการของแขกผู้มาพัก แต่ละคนที่ต้องการเตียงในแบบแตกต่างกัน
ด้วยคุณสมบัติของเตียงที่พับได้นี้ ทำให้เจ้าของที่พัก สามารถที่จะดัดแปลงให้สามารถวางที่นอนในแบบ 3.5 ฟุต หรือ Twin Size สำหรับการนอนคนเดียวได้สบายๆ หรือการจัดวางที่นอนเป็นทางเลือก สำหรับแขกที่มาพักคนอื่นๆ หรือห้องอื่นๆ ในขนาดของที่นอน 5 ฟุต ในแบบ Queen Size หรือขนาด 6 ฟุต ในแบบ King Size ตรงตามความต้องของผู้มาพัก
สำหรับเตียงที่เป็นแบบพับเก็บได้นั้น ในประเภทที่ราคาถูกก็มี แต่หากเป็นรูปแบบที่พับได้ตอนเดียว, มีขนาดใหญ่ถึงแม้จะพับเก็บแล้วก็ตาม มีราคาแพงด้วยความ ที่โครงเหล็กแท้ที่อยู่ข้างใต้กลางที่นอน ที่เราจะสังเกตได้คือ เป็นประเภทที่มีล้อเลื่อน เพราะให้ความแข็งแรง และทนทานต่อการใช้งาน
ซึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือ การเลือกซื้อที่นอนที่จะมาเสริมกับ เตียงที่พับเก็บได้ ต้องมีความเหมาะสมทั้งขนาด และความสบาย เพราะหากเราเลือกซื้อที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานของเรา หรือมีความแข็งที่มากเกินไปแล้ว จะทำให้การใช้งานเตียงประเภทนี้ นอกจากจะใช้งานไม่สะดวกสบายแล้ว ยังทำให้นอนหลับไม่สบายอีกด้วย
วัสดุที่เราบอกไปตอนต้นว่า หากเตียงพับได้ที่เป็นโครงเหล็กนั้น จะมีราคาที่แพง แต่ในทางกลับกัน โครงเตียงที่เป็นเหล็ก จะมีราคาถูกกว่า วัสดุที่เป็นไม้ อาจด้วยวัสดุไม้มีความดูดีกว่า แต่ในข้อเสียของวัสดุที่เป็นไม้ นำมาทำเป็นเตียงที่พับเก็บได้นั้น ก็มีความบอบบางในตัว ซึ่งอาจจะไม่ได้หมายความถึง การแตกหักง่าย
แต่หากเป็นวัสดุไม้ ที่มีราคาแพง การแตกหัก หรือการเกิดรอยตำหนิ ในการวางเก็บไม่ดี หรือชนกระแทกกับพื้นสถานที่ๆ ในการเก็บ ก็จะทำให้เตียงนั้น ดูสูญเสียราคาไปอย่างง่ายๆ อย่างเช่น หากเรามีพื้นที่ในการจัดเก็บ เตียงที่พับได้นี้ไม่ดีพอ ไม่ว่าจะเป็น โรงรถ หรือชั้นใต้ดิน ควรเลี่ยงที่จะใช้วัสดุที่เป็นไม้
รวมถึงสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นเทคนิค หรือเคล็ดลับของผู้ที่เป็นเจ้าของห้องพักให้เช่า อย่างเช่น เตียงในประเภท โซฟาเบดวางบนพื้น หรือ Floor Sofa Bed ที่มาจากไอเดียของฟูกคนญี่ปุ่นนั้น การวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ในห้องนั่งเล่น และหากในกรณ๊ที่ต้องการเตียงเสริม หรือเตียงไม่พอ เรายังสามารถนำ Foldable Floor Version หรือ โซฟาเบดที่วางบนพื้นนี้ มาเสริมเป็นเตียงแทนให้กับผู้เข้าพักได้อีก
