แต่การจะมีผมสลวยสวยเก๋ สมบูรณ์แข็งแรง ไม่ขาดหลุดร่วงง่าย ใช้ แชมพูลดผมร่วง , แชมพูลดผมมัน หรือ ครีมนวดผม คงไม่พอต่อการบำรุงเส้นผม สาว ๆคงต้องใช้ทรีตเมนต์ ครีมหมักผม หรือ ครีมหมักผมเคราติน เสริมเข้าไปควบคู่กันด้วย เพื่อการดูแลเส้นผมได้อย่างครบครัน แต่หากสาว ๆ อยากได้ผมสวยแบบฉบับเร่งด่วน เราขอเผยความลับนี้ให้ด้วยการใช้ครีมหมักผมเคราติน
เพราะครีมหมักผมเคราตินจะช่วยฟื้นฟูและเสริมให้พันธะโปรตีนบนเส้นผมได้รับการดูแล ปกป้องถึงเนื้อชั้นในกันเลย แถมเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผม ทำให้เส้นผมดูสุขภาพดี สลวยสวยเก๋ สะบัดผมไปทางไหนก็เด้งกลับมาอย่างงดงาม เดินไปไหนมาไหนก็มีแต่คนเหลียวหันมองอย่างไม่ละสายตากันเลย
เคราติน คือ
เส้นใยโปรตีนที่อยู่บริเวณหนังกำพร้า ทำหน้าที่ในการเสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่นให้ชั้นผิวหนังของเราคงความชุ่มชื้นได้ เช่น เส้นผม เส้นขน เล็บ รวมถึงเป็นแหล่งอาหารสำคัญที่ทำให้เซลล์ต่าง ๆ เจริญเติบโตได้ดีขึ้นอีกด้วย
ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้เคราตินถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ความงาม เช่น อาหารเสริม หรือ ครีมหมักผมเคราติน จะช่วยกู้เส้นผมของคนที่ผมแห้งเสีย ชี้ฟูให้กลับมาแข็งแรง แต่ไม่เหมาะกับคนผมมันเพราะเคราตินจะเข้าไปทำให้ผมดูเงา ดูผมมันมาเกินไป
สาเหตุของผมแห้งเกิดจากอะไร
ผมแห้งมักเกิดจากการที่เส้นผมขาดความชุ่มชื้น
- การสระผมผิดวิธี – การสระผมที่บ่อยเกินไป หรือ ใช้น้ำร้อนในการสระผม จะทำให้หนังศีรษะ เส้นผมยิ่งแห้งและก่อให้เกิดปัญหารังแคตามมา
- ใช้สารเคมีกับเส้นผม – เช่นการใช้ น้ำยายืดผม น้ำยา ปิดผมขาว ทำสีผม การดัด การยืดด้วย ที่หนีบผม บ่อย ๆ
- ใช้แชมพู ครีมนวดผม ไม่ถูกกับเส้นผม – ผลิตภัณฑ์พวกแชมพู ครีมนวดผม ไบโอติน มักมีส่วนประกอบที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับสภาพเส้นผมของตัวเอง
- การใช้ความร้อนกับเส้นผม – ใครที่ชอบใช้ ไดร์เป่าผม หรือ ใช้เครื่องม้วนผมบ่อย ๆ จะค่อย ๆ ดึงความชุ่มชื้นออกจากเส้นผมทำให้ผมแห้งและผมเสียในที่สุด
- จากสภาพอากาศ แสงแดด ฝุ่น ควัน – ตัวร้ายกาจที่สุดคือแสงแดด ฝุ่นละออง มลภาวะต่าง ๆ ในอากาศ จะเป็นตัวทำลายความชุ่มชื้นของเส้นผมมากที่สุด
สาเหตุของผมมันเกิดจากอะไร
ผมมัน คือ ต่อมไขมันบนหนังศีรษะจะผลิตไขมันจากธรรมชาติที่เรียกว่าซีบัม Sebum ออกมาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมและหนังศีรษะ แต่ซีบัมถูกผลิตมากเกินไปกลายเป็นสาเหตุของผมมันรวมถึงปัญหาหนังศีรษะอื่น ๆ
- ผมมันเกิดจากการสร้างไขมันผิวหนังหรือน้ำมันออกมาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะและเกิดจากอีกหลายสาเหตุคือ
- ไขมันสร้างน้ำมันตามธรรมชาติออกมาที่อาจเกิดจากการสะสมมากเกินไปและเพิ่มน้ำหนักให้กับผม
- ผมบางประเภทมีน้ำมันตามธรรมชาติที่ว่ามากกว่าคนทั่วไป เนื่องจากผมจะผลิตน้ำมันออกมามากว่าปกติ
