แอร์เคลื่อนที่ คืออะไร
คือ เครื่องปรับอากาศอีกประเภทหนึ่ง ที่สามารถเคลื่อนย้ายตัวเครื่องไปที่ต่างๆ ได้ มีขนาดที่สามารถเคลื่อนย้าย หรือนำไปใช้นอกสถานที่ก็ได้ โดยคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถให้ความเย็นในแบบ btu ได้เหมือนกับแอร์หรือเครื่องปรับอากาศตัวใหญ่ๆ อย่างเช่น 6000 btu, 9000 btu, 12000 btu และมีทั้งแบบที่สามารถต่อท่อระบายลมร้อน และไม่มีท่อลมร้อน รวมถึงมีทั้งตัวเลือกทั้งแบบที่ไม่ต้องเทน้ำทิ้ง หรือแบบที่มีสายน้ำทิ้งให้
แอร์เคลื่อนที่ดีอย่างไร
เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายประเภท ที่มีการปรับขนาดตัวเครื่อง หรือมีการออกแบบที่สามารถนำไปใช้ได้กับทุกสถานที่ หรือมีความยืดหยุ่นในการใช้งานได้มากขึ้น รวมถึงการปรับเปลี่ยนการทำงานของตัวเครื่อง ที่ไม่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน เพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่ายมากขึ้น อย่างเช่น หากเป็นแอร์ในรูปแบบเคลื่อนที่นั้น สำหรับบางรุ่น เราก็ไม่ต้องเทน้ำทิ้ง หรือไม่มีท่อต่อลมร้อน ให้ต้องคอยเปลี่ยนหรือเทน้ำทิ้งตลอด รวมถึงการใช้งานแค่กดปุ่มเปิดเท่านั้น
1.ไม่ยุ่งยากในการติดตั้ง
เราสามารถบอกได้เลยว่า เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ตัวนี้ ไม่จำเป็นต้องมีการติดตั้งใดๆ เลย ด้วยรูปลักษณะภายนอก ที่มักมีใครหลายคนเข้าใจผิดว่า เป็นเหมือนกับพัดลมไอเย็น แต่จริงๆ แล้วคือเครื่องปรับอากาศ แตกต่างจากเครื่องปรับอากาศตัวใหญ่ ที่เรามักคุ้นเคยกันก็คือ สามารถซื้อมา และเปิดใช้ได้ทันที โดยที่ไม่จำเป็นต้องจ้างช่างมาติดตั้งให้เสียเวลา
ด้วยคุณสมบัติข้อนี้ ก็จะช่วยให้การใช้งานของแอร์เคลื่อนที่ตัวนี้นั้น มีการใช้งานในอีกหลายๆ เรื่องที่มีความยืดหยุ่น และคล่องตัวมากขึ้นอีกด้วย โดยคุณสมบัตินี้ควรที่จะมีในเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายตัวที่เราใช้กันอยู่ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องรีดผ้าไอน้ำ , พัดลมไอเย็น , เครื่องฟอกอากาศ , เครื่องซักผ้า , เครื่องซักผ้าฝาหน้า , รางปลั๊กไฟ , เครื่องซักผ้าอบผ้าในตัว , ตู้เย็น 5 คิว , ไฟฉุกเฉิน , ไมโครเวฟ โดยที่เราสามารถใช้งานได้ง่ายๆ เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น
2.เหมาะกับพื้นที่ห้องที่จำกัด
ส่วนใหญ่แล้วการใช้แอร์ในรูปแบบเคลื่อนที่นี้ มักจะเน้นในเรื่องพื้นที่ห้อง เป็นตัวพิจารณาทั้งการเลือก จำนวน btu และการเลือกว่า ควรที่จะเลือกใช้แอร์ในรูปแบบนี้ดีหรือไม่ หากเป็นบ้านอยู่ หรือห้องคอนโดที่มีการแบ่งห้องย่อยๆ หลายห้อง การเลือกใช้แอร์ประเภทนี้ ถือว่าเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
