ต้องบอกเลยว่าเครื่องสำอางกับผู้หญิงเป็นของคู่กันจริง ๆ เพราะสาว ๆ ทุกคนต้องการมีผิวหน้าและการแต่งหน้าที่สวยงามอยู่เสมอ ไม่ว่าจะออกไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ ไปเที่ยวก็ต้องสวยไว้ก่อนโดยเฉพาะริมฝีปากจะต้องแดงฉ่ำไว้ก่อนเลย
ซึ่งเครื่องสำอางที่สาว ๆ จะต้องมีติดตู้เครื่องสำอางกัน ไม่ว่าจะลิปมัน , ลิปกันแดด , คอลลาเจน , ไพรเมอร์ , มาสคาร่า , แป้งพัฟคุมมัน , บลัชออน , อายไลน์เนอร์ , รองพื้น , แป้งฝุ่น , น้ำแร่ฉีดหน้า แต่ละชิ้นมีความสำคัญมากต่อการแต่งหน้า บำรุงผิวของสาว ๆ ที่ขาดไม่ได้เลย
YSL ลิป คืออะไร
YSL ชื่อเต็มคือ Yves Saint Laurent แบรนด์ชั้นนำสัญชาติฝรั่งเศส โดยผู้ก่อตั้ง Yves Henri Donat Mathieu-Saint Laurent ซึ่งชื่อแบรนด์ก่อมาจากชื่อของเขานั่นเอง โดยเขาเคยเป็นหัวหน้าดีไซน์เนอร์ในปี 1957
ร่วมงานกับแบรนด์แฟชันตำนานอย่าง Christian Dior และหลังจากนั้นเขาก็ได้ก่อตั้งแบรนด์ YSL ขึ้นมา ซึ่งเปิดตัวได้ดีมากได้รับความนิยมในหมู่แฟชันคนชั้นสูงจนมาถึงปัจจุบัน
ลิปสติก คือ
เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ประกอบด้วยวัตถุน้ำมัน ขี้ผึ้ง และสารให้ความชุ่มชื้น ใช้สำหรับทาสี ลวดลาย เกราะป้องกันไว้บนริมฝีปาก เป็นเครื่องสำอางชนิดแร ๆ ที่ผู้หญิงมักนึกถึงและใช้กันอย่างกว้างขวาง ถือว่าเป็นของคู่กายกับผู้หญิงในทุกยุคทุกสมัย นอกจากจะช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้น ช่วยปกป้องผิวของริมฝีปาก ยังช่วยแต่งเติมรูปปากให้สวยงามขึ้น
ysl ลิป หรือลิปสติกทั่วๆไปจะมีส่วนประกอบหลัก ๆ 3 ส่วนดังนี้
1.แว๊กซ์ หรือ ไขแข็ง Wax
ทำหน้าที่ในการช่วยทำให้ลิปสติกสามารถขึ้นรูปเป็นแท่งได้ เช่น
- ไขคาร์นอบา Carnauba Wax – เป็นไขที่ได้มาจากใบของพืชในตระกูลปาล์มประจำถิ่น ที่ขึ้นเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศบราซิล คุณสมบัติเป็นสารเคลือบเงา เป็นไขธรรมชาติที่แข็งที่สุด เหมาะสำหรับช่วยเพิ่มความคงตัวให้กับลิปสติก ป้องกันไม่ให้ลิปสติกเหลวหรืออ่อนตัวแม้อยู่ในอุณหภูมิสูง
- ไขแคนเดลิลลา Candelilla Wax – เป็นไขที่ได้จากต้นแคนเดลิลลา มีถิ่นกำเนิดในแม๊กซิโกตอนเหนือและตอนใต้ของอเมริกา คุณสมบัติเพิ่มความเงางามให้กับเนื้อลิปสติก มีจุดหลอมเหลวที่ 67 องศาเซลเซียส ไม่ละลายในน้ำ แต่ละลายในตัวทำละลายอินทรีย์
- ขี้ผึ้ง – เป็นไขที่สกัดจากน้ำผึ้งในบริเวณท้องน้อยที่ผึ้งสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างรัง เป็นของแข็งเนื้ออ่อนนุ่มและให้เนื้อได้มาก เพิ่มความชุ่มชื้น เนื่องจากมีจุดหลอมเหลวต่ำกว่าไขชนิดอื่น ๆ ดังนั้นเพื่อให้ลิปสติกมีความคงตัวเป็นแท่ง
- ไขที่มาจากแร่ธาตุ Mineral Wax – ไขโมโครคริสตัลไลน์ Microcrystalline Wax เนื้อมีลักษณะเรียบเนียน มีการดูดซับน้ำมัน ช่วยป้องกันการแยกตัวของน้ำมัน นิยมทำเป็นลิปบาล์ม