- อุณหภูมิที่ร้อนเร่งให้หนังศีรษะสร้างไขมันผิวหนังเพิ่มมากขึ้นเพื่อเคลือบปกป้องเส้นผมไม่ให้แห้งกร้าน
- เกิดจากการสระผมด้วยแชมพูที่เอาน้ำมันตามธรรมชาตินี้ออกไปจากผม จะยิ่งกระตุ้นให้หนังศีรษะสร้างไขมันผิวหนังเพิ่มมากขึ้น
สาเหตุของผมแตกปลายเกิดจากอะไร
ผมแตกปลาย คือการที่ผมบริเวณส่วนปลายแตกออกเป็นแฉก ๆ เกิดจากการที่คิวติเคิลที่ปกคลุมผมส่วนนอก หรือเกล็ดผมหลุด ทำให้เส้นผมปราศจากเกาะป้องกัน โดยผมแตกปลายมีถึง 6 แบบด้วยกันคือ
- เส้นผมแตกปลายเล็กน้อย บริเวณปลายเส้นผม
- เส้นผมแยกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน
- เส้นผมไม่แตก แต่ส่วนปลายบางลงเหมือนถูกเฉือนออก
- เส้นผมแตกออกตรงส่วนกลางจนเป็นรู
- เส้นผมแตกออกเป็นหลายปลายเหมือนแขนงต้นไม้
- เส้นผมแตกปลายเป็นย่อย ๆ เหมือนขนนก
สาเหตุที่ทำให้ผมแตกปลาย
- เกิดขึ้นจากผมขาดระหว่างการหวีเส้นผมที่พันกัน
- การใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมบ่อย ๆ
- การใช้ความร้อนทำให้ผมแห้งกรอบ
- การใช้ครีมบำรุงและการทำเคมีต่าง ๆ
- เกิดจากมลภาวะ เช่นแดดแรง ๆ อากาศที่ชื้น
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพเส้นผม
- การขาดสารอาหารจำพวกวิตามิน และโปรตีน
สาเหตุของผมชี้ฟู ไม่มีน้ำหนักเกิดจากอะไร
ผมชี้ฟู คือ ผมที่ขาดความชุ่มชื้นอย่างหนัก ผมจะชี้โด่ชี้เด่ ไม่มีทิศทาง ไม่เรียบตรง
- เกิดจากผมโดนแสงแดดมากเกินไป
- การปล่อยให้ผมสัมผัสกับน้ำคลอรีนแล้วไม่ล้าง หรือ สระผมไม่สะอาด
- สระผมบ่อยเกินไป
- ใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือจัดแต่งทรงผม เช่น การหนีบผม ใช้สเปรย์จัดแต่งผม
- การมัดผมแน่นเกินไป
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับผมสารเคมีแรงเกินไป
สาเหตุของผมเสียจากการดัด ทำสีเกิดจากอะไร
ผมเสีย คือผมที่โดนแสงแดด รังสียูวีจากดวงอาทิตย์ ผมที่ขาดการดูแลการบำรุง ทำให้ผมเสียเกิดขึ้นได้
- เกิดจากแสงแดด และสภาพอากาศ ที่ทำร้ายเส้นผมของคุณขาดชีวิตชีวา ส่งผลต่อเส้นผมชั้นนอกในลักษณะเดียวกับการฟอกสีผม
- การใช้ความร้อน การใช้ไดร์เป่าผม ที่หนีบผม , เครื่องม้วนผม เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมแห้งเสีย เป็นการทำลายเกล็ดผม
- การมัดผมเป็นประจำ สามารถก่อให้เกิดผมเสียได้โดยไม่คาดคิด เพราะการมัดผมจะสร้างแรงดึงให้กับไลน์เส้นผมอย่างมาก และอาจทำร้ายรูขุมขนจนถึงขั้นหลุดร่วงได้
- การทำเคมี การย้อมสีผม น้ำยาดัดผมเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดผมเสียได้ ทำให้เส้นผมเปราะบาง ในน้ำยาเคมีมีสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดและด่างทำให้ผมเสียได้
- การใช้น้ำอุ่นสระผมเป็นประจำ โดยน้ำอุ่นจะทำการล้างคอนดิชันเนอร์ที่ปกป้องและบำรุงเส้นผมออกไป ส่งผลทำให้ผมแห้งเสียมากขึ้น
ครีมหมักผมเคราตินคืออะไร