1.เตียงผนัง (Muphy Bed)
เป็นรูปแบบของเตียงพับที่ไม่ใช่ 3 ตอน แต่เสน่ห์ของเตียงประเภทนี้ก็คือ การที่เจ้าของบ้านสามารถออกแบบด้วยตัวเอง ในสไตล์ความชอบ และรูปแบบที่ตัวเองต้องการ หรือแบบบิ้วท์ อิน (Built In) ที่โดยส่วนใหญ่แล้ว จะมีขนาดของที่นอนตามมาตรฐานที่เรานอนกัน อย่างเช่น 3.5 ฟุต, 5 ฟุต หรือ 6 ฟุต ตามความต้องการของผู้ใช้
จริงๆ แล้วนอกจากที่เราจะเรียกได้ในชื่อของ Muphy Bed ยังมีอีกหลายชื่อ ที่ใช้เรียกแทนที่นอนพับได้ประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็น Hidden Bed หรือ Wall Bed ก็ตาม ซึ่งด้วยความที่เป็นเฟอร์นิเจอร์แบบบิ้วท์ อิน นั้นช่วยทำให้ห้องนอน ดูเข้ากันได้อย่างลงตัวมากขึ้น และรวมถึงตัวเตียงก็เป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับห้องนอนอีกด้วย
จริงๆ แล้วนอกจาในเรื่องความเหมาะสม และการเสริมให้ห้องดูสวยงาม ด้วยความเป็นเตียงแบบบิ้วท์ อินนั้น นอกจากพับเก็บได้ติดผนังแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการประหยัดพื้นที่ ที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของเตียงที่นอนพับได้ อย่างที่บอกกันบ่อยๆ สำหรับไอเท็มขิ้นนี้ว่า พับเก็บได้เมื่อต้องการใช้พื้นที่ในการทำงาน และดึงลงมาใช้งานในเวลาที่ต้องการนอน
ข้อดีของเตียงผนัง
1.ออกแบบขนาดเตียงในแบบมาตรฐาน อย่างเช่น 5 ฟุต (Queen Size) หรือ 6 ฟุต (King Size) เป็นรูปแบบเตียงที่เหมือนๆ กับห้องนอนทั่วไป แต่สามารถใช้งานในแบบอเนกประสงค์ ด้วยการพับเก็บได้ หรือซ่อนให้ดูเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับผนังห้อง ได้อย่างสวยงาม
ข้อเสียของเตียงผนัง
1.ไม่สามารถที่จะเคลื่อนย้ายไปไหน หรือไม่สามารถที่จะนำไปใช้งานสถานที่อื่นๆ ได้
2.ยึดติดกับผนัง
3.ค่าใช้จ่ายในการออกแบบ และทำเฟอร์นิเจอร์ ที่นอนพับได้ในแบบบิ้วท์ อินนี้ จะมีราคาแพงกว่า ที่นอนพับเก็บได้ในแบบ 3 ตอน
2.เตียงล้อเลื่อน (Rollaway Folding Bed)
เตียงพับได้อเนกประสงค์ในรูปแบบนี้นั้น เป็นอีกหนี่งประเภทเตียง ที่ไม่ได้เป็นที่นอนพับได้ ในแบบ 3 ตอน แต่มีความพิเศษสำคัญส่วนหนึ่ง ที่เราสังเกตเห็นได้คือ การที่มีล้อเลื่อนทรงกลม ตรงขาพับเตียง 4 ล้อ และตำแหน่งที่ทำล้อเลื่อนนั้น จะเหมือนๆ กันในเกือบทุกยี่ห้อ คือเป็นส่วนที่อยู่ตรงกลางเตียง เมื่อกางออกแล้ว