2.น้ำมัน Oil
น้ำมันในลิปสติก ทำหน้าที่เป็นตัวหลอมละลาย เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทำให้แว็กซ์ สีส่วนผสมอื่น ๆ รวมเป็นเนื้อเดียวกันได้ ลิปสติกจะอ่อนนุ่ม ช่วยให้ริมฝีปากนุ่มชุ่มชื้น ไม่แห้งแตกเป็นขุย น้ำมันที่นิยมใช้มีดังนี้
- น้ำมันเมล็ดแมคคาเดเมีย Macadamia nut oil – เป็นน้ำมันที่มีองค์ประกอบที่ใกล้เคียงกับผิวหนัง มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูงถึง 80% เช่น กรดปาลมิโตเลอิก กรดโอเลอิก กรดไลโนเลอิก และกรดไลโนเลนิก มีคุณสมบัติในการซึมสู่ผิวได้ง่าย
- น้ำมันโจโจ้บา Jojoba Oil – เป็นน้ำมันที่ฮิตในวงการเครื่องสำอาง สกัดจากเมล็ดของโจโจ้บา เป็นไม้พุ่มพื้นเมืองในทวีปอเมริกา เป็นตัวช่วยบำรุงผิวพรรณ ทั้งลดเลือนริ้วรอย กักเก็บความชุ่มชื้นของผิว อ่อนโยนเหมาะกับผิวแพ้ง่าย
- น้ำมันเมล็ดองุ่น Grape seed oil – ในเมล็ดองุ่นจะมีสาร OPC (Oligomeric Proanthrocyanidin) ที่อยู่ในกลุ่มไบโอฟลาโวนอยด์ในปริมาณที่สูง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซีถึง 20 เท่า มีคุณสมบัติในการซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย และบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น
- น้ำมันแคสเตอร์ Castor Oil – หรือน้ำมันละหุ่งมีองค์ประกอบของกรดไขมันไม่อิ่มตัว มีพันธะคู่หลายตำแหน่ง คือ กรดริวิโนเลอิก ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และอีลาสติน เพื่อให้เนื้อลิปสติกเกาะตัวกัน ริมฝีปากนุ่มนวล
- น้ำมันอะโวคาโด Avocado oil – เป็นน้ำมันที่สกัดจากเนื้อผลอะโวคาโด อุดมไปด้วยกรดไลโนเลอิก กรดโอเลิกสูงกว่า 70% ช่วยในการซึมสู่ผิวได้ดี เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปาก
- น้ำมันลาโนลิน Lanolin Oil – น้ำมันสกัดมาจากน้ำมันขนแกะ ที่ช่วยหล่อเลี้ยงให้ขนแกะมีความนุ่มอยู่เสมอ ไม่ว่าอากาศจะแห้งแล้งหรือหนาวขนาดไหน เป็นไขมันที่บริสุทธิ์จากธรรมชาติ มีคุณสมบัติไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ไม่อันตรายต่อผิว
3.สีย้อม
กฎหมายห้ามใช้สารปรอทในเครื่องสำอาง ผู้ผลิตจึงหันมาใช้สีสังเคราะห์ที่ผ่านมาตรฐานการรับรองที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เหมือนกับสีที่ใช้ทำอาหาร เช่น
- สีสกัดจากผักและผลไม้ – เช่นสีแดงจากบีทรูท ทับทิม
- สีสกัดจากดอกไม้ – เช่นสีน้ำเงินจากดอกอัญชัน สีเหลืองจากดอกดาวเรือง
- สีสกัดจากแมลง – เช่น ผงสกัดจากแมลงปีกแข็ง จะให้สีแดงเลือดหมู ผลสกัดจากเกล็ดปลาให้สีเงินประกายมุกให้กับลิปสติก
ส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยงในลิปสติกและควรพิจารณาใน ysl ลิป