ครีมหมักผมเคราตินจะมีลักษณะเนื้อครีมเหมือนกับครีมหมักผมทั่วไป มาในรูปแบบของเหลว เจลหรือครีม เพียงแต่มีส่วนผสมสำคัญเพิ่มเข้ามาคือ เคราติน ซึ่งเคราตินมีอาวุธชั้นเลิศในการเสริมสร้างผมให้แข็งแรง ผมที่แห้งเสียเปราะบางจะสุขภาพดีขึ้น สาว ๆ จะได้ผมสวยเงางาม สะบัดต่อหน้าผู้ชาย ก็มีหลงรักกันเป็นแถวแน่
ร่างกายผลิตเคราตินเองได้หรือไม่
ปกติเคราตินธรรมชาติในร่างกายจะอยู่ในรูปของเซลล์หนังกำพร้า หรือคิราติโนไซต์ หรือ เซลล์ต้นกำเนิดของผิวหนัง เส้นผม เล็บ โดยมีกระบวนการสร้างใหม่ในลักษณะผลัดเซลล์เก่าแทนที่เซลล์ใหม่
เพื่อทดแทนที่เซลล์ผิวหนังบริเวณที่มีหลุดร่อนตัวเซลล์ที่ตายแล้ว ซึ่งกระบวนการเกิดขึ้นทุกวัน แต่ถ้าเมื่อไหร่เกิดความผิดปกติจะแสดงสัญญาณเตือนออกมาตามตำแหน่งอวัยวะต่าง ๆ เช่น ผมร่วง ผมแห้ง เล็บเปราะ ฉีกขาดง่าย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายกำลังขาดความชุ่มชื้น
ตัวการร้ายเคราตินในเส้นผมมีอะไรบ้าง
สารอาหารหลักของกระบวนการงอกใหม่ของเส้นผม เล็บ เซลล์ผิวหนัง เป็นสิ่งที่ร่างกายสังเคราะห์ไว้ใช้งานได้เอง โดยแปรสภาพจากอาหารที่บริโภคใจแต่ละวันให้อยู่ในรูปของโมเลกุลขนาดเล็ก เคราตินถือว่าเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้
โดยเฉพาะเคราตินธรรมชาติในเส้นผมที่ถูกทำร้ายจากพฤติกรรมความงามของเรา เช่น ทำสีผม ดัดยืดผม มัดผม ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เคราตินธรรมชาติละลายหายไป เมื่อเคราตินถูกทำลายไปหมด ผลคือเส้นผมจะมีสัมผัสที่หยาบกระด้าง ไม่สามารถแต่งเป็นทรงได้
เมื่อร่างกายขาดเคราตินจะเป็นอย่างไร
โดยตามธรรมชาติเส้นผมคนเราร้อยละ 90 ประกอบไปด้วยเคราติน สารอาหารสำคัญในการหล่อเลี้ยงเกล็ดผมให้ปิดสนิทหนังศีรษะชุ่มชื้นไม่หลุดลอก เส้นผมมีความเรียบลื่น ดูสุขภาพดี ทำให้ไม่ว่าจะบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์อะไรก็ตาม
ทางกลับกันร่างกายขาดแร่ธาตุชนิดนี้จะเป็นสัญญาณเตือนว่า ผมจะบางลง ผมร่วง ผมชี้ฟู ผมขาดเส้น หากผิวหนังขาดเคราตินจะแสดงอาการผิวแห้ง แตก ลอกเป็นขุย เล็บจะเปราะหักง่ายฉีกเป็นชั้น
อาหารผมที่เป็นแหล่งเคราตินธรรมชาติ
การเลือกบริโภคอาหารที่จำเป็นเป็นแหล่งเคราตินธรรมชาติ ได้แก่ในหมวดโปรตีนเป็นหลัก รองมาอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีบำรุงผม และอาหารที่มีกรดอะมิโนจำเป็น เช่นกรดไขมัน
ซึ่งแหล่งอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในกระบวนการสร้างเคราตินได้แก่ ปลาแซลมอน ไข่ไก่ ถั่ว อัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ วอลนัท ถั่วแดง มะม่วง กีวี ลูกพืช ชีส นมพร่องมันเนย กรีกโยเกิร์ต บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ ผักโขม ผักคะน้า หอยนางรม เนื้อไก่ เป็นต้น
การบำรุงผมด้วยเคราตินสังเคราะห์
ถึงแม้การบำรุงผมอาจจะไม่ใช่มาจากการทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อเส้นผมเข้าไป แต่ก็สามารถดูแลเส้นผมได้จากคอนดิชั่นเนอร์ เซรั่มได้ รวมถึงการหมักผม ซึ่งผลิตภัณฑ์บำรุงผมจะมีส่วนประกอบของเคราตินสังเคราะห์ที่มีสารสกัดอย่างโปรตีนธรรมชาติจากพืช หนังสัตว์