เพราะนอกจากจะช่วยให้พื้นที่เฉพาะนั้นๆ ที่เราอาจจะเน้นอยู่ห้องนั้นเป็นประจำ หรือเป็นพื้นที่ๆ เน้นการใช้งานตลอด การเปิดแอร์หรือเครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่นี้ ก็จะช่วยให้บริเวณนั้นมีความเย็นเฉพาะ การทำงานพื้นที่เฉพาะแบบนี้ ยังมีผลให้ลมของแอร์พัดโดนตัวเราได้อย่างเต็มที่ได้อีกด้วย
ซึ่งอาจจะหมายถึงออฟฟิศ หรือสำนักงานร่วมด้วย ในบางส่วนหรือบางห้อง ที่เป็นห้องที่อาจจะมีการใช้งานเป็นครั้งคราว, มีพื้นที่น้อย และไม่จำเป็นต้องซื้อแอร์เครื่องใหญ่มาติดตั้งให้ยุ่งยาก การตัดสินใจพิจารณาเลือกใช้แอร์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายและไม่ต้องเสียเวลาติดตั้ง อีกทั้งยังเหมาะกับห้องที่มีพื้นที่จำกัดอีกด้วย
3.ให้ความเย็นใกล้เคียงเครื่องปรับอากาศตัวใหญ่
ลักษณะความคล้ายกับพัดลมไอเย็นนั้น ทำให้เราหลายคนเข้าใจกันว่า มีการให้ความเย็นที่ออกมา ไม่เทียบเท่ากับแอร์ตัวใหญ่ ซึ่งจะบอกว่าสามารถให้ความเย็นได้เทียบเท่ากับเครื่องปรับอากาศในแบบที่ติดตั้งเฉพาะที่เลยทีเดียว แต่ต้องขึ้นอยู่ที่ว่า การเลือกพื้นที่ของห้องนั้นๆ ได้เหมาะสมกับขนาดตัวแอร์เคลื่อนที่นี้หรือไม่ ซึ่งเหมือนกับการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศแบบติดตั้งกันเลยว่า ต้องพิจารณากับตัว btu กับพื้นที่ห้องนั้นๆ
BTU หรือBritish Thermal Unit นั้นจะเป็นหน่วยที่ใช้วัดความร้อนตามมาตรฐานสากล การนำหน่วยนี้มาวัดค่าของเครื่องปรับอากาศ หรือแอร์แบบเคลื่อนที่นี้ ก็หมายถึงการวัดค่าความสามารถของเครื่องใช้ไฟฟ้านี้ ในเรื่องการทำความเย็น และการถ่ายเทความร้อนได้ดีแค่ไหน หรือความเข้าใจง่ายๆ คือ ยิ่งมีตัวเลข btu นี้มากมีความหมายว่า มีประสิทธิภาพในการทำความเย็นที่มากนั้นเอง
แอร์เคลื่อนที่/btu | พื้นที่ห้อง/ตารางเมตร |
6000 | 9 |
9000 | 12 |
12000 | 16 |
ซึ่งหากห้องมีพื้นที่ 12 ตารางเมตรนั้น ในความเป็นจริงอาจจะเหมาะกับแอร์ในรูปแบบนี้ ที่การให้ความเย็น 9000 btu แต่หากเราต้องการให้เกิดความเย็นที่ฉ่ำกว่า เราสามารถที่จะเลือก 12000 btu ได้ซึ่งจะให้ความเย็นเทียบเท่ากับแอร์เครื่องใหญ่ในแบบที่ติดตั้ง แต่ในเรื่องของค่าไฟก็จะเทียบเท่ากับการใช้แอร์ตัวใหญ่ เพียงแต่ว่าแตกต่างกันที่ ความสะดวกในการใช้งานที่มีมากกว่าแอร์เครื่องใหญ่ และให้ความเย็นได้ใกล้เคียง หรือเทียบเท่าเครื่องปรับอากาศ
4.ตัดความยุ่งยากเรื่องการล้างแอร์
ใครที่คุ้นเคยกับการใช้แอร์เครื่องใหญ่ และต้องปวดหัวทุกๆ ครึ่งปีในการล้างแอร์ ที่จะต้องยุ่งยากเรียกช่างมาล้าง รวมถึงปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำยาแอร์รั่ว เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้จะไม่มีเลย หากเราเลือกใช้แอร์เคลื่อนที่ เพียงแค่เราถอดตัวกรอง หรือฟิลเตอร์มาล้างเพียงเท่านั้น