- สารกลุ่มเรตินอยด์ส Retinoids – เป็นสารที่มีปฎิกิริยาต่อแสงแดด ส่งผลร้ายต่อ DNA ในร่างกาย เสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง
- สารสังเคราะห์วิตามินอี Tocopheryl Acetate – ทำให้ริมฝีปากระคายเคือง เป็นขุยและแห้งแตก สารสกัดจากน้ำมันในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ก่อให้เกิดสิวอุดตัน
- สารกันเสีย – ส่งผลให้อวัยวะภายในร่างกายเสี่ยงเป็นพิษเรื้อรัง
- สารปนเปื้อน – ธาตุที่เป็นพิษต่าง ๆ เช่น สารหนู ตะกั่ว แคดเมียม โคบอลท์ อะลูมินัม ไทเทเนียม แมงกานีส โครเมียม ทองแดง นิกเกิล
ysl ลิป และลิปสติกทั่วไปมีกี่แบบ
1.เนื้อแมตต์ Matte Lipstick
ลิปสติกเนื้อแมตต์จะมีความเข้มข้นของสีมาก มีเนื้อด้านที่ไร้ความมันวาว ติดทนนาน ทาแล้วริมฝีปากจะแห้งได้ง่าย อาจไม่เหมาะกับสาวที่มีปัญหาปากแห้งเพราะจะทำให้ตกร่องและเป็นคราบได้ ดังนั้นแนะนำให้ทาลิปบาล์มก่อนเพื่อความชุ่มชื้น
2.เนื้อครีม Creamy Lipstick
ลิปสติกเนื้อครีมจะเป็นเนื้อครีมเนียนนุ่ม มีเม็ดสีที่มีสีสันชัดเจน ทาแล้วริมฝีปากมันวาว ไม่ทำให้ปากแห้ง แต่ติดทนนานโดยไม่ต้องทาซ้ำ เหมาะสำหรับสาวที่มีริมฝีปากสวยได้รูป ทาแล้วทำให้ปากดูอวบอิ่มมากขึ้น แต่อาจไม่เหมาะกับสาวที่มีรูปปากหนา เพราะจะยิ่งทำให้ปากดูหนายิ่งขึ้น
3.เนื้อกลอส Glossy Lipstick
ลิปสติกเนื้อกลอสจะมีลักษณะเป็นเนื้อเหลว มีเนื้อสีบาง ๆ ให้ความมันวาว ช่วยทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้น อวบอิ่ม ทาแล้วเนียน หมดปัญหาปากแห้งแตกเป็นร่องเป็นขุยไปได้เลย
4.เนื้อทินท์ Tint Lipstick
ลิปสติกเนื้อทินท์มีลักษณะเป็นเนื้อเหลว คล้ายกับลิปกลอส แต่จะหนืดน้อยกว่า ใช้ทาเพื่อเพิ่มสีสันให้กับริมฝีปาก นิยมทาริมฝีปากบาง ๆ ด้านใน ใช้ทาคู่กับลิปกลอน จะทำให้ริมฝีปากดูสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ
5.เนื้อลิควิด หรือลิปจิ้มจุ่ม Liquid Lipstick
ลิปสติกประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นเนื้อเหลวแลลลิควิด สาว ๆ มักเรียกว่า ลิปจิ้มจุ่ม เพราะมีเม็ดสีที่ชัดเจน ติดทนนาน มีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นเนื้อมันวาวหรือเนื้อแมตต์
6.เนื้อเชียร์และซาติน Sheer and Satin Lipstick
ลิปสติกประเภทนี้มีลักษณะคล้ายกับลิปเนื้อครีม แต่จะมีเม็ดสีที่บางเบากว่า ไม่มันวาวมากจนเกินไป มีสีสันที่บางเบา ไม้เข้มเหมือนกับลิปเนื้อครีม เหมาะกับสาวที่ไม่ชอบทาลิปสติกสีจัดแต่อยากให้ริมฝีปากดูเนียนสวย
7.ไลเนอร์ Lip Liner
ลิปสติกประเภทนี้มาในรูปแบบดินสอ ใช้สำหรับเขียนขอบปากให้ชัดขึ้น มักจะใช้เป็นสีที่ใกล้เคียงกับลิปสติก ช่วยเน้นให้เรียจวปากดูคมชัด ช่วยทำให้ทาลิปสติกได้ง่ายกว่าเดิม
8.เนื้อกำมะหยี่ Velvet Lipstick