เพื่อที่ในเวลาที่พับเก็บ ทางด้านบนหัวเตียง และปลายเตียงนั้น ล้อเลื่อนจะไปอยู่ตำแหน่งที่สามารถเลื่อน หรือเคลื่อนย้ายได้ตรงพอดี ซึ่งด้วยความที่มีโครงสร้างเหมือนกับเตียงนอน เพียงแต่มีโครงเตียงพับเป็นโลหะเท่านั้นเอง ทำให้เราสามารถที่จะหา ที่นอนในขนาดที่เหมาะสม รวมถึง หมอน และผ้าห่มใช้ร่วมกันได้ เหมือนได้นอนบนเตียง
ทั้งหมดนี้ถือว่า เป็นความสะดวกสบายที่ลงตัวทีเดียว แต่อาจจะเป็นเตียงพับเก็บได้ ที่เราต้องหาที่นอนมาเพิ่ม ซึ่งที่นอนในแต่ละประเภทนั้น อาจจะมีราคาที่แพง ขึ้นอยู่กับการพิจารณาเลือก ตามความเหมาะสมของแต่ละผู้ใช้งาน ด้วยความที่เป็นเตียงพับเก็บได้ แบบมีโครงเหล็ก ที่นอนที่ต้องหามาเสริมนั้น ก็ควรที่จะให้มีความหนาแน่น และรองรับกับน้ำหนักตัวที่นอนอีกด้วย
ข้อดีของเตียงล้อเลื่อน
1.ให้ความสะดวกสบายในเวลานอน
2.พับเก็บได้ง่าย และสามารถเคลื่อนย้ายเตียงได้เร็ว
ข้อเสียของเตียงล้อเลื่อน
รูปแบบของเตียงมีล้อ มีรูปแบบโครงสร้างที่เฉพาะตัว การหาที่นอนเสริมมาจะเพิ่มค่าใช้จ่าย
3.เตียงโซฟา (Sofa Bed)
ลักษณะที่พิเศษสุดของ เตียงที่สามารถพับเก็บได้ประเภทนี้นั้นคือ มีการใช้งานที่อเนกประสงค์ โดยเป็นได้ทั้งตัวโซฟา และเตียงนอนในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังสามารถพับเก็บได้ ในแบบเฟอร์นิเจอร์ 2 ชิ้นรวมกันเป็นชิ้นเดียว
หรือที่เรียกว่า 2 in 1 เป็นการเน้นคุณสมบัติเด่น ของเตียงนอนในรูปแบบพับเก็บได้นี้ ซึ่งเหมือนกับอีก 2 ประเภทข้างต้น โดยที่เน้นการประหยัดพื้นที่ และใช้งานพื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด
รวมถึงจะเป็นการดีเยี่ยมแค่ไหน ที่มีการดูแลรักษาความสะอาดที่ง่าย และสะดวก เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลรักษา หรือทำความสะอาด โซฟาเบด หรือ เตียงโซฟาตัวนี้เป็นประจำ อย่างเช่น การทำอาหาร หรือข้าวโพดคั่วหล่น เพียงแค่เช็ด หรือใช้การปัดทำความสะอาดก็เพียงพอ
ข้อดีของเตียงโซฟา
1.ปรับเปลี่ยนทั้งรูปแบบการใช้งาน และรวมเอาข้อดีของเฟอร์นิเจอร์ ทั้ง 2 รูปแบบคือ เตียง และโซฟามารวมกันเป็นชิ้นเดียว
2.ใช้งานควบคู่ และร่วมกันได้
3.ประหยัดพื้นที่การใช้งาน
ข้อเสียของเตียงโซฟา
อาจจะไม่เหมาะสมกับผู้ที่รักความสะอาด ด้วยความที่เป็นการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ทำให้เกิดการทำอาหาร หรือขนมหล่นบนโซฟาเบดได้บ่อยครั้ง ทำให้การทำความสะอาดในแต่ละครั้ง อาจไม่สะอาดเท่ากับ ที่นอนที่ปลูกเครื่องนอนไว้เหมือนกับ เตียงพับเก็บได้ใน 2 ประเภทข้างต้น