ซึ่งเป็นคำถามว่าการที่ไม่ต้องล้างแอร์แบบนี้ จะช่วยให้แอร์เย็นได้หรือไม่ ซึ่งจริงๆ แล้วแอร์ในแบบเคลื่อนที่นี้ สามารถเย็นได้จากตัวทำความเย็น หรือคอมเพรสเซอร์ด้านในเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ รวมถึงในบางรุ่นไม่มีท่อลมร้อนให้ต้องยุ่งยาก ในการต่อท่อระบายออกด้านนอกบ้านอีกด้วย
5.ฟังค์ชั่นเสริมในการใช้งานมีหลากหลาย
ถึงแม้เราอาจจะมั่นใจว่าเครื่องปรับอากาศตัวใหญ่ จะมาพร้อมกับความเย็น ซึ่งในตัวแอร์หรือเครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่นี้ ก็สามารถให้ความเย็นได้ในแบบเดียวกัน และอย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่า ระดับความเย็นที่ฉ่ำนั้น ขึ้นอยู่กับพื้นที่ห้องและระดับค่า btu ที่เราเลือก แต่ในส่วนเพิ่มเติมมากกว่านั้นก็คือ ฟังค์ชั่นในการใช้งานเสริม ที่แอร์ในแบบเคลื่อนที่นี้มีให้
ซึ่งมีได้เทียบเท่ากับเครื่องปรับอากาศตัวใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นระบบฟอกอากาศได้แบบอัตโนมัติ, หรือโหมดการทำงานเสียงเงียบในแบบ sleep mode ที่เราสามารถตั้งค่าในช่วงเวลาที่นอน โดยตัวเครื่องจะไม่มีเสียงรบกวนในขณะเวลาที่เรานอนเลย เพราะในความกังวลของหลายคนที่คิดว่า เมื่อเรานำแอร์รูปแบบเคลื่อนที่นี้ ตั้งวางไว้ใกล้ๆ กับเตียงนอน เราจะได้ยินเสียงทำงานของตัวเครื่องด้านในหรือไม่ โดยปัญหาเหล่านี้จะไม่มีเลยด้วยฟังค์ชั่นการทำงานเสริมของตัวเครื่อง
6.ครอบคลุมการใช้งานนอกสถานที่
ใครจะคาดคิดว่าเครื่องปรับอากาศที่เรามักจะเข้าใจกันว่า ต้องใช้ภายในตัวบ้าน หรือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดยึดกับสถานที่เท่านั้น จะสามารถเคลี่อนย้ายและปรับเปลี่ยนที่ตั้งได้ง่ายๆ , ไม่ต้องเสียเวลาติดตั้ง รวมถึงสามารถนำไปใช้งานได้ทั้งกับที่พักอาศัยที่อื่นๆ หรือแม้แต่การตั้งแคมป์ หรือเต็นท์ได้เป็นอย่างดี เพียงแค่เครื่องปั่นไฟ หรือที่เสียบปลั๊กไฟเท่านั้นเอง อีกทั้งยังมีรองรับระดับการให้ความเย็นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น 6000 btu, 9000 btu และ 12000 btu
ซึ่งในแต่ละรุ่นนั้นก็จะมีอุปกรณ์มาให้เสริม ทั้งท่อระบายลมร้อนในกรณีรุ่นที่มีการต่อท่อ และแผ่น panel ที่ใช้ในการเชื่อมต่อท่อระบายลมร้อนออกนอกเต็นท์ร่วมด้วย รวมถึงการทำงานที่เน้นคุณสมบัติหลักๆ เลยคือ การใช้งานที่ง่ายและยืดหยุ่น อีกทั้งยังมีการทำงานของตัวเครื่องที่ให้เสียงเงียบ และไม่ต้องเทน้ำทิ้ง เพราะจะมีตัวรองน้ำทิ้งภายในตัวเครื่องนั่นเอง
7.ยืดหยุ่นในการใช้งาน
หากแอร์ที่เราใช้ๆ กัน และไม่คิดว่าจะสามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้ แต่กลับสามารถเคลื่อนย้ายด้วยการเข็นไปในทุกที่ของตัวบ้าน หรือสามารถเคลื่อนย้ายไปได้ทุกห้องของออฟฟิศสำนักงานในแบบง่าย และไม่หนัก ซึ่งหากใครที่เคยใช้พัดลมไอเย็นแล้ว คงจะรู้ว่าทั้งรูปทรง และการขนย้ายไม่ได้มีความแตกต่างไปจากแอร์เคลื่อนที่นี้เลย
8.ตัดปัญหาเรื่องการเทน้ำทิ้ง
ในบางรุ่นของแอร์แบบเคลื่อนที่นี้นั้น จะมีที่รองน้ำทิ้งภายในตัวเครื่องเลย เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาทั้งการเทน้ำทิ้ง และไม่จำเป็นต้องต่อท่อน้ำทิ้ง
9.ตัดปัญหาเรื่องของน้ำยาแอร์รั่ว
ประสบการณ์ของผู้ที่เคยใช้เครื่องปรับอากาศเครื่องใหญ่กันมาแล้ว ไม่ว่ากับการต้องเสียเวลาในการล้างแอร์ รวมถึงมีปัญหาแอร์รั่ว ที่เป็นปัญหาส่วนหนึ่งทำให้ผู้ใช้เครื่องปรับอากาศในแบบติดตั้งนั้น ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะไม่มีสำหรับผู้ใช้งานแอร์แบบเคลื่อนที่
10.รองรับการใช้งานทดแทนกันได้
หลายครอบครัวที่ติดปัญหา ทั้งในเรื่องของการเจาะหรือติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบตัวใหญ่ไม่ได้ รวมถึงในหลายที่อยู่อาศัย และออฟฟิศ สำนักงานก็ตาม ก็ยังมีการใช้งานของพัดลมไอเย็น และเครื่องปรับอากาศแบบติดตั้งร่วมด้วย
เพียงแต่สิ่งที่แอร์แบบเคลื่อนที่ หรือเครื่องปรับอากาศแบบเคลื่อนที่นี้ ยังจะสามารถนำมาใช้งานทดแทนได้กับ เครื่องปรับอากาศแบบติดตั้ง หรือพัดลมไอเย็นในเวลาที่ใช้งานไม่ได้ หรือมีความเย็นไม่เพียงพอกับการใช้งาน
แอร์เคลื่อนที่ กับ พัดลมไอเย็น ต่างกันอย่างไร
แอร์เคลื่อนที่
1.เป็นการให้ความเย็นผ่านตัวทำความเย็นด้านใน หรือคอมเพรสเซอร์ ที่เหมือนกับการทำความเย็นในเครื่องปรับอากาศแบบติดตั้ง
2.การให้ความเย็นนั้นจะเป็นในรูปแบบที่แห้ง เหมือนกับเครื่องปรับอากาศทั่วๆ ไป
3.ระดับความเย็นที่มากกว่าพัดลมไอเย็น เพราะมีการทำงานเหมือนเครื่องปรับอากาศทั่วๆ ไป เพียงแต่แยกคอมเพรสเซอร์เข้าไปอยู่ในตัวเครื่องเท่านั้น ซึ่งการแบ่งระดับความเย็นจะมีตั้งแต่ 6000 btu, 9000 btu และ 12000 btu
4.ไม่ต้องใส่น้ำเข้าไปด้านในเครื่องเหมือนพัดลมไอเย็น
พัดลมไอเย็น
1.การทำงานที่ใช้วิธีดูดเอาความร้อนจากอากาศภายในห้องนั้นๆ เข้ามาสู่แผงทำความเย็น หรือรังผึ้งภายในตัวเครื่อง และให้ความเย็นกลับออกมาในรูปแบบของ การระเหยของน้ำด้านในตัวเครื่อง
2.จำเป็นที่จะต้องใส่น้ำด้านในเครื่อง
3.ต้องมีการเปลี่ยนน้ำ และเติมน้ำเรื่อยๆ เพราะน้ำจะยิ่งลดลงเร็ว เมื่ออากาศภายในห้องร้อน, และอบอ้าว รวมถึงการล้างและเปลี่ยนน้ำด้านในทิ้ง และใส่น้ำใหม่เข้าไป เพื่อตัดปัญหากลิ่นอับ และน้ำค้างด้านในที่จะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
วิธีเลือกซื้อแอร์เคลื่อนที่
1.เลือก btu ที่เหมาะสมกับพื้นที่ห้อง
นอกจากการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ จะเน้นไปเรื่องของการให้ความเย็นได้เทียบเท่ากับ เครื่องปรับอากาศแบบติดตั้ง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ ตัวที่ระบุการให้ความเย็นอย่าง btu แต่เราก็ควรมีการพิจารณาเลือกทั้ง การเลือกพื้นที่ห้องที่เหมาะกับขนาด btu ของแอร์ในแบบเคลื่อนที่ และต้องเลือกพิจารณาที่ยี่ห้อ ที่ให้ความประหยัดไฟร่วมด้วย
เพราะต้องบอกเลยว่า ด้วยการทำงานให้ความเย็นแบบมีตัวคอมเพรสเซอร์ด้วยกันทั้งในแบบเครื่องปรับอากาศแบบติดตั้ง และแอร์ในแบบเคลื่อนที่นี้ ต่างกันเพียงแค่เครื่องปรับอากาศแบบติดตั้ง จะมีคอยล์เย็น แต่แอร์ในรูปแบบเคลื่อนที่นั้น จะมีตัวให้ความเย็นติดตั้งไว้ด้านในตัวเครื่อง ซึ่งช่วยในเรื่องความสะดวกในการเคลื่อนย้ายอีกทางหนึ่ง
รวมถึงอีกจุดหนี่งก็คือ การให้ความเย็นผ่านการบอกค่าของ btu นั้นอาจจะไม่สามารถเทียบค่าได้เหมือนกับ btu ของเครื่องปรับอากาศแบบติดตั้ง อย่างเช่น ในพื้นที่ห้องเท่ากัน เราอาจจะต้องเลือก btu ที่มากกว่าเครื่องปรับอากาศในแบบติดตั้ง เหตุผลคือ ตัวคอยล์เย็นหรือคอมเพรสเซอร์ สำหรับแอร์ในแบบเคลื่อนที่นั้นไม่ได้ติดตั้งด้านนอก ที่จะสามารถให้ความเย็นได้ในรูปแบบที่สมบูรณ์ เท่ากับเครื่องปรับอากาศตัวใหญ่
2.ระบบน้ำทิ้งและระบบปล่อยลมร้อน
หากเราไม่ต้องการที่จะมีการใช้งาน หรืออุปกรณ์เสริมที่ยุ่งยากมากนัก ก็ควรเลือกในแบบที่ไม่ต้องต่อท่อ และไม่ต้องเทน้ำทิ้ง เพราะในบางรุ่นนั้นก็จะมีแบบที่ต่อท่อระบายลมร้อนออกด้านนอกบ้าน
3.ฟังค์ชั่นการใช้งานเสริมที่น่าสนใจ
ซึ่งหากเป็นแอร์แบบเคลื่อนที่ๆ ให้ได้เฉพาะความเย็นเพียงอย่างเดียว ก็อาจจะไม่น่าสนใจเท่ากับ ฟังค์ชั่นการใช้งานเสริมที่มีหลากหลาย ให้เลือกใช้ตามช่วงเวลาที่เหมาะสม อย่างเช่น ในเวลาฝนตก เราสามารถที่จะปรับเป็นโหมดทำงานลดความชื้น, การเปิดทำงานในช่วงเวลาก่อนนอน ควรที่จะตั้งไปที่โหมด sleep เพื่อให้เครื่องมีเสียงเงียบ หรือสามารถปรับความเย็นได้หลายระดับ รวมถึงการตั้งค่าความเย็นได้ละเอียดเป็นตัวเลข เหมือนกับเครื่องปรับอากาศ
วิธีการใช้งานแอร์เคลื่อนที่
1.ก่อนเปิดเครื่อง
สำหรับเครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่นี้ ในบางรุ่นที่มีท่อระบายลมร้อนมาให้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นตัวท่อลมร้อน และแผ่น panel ที่เป็นช่องให้ตัวท่อสวมเพื่อปล่อยลมร้อนออกนอกตัวบ้าน ควรที่นำท่อติดกับด้านหลังเครื่องปรับอากาศให้เสร็จ แล้วนำไปสวมกับตัวแผ่น panel โดยที่เลือกประตู หรือหน้าต่างที่เราสามารถแนบแผ่นนี้เข้าด้วยกัน เพื่อให้ท่อลมร้อนอีกด้านสวมเข้ากับตัวแผ่น panel
แต่หากเป็นรุ่นที่ไม่มีท่อลมร้อน และไม่ต้องเทน้ำทิ้ง เราก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร เพียงแต่ต้องเลือกทิศทาง หรือตำแหน่งในการวางตัวเครื่อง เน้นให้ใช้งานให้ความเย็นกับเราได้โดยตรง เพราะนี่คือคุณสมบัติเด่นของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ ที่สามารถเคลื่อนย้าย และปรับทิศทางการวางตัวเครื่องได้ตามความต้องการของเรา
2.เปิดเครื่องเริ่มทำงาน
เพียงแค่เสียบสายไฟเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ทั่วไป แอร์แบบเคลื่อนที่ก็จะทำงาน และปล่อยลมเย็นออกมา ซึ่งในแต่ละรุ่นที่แตกต่างไปตามความเย็นที่ให้ หรือค่า btu ที่แตกต่างกันนั้น เราไม่สามารถที่จะรู้ได้จากขนาดตัวเครื่องที่เราเห็น แต่สังเกตได้จากฉลากที่ติดด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งจะบอกค่า btu ให้เรารู้ว่าแอร์แบบเคลื่อนที่นั้นๆ มีการให้ความเย็นอยู่ที่เท่าไหร่ โดยมีฟังค์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย
- ปรับระดับความเย็น
- ตั้งอุณหภูมิ
- ตั้งค่าความแห้งของอากาศ
- โหมดการทำงานดูดความชื้น และขจัดกลิ่นเหม็นอับในห้อง
- โหมดเสียงเงียบ เน้นใช้งานช่วยเวลานอนหลับ หรือ sleep mode
- โหมดตั้งค่าฟอกอากาศไปพร้อมกับการให้ความเย็น
คำถามที่พบบ่อยของแอร์เคลื่อนที่
แอร์เคลื่อนที่เย็นไหม
ในส่วนของการทำงานให้ความเย็นนั้น มีความเย็นได้เทียบเท่ากับเครื่องปรับอากาศแบบติดตั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องพิจารณาเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมร่วมด้วยว่า พื้นที่ของห้อง และตัววัดค่าให้ความเย็น btu นั้นต้องมีความเหมาะสมกัน อย่าลืมว่าการเทียบค่า btu ของเครื่องปรับอากาศตัวใหญ่ หรือในแบบติดตั้งนั้น ไม่สามารถนำใช้ในการพิจารณาเลือกค่า btu ของแอร์ในรูปแบบเคลื่อนที่นี้ได้
ในความหมายที่ว่า ค่า btu ของแอร์ในรูปแบบเคลื่อนที่นี้นั้น เราจำเป็นที่จะต้องเลือกให้มีค่า btu ที่มากกว่า เครื่องปรับอากาศในแบบติดตั้ง ในพื้นที่ห้องที่เท่ากัน ซึ่งทั้งการเลือกค่า btu, พื้นที่ห้อง และการกินไฟนั้น มีส่วนสอดคล้องกันหมด
แอร์เคลื่อนที่กินไฟไหม
หากดูในการทำงานของทั้งเครื่องปรับอากาศแบบติดตั้ง และแบบแอร์เคลื่อนที่นี้แล้วนั้น มีการกินไฟเทียบเท่ากัน แต่เราสามารถที่จะเลือกยี่ห้อที่ประหยัดไฟได้ รวมถึงหากต้องมีการจ่ายค่าไฟที่เทียบเท่ากับเครื่องปรับอากาศแบบติดตั้ง เราก็ควรเลือกให้ได้ความเย็นที่เทียบเท่ากันด้วย ด้วยการวัดค่า btu ในแบบเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ตามตารางข้างต้น ซึ่งจะทำให้ได้ความเย็นฉ่ำเท่ากับเครื่องปรับอากาศตัวใหญ่ โดยสรุปคือ หากเลือกที่ยี่ห้อเน้นประหยัดไฟ ก็จะไม่กินไฟ
แอร์เคลื่อนที่ตัดบ่อย เกิดจากอะไร
เป็นผลมาจากการตั้งค่าอุณหภูมิที่มากกว่า อุณหภูมิที่เป็นอยู่ภายในห้องนั่นเอง อย่างเช่น หากเราตั้งค่าอุณหภูมิไว้ที่ 27 องศาเซลเซียส แล้วอุณหภูมิภายในห้องมีความเย็น หรือมีตัวเลขที่น้อยกว่า 27 ก็จะเกิดการตัดของตัวแอร์
แต่หากเราตั้งอุณหภูมิตัวเครื่องไว้ที่ 15 องศาเซลเซียส แล้วอุณหภูมิห้องอยู่ที่ 20 องศาเซลเซียส แอร์ก็จะกลับมาทำงานใหม่ เพื่อปรับความเย็นให้ตัวห้องมากขึ้นจนถึงค่า 15 องศาเซลเซียส เมื่อความเย็นได้ตามที่เราตั้งไว้ แอร์ก็จะตัดการทำงาน
แอร์เคลื่อนที่เสียงดัง
เรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหาสำหรับการใช้งาน แอร์ในรูปแบบเคลื่อนที่นี้แล้ว เพราะในฟังค์ชั่นการใช้งานเสริม ที่ในวันนี้เกือบทุกยี่ห้อ จะมีโหมด sleep หรือ การทำงานที่ให้เสียงเงียบ โดยเฉพาะช่วงเวลาก่อนนอน
5 ข้อควรรู้ก่อนซื้อแอร์เลื่อนที่
สรุป
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่นอกจากจะเน้นในเรื่อง การให้ความสะดวกสบาย และยังถือว่าเป็นเครื่องใช้ที่เพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้นอีกด้วย อย่างเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความเย็นอย่าง เครื่องปรับอากาศ ที่ในวันนี้เราไม่จำกัดกับรูปแบบที่จะต้องเน้นการติดตั้ง และมีขนาดใหญ่อีกต่อไป
เพราะมีตัวเลือกใหม่อย่าง แอร์ในรูปแบบที่สามารถเคลื่อนที่ได้ มีให้เลือกทั้งแบบ 6000 btu, 9000 btu และ 12000 btu อีกทั้งยังมีแบบต่อท่อระบายความร้อน และแบบไม่ต่อท่อระบายความร้อน ให้เราได้เลือกตามความเหมาะสมในการใช้งานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
จบการศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ สาขาเอกประชาสัมพันธ์และวารสารศาสตร์ ปัจจุบันทำงานเป็นนักเขียนคอนเท้นท์ครีเอเตอร์ฟรีแลนซ์ ประสบการณ์มากกว่า 5 ปี ถนัดด้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และผลิตภัณฑ์ด้านอื่นๆ
แอร์เคลื่อนที่ Midea
-ลดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศและลดแบคทีเรียได้ถึง 95%
-ดีไซน์สวยงาม ขนาดเล็กกระทัดรัดเข้าได้กับทุกบ้าน
แอร์เคลื่อนที่ Wiman Air
-ใช้ทองแดงเป็นส่วนประกอบของระบบทำความเย็น
-มอร์เตอร์เก็บเสียงและควบคุมด้วยระบบSoftStart
แอร์เคลื่อนที่ TCL
-ทำงานเงียบทำความสะอาดง่ายเหมาะกับทุกห้องในบ้าน
-ติดตั้งได้ง่ายและเคลื่อนย้ายสะดวกกว่าแอร์บ้านทั่วไป
แอร์เคลื่อนที่ Bwell รุ่น BPAC-09
-ระบบ AutoSwing รีโมทคอนโทรเลอไร้สาย
-ระบบไฟฟ้า220V 50Hz กำลังไฟ1,000w
แอร์เคลื่อนที่ ACONATIC
-สามารถตั้งเวลา เปิด-ปิด ล่วงหน้าได้ถึง 24 ชั่วโมง
-สามารถใช้ได้ทั้งพื้นที่ห้องแบบปิดและพื้นที่ภายนอก
แอร์เคลื่อนที่ NATURAL รุ่น NAP5093
-ใช้งานง่ายเพียงกดสัมผัสที่ตัวเครื่อง
-4โหมด(ความเย็น/เป่าลมแห้ง/พัดลม/ตั้งเวลาเปิดปิด)
แอร์เคลื่อนที่ SONAR รุ่น PA-J7100C
-มีท่อต่อระบายความร้อนช่วยระบายความร้อนได้ดี
-แสดงสถานะการทำงานผ่านแผงควบคุมLED
แอร์เคลื่อนที่ CENTRAL AIR รุ่น CTP-CB18 R410A
-รูปทรงสวยงามทันสมัย มีรีโมทควบคุมไร้สาย
-หน้าจอแสดงผลเรืองแสงแบบดิจิตอลไลท์
แอร์เคลื่อนที่ ASTINA รุ่น AS093APB
-ปรับสวิงและปรับบานเกร็ด ขึ้น-ลง ได้อัติโนมัติ
-สามารถทำความเย็นได้ถึง 9000BTU
แอร์เคลื่อนที่ YORK รุ่น POLAR- Series
-รีโมทควบคุมไร้สาย ควบคุมการทำงานระยะไกลได้
-ตั้งอุณหภูมิได้ต่ำสุดถึง 17 องศาเซลเซียส