ลิปสติกประเภทนี้มีลักษระคล้ายกับลิปเนื้อแมตต์ ติดทนนาน ทาแล้วปากไม่แห้งตึง เพราะยังคงความชุ่มชื้นไว้ ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ดูสุขภาพดี ไม่ต้องห่วงเรื่องปากแห้งลอก
9.เนื้อบาล์ม หรือลิปมัน Lip Balm
ลิปสติกประเภทนี้เน้นเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก จะไม่ค่อยมีสี แต่บางยี่ห้อทาแล้วเปลี่ยนเป็นสีชมพู เป็นลิปแก้ปัญหาริมฝีปากแห้ง แตกเป็นขุยได้ดี นิยมทาก่อนลงลิปสติกเพื่อช่วยให้ริมฝีปากดูชุ่มชื้นมากขึ้น
10.เนื้อฟรอสตี้ Frosted Lipstick
ลิปสติกประเภทนี้มีเนื้อสีเข้มข้นผสมกลิตเตอร์ มีความประกายมุกวิบวับ ทาแล้วทำให้ริมฝีปากดูเปล่งปลั่ง มีประกาย เม็ดสีชัด ไม่มันวาวเกินไป เหมาะกับคนที่ไม่ชอบให้ริมฝีปากแห้ง และสาวริมฝีปากบาง
11.เนื้อเมทัลลิค Metallic Lipstick
ลิปสติกประเภทนี้มีเนื้อแบบเมทัลลิก มีความเข้มข้นของสี มีประกายของเนื้อมุก ทำให้ริมฝีปากแวววาว ไม่มันเหมือนเนื้อกลอส ช่วยทำให้ริมฝีปากสวยดูอวบอิ่ม ไม่มันวาว
ประโยชน์ของysl ลิป
1.ตกแต่งบริเวณปาก
ลิปเป็นเครื่องสำอางสำหรับตกแต่งรอบปากเพื่อให้เกิดความสวยงาม มีหลากหลายสีให้เลือกมากมาย
2.กลบรอยคล้ำ
การใช้ลิปช่วยสำหรับการปกปิดคอยคล้ำใต้ตา เพียงทาลิปสติกลงรอบ ๆ ใต้ตาของคุณ จากนั้นเกลี่ยลิปให้ทั่วรอบใต้ตา ลงคอนซีลเลอร์กลบลิปอีกรอบ เท่านี้รอยคล้ำใต้ตาก็จะหายไป จะช่วยทำให้รอบดวงตาสว่างขึ้น
3.ให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปาก
ในลิปสติกมีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ช่วยทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้นได้ สำหรับลิปสติกแบบเนื้อแมตซ์ให้ทาลิปบำรุงก่อน
เทคนิคทาysl ลิปให้สวยดูอวบอิ่ม
เริ่มที่กึ่งกลางริมฝีปากบน โดยใช้มุมฉากของแท่งลิปสติกสร้างรอยหยักที่เด่นชัด จากนั้นลากเส้นออกไปยังมุมปาก โดยใช้ด้านข้างชองสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพื่อให้ได้เส้นขอบปากที่ชัดเจน คมเฉียบ เนื้อเป๊ะ ทั้งริมฝีปากบนและล่าง การเน้นรูปปากตามธรรมชาติทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น
การเลือกซื้อ ysl ลิป
1.พิจารณาถึงโทนสีผิว
ก่อนเลือกซื้อ YSL ลิป ควรพิจารณาถึงโทนสีผิวหนังของเราก่อนว่ามีสีผิวเข้ม ผิวขาว ผิวสีเหลือง โดยทั่วไปสีผิวมี 4 ประเภท คือผิวโทนอุ่น ผิวโทนเย็น และ ผิวโทนกลาง
- สีผิวโทนอบอุ่น – ผิวโทนเหลืองควรเลือกลิปสติกสีชมพูอ่อน หรือ สีนู้ดพืช
- สีผิวโทนเย็น – ผิวขาว หรือ ผิวสีอ่อน ควรเลือกลิปสติกสีนู้ด ผิวขาวปานกลางควรเลือกสีชมพู ผิวสีขาวอมชมพูควรเลือกลิปสติกสีทับทิม
- สีผิวโทนกลาง – เหมาะสำหรับลิปสติกทุกสี
- สีแทน หรือผิวสองสี – คนที่เลือกเฉดสีลิปสติกได้ค่อนข้างหลากหลาย เกณฑ์การเลือกสีลิปสติกขึ้นกับสไตล์การแต่งหน้า และการแต่งตัวของแต่ละคน
2.สังเกตจากริมฝีปาก