4.เตียงแคมป์ปิ้ง หรือ เปลแคมป์ปิ้ง (Camping Cot)
อุปกรณ์ที่อาจจำเป็นสำหรับ ผู้ที่นิยมเดินป่า, เดินทางท่องเที่ยวบ่อยๆ และจัดว่ามีราคาถูกที่สุดในบรรดาเตียงที่พับได้ทั้งหมด โดยเป็นเตียงมีขาตั้งยึดกับพื้น คล้ายกับเตียงแบบล้อเลื่อน แต่เตียงประเภทนี้ ไม่มีล้อเลื่อน และไม่มีโครงเหล็กเตียงด้านข้าง
มีเพียงแต่ผ้าที่ใช้ขึงให้ตึง เพื่อให้สามารถนอนได้เพียงเท่านั้น รูปทรงขาเตียงด้านล่าง ก็เป็นแบบพอดีกับตัวของเตียง แต่ขามีความแข็งแรง อาจไม่ได้ทำให้นอนสบาย แต่ยังมีความปลอดภัยกว่า การนอนบนพื้นดินที่มีความเปียก และความเย็นซึมผ่านมาในร่างกาย
ข้อดีของเตียงแคมป์ปิ้ง
น้ำหนักเบา และมีการเคลื่อนย้ายได้ง่าย
ข้อเสียของเตียงแคมป์ปิ้ง
ไม่สะดวกสบายในการนอน มีเพียงแค่พื้นที่เล็กๆ ที่ใช้นอนเท่านั้น
เหตุผลในการเลือกใช้เตียงพับ
1.ประหยัดพื้นที่
เราจะเห็นได้เลยว่า ไม่ว่าจะเป็นประเภทของเตียงที่พับเก็บได้แบบไหนก็ตาม ต่างก็เน้นคุณสมบัติอย่างแรก ที่เป็นจุดเด่นในเรื่องของการประหยัดพื้นที่มาเป็นอันดับแรก อาจจะไม่เพียงแค่ห้องพักคอนโด หรือบ้านพักเท่านั้น
แต่รวมไปถึงธุรกิจที่ปล่อยห้องพักให้เช่าร่วมด้วย ตรงนี้เราสามารถบอกได้เลยว่า มีการประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า เตียง 2 ชั้น และมีความสะดวกสบายได้มากกว่า เก้าอี้พับ อย่างแน่นอน
ซึ่งถึงแม้ว่าเตียงที่สามารถพับได้นี้ ไม่ว่าจะเป็นตอนเดียว หรือ 3 ตอนก็ตาม ก็จำเป็นที่จะต้องมี ที่นอนสปริง , ที่นอนยางพารา , ที่นอน 3.5 ฟุต , ที่นอนเป่าลม , หมอนขนห่าน , หมอนขนเป็ด , ผ้าปูที่นอน , ชุดเครื่องนอน เข้ามาเสริมเพื่อให้นอนสบาย, ปรับได้หลายระดับ, พับเก็บง่าย, ไม่เปลืองพื้นที่ และราคาถูก
2.เคลื่อนย้ายได้สะดวก
เราจะเห็นเด่นชัดได้จาก ประเภทเตียงล้อเลื่อน ที่ถึงแม้ว่าจะมีขนาดที่ใหญ่ เมื่อพับเก็บแล้วก็ตาม แต่ด้วยข้อดีทั้งในความทนทาน ของโครงสร้างที่เป็นเหล็กหนาแน่นตำแหน่งแกนกลางของเตียง รวมถึงความสะดวกในการเลื่อนขนย้ายไปตามห้องต่างๆ และกางได้ง่ายๆ แบบไม่เสียเวลา ทำให้หลายคนหันมาเลือกใช้ เตียงประเภทล้อเลื่อน หรือ Rollaway Folding Bed กัน
3.ตัดสินใจซื้อได้ง่าย
หากไม่ใช่ประเภทเตียงผนังแล้ว นอกนั้นไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนของ เตียงที่พับเก็บได้ก็ตาม มีการเลือกซื้อได้ง่ายกว่า อาจด้วยราคาถูกกว่าเตียงในรูปแบบปกติทั่วไป
4.ใช้งานได้อเนกประสงค์
ประเภทที่มองเห็นได้ง่ายที่สุดคือ ประเภทของโซฟาเบด และ โซฟาเบดวางบนพื้น ที่เราสามารถนำไปใช้เป็นโซฟา หรือนอนเป็นเตียงได้ทั้ง 2 รูปแบบ
5.เปลี่ยนที่นอนเสริมได้ตลอด
ตรงนี้อาจจะหมายถึง บางคนที่นิยมซื้อที่นอนมาใช้กับเตียงที่พับได้นี้ ในแบบที่ไม่หนาจนเกินไป เราสามารถที่จะเปลี่ยนตัวที่นอนได้ตลอด หรือในแบบที่ไม่ต้องคิดมากเท่ากับเตียงใหญ่ ที่เลือกซื้อที่นอนขนาดใหญ่อย่าง ที่นอนยางพารา หรือ ที่นอนสปริง
วิธีการเลือกซื้อเตียงพับ
1.จัดเก็บง่าย
หากเป็นผู้หญิง หรือผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายแล้ว ควรเลือกในแบบที่จัดเก็บได้ง่าย ไม่มีขั้นตอนมากมายในการพับเก็บ
2.ขนาด
พิจารณาดูขนาดของเตียง นอกจากที่นอน 3.5 ฟุตแล้ว สามารถรองรับที่นอนที่ใหญ่กว่าได้มากที่สุดเท่าไหร่ เพื่อการปรับเปลี่ยนที่นอนของเราในอนาคตร่วมด้วย
3.ทนทาน
สำรวจตัวโครงสร้างของเตียง ว่ามีความแน่นหนาทั้งช่วงหัวเตียง, ปลายเตียง และกลางเตียงหรือไม่ ดูใต้เตียงว่า มีการวางโครงสร้างไว้ทุกจุดของเตียงนอนหรือไม่
4.ประสบการณ์จากผู้ที่ใช้แล้ว
ซึ่งจะเป็นการยืนยันได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่ซื้อไปใช้งานจริง หรืออย่างน้อยๆ เราจะได้รู้ว่า หลังจากการใช้จริง หรือนอนจริงแล้ว มีผลตอบรับจากผู้ใช้แต่ละคนอย่างไรบ้าง
5.น้ำหนัก, วัสดุ และราคา
ทั้ง 2 ปัจจัยนี้อาจจะต้องพิจารณาร่วมกัน ซี่งรวมถึงราคา ที่มีความสัมพันธ์ในตัววัสดุที่เป็นโครงเตียงที่พับได้นี้
สแตนเลส
ถือว่าเป็นวัสดุที่มีราคาแพงที่สุด แต่มีความเบา และมีการดูแลรักษาที่ง่าย รวมถึงการไม่ขึ้นสนิม ดังนั้นการใช้งานของเตียงที่มีวัสดุแบบนี้ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานอย่างแน่นอน
อลูมิเนียม
อลูมิเนียมมีราคาที่เปรียบเทียบกับ สแตนเลสแล้วมีราคาที่ถูกกว่าอยู่ 4 เท่าตัวเลยทีเดียว แต่ในเรื่องของน้ำหนักนั้น มีความเบาคล้ายกัน อีกทั้งในการใช้งานยังไม่ต้องห่วงเรื่องสนิมอีกด้วย
เหล็ก
ถึงแม้หากใครพูดถึงวัสดุที่เป็นเหล็ก จะคิดถึงในเรื่องของความหนัก แต่ในทางกลับกัน หากเป็นเตียงที่พับได้นี้ มีโครงเตียงที่เป็นเหล็ก เราจะมั่นใจได้เลยว่า มีความแข็งแรง และรองรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสิ่งที่เราห่วงๆ กันว่า เหล็กจะเกิดการขึ้นสนิมหรือไม่ เพราะในปัจจุบันนี้ มีการทาเคลือบกันสนิม หรือพ่นสีอีพ็อกซี่กันสนิม เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดสนิมในอนาคต
รีวิวเตียงพับ Monza
สรุป
ในอดีตที่เรามีการใช้งานเตียงที่พับได้นี้ ในขอบเขตการใช้งานที่มีความจำกัด ซึ่งจะนำมาใช้ในเวลาที่ไม่มีเตียง หรือต้องการเตียงเสริมเพียงเท่านั้น แต่ในวันนี้ประโยชน์ที่มีมากกว่านั้นคือ ในเรื่องของการนำประโยชน์จากเตียงที่พับเก็บได้นี้ มาใช้ได้อย่างครอบคลุมได้มากกว่าเดิม
หรือเรียกว่า มีการใช้งานอย่างมีอเนกประสงค์มากที่สุด เพราะเราหลายคนต่างมองเห็นกันแล้วว่า พื้นที่ๆ เราควรจะใช้ให้คุ้มค่ามากที่สุดนั้น มีความสำคัญเท่าๆ กับเวลาในแต่ละวันเลยทีเดียว
ยุ้ย ปิยวรรณ เป็นนักวิเคราะห์ วิจารณ์ ชำนาญการเรื่องเครื่องนอน ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการนอน มีประสบการณ์การตลาดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ชุดเครื่องนอนยาวนานมากกว่า 10 ปี
เตียงพับ BAIERDI MALL
– ข้อต่อทำด้วยพลาสติก ABS
– ผลิตจากผ้าอ๊อกฟอร์ด และผ้า PE
– รับน้ำหนักได้สูงสุด 250 กก.
เตียงพับ MONZA
– ขนาดกว้าง 80 ซม.
– พื้นนอน 3 ชั้น บุด้วยฟองน้ำนุ่ม 1 ชั้น ฟองน้ำแข็ง 2 ชั้น
– โครงสร้างทำมาจากเหล็กพ่นเคลือบสีกันสนิม
– รับน้ำหนักสูงสุด 150 กก.
เตียงพับเก็บได้
– มีขารองรับน้ำหนัก 10 จุด
– ขนาด เตียงเมื่อกางออก 190CM(ยาว)*67CM(กว้าง)*47
– ผลิตจากผ้าโพลีเอสเตอร์ กันน้ำ
เตียงพับ KUMALL
– ขนาด 193 * 63 * 30 มม
– รองรับน้ำหนักได้เยอะ
เตียงพับ 3 ตอน
– ผ้าเหนียวนุ่มไม่ขาดง่าย
– รับน้ำหนักได้ถึง 80 กก.
– ขนาด (กว้าง) 60 cm x (ยาว) 185 cm x (สูง) 26 cm
เตียงพับเก็บได้
– ขนาด กว้าง 71ซม. ยาว 190 ซม. สูง 36 ซม.
– รองรับน้ำหนักสูงถึง 200 กก.
เตียงพับ Thaibull รุ่น OLT245-80
– ขนาด 80×192.5x44cm
– ผลิตจากผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมผ้าฝ้าย ถอดซักได้
– รับน้ำหนักได้ถึง 250 กก.
เตียงพับ EAZYBED
– ขนาด 194 x 67 x 30 CM.
– รองรับน้ำหนักได้ถึง 200 กก.
– ผ้าเหนียวนุ่ม แข็งแรง
เตียงพับ Homec
– ความสูงจากพื้น 40 CM
– น้ำหนักสินค้า 15 Kg เหล็กหนา 20mm
เตียงไม้พับ
– ขนาด 196*70*65CM
– แข็งแรงทนทาน ผลิตจากไม้เนื้อแข็ง
– พร้อมเบาะรองนอนผ้านุ่ม