คุณสมบัติทางชีวภาพจะใกล้เคียงกับเคราตินธรรมชาติ และอีกประเภทหนึ่งคือเคราตินสังเคราะห์ผสมกับสารเคมีฟอร์มาลีนไฮด์ ที่คุณสมบัติใกล้เคียงกับสารโปรตีนธรรมชาติในการปรับสภาพเส้นใยผมให้หนานุ่ม
จึงได้นำมาใช้เป็นเคราตินสังเคราะห์ในกระบวนการผลิตสำหรับการบำรุงเส้นผม ด้วยอนุภาคขนาดเล็กสามารถซึมเข้าสู่เกล็ดผมได้ ด้วยสารเคมีที่ประกอบอยู่ในรูปฟอร์มาดีไฮด์เข้าจับเส้นผม แต่ถ้าร่างกายสะสมสารฟอร์มาดีไฮด์มาก ๆ อาจทำให้เป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจได้
การทำเคราตินดีต่อเส้นผม
ในการทำเคราตินด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารฟอร์มาดีไฮด์นั้น เป็นวิธีบำรุงที่ทำแล้วเห็นผลดีจริง เพราะเป็นการคืนเคราตินให้เส้นผมได้กักเก็บความชุ่มชื้น ความนุ่มลื่นให้กับเส้นผมได้มีความเงางามดุจแพรไหมได้นานหลายเดือน แต่การใช้ในปริมาณที่มากอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหากมีการสะสมของสารดังกล่าวมากเกินไป
สารฟอร์มาดีไฮด์เป็นสารอันตราย อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองอย่างฉับพลันต่ออวัยวะดวงตา ผิวหนัง ทางเดินหายใจส่วนบน หากสะสมในร่างกายเป็นเวลานานอาจก่อให้กลายเป็นโรคเรื้อรังชนิดร้ายแรงได้
เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็ง นอกจากนี้ทาง EPA หรือสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมประเทศสหรัฐอเมริกาเผยว่า สารชนิดนี้อาจเป็นสารก่อมะเร็งต่อคนป่วยเป็นโรคมะเร็งโพรงจมูก หรือโรคลูคิเมีย ได้เช่นกัน
ครีมหมักผมเคราตินมีกี่ประเภท
เคราตินใช้ใส่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผมทั่วไป แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ เคราตินจากธรรมชาติ และ
เคราตินสังเคราะห์
- เคราตินจากธรรมชาติ Natural Kertin
เป็นโปรตีนเคราตินที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ มีคุณสมบัติทางชีวภาพใกล้เคียงกับเคราตินในร่างกายของเรา มีความปลอภัยและอ่อนโยนสูง เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่มีสารสกัดน่าสนใจเช่น เคราตินขนไก่ Bio Keratin PF กลุ่มอะมิโนแอซิดพร้อมฟื้นบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก
- เคราตินสังเคราะห์ Synthetic Keratin
สารที่สังเคราะห์ขึ้นมามีโครงสร้างคุณสมบัติใกล้เคียงกับเคราตินธรรมชาติ ช่วยบำรุงเส้นผมได้อย่างดี แถมมีราคาไม่แพง จึงทำให้เป็นที่นิยมค่อนข้างมากในบรรดาผู้ใช้ทั่วไปและในร้านเสริมสวย ซึ่งเคราตินสังเคราะห์จะมีส่วนผสมของสารฟอร์มาลดีไฮด์ หรือ ฟอร์มาลีน ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ระคายเคืองได้หากสะสมในร่างกายมากไป
วิธีหมักผมด้วยครีมหมักผมด้วยตัวเอง
สระผมก่อน 2 รอบ ล้างแชมพูออกให้หมดจด จากนั้นเพียงแค่ชโลมครีมหมักผมเคราตินลงบนผมของคุณโดยตรง แล้วค่อย ๆ นวดผม ทิ้งไว้ 15-30 นาที แล้วล้างออกด้วยแชมพูและสระผมได้ตามปกติ
โดยตัวครีมหมักผมจะทำงานผ่านเส้นผมตั้งแต่ต้นโคนจรดปลายเส้นผม โดยจะทำงานอย่างเข้มข้นในการเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม และเพิ่มสุขภาพเส้นผมโดยรวม อีกทั้งเคราตินจะช่วยเพิ่มความเงางามและความนุ่มให้เส้นผมอย่างดี แถมฟื้นฟูเส้นผมที่พันกันมาตลอดให้ยืนแถวตรงได้ดียิ่งขึ้น
วิธีเลือกซื้อครีมหมักผมเคราติน
1.สารสกัดในครีมหมักผมเคราติน
การเลือกครีมหมักผมเคราตินมาใช้ ต้องมั่นใจก่อนว่ามีส่วนผสมของเคราตินที่เข้มข้น ด้วยคุณสมบัติของเคราตินเข้มข้นจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของเส้นผม ปกป้องการแตกหักแตกปลาย ให้เส้นผมดูเงางาม ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงสารเคมีเช่น พาราแบน ซิลิโคน ซัลเฟต ที่ทำให้เส้นผมเสียหายและหนังศีรษะระคาย เคือง
2.คุณสมบัติชั้นเลิศ
ต้องเลือกที่คุณสมบัติชั้นเลิศ ที่มีส่วนผสมของโปรตีนไฮโดรไลซ์ และ สารสกัดที่ทดแทนการสูญเสียเคราติน ในการปรับเส้นผมให้สวยงาม ให้เส้นผมที่เรยบเนียนอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ
3.ผลลัพธ์หลังการใช้
หลังการใช้ครีมหมักผมเคราติน ทุกครั้งจะเห็นผลลัพธ์ของการหมักผม โดยจะเห็นสัมผัสของความนุ่มเด้ง และเรียบเนียนของเส้นผม ดังนั้นควรใช้ครีมหมักผมเคราตินอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งเสมอ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังการใช้ที่คุณต้องแฮปปี้สุด ๆ
4.โครงสร้างเส้นผม
ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมก็ต้องให้ผลลัพธ์ของเส้นผมที่สวยงามโดยเฉพาะ ดังนั้นควรเลือกครีมหมักผมเคราตินที่เหมาะกับโครงสร้างเส้นผมของคุณ เช่นถ้าคุณทำสีผมมาก็ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผมทำสีโดยตรง หรือ หากมีหนังศีรษะมัน ก็ให้เลือกสูตรน้ำหรือสูตรธรรมชาติแทน
คำถามที่พบบ่อยของครีมหมักผมเคราติน
ครีมหมักผมเคราตินดีไหม
หากผมของคุณกำลังแตกปลาย ชี้ฟู ไม่เงางาม ไม่มีน้ำหนัก เป็นเหตุผลที่จำเป็นมาก ๆ ในการใช้ครีมหมักผมเคราตินอย่างสม่ำเสมอ เพราะคุณสมบัติของครีมหมักผมเคราติน มีข้อดีล้วน ๆ เช่น ปรับสภาพเส้นผมให้เงางาม ลดปัญหาผมชี้ฟู ผมแตกปลาย ให้กลับมามีสุขภาพผมที่แข็งแรงได้อย่างง่ายดาย
วิธีใช้ครีมหมักผมเคราติน
สระผมก่อน 2 รอบ ล้างแชมพูออกให้หมดจด จากนั้นเพียงแค่ชโลมครีมหมักผมเคราตินลงบนผมของคุณโดยตรง แล้วค่อย ๆ นวดผม ทิ้งไว้ 15-30 นาที แล้วล้างออกด้วยแชมพูและสระผมได้ตามปกติ
เคราตินมีโอกาสทำร้ายเส้นผมหรือไม่
ด้วยข้อดีของเคราตินมีมากมาย ทั้งคุณสมบัติที่ช่วยปรับสภาพเส้นผมให้สวยงาม ลดปัญหาผมชี้ฟู ผมแตกปลาย ผมไม่มีน้ำหนักให้คงสวยเงางามได้อย่างดี หากคุณไม่ได้เลือกครีมหมักผมเคราตินที่มีฟอร์มาลดีไฮด์ เพราะมันเป็นตัวร้ายกาจในการทำลายเส้นผม ดังนั้นเคราตินจึงไม่มีโอกาสทำร้ายเส้นผมได้อย่างแน่นอน
รีวิวเคราตินสด ใช้แล้วผมตรงสวยจริงมั้ย
สรุป
ดังนั้นในการบำรุงเส้นผมให้เงางามอยู่เสมอ คุณก็ต้องหมั่นใช้ครีมหมักผมเคราตินเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งกำลังดี เพราะคุณสมบัติที่สำคัญในครีมหมักผมเคราตินที่จะช่วยดูแลและปรับสภาพเส้นผมให้แข็งแรงได้อยู่เสมอ
หากคุณเลือกครีมหมักผมเคราตินอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำของเราที่ได้กล่าวไปข้างต้น ที่สำคัญคุณต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผมเสียโดยเด็ดขาด เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ผมสวยไว้อวดหนุ่ม ๆ ไปได้ตลอดแล้วหล่ะ
อ้างอิง
ยุ้ย พิมพ์ฉัตร การศึกษาปริญญาตรี บริหารทรัพยากรมนุษย์ มีประสบการณ์และเป็นนักค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เป็นนักทดสอบผลิตภัณฑ์ออกใหม่เพื่อดูแลเส้นผมแบรนด์ดังหลายแบรนด์
ครีมหมักผมเคราติน Carista
-ช่วยให้ผมดกขึ้น มีความเงางาม และลดการขาดหลุดร่วง
-สูตรนมแพะ ปริมาณสุทธิ 500 กรัม เปลี่ยนผมเสียเป็นผมสวย
ครีมหมักผมเคราติน Lae Sa Luay
-เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา ผมชี้ฟู ผมช็อต ผมหยาบกร้าน
-ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคนและสารสกัดที่เป็นอันตราย
ครีมหมักผมเคราติน Hair Mask
-ช่วยให้เส้นผมชุ่มชื้น นุ่มฟูยืดหยุ่น บำรุงอย่างเข้มข้น
-เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมแห้งแตกปลาย ผมเสียจากการดัดย้อม
ครีมหมักผมเคราติน Nutrition Smooth
-ซึมซาบเข้าเส้นผมได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ผมไม่ชี้ฟู
-เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมพันกัน ไร้น้ำหนัก ทำสีหนัก
ครีมหมักผมเคราติน Lolane
-ช่วยล้างสารเคมีตกค้าง และดูดสิ่งสกปรกจากมลภาวะ
-ช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้นอย่างมีประสิทธภาพตั้งแต่ครั้งแรก
ครีมหมักผมเคราติน Jena
-สารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด ป้องกันเส้นผมจากฝุ่นละออง
-เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมถูกทำลายจากการยืด ย้อม และดัดลอน
ครีมหมักผมเคราติน KAASENE
-ช่วยฟื้นฟูผมเสีย เปื่อย ยุ่ย เป็นฝอย หวียาก
-ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก บำรุงถึงแกนผมชั้นใน
ครีมหมักผมเคราติน Cruset
-ลดการเปราะหักของเส้นผม ล็อคสีผมเปล่งประกาย
-ช่วยฟื้นฟูบำรุงเส้นผมจากรากจรดปลาย จัดทรงง่าย
ครีมหมักผมเคราติน HISO
-ช่วยบำรุงเส้นผม เนื้อเข้มข้นซึมซาบเข้าสู่เส้นผมอย่างลึกล้ำ
-ช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสีย ลดผมร่วง เร่งผมยาว เงางาม มีน้ำหนัก
ครีมหมักผมเคราติน Cruset Complex
-ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก ชุ่มชื้น ดูแลผมแห้งแตกปลาย
-เหมาะสำหรับผู้ที่ผมผ่านการทำสี ทำเคมีอย่างหนัก