10 ครีมหมักผมเคราติน ยี่ห้อไหนดี 2024 ทรีทเม้นท์ผม บำรุงผมสวย

ครีมหมักผมเคราติน ยี่ห้อไหนดี
เชื่อแน่ว่าบนโลกใบนี้ ความสวยงามเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะความสวยงามบนเรือนร่าง ผิวกาย เส้นผม ที่หลาย ๆ คนต้องการให้มีสุขภาพที่ดีเสมอ และทำทุกวิธีในการทำให้ตัวเองดูดีทั้งร่างกาย โดยเฉพาะเรื่องของเส้นผมที่ทุกคนต้องการให้มีสุขภาพผมที่แข็งแรง สลวย สะบัดหน้าสะบัดหลังก็ดูเงางาม เห็นแค่หลังก็อยากเห็นหน้ากันแล้ว

สารบัญ

แต่การจะมีผมสลวยสวยเก๋ สมบูรณ์แข็งแรง ไม่ขาดหลุดร่วงง่าย ใช้ แชมพูลดผมร่วง , แชมพูลดผมมัน หรือ ครีมนวดผม คงไม่พอต่อการบำรุงเส้นผม สาว ๆคงต้องใช้ทรีตเมนต์ ครีมหมักผม หรือ ครีมหมักผมเคราติน เสริมเข้าไปควบคู่กันด้วย เพื่อการดูแลเส้นผมได้อย่างครบครัน แต่หากสาว ๆ อยากได้ผมสวยแบบฉบับเร่งด่วน เราขอเผยความลับนี้ให้ด้วยการใช้ครีมหมักผมเคราติน

เพราะครีมหมักผมเคราตินจะช่วยฟื้นฟูและเสริมให้พันธะโปรตีนบนเส้นผมได้รับการดูแล ปกป้องถึงเนื้อชั้นในกันเลย แถมเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผม ทำให้เส้นผมดูสุขภาพดี สลวยสวยเก๋ สะบัดผมไปทางไหนก็เด้งกลับมาอย่างงดงาม เดินไปไหนมาไหนก็มีแต่คนเหลียวหันมองอย่างไม่ละสายตากันเลย

เคราติน คือ

เคราติน คืออะไร

เส้นใยโปรตีนที่อยู่บริเวณหนังกำพร้า ทำหน้าที่ในการเสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่นให้ชั้นผิวหนังของเราคงความชุ่มชื้นได้ เช่น เส้นผม เส้นขน เล็บ รวมถึงเป็นแหล่งอาหารสำคัญที่ทำให้เซลล์ต่าง ๆ เจริญเติบโตได้ดีขึ้นอีกด้วย

ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้เคราตินถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ความงาม เช่น อาหารเสริม หรือ ครีมหมักผมเคราติน จะช่วยกู้เส้นผมของคนที่ผมแห้งเสีย ชี้ฟูให้กลับมาแข็งแรง แต่ไม่เหมาะกับคนผมมันเพราะเคราตินจะเข้าไปทำให้ผมดูเงา ดูผมมันมาเกินไป

สาเหตุของผมแห้งเกิดจากอะไร

ผมแห้งมักเกิดจากการที่เส้นผมขาดความชุ่มชื้น

  • การสระผมผิดวิธี – การสระผมที่บ่อยเกินไป หรือ ใช้น้ำร้อนในการสระผม จะทำให้หนังศีรษะ เส้นผมยิ่งแห้งและก่อให้เกิดปัญหารังแคตามมา
  • ใช้สารเคมีกับเส้นผม – เช่นการใช้ น้ำยายืดผม น้ำยา ปิดผมขาว ทำสีผม การดัด การยืดด้วย ที่หนีบผม บ่อย ๆ
  • ใช้แชมพู ครีมนวดผม ไม่ถูกกับเส้นผม – ผลิตภัณฑ์พวกแชมพู ครีมนวดผม ไบโอติน มักมีส่วนประกอบที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับสภาพเส้นผมของตัวเอง
  • การใช้ความร้อนกับเส้นผม – ใครที่ชอบใช้ ไดร์เป่าผม หรือ ใช้เครื่องม้วนผมบ่อย ๆ จะค่อย ๆ ดึงความชุ่มชื้นออกจากเส้นผมทำให้ผมแห้งและผมเสียในที่สุด
  • จากสภาพอากาศ แสงแดด ฝุ่น ควัน – ตัวร้ายกาจที่สุดคือแสงแดด ฝุ่นละออง มลภาวะต่าง ๆ ในอากาศ จะเป็นตัวทำลายความชุ่มชื้นของเส้นผมมากที่สุด