หากใครริมฝีปากอวบอิ่ม ควรใช้ลิปสติกสีอ่อนที่ริมฝีปากล่าง และทาริมฝีปากบนให้เข้มขึ้น หรือหากริมฝีปากล่างอวบอิ่มให้เลือกสีเข้ากับโทนสีผิวของคุณ เพิ่มเฉดสีนู้ดสีอ่อนตรงกลางริมฝีปากบน ริมฝีปากบางให้หลีกเลี่ยงสีปากที่เข้ม และมีสีสันซึ่งจะทำให้ริมฝีปากบางลง
3.พิจารณาถึงสีของฟันและตา
หากมีสีตาเป็นสีธรรมชาติ หรือสีตาจากการใส่คอนแทคเลนส์ หากคุณมีดวงตาสีน้ำตาล ควรเลือกลิปสติกสีแดงสด น้ำตาลแดง สีชมพูสดใส ขณะดวงตาสีฟ้าเข้ากับลิปสติกสีม่วงแดง และสาวตาสีเทา ควรเลือกสีนู้ด
หากมีฟันขาว สามารถเลือกสีลิปสติกสีใดก็ได้ หากฟันเหลืองควรใช้ลิปสติกสีส้มอ่อน สีแดงอ่อน หลีกเลี่ยงสีม่วง สีน้ำตาล สีม่วงแดง
4.เลือกจากเนื้อสัมผัส
1.ลิปสติกเนื้อสเตน Stain Lipstick
เนื้อสเตนช่วยในเรื่องความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปาก ไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งแตกเป็นขุย ลักษณะกึ่งน้ำสีใสกึ่งผสมสี มีความมันวาว โปร่งแสง มักทาด้านในริมฝีปาก เพื่อแต่งแต้มริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติ
2.ลิปสติกเนื้อแมตต์ Matte Lipstick
ลิปสติกที่ไร้ความมันวาง เนียนเรียบไปกับริมฝีปาก ลิปสติกมีลักษณะแห้งและด้าน ได้เนื้อสีที่ชัดและติดทนนานมาก ริมฝีปากแห้งควรทาลิปบาล์มก่อน ลิปสติกเนื้อแมตต์มีการตกร่องง่าย
3.ลิปสติกเนื้อซาติน Satin Lipstick
ลิปสติกคล้ายกับเนื้อครีม มีความบางเบา สามารถทาทับได้โดยที่ไม่เป็นคราบ เนื้อลิปสติกจะเนียนเรียบไปกับริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติ
4.ลิปสติกเนื้อครีม Cream Lipstick
เป็นเนื้อครีม ที่มีเนื้อสีที่ชัดมาก ติดทนนาน ลบสีริมฝีปากของเราได้สนิท ลักษณะเนื้อครีมจะมีความมันวาว ไม่ทำให้ปากแห้ง ช่วยทำให้ริมฝีปากอวบอิ่ม
5.ลิปสติกเนื้อกลอส Gloss Lipstick
นิยมมากในปัจจุบัน มีลักษณะค่อนข้างบางเบา มีความมันวาว เนื้อสีชัด สามารถเคลือบริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม ดูสุขภาพดี
คำถามที่พบบ่อยของ ysl ลิป
ysl ลิป ดีไหม
ลิปสติก YSL เป็นลิปสติกแบรนด์ดังระดับ High-end จากประเทศฝรั่งเศสที่ได้รับการยอมรับและได้รับความนิยมจากสาว ๆ ทั่วโลกมาอย่างยาวนาน เป็นลิปสติกคุณภาพสูง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เม็ดสีเข้ม มีเฉดสีหลากหลาย ติดทนนาน
ส่วนผสมในการฟื้นบำรุงริมฝีปากให้สุขภาพดี จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมสาว ๆ ทั่วโลกต่างยอมรับในคุณภาพของลิปสติก YSL ซึ่งใครไม่มีติดในกระเป๋าถือว่าพลาดมากเลย
ysl ลิป สีไหนสวย
ลิปสติก YSL สีที่สวยเข้าได้กับทุกลุคทุกสไตล์เป็นลิปสติกนี้ YSL Rouge Pur Couture The Slim No.17 เป็นลิปเนื้อแมตต์ สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อผู้หญิงที่ชอบเดินตามวิถีทางของตัวเองโดยเฉพาะ
โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสีทึบและความอ่อนนุ่มของแผ่นหนัง แต่งแต้มเรียวปากให้ดูโดดเด่นขึ้น มอบการปกปิดเต็มชั้นและเนื้อสัมผัสแบบแมตต์ที่สดด้วยเม็ดสีที่อัดแน่นเป็นพิเศษในการทาเพียงครั้งเดียว เป็นลิปแมตต์เนื้อนุ่มลื่นไหลไปบนริมฝีปากอย่างนิ่มนวล สีโทนชมพูกลีบบัว เนื้อเข้มข้น สามารถทาได้เต็มปาก ดูสวยเต็มอิ่มเต็มปากได้อย่างงดงาม
ลิป Ysl 3 รุ่น เลือกรุ่นไหนดี
ของคุณยูทูปช่อง Pang Chayuda
สรุป
ต้องยอมรับเลยว่าYSL ลิปได้รับการยอมรับที่ตอบโจทย์ให้ริมฝีปากสวยเต็มอิ่ม กับเฉดสีสรรงดงาม เม็ดสีเต็มอิ่ม ดูสวยเป็นธรรมชาติ สาว ๆทั้งโลกต่างยอมรับในคุณภาพของแบรนด์ YSL ที่ให้สีของลิปสติกที่มีเม็ดสีไม่เหมือนแบรนด์อื่น
มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถเข้าได้กับการแต่งตัวของสาว ๆ ทุกสไตล์ ซึ่งหากคุณหลงรักในแบรนด์ YSL จะต้องไม่พลาดลิปสติก YSL ที่จะต้องมีติดกระเป๋ากันสักแท่งสองแท่งกันอย่างแน่นอน
ขอบคุณภาพจาก
เป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ผู้เชี่ยวชาญทดลอง และเป็นนักรีวิวเครื่องสำอางตัวยง ถนัด และชื่นชอบการแต่งหน้า และลองเครื่องสำอางใหม่ๆอยู่เสมอ
YSL ลิป The Slim Leather Matte Lipstick
-สัมผัสที่เบาสบาย สามารถเลือกได้มากถึง 4 สี
-ช่วยเบลอร่องริมฝีปากและให้ผลลัพธ์ริมฝีปากที่ดูเรียบเนียน
YSL ลิป Rouge Pur Couture
-น้ำหนักเบา คงทน ไม่ทำให้ลิปหักง่าย
-ดีไซน์เเพกเกจหรูหรา น่าค้นหา ปั้มโลโก้สีทอง
YSL ลิป Rouge Volupte Shine
-ช่วยเสริมความชุ่มชื้น ความเปล่งประกาย แต่โปร่งบาง
-เนื้อสีสวย สลักโลโก้ของแบรนด์ สามารถเลือกได้ถึง 4 สี
YSL ลิป TATOUAGE COUTURE LIP
-ขนาดกะทัดรัด สามารถเลือกได้มากถึง 20 สี
-หัวแปรงแบนปลายตัดเฉียงช่วยให้ทาปากได้รวดเร็ว
YSL ลิป VOLUPTE PLUMP-IN-COLOR
-ช่วยมอบความเงาวาวให้ริมฝีปากดูเจิดจ้าและเย้ายวน
-ลิปสติกเนื้อชายน์ซึ่งมอบสีสันและการฟื้นบำรุงริมฝีปาก
YSL ลิป Rouge Pur Couture Collector Lip
-ดีไซน์หรูหรา สามารถเลือกได้มากถึง 7 สี
-ช่วยปกปิดสีปากได้เป็นอย่างดี เนื้อนุ่ม บางเบา
YSL ลิป VINYL CREAM LIP
-เนื้อครีมมีความเงางาม จากนั้นเปลี่ยนเป็นเนื้อลิปสติก
-แปรงทรง Diamond ช่วยให้การทาลิปสติกง่าย
YSL ลิป Water Stain Glow Lip
-การกระจายตัวของเนื้อลิปนุ่มนวลและไม่เป็นคราบ
-เนื้อลิปเป็นแบบ Stain เหมือนเนื้อทินต์ ทาแล้วไม่หนักปาก
YSL ลิป The Slim Glow Matte Lipstick
-เนื้อแมทท์ลื่นๆ สามารถเติมระหว่างวันได้ ไม่เป็นคราบ
-เหมาะสำหรับเติมสีสันให้ริมฝีปาก ไม่เหนียวเหนอะหนะ
YSL ลิป Rouge Volupte Candy Glaze
-ปลอกลิปสติกดีไซน์พิเศษ สวยงาม เรียบหรู
-ช่วยบำรุงและฟื้นฟูริมฝีปากอย่างต่อเนื่องถึง 24 ชั่วโมง