สาเหตุของผมมันเกิดจากอะไร

ผมมัน คือ ต่อมไขมันบนหนังศีรษะจะผลิตไขมันจากธรรมชาติที่เรียกว่าซีบัม Sebum ออกมาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมและหนังศีรษะ แต่ซีบัมถูกผลิตมากเกินไปกลายเป็นสาเหตุของผมมันรวมถึงปัญหาหนังศีรษะอื่น ๆ

  1. ผมมันเกิดจากการสร้างไขมันผิวหนังหรือน้ำมันออกมาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะและเกิดจากอีกหลายสาเหตุคือ
  2. ไขมันสร้างน้ำมันตามธรรมชาติออกมาที่อาจเกิดจากการสะสมมากเกินไปและเพิ่มน้ำหนักให้กับผม
  3. ผมบางประเภทมีน้ำมันตามธรรมชาติที่ว่ามากกว่าคนทั่วไป เนื่องจากผมจะผลิตน้ำมันออกมามากว่าปกติ
  4. อุณหภูมิที่ร้อนเร่งให้หนังศีรษะสร้างไขมันผิวหนังเพิ่มมากขึ้นเพื่อเคลือบปกป้องเส้นผมไม่ให้แห้งกร้าน
  5. เกิดจากการสระผมด้วยแชมพูที่เอาน้ำมันตามธรรมชาตินี้ออกไปจากผม จะยิ่งกระตุ้นให้หนังศีรษะสร้างไขมันผิวหนังเพิ่มมากขึ้น

สาเหตุของผมแตกปลายเกิดจากอะไร

ผมแตกปลาย

ผมแตกปลาย คือการที่ผมบริเวณส่วนปลายแตกออกเป็นแฉก ๆ เกิดจากการที่คิวติเคิลที่ปกคลุมผมส่วนนอก หรือเกล็ดผมหลุด ทำให้เส้นผมปราศจากเกาะป้องกัน โดยผมแตกปลายมีถึง 6 แบบด้วยกันคือ

  • เส้นผมแตกปลายเล็กน้อย บริเวณปลายเส้นผม
  • เส้นผมแยกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน
  • เส้นผมไม่แตก แต่ส่วนปลายบางลงเหมือนถูกเฉือนออก
  • เส้นผมแตกออกตรงส่วนกลางจนเป็นรู
  • เส้นผมแตกออกเป็นหลายปลายเหมือนแขนงต้นไม้
  • เส้นผมแตกปลายเป็นย่อย ๆ เหมือนขนนก

สาเหตุที่ทำให้ผมแตกปลาย

  1. เกิดขึ้นจากผมขาดระหว่างการหวีเส้นผมที่พันกัน
  2. การใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมบ่อย ๆ
  3. การใช้ความร้อนทำให้ผมแห้งกรอบ
  4. การใช้ครีมบำรุงและการทำเคมีต่าง ๆ
  5. เกิดจากมลภาวะ เช่นแดดแรง ๆ อากาศที่ชื้น
  6. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพเส้นผม
  7. การขาดสารอาหารจำพวกวิตามิน และโปรตีน

สาเหตุของผมชี้ฟู ไม่มีน้ำหนักเกิดจากอะไร

ผมชี้ฟู คือ ผมที่ขาดความชุ่มชื้นอย่างหนัก ผมจะชี้โด่ชี้เด่ ไม่มีทิศทาง ไม่เรียบตรง

  • เกิดจากผมโดนแสงแดดมากเกินไป
  • การปล่อยให้ผมสัมผัสกับน้ำคลอรีนแล้วไม่ล้าง หรือ สระผมไม่สะอาด
  • สระผมบ่อยเกินไป
  • ใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือจัดแต่งทรงผม เช่น การหนีบผม ใช้สเปรย์จัดแต่งผม
  • การมัดผมแน่นเกินไป
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับผมสารเคมีแรงเกินไป

สาเหตุของผมเสียจากการดัด ทำสีเกิดจากอะไร

ผมเสีย คือผมที่โดนแสงแดด รังสียูวีจากดวงอาทิตย์ ผมที่ขาดการดูแลการบำรุง ทำให้ผมเสียเกิดขึ้นได้

  1. เกิดจากแสงแดด และสภาพอากาศ ที่ทำร้ายเส้นผมของคุณขาดชีวิตชีวา ส่งผลต่อเส้นผมชั้นนอกในลักษณะเดียวกับการฟอกสีผม
  2. การใช้ความร้อน การใช้ไดร์เป่าผม ที่หนีบผม , เครื่องม้วนผม เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมแห้งเสีย เป็นการทำลายเกล็ดผม
  3. การมัดผมเป็นประจำ สามารถก่อให้เกิดผมเสียได้โดยไม่คาดคิด เพราะการมัดผมจะสร้างแรงดึงให้กับไลน์เส้นผมอย่างมาก และอาจทำร้ายรูขุมขนจนถึงขั้นหลุดร่วงได้
  4. การทำเคมี การย้อมสีผม น้ำยาดัดผมเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดผมเสียได้ ทำให้เส้นผมเปราะบาง ในน้ำยาเคมีมีสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดและด่างทำให้ผมเสียได้
  5. การใช้น้ำอุ่นสระผมเป็นประจำ โดยน้ำอุ่นจะทำการล้างคอนดิชันเนอร์ที่ปกป้องและบำรุงเส้นผมออกไป ส่งผลทำให้ผมแห้งเสียมากขึ้น

ครีมหมักผมเคราตินคืออะไร

ครีมหมักผมเคราตินคืออะไร

ครีมหมักผมเคราตินจะมีลักษณะเนื้อครีมเหมือนกับครีมหมักผมทั่วไป มาในรูปแบบของเหลว เจลหรือครีม เพียงแต่มีส่วนผสมสำคัญเพิ่มเข้ามาคือ  เคราติน ซึ่งเคราตินมีอาวุธชั้นเลิศในการเสริมสร้างผมให้แข็งแรง ผมที่แห้งเสียเปราะบางจะสุขภาพดีขึ้น สาว ๆ จะได้ผมสวยเงางาม สะบัดต่อหน้าผู้ชาย ก็มีหลงรักกันเป็นแถวแน่

ร่างกายผลิตเคราตินเองได้หรือไม่

ปกติเคราตินธรรมชาติในร่างกายจะอยู่ในรูปของเซลล์หนังกำพร้า หรือคิราติโนไซต์ หรือ เซลล์ต้นกำเนิดของผิวหนัง เส้นผม เล็บ โดยมีกระบวนการสร้างใหม่ในลักษณะผลัดเซลล์เก่าแทนที่เซลล์ใหม่

เพื่อทดแทนที่เซลล์ผิวหนังบริเวณที่มีหลุดร่อนตัวเซลล์ที่ตายแล้ว ซึ่งกระบวนการเกิดขึ้นทุกวัน แต่ถ้าเมื่อไหร่เกิดความผิดปกติจะแสดงสัญญาณเตือนออกมาตามตำแหน่งอวัยวะต่าง ๆ เช่น ผมร่วง ผมแห้ง เล็บเปราะ ฉีกขาดง่าย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายกำลังขาดความชุ่มชื้น

ตัวการร้ายเคราตินในเส้นผมมีอะไรบ้าง

สารอาหารหลักของกระบวนการงอกใหม่ของเส้นผม เล็บ เซลล์ผิวหนัง เป็นสิ่งที่ร่างกายสังเคราะห์ไว้ใช้งานได้เอง โดยแปรสภาพจากอาหารที่บริโภคใจแต่ละวันให้อยู่ในรูปของโมเลกุลขนาดเล็ก เคราตินถือว่าเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้

โดยเฉพาะเคราตินธรรมชาติในเส้นผมที่ถูกทำร้ายจากพฤติกรรมความงามของเรา เช่น ทำสีผม ดัดยืดผม มัดผม ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เคราตินธรรมชาติละลายหายไป เมื่อเคราตินถูกทำลายไปหมด ผลคือเส้นผมจะมีสัมผัสที่หยาบกระด้าง ไม่สามารถแต่งเป็นทรงได้

เมื่อร่างกายขาดเคราตินจะเป็นอย่างไร

โดยตามธรรมชาติเส้นผมคนเราร้อยละ 90 ประกอบไปด้วยเคราติน สารอาหารสำคัญในการหล่อเลี้ยงเกล็ดผมให้ปิดสนิทหนังศีรษะชุ่มชื้นไม่หลุดลอก เส้นผมมีความเรียบลื่น ดูสุขภาพดี ทำให้ไม่ว่าจะบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์อะไรก็ตาม

ทางกลับกันร่างกายขาดแร่ธาตุชนิดนี้จะเป็นสัญญาณเตือนว่า ผมจะบางลง ผมร่วง ผมชี้ฟู ผมขาดเส้น หากผิวหนังขาดเคราตินจะแสดงอาการผิวแห้ง แตก ลอกเป็นขุย เล็บจะเปราะหักง่ายฉีกเป็นชั้น

อาหารผมที่เป็นแหล่งเคราตินธรรมชาติ

การเลือกบริโภคอาหารที่จำเป็นเป็นแหล่งเคราตินธรรมชาติ ได้แก่ในหมวดโปรตีนเป็นหลัก รองมาอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีบำรุงผม และอาหารที่มีกรดอะมิโนจำเป็น เช่นกรดไขมัน

ซึ่งแหล่งอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในกระบวนการสร้างเคราตินได้แก่ ปลาแซลมอน ไข่ไก่ ถั่ว อัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ วอลนัท ถั่วแดง มะม่วง กีวี ลูกพืช ชีส นมพร่องมันเนย กรีกโยเกิร์ต บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ ผักโขม ผักคะน้า หอยนางรม เนื้อไก่ เป็นต้น

การบำรุงผมด้วยเคราตินสังเคราะห์

การบำรุงผมด้วยเคราติน

ถึงแม้การบำรุงผมอาจจะไม่ใช่มาจากการทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อเส้นผมเข้าไป แต่ก็สามารถดูแลเส้นผมได้จากคอนดิชั่นเนอร์ เซรั่มได้ รวมถึงการหมักผม ซึ่งผลิตภัณฑ์บำรุงผมจะมีส่วนประกอบของเคราตินสังเคราะห์ที่มีสารสกัดอย่างโปรตีนธรรมชาติจากพืช หนังสัตว์

คุณสมบัติทางชีวภาพจะใกล้เคียงกับเคราตินธรรมชาติ และอีกประเภทหนึ่งคือเคราตินสังเคราะห์ผสมกับสารเคมีฟอร์มาลีนไฮด์ ที่คุณสมบัติใกล้เคียงกับสารโปรตีนธรรมชาติในการปรับสภาพเส้นใยผมให้หนานุ่ม

จึงได้นำมาใช้เป็นเคราตินสังเคราะห์ในกระบวนการผลิตสำหรับการบำรุงเส้นผม ด้วยอนุภาคขนาดเล็กสามารถซึมเข้าสู่เกล็ดผมได้ ด้วยสารเคมีที่ประกอบอยู่ในรูปฟอร์มาดีไฮด์เข้าจับเส้นผม แต่ถ้าร่างกายสะสมสารฟอร์มาดีไฮด์มาก ๆ อาจทำให้เป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจได้

การทำเคราตินดีต่อเส้นผม

ในการทำเคราตินด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารฟอร์มาดีไฮด์นั้น เป็นวิธีบำรุงที่ทำแล้วเห็นผลดีจริง เพราะเป็นการคืนเคราตินให้เส้นผมได้กักเก็บความชุ่มชื้น ความนุ่มลื่นให้กับเส้นผมได้มีความเงางามดุจแพรไหมได้นานหลายเดือน แต่การใช้ในปริมาณที่มากอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหากมีการสะสมของสารดังกล่าวมากเกินไป

สารฟอร์มาดีไฮด์เป็นสารอันตราย อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองอย่างฉับพลันต่ออวัยวะดวงตา ผิวหนัง ทางเดินหายใจส่วนบน หากสะสมในร่างกายเป็นเวลานานอาจก่อให้กลายเป็นโรคเรื้อรังชนิดร้ายแรงได้

เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็ง นอกจากนี้ทาง EPA หรือสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมประเทศสหรัฐอเมริกาเผยว่า สารชนิดนี้อาจเป็นสารก่อมะเร็งต่อคนป่วยเป็นโรคมะเร็งโพรงจมูก หรือโรคลูคิเมีย ได้เช่นกัน

ครีมหมักผมเคราตินมีกี่ประเภท

เคราตินใช้ใส่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผมทั่วไป แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ เคราตินจากธรรมชาติ และ

เคราตินสังเคราะห์

  • เคราตินจากธรรมชาติ Natural Kertin

เป็นโปรตีนเคราตินที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ มีคุณสมบัติทางชีวภาพใกล้เคียงกับเคราตินในร่างกายของเรา มีความปลอภัยและอ่อนโยนสูง เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่มีสารสกัดน่าสนใจเช่น เคราตินขนไก่ Bio Keratin  PF  กลุ่มอะมิโนแอซิดพร้อมฟื้นบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก

  • เคราตินสังเคราะห์ Synthetic Keratin

สารที่สังเคราะห์ขึ้นมามีโครงสร้างคุณสมบัติใกล้เคียงกับเคราตินธรรมชาติ ช่วยบำรุงเส้นผมได้อย่างดี แถมมีราคาไม่แพง จึงทำให้เป็นที่นิยมค่อนข้างมากในบรรดาผู้ใช้ทั่วไปและในร้านเสริมสวย ซึ่งเคราตินสังเคราะห์จะมีส่วนผสมของสารฟอร์มาลดีไฮด์ หรือ ฟอร์มาลีน ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ระคายเคืองได้หากสะสมในร่างกายมากไป

วิธีหมักผมด้วยครีมหมักผมด้วยตัวเอง

สระผมก่อน 2 รอบ ล้างแชมพูออกให้หมดจด จากนั้นเพียงแค่ชโลมครีมหมักผมเคราตินลงบนผมของคุณโดยตรง แล้วค่อย ๆ นวดผม ทิ้งไว้ 15-30 นาที แล้วล้างออกด้วยแชมพูและสระผมได้ตามปกติ

โดยตัวครีมหมักผมจะทำงานผ่านเส้นผมตั้งแต่ต้นโคนจรดปลายเส้นผม โดยจะทำงานอย่างเข้มข้นในการเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม และเพิ่มสุขภาพเส้นผมโดยรวม อีกทั้งเคราตินจะช่วยเพิ่มความเงางามและความนุ่มให้เส้นผมอย่างดี แถมฟื้นฟูเส้นผมที่พันกันมาตลอดให้ยืนแถวตรงได้ดียิ่งขึ้น

วิธีเลือกซื้อครีมหมักผมเคราติน

วิธีเลือกซื้อครีมหมักผมเคราติน

1.สารสกัดในครีมหมักผมเคราติน

การเลือกครีมหมักผมเคราตินมาใช้ ต้องมั่นใจก่อนว่ามีส่วนผสมของเคราตินที่เข้มข้น ด้วยคุณสมบัติของเคราตินเข้มข้นจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของเส้นผม ปกป้องการแตกหักแตกปลาย ให้เส้นผมดูเงางาม ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงสารเคมีเช่น พาราแบน ซิลิโคน ซัลเฟต ที่ทำให้เส้นผมเสียหายและหนังศีรษะระคาย เคือง

2.คุณสมบัติชั้นเลิศ

ต้องเลือกที่คุณสมบัติชั้นเลิศ ที่มีส่วนผสมของโปรตีนไฮโดรไลซ์ และ สารสกัดที่ทดแทนการสูญเสียเคราติน ในการปรับเส้นผมให้สวยงาม ให้เส้นผมที่เรยบเนียนอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ

3.ผลลัพธ์หลังการใช้

หลังการใช้ครีมหมักผมเคราติน ทุกครั้งจะเห็นผลลัพธ์ของการหมักผม โดยจะเห็นสัมผัสของความนุ่มเด้ง และเรียบเนียนของเส้นผม ดังนั้นควรใช้ครีมหมักผมเคราตินอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งเสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังการใช้ที่คุณต้องแฮปปี้สุด ๆ

4.โครงสร้างเส้นผม

ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมก็ต้องให้ผลลัพธ์ของเส้นผมที่สวยงามโดยเฉพาะ ดังนั้นควรเลือกครีมหมักผมเคราตินที่เหมาะกับโครงสร้างเส้นผมของคุณ เช่นถ้าคุณทำสีผมมาก็ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผมทำสีโดยตรง หรือ หากมีหนังศีรษะมัน ก็ให้เลือกสูตรน้ำหรือสูตรธรรมชาติแทน

คำถามที่พบบ่อยของครีมหมักผมเคราติน

คำถามที่พบบ่อยของครีมหมักผมเคราติน

ครีมหมักผมเคราตินดีไหม

หากผมของคุณกำลังแตกปลาย ชี้ฟู ไม่เงางาม ไม่มีน้ำหนัก เป็นเหตุผลที่จำเป็นมาก ๆ ในการใช้ครีมหมักผมเคราตินอย่างสม่ำเสมอ เพราะคุณสมบัติของครีมหมักผมเคราติน มีข้อดีล้วน ๆ เช่น ปรับสภาพเส้นผมให้เงางาม ลดปัญหาผมชี้ฟู ผมแตกปลาย ให้กลับมามีสุขภาพผมที่แข็งแรงได้อย่างง่ายดาย

วิธีใช้ครีมหมักผมเคราติน

สระผมก่อน 2 รอบ ล้างแชมพูออกให้หมดจด จากนั้นเพียงแค่ชโลมครีมหมักผมเคราตินลงบนผมของคุณโดยตรง แล้วค่อย ๆ นวดผม ทิ้งไว้ 15-30 นาที แล้วล้างออกด้วยแชมพูและสระผมได้ตามปกติ

เคราตินมีโอกาสทำร้ายเส้นผมหรือไม่

ด้วยข้อดีของเคราตินมีมากมาย ทั้งคุณสมบัติที่ช่วยปรับสภาพเส้นผมให้สวยงาม ลดปัญหาผมชี้ฟู ผมแตกปลาย ผมไม่มีน้ำหนักให้คงสวยเงางามได้อย่างดี หากคุณไม่ได้เลือกครีมหมักผมเคราตินที่มีฟอร์มาลดีไฮด์ เพราะมันเป็นตัวร้ายกาจในการทำลายเส้นผม ดังนั้นเคราตินจึงไม่มีโอกาสทำร้ายเส้นผมได้อย่างแน่นอน

 รีวิวเคราตินสด ใช้แล้วผมตรงสวยจริงมั้ย

ขอบคุณช่องยูทูป หลินปิง ชะนีอยากสวย

สรุป

ดังนั้นในการบำรุงเส้นผมให้เงางามอยู่เสมอ คุณก็ต้องหมั่นใช้ครีมหมักผมเคราตินเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งกำลังดี เพราะคุณสมบัติที่สำคัญในครีมหมักผมเคราตินที่จะช่วยดูแลและปรับสภาพเส้นผมให้แข็งแรงได้อยู่เสมอ

หากคุณเลือกครีมหมักผมเคราตินอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำของเราที่ได้กล่าวไปข้างต้น ที่สำคัญคุณต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผมเสียโดยเด็ดขาด เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ผมสวยไว้อวดหนุ่ม ๆ ไปได้ตลอดแล้วหล่ะ

อ้างอิง

ครีมหมักผมเคราติน Carista

ครีมหมักผมเคราติน Carista
-ช่วยให้ผมมีน้ำหนักจัดทรงง่าย ผมนุ่มสวยตลอดทั้งวัน
-ช่วยให้ผมดกขึ้น มีความเงางาม และลดการขาดหลุดร่วง
-สูตรนมแพะ ปริมาณสุทธิ 500 กรัม เปลี่ยนผมเสียเป็นผมสวย

ครีมหมักผมเคราติน Lae Sa Luay

ครีมหมักผมเคราติน Lae Sa Luay
-สารสกัดจากธรรมชาติ 100 % กลิ่นหอม ติดทนนาน 12 ชั่วโมง
-เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา ผมชี้ฟู ผมช็อต ผมหยาบกร้าน
-ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคนและสารสกัดที่เป็นอันตราย

ครีมหมักผมเคราติน Hair Mask

ครีมหมักผมเคราติน Hair Mask
-ปริมาณสุทธิ 500 กรัม กลิ่นหอม ไม่ฉุน
-ช่วยให้เส้นผมชุ่มชื้น นุ่มฟูยืดหยุ่น บำรุงอย่างเข้มข้น
-เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมแห้งแตกปลาย ผมเสียจากการดัดย้อม

ครีมหมักผมเคราติน Nutrition Smooth

ครีมหมักผมเคราติน Nutrition Smooth
-ปริมาณสุทธิ 500 มิลลิลิตร ผมนุ่มสลวย เด้ง มีน้ำหนัก
-ซึมซาบเข้าเส้นผมได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ผมไม่ชี้ฟู
-เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมพันกัน ไร้น้ำหนัก ทำสีหนัก

ครีมหมักผมเคราติน Lolane

ครีมหมักผมเคราติน Lolane
-ปริมาณสุทธิ 200 มิลลิลิตร มีทั้งหมด 6 สูตร
-ช่วยล้างสารเคมีตกค้าง และดูดสิ่งสกปรกจากมลภาวะ
-ช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้นอย่างมีประสิทธภาพตั้งแต่ครั้งแรก

ครีมหมักผมเคราติน Jena

ครีมหมักผมเคราติน Jena
-ปริมาณสุทธิ 500 มิลลิลิตร มีทั้งหมด 9 สูตร
-สารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด ป้องกันเส้นผมจากฝุ่นละออง
-เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมถูกทำลายจากการยืด ย้อม และดัดลอน

ครีมหมักผมเคราติน KAASENE

ครีมหมักผมเคราติน KAASENE
-ปริมาณสุทธิ 618 มิลลิลิตร กลิ่นหอม นุ่มลื่น
-ช่วยฟื้นฟูผมเสีย เปื่อย ยุ่ย เป็นฝอย หวียาก
-ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก บำรุงถึงแกนผมชั้นใน

ครีมหมักผมเคราติน Cruset

ครีมหมักผมเคราติน Cruset
-ปริมาณสุทธิ 900 มิลลิลิตร มี 2 สูตรให้เลือก
-ลดการเปราะหักของเส้นผม ล็อคสีผมเปล่งประกาย
-ช่วยฟื้นฟูบำรุงเส้นผมจากรากจรดปลาย จัดทรงง่าย

ครีมหมักผมเคราติน HISO

ครีมหมักผมเคราติน HISO
-สูตรถ่านไม้ไผ่ญี่ปุ่น ปริมาณสุทธิ 280 มิลลิลิตร
-ช่วยบำรุงเส้นผม เนื้อเข้มข้นซึมซาบเข้าสู่เส้นผมอย่างลึกล้ำ
-ช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสีย ลดผมร่วง เร่งผมยาว เงางาม มีน้ำหนัก

ครีมหมักผมเคราติน Cruset Complex

ครีมหมักผมเคราติน Cruset complex
-ปริมาณสุทธิ 500 มิลลิลิตร กลิ่นหอม ชนิดหัวปั้ม
-ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก ชุ่มชื้น ดูแลผมแห้งแตกปลาย
-เหมาะสำหรับผู้ที่ผมผ่านการทำสี ทำเคมีอย่างหนัก

Best Choice ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุ้กกